แต่มาถึงขั้นนี้แล้วมันไม่สามารถย้อนกลับคืนได้ พัชระก้มลงจูบปากที่กำลังเม้มแน่นสนิท ดุนดันปลายลิ้นเข้าไปแล้วดูดรัดเรียวลิ้นเล็ก ฝ่ามือร้อนผ่าวก็กอบกุมเต้าอวบอิ่มบดบี้ยอดถันจนแข็งขืนเป็นตุ่มไตอีกรอบ เมื่อความเจ็บทุเลาเขาก็ดันสะโพกเข้าออกอย่างช้า ๆ
“อ๊ะ อืม” พิราอรยังคงเจ็บแต่ไม่มากเหมือนในตอนแรก
พัชระลากปลายนิ้วจากยอดอกลงมากลางลำตัว ก่อนจะแทรกซอนเข้ากลางกลีบดอกระหว่างที่สะโพกก็ดันเข้าออกอยู่เป็นระยะ เขาเริ่มความเร็วจากปลายนิ้วปัดป่ายไปมาพร้อมสะโพกก็รัวเข้าใส่แบบไม่ยั้ง
“พี่เพชร ! โอ๊ะ ! อื้อ !” เสียงครางดังระงมฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ยิ่งบิดสะโพกหนีก็ยิ่งถูกตอกตรึงหนักหน่วงกว่าเดิม พิราอรถูกเขาล็อกท่อนขาเอาไว้แน่น ไม่สามารถจะดิ้นหลุดไปไหนได้
เจ้าของใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังสูดลมเข้าปากแล้วเป่าออกจนปากสั่น โลกทั้งใบของเธอสะเทือนราวแผ่นดินไหว เห็นเพียงมัดกล้ามเนื้อตรงแผงอกที่เคลื่อนไปมาอยู่ตรงหน้า เม็ดเหงื่อจากเขากระเด็นโดนเธออยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่ากระท่อมหลังนี้ไม่มีแอร์ ไฟสวาทที่ลุกโหมจึงระอุมากเป็นพิเศษ
“โอ๊ะ คุณอ้อน ! อา !” เสียงครางแหบทุ้มดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา พัชระทั้งคับแน่นและเต็มไปด้วยความเสียวสะท้านจากแรงเสียดสี ความนุ่มหยุ่นโอบรัดตัวเขาอย่างแนบแน่นในทุกครั้งที่กระแทกเข้าใส่ ต้องห่อปากส่งเสียงครางออกมาอย่างทนไม่ไหว ไม่คิดว่าพิราอรจะให้ความสุขเขาได้มากมายถึงเพียงนี้ เขาถอดถอนแล้วใช้สองนิ้วแทรกซอนเข้าไปแทนที่
“อ๊ะ อื้อ ! ๆ ๆ” พิราอรดิ้นพล่าน ๆ อยู่ใต้ร่างของเขา
พัชระเร่งจังหวะด้วยการรัวปลายนิ้วเร็ว ๆ ช่วยให้หญิงสาวรู้สึกร่วมด้วย ไม่ช้าเจ้าของร่างงามก็เกร็งกระตุก สะโพกแอ่นขึ้นสูงก่อนจะกรีดเสียงร้องลากยาว และทรุดตัวฮวบลงกับที่นอน
พัชระถอนนิ้วทั้งสองที่เยิ้มไปด้วยหยาดน้ำหวานออกมาอย่างช้า ๆ แล้วแทนที่ด้วยบางอย่างที่ใหญ่โตกว่า หญิงสาวสะดุ้งเฮือกจนตัวโยน จากที่นอนระทวยแรงกลายเป็นดวงตาตื่นตระหนกขึ้นมาแทน ท่อนขาถูกแยกกว้างออกมากกว่าเดิม สะโพกหนาสอบของพัชระก็ผลุบเข้าผลุบออกอยู่เป็นระยะ
"อ๊ะ !” พิราอรกัดปากตัวเองจนเจ็บ เธอเจ็บไปหมดจนไม่รู้ว่าความสุขก่อนหน้าหายไปไหนแล้ว ทุกอย่างลอยเคว้งคว้างในอากาศ เขาโจนจ้วงใส่แบบไม่ยั้งไม่คิดว่าเธอจะทนทานได้ไหวหรือไม่
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแทบไม่มีหยุดพัก เสียงครางทุ้มลึกดังขึ้นเรื่อย ๆ ตัวเธอก็กระเด็นกระดอนหนักขึ้นตามแรงรัก เขากระแทกถี่ ๆ รัวย้ำ ๆ ก่อนจะเสือกสะโพกเข้าใส่สุดแรงเกิดในจังหวะสุดท้าย
“โอ !!!” ความอุ่นวาบพุ่งสู่ใจกลางดอกไม้งาม
พิราอรหายใจเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด รู้แค่ว่าเธอหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งอย่างที่หวงแหนมา พัชระค่อย ๆ กระตุกแล้วถอดถอนออกอย่างช้า ๆ จากนั้นก็ทรุดหน้าลงซบกับเนินอกอิ่มของเธอ
ลมหายใจเหนื่อยหอบแรงเป่ารดเนินอกที่ชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อของทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้คงหล่อหลอมเป็นหยาดน้ำเดียวกันไปเรียบร้อยแล้ว สักพักหนึ่งพัชระก็พลิกตัวลงไปนอนด้านข้าง ก่อนจะชันศอกขึ้นมามองคนที่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเสียใจ
“ผิดหวังมากสินะคุณอ้อน ที่มีผัวเป็นแค่ช่างในไร่อย่างผม” เขาเหน็บคนที่เอาแต่ซุกหน้ากับผ้าห่มแล้วหันหลังหนีเขาไป
“คุณอ้อนหันมาพูดกับผัวตัวเองเดี๋ยวนี้”
“พี่เพชรไม่ใช่ผัวอ้อน” เจ้าของเสียงสั่นเครือตอบกลับมาทั้งที่ยังไม่ได้พลิกตัวมาหาพัชระด้วยซ้ำ
“อ๊ะ !” แรงกระชากทีเดียวพิราอรถึงขั้นถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของพัชระ ถูกเขาช้อนปลายคางขึ้นให้มองสบสายตาตรง ๆ
“ร้องให้ตายมันก็กลับคืนไปไม่ได้ จำเอาไว้ด้วยล่ะว่าไอ้เพชรคนนี้คือผัวคุณอ้อนไม่ใช่คุณพฤกษ์” เขาพูดมาขนาดนี้แล้วอีกคนก็ยังเงียบไม่โต้ตอบ พัชระนึกหงุดหงิดหนักกว่าเดิมเลยกระแทกปากจูบไปแบบแรง ๆ
“อื้อ !” คนเจ็บถึงได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมาด้วยการถลึงตามองเขาแบบโกรธ ๆ
“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว” ชายหนุ่มบอกแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะดึงข้อมือของคนอ้อยอิ่งให้ลุกตาม พิราอรหน้าเสียเล็กน้อยหลังวางเท้าลงบนพื้น อยากจะหาผ้าขนหนูมาห่อตัวแต่ดูเหมือนว่าภายในห้องนี้จะไม่มี หญิงสาวฝืนใจเดินตัวเปลือยตามหลังเขาไปเข้าห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีแค่โอ่งหนึ่งใบที่มีน้ำอยู่เต็ม ของใช้ภายในนั้นก็เรียบง่าย มีเพียงผ้าขาวม้าสองผืนพาดอยู่บนราว พิราอรไม่เคยอาบน้ำในห้องน้ำแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกหวาดระแวงไปหมด
“รีบอาบผมเหนียวตัวไปหมดแล้วนี่ จะได้รีบนอนพรุ่งนี้มีงานแต่เช้าด้วย” คนพูดทำเหมือนเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับเขาเลย แน่ล่ะสิ เขาก็แค่คนงานทำตามคำสั่งนางจันทร์นิล ผิดกับเธอที่จะต้องมาสูญเสียสิ่งที่หวงแหนมาทั้งชีวิต เพียงเพราะความมักมากของผู้ชายหนึ่งคน
พัชระใช้ขันตักน้ำราดตัวโครม ๆ ก่อนจะถูสบู่ตามลำตัวแบบลวก ๆ ท่าทางกักขฬะหยาบโลนไปหมด พิราอรไม่อยากมองจึงหันหน้าหนีไปด้านข้าง
“อ๊ะ !” ทว่าน้ำจากขันในมือของเขาก็ราดลงมาบนตัวของเธอจนเย็นวูบไปหมด หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้แน่น เพราะห้องน้ำในบ้านของพัชระเปิดโล่งด้านบน ทำให้ลมเย็น ๆ พัดมาต้องกายจนหนาวสั่นไปทั้งตัว
“ทำไมน้ำมันเย็นแบบนี้ล่ะพี่เพชร” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถามเขา
“เย็นที่ไหนก็ปกติ เอ้า สบู่” พัชระยื่นสบู่ก้อนที่ตัวเองถูตัวเสร็จให้พิราอรถูต่อ หญิงสาวทำหน้าปั้นยากเล็กน้อยยังไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ
“รังเกียจว่างั้น”
“เปล่านะ”
“สีหน้ามันฟ้องคุณอ้อน รังเกียจยังไงก็ผัว” พูดจบก็เดินเข้าไปชิดตัวของพิราอร พร้อมกับจัดการถูสบู่ให้หญิงสาวด้วยตัวเอง
“พี่เพชรไม่ต้องอ้อนถูเองได้” พิราอรเบี่ยงตัวหลบมือที่กำสบู่มาจะถูให้ตัวเอง แต่ก็ถูกเขากักตัวเอาไว้แล้วจัดการถูให้อย่างสะอาดทุกซอกทุกมุม
“อื้อ ตรงนั้นไม่ต้อง มันเจ็บ อื้อ !” หญิงสาวน้ำตาแทบเล็ดเมื่อเขาถูสบู่ตรงจุดอ่อนไหวแบบไม่ออมแรง
“สำออยจริง” พัชระตักน้ำราดตัวให้หญิงสาวพร้อมกับตัวเองไปด้วย จัดการล้างฟองสบู่ออกจนหมดเกลี้ยง
“วันนี้ไม่สระผมนะง่วงนอน เอาไว้วันหลัง เอ้า ผ้าขาวม้า วันหลังค่อยซื้อผ้าถุงมาให้ ใช้ไปก่อนก็แล้วกัน” ผ้าขาวม้าบนราวถูกดึงมายื่นให้หญิงสาว อีกผืนพัชระก็เอามาซับน้ำออกจากตัวแบบลวก ๆ ก่อนจะพาดไว้ที่เดิม ขณะที่พิราอรเอามาพันตัวเพื่อที่จะเดินกลับห้องนอน
“คนบ้าที่ไหนใช้ผ้าขาวม้าแบบนั้น” พัชระมีเหน็บแนมหญิงสาวระหว่างเดินโทง ๆ กลับไปยังห้องนอน
พิราอรยืนอยู่กลางห้องมองผ้าปูที่นอนเก่า ๆ ของพัชระที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักและรอยเลือดจาง ๆ เห็นเจ้าของห้องเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้ากางเกงมาสวม เขามองมาทางเธอด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนจะดึงเสื้อยืดกับกางเกงขายาวแบบผูกเอวออกมาให้
“ใส่นี่ไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
ระหว่างที่หญิงสาวสวมใส่เสื้อผ้า พัชระก็จัดการถลกผ้าปูที่นอนออก แล้วนำอันใหม่ซึ่งสีซีดไม่น้อยไปกว่าอันเดิมไปปูทับ เหมือนเขาคิดอะไรบางอย่างออก ถึงลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อตัวหนา ๆ ออกมาพับเป็นทบซ้อนกันแล้ววางคู่กับหมอนบนเตียง
“มานอนได้แล้วคุณอ้อน”
“เอ่อ ผ้าขาวม้ามันเปียก อ้อนเอาไปตากก่อนนะ” พิราอรมองหาที่ตากเมื่อไม่เห็นจึงเดินกลับไปยังห้องน้ำ แล้วพาดคู่กับผืนที่พัชระใช้ ยืนนิ่ง ๆ อยู่ในห้องน้ำเกือบสามนาทีถึงตัดสินใจก้าวออกมา แต่ก็ต้องผงะเมื่อพัชระมายืนกอดอกรออยู่หน้าประตูห้องน้ำ
“นึกว่าจะผูกคอตายคาห้องน้ำไปแล้ว ผมไม่ชอบให้ใครมาตายในบ้าน” คำพูดคำจาช่างโหดร้าย ไม่ได้มีความห่วงใยแฝงอยู่เลย พิราอรก้มหน้าลงต่ำก่อนเดินกลับไปยังห้องนอน
ค่ำคืนนี้เธอผ่านเรื่องเลวร้ายมาถึงสองเรื่อง แต่เธอก็ยังมีลมหายใจอยู่ บางครั้งก็คิดว่าเธอควรจะตาย ๆ ไปเสีย จะได้ไม่ต้องรับรู้ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้
“นอนเถอะผมง่วง” พัชระเดินไปปิดไฟและดึงข้อมือของหญิงสาวให้ขึ้นไปนอนบนเตียง หมอนใบนั้นยกให้พิราอรส่วนตัวเขาก็ใช้เสื้อตัวเองหนุนนอนไปก่อน ต้องนอนตะแคงเพราะเตียงค่อนข้างแคบ หลังเขาถึงกับพิงผนังห้องกันเลยทีเดียว
ในความมืดท่อนแขนแข็งแรงก็โอบมากอดรอบตัวของคนที่นอนหันหลังให้ พิราอรตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ คุ้นชินกับสัมผัสของเขา สักพักเสียงลมหายใจของพัชระก็ดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่เธอนอนสะอื้นไห้ปล่อยน้ำตาไหลอาบสองแก้มไปทั้งคืน