[11] มัดจำ NC

2026 Words
บทที่ 11 มัดจำ ฉันนั่งอยู่ตรงนี้กับพี่ฟารันมานานเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ยังไม่ได้ดื่มไวน์แม้แต่นิดเดียว มีแค่พี่ฟารันที่ดื่มหมดไปแล้วสามแก้ว พี่เขาดื่มติดๆ กันด้วย ไม่มีท่าทีว่าจะเมาเลยสักนิด ที่ฉันไม่ดื่มไม่ได้กลัวว่าในไวน์จะมีอะไรนะ พี่เขาเองก็ดื่มขวดนี้ แต่ฉันกลัวตัวเองจะเมาแล้วควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เพื่อนบอกว่าเวลาเมาฉันพูดเยอะ ชอบพูดไปเรื่อย ฉันไม่อยากเป็นแบบนั้นต่อหน้าคนที่ยังไม่สนิท “ฉันไม่ได้มีรสนิยมขืนใจผู้หญิง…” พี่ฟารันเอ่ยเสียงเรียบแล้วหลุบมองไวน์ในแก้วของฉัน ในขณะที่มือหนาเลื่อนของตัวเองขึ้นจิบ “…ไม่มีรสนิยมวางยาผู้หญิงด้วย” “ซินไม่ได้กลัวเรื่องนั้นค่ะ ซินแค่กลัวเมา วันนี้ซินไม่อยากเมา…” “กลัวเมาแล้วจะอดใจไม่ไหวเหรอ?” ฉันไม่รู้ว่าควรตอบยังไง แต่กระดุมเสื้อที่พี่ฟารันปลดตอนมาถึงห้องพักยังไม่ติดกลับคืนให้เรียบร้อยเหมือนเดิมเลยนะ ยิ่งเวลาที่สายลมจากนอกระเบีียงพัดมากระทบโดน เสื้อยิ่งเปิดให้เห็นเยอะ แก้มนวลทั้งสองข้างเริ่มเห่อร้อน เพราะฉันเผลอมองมัดกล้ามของพี่ฟารันนานนับหลายนาที ไม่แปลกใจเลยกับฉายา ‘คิงวิศวะ’ ที่พี่เขาได้มาครอบครอง พี่ฟารันจัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมาก พี่เขาน่าจะเป็นลูกครึ่งด้วย ผิวขาวมาก ผิวหน้าก็ใสไร้สิว ดวงตาสวย จมูกคมโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์น่ามองมาก แล้วทำไมฉันต้องชมพี่เขาขนาดนี้ด้วยนะ ปกติไม่ค่อยชมผู้ชายคนไหนนอกจากคนที่อยู่ในสถานะแฟนตัวเองเลย “ถ้าอดใจไม่ไหว ทำวันนี้ก็ได้นะ ฉันไม่ติด” เสียงเรียบดังขึ้นเรียกสติของฉันให้กลับมา จึงกระพริบตาปริบๆ เพื่อตั้งสติ “…แต่ซินยังไม่พร้อม” “ตอนชวนฉันวันไนต์ฯ เธอก็ดูพร้อมนะ หรือตอนนั้นเตรียมตัวมาก่อนแล้ว?” “คะ?” ฉันเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ซินเนี่ยนะชวนพี่ฟารันวันไนต์ฯ” เท่าที่จำได้ฉันไม่เคยชวนใครทำอะไรแบบนั้นเลยนะ ถึงแม้ว่าตอนที่เลิกลากับพี่ทิคเกอร์ใหม่ๆ แวบหนึ่งของความคิดที่อยากลองวันไนต์สแตนด์ แต่ก็ยังไม่เคยชวนใคร เพราะฉันเอาความเสียใจทั้งหมดไประบายกับแอลกอฮอล์ เมาแล้วก็หลับ “จบแล้วแยกย้าย ถ้าไม่อยากทำฟรี… พร้อมโอน” “…” “จำคำพูดตัวเองได้ไหม?” “ซินพูดเหรอ?” ฉันไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นเลยนะ พี่ฟารันจำผิดคนหรือเปล่า… “เดือนที่แล้วเธอได้ไปพักที่โรงแรมxxxพัทยาไหม?” “..!!” ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะฉันไปพักที่นั่นจริง เป็นช่วงที่เลิกลากับแฟนเก่า ว่าแต่พี่ฟารันรู้ได้ยังไงหรือพี่เขาเคยส่องไอจีฉันเหรอ แต่จำได้ว่าฉันเคยเช็กอินแค่พัทยานะ ไม่เคยเช็กอินโรงแรม “ต้องให้ฉันบอกหมายเลขห้องพักด้วยไหม?” พี่เขาเอ่ยอีกประโยคเมื่อเห็นว่าฉันยังทำหน้าตกใจ “ชวนฉันวันไนต์ฯ แต่ดันอ้วกใส่ ไม่พอแค่นั้นยังหลับอีก ลำบากฉันต้องลากไปส่งถึงห้อง” แต่เอ๊ะ… ฉันจำเหตุการณ์หนึ่งได้ จำได้ว่ามีเช้าวันหนึ่งที่ตื่นมาด้วยความรู้สึกปวดตามร่างกายเพราะฉันนอนพื้นกระเบื้องแข็งๆ ที่หน้าประตูภายในห้องพักตัวเอง แถมตามเนื้อตัวยังมีคราบอาเจียนเปรอะเปื้อน แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นฉันจำไม่ได้ จำไม่ได้ด้วยว่าตัวเองอาเจียนตอนไหน เพราะวันนั้นฉันดื่มเยอะ เยอะที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะเคยดื่มแอลกอฮอล์ ที่พี่ฟารันพูดมีความเป็นไปได้สูง เพราะพี่เขารู้ว่าฉันพักโรงแรมไหนทั้งๆ ที่ไม่เคยเช็กอิน รู้ด้วยว่าฉันอาเจียน ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้รู้จักกัน แล้วช่วงนั้นฉันเสียใจเรื่องแฟนเก่ามากจนเคยคิดอยากลองวันไนต์ฯ ทำเหมือนที่พี่ทิคเกอร์ทำ ที่ฉันจำเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้คงเป็นเพราะเมามาก… “ซินจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลยค่ะ สงสัยเมามากเกินไป ถ้าเป็นอย่างที่พี่ฟารันพูด… ซินขอโทษนะคะ” “ขอโทษเรื่องที่ชวนฉันวันไนต์ฯ แล้วเทกลางอากาศเหมือนวันนี้ หรือที่อ้วกใส่” “…ก็น่าจะเป็นทั้งสองเรื่องเลยค่ะ” “ป้องกันการเทอีกรอบ เธอควรวางมัดจำหน่อยนะ” “ซินไม่เทค่ะ ซินให้คีย์การ์ดพี่ไปแล้ว” “ไม่ไว้ใจ” “แล้วมัดจำที่พี่ว่าหมายถึงยังไงคะ?” “มานี่” พี่ฟารันว่าจบก็ยกเครื่องดื่มมึนเมาเข้าปากพรวดเดียวจนหมดแล้ววางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ ตวัดสายตาขึ้นมองฉันอีกครั้ง แต่คำพูดกับสายตาของพี่เขาสร้างความประหม่าให้ฉันมาก จนฉันเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว ไม่รู้เลยว่ามัดจำที่พี่เขาบอกคืออะไร “จะไม่มัดจำหน่อยเหรอ?” พี่เขาเอ่ยอีกประโยคเมื่อเห็นฉันเงียบไม่ยอมทำตาม “ซินอยากรู้ว่ามัดจำที่พี่ว่าคืออะไร” “จูบ…” “…” มือเล็กจิกกระเป๋าสะพายที่วางบนตักตัวเองแน่น ความรู้สึกที่เดินเข้าไปจูบพี่ฟารันเมื่อตอนอยู่ผับแทรกเข้ามาจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะจูบนั้นฉันยังจำได้ จำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะสัมผัสนุ่มนิ่ม กลิ่นหรือความรู้สึก… “กลัวอะไร ที่ผับก็จูบฉันแล้วไม่ใช่เหรอ” ฉันยังคงเงียบเพราะตอนนั้นโมโหแพรวากับพี่ทิคเกอร์จึงมีความกล้าหาญมากกว่าปกติ มือเล็กตัดสินใจคว้าแก้วไวน์กระดกเข้าปากเพื่อเรียกความกล้า แต่รสชาติขมของมันทำให้ฉันหลับตาเบ้หน้าเล็กน้อย ไวน์ยี้ห้อนี้แรงใช้ได้เลย แรงกว่ายี่ห้ออื่นๆ ที่ฉันเคยดื่มเสียอีก แต่พี่ฟารันดื่มได้ชิลล์มาก แสดงว่าพี่เขาเป็นคนที่ดื่มเก่งมาก แต่เมื่อลืมตาขึ้นมามองพี่ฟารันก็เห็นพี่เขาจ้องมองอยู่ “ฉันรอ…” “…” ฉันสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเอง จากนั้นก็ดันตัวลุกก้าวเดินเข้าไปหาพี่เขาช้าๆ เอาน่าซินเนียร์… แค่มัดจำด้วยการจูบเอง แล้วฉันก็เคยจูบพี่เขามาแล้วหนึ่งครั้ง จูบอีกครั้งคงไม่เป็นอะไร อีกอย่างรสจูบของพี่ฟารันก็ไม่ได้แย่ พรึบ! “อ๊ะ! พี่ฟารัน” ฉันส่งเสียงเรียกด้วยท่าทางตกใจ เมื่อจู่ๆ พี่ฟารันก็กระชากตัวฉันให้นั่งลงบนตักแกร่งอย่างรวดเร็ว จะลุกก็ไม่ได้เพราะพี่เขาล็อกเอวบางไว้แน่น “แบบนี้จูบถนัดกว่า” “…” ฉันกัดปากแน่น หัวใจเริ่มกระหน่ำเต้นแรงเมื่อพี่ฟารันเลื่อนมือมาล็อกท้ายทอยเล็ก ใบหน้าคมคายไร้สิวก็เลื่อนเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ตอนนี้ฉันเริ่มหายใจติดขัด พี่ฟารันเลื่อนสายตาขึ้นมาประสานกับฉันครู่หนึ่งก็หลุบมองริมฝีปากอวบอิ่ม พี่เขาใช้มือมาสัมผัสกลีบปากเบาๆ เพื่อให้ฉันเลิกกัดปาก ดวงตากลมโตปิดสนิท หัวใจดวงน้อยคล้ายๆ จะหยุดเต้นเมื่อถูกริมฝีปากร้อนประกบลงมา พี่เขาบดคลึงกลีบปากของฉันอย่างแผ่วเบา ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงจนฉันเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง จูบนี้ไม่เหมือนที่ฉันจูบพี่เขาที่ผับ เพราะตอนนั้นเป็นแค่การเอาปากแตะปาก ไม่ได้มีการบดคลึงแบบนี้ “อื้อ!” ฉันส่งเสียงประท้วงในลำคอพลางเลื่อนมือไปผลักดันบ่าแกร่งเมื่อรับรู้ว่าพี่ฟารันกำลังลุกลามหนักกว่าเดิม โดยการสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากเล็ก พี่ฟารันไม่ได้สนใจการต่อต้านของฉันเลยสักนิด พี่เขาใช้เรียวลิ้นร้อนตวัดดูดลิ้นเล็กอย่างหนักหน่วง จนสมองของฉันเริ่มปั่นป่วน ภายในท้องก็วูบวาบ จนสุดท้ายฉันก็เผลอไผลจูบตอบอย่างง่ายดาย… ผ่านไปนานพอสมควรฉันเริ่มหายใจไม่ทัน จึงใช้มือทุบบ่าแกร่งเบาๆ ทำให้พี่ฟารันยอมถอนจูบ เมื่อริมฝีปากหลุดออกจากกัน ฉันก็หลับตาหอบหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง พรึบ! ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง จึงเห็นว่าเดรสสายเดี่ยวของตัวเองถูกดันลงจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มหนึ่งข้างที่ถูกปกปิดด้วยบราซิลิโคนปิดจุกสีเนื้อ “พี่ฟารัน!!” มือเล็กรีบยกขึ้นปิดหน้าอกตัวเองเมื่อถูกพี่เขาดึงบราซิลิโคนปิดจุกออกไปอย่างรวดเร็ว “นะ…ไหนบอกว่ามัดจำด้วยการจูบไงคะ” “ก็จูบ” “จูบไปแล้ว” “ฉันไม่ได้บอกนะว่าจะจูบแค่ปาก” พี่เขาเอ่ยเสียงเรียบ “เหลือนมกับ…” “อย่านะ” ฉันส่ายหน้าไปมาหนักๆ เมื่อคนตัวสูงหลุบมองต่ำไปที่ตรงนั้น “ซินยังไม่พร้อม” “หมายถึงตรงไหนไม่พร้อม” “…” “ถ้าหมายถึงตรงนั้นฉันยังไม่ทำก็ได้ แต่ต้องให้ฉันดูดนมด้วย” “…” ฉันหลบสายตาของพี่ฟารันทันที ไม่คิดเลยว่าคิงวิศวะคนนี้จะพูดจาแบบนี้ได้อย่างหน้าตาเฉย “ว่าไง ถ้าไม่ ฉันก็จะจูบนมแล้วก็…” “อะ…โอเคค่ะ แต่ทำแค่นี้นะ ห้ามทำนานด้วย” “ต่อรองเก่งไม่พอ สั่งเก่งด้วยนะ” “ก็ซินบอกแล้ว ซินยังไม่พร้อม” “เอามือออก” ฉันกัดปากแน่นเมื่อได้ยินคำสั่ง จึงจำใจเลื่อนมือออกจากหน้าอกตัวเองอย่างเชื่องช้า จนเต้าอวบข้างซ้ายเปิดเผยให้พี่เขาเห็นอีกครั้ง หมับ! “จะทำอะไรคะ” ฉันจับมือหนาแน่นเมื่อพี่เขาจะดึงเดรสสายเดี่ยวอีกข้างของฉันลง “อยากดูดสองข้าง” “แต่…” “อยากให้ฉันเปลี่ยนใจทำแค่จูบเหรอ จะได้ลงไปจูบตรงนั้น” “ก็ได้ค่ะ” ฉันจำใจยอมปล่อยมือออกจากท่อนแขนแกร่ง เพราะพี่ฟารันวนจะลงไปข้างล่างตลอดเลย จึงกัดปากแน่นแล้วเบือนใบหน้าหนีเมื่อพี่เขาดันเดรสสายเดี่ยวอีกข้างลงแล้วดึงบราซิลิโคนปิดจุกออก “อ๊ะ!” ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อถูกปลายนิ้วชี้ของพี่เขาสะกิดยอดอกสีชมพูระเรื่อเบาๆ จนมันเริ่มแข็งเป็นไต ฉันจึงเลื่อนมือมาบีบเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความรู้สึกบางอย่าง “ตรงนี้แข็งแล้วนะ” “…” “สีชมพู…” “ระ…รีบทำได้แล้ว ซินอยากกลับห้องไปนอนแล้ว” “…” คนตัวสูงยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ พี่เขาใช้ปลายลิ้นเลียยอดอกเบาๆ จนร่างเล็กเริ่มสั่นสะท้าน “อื้อ” ฉันรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อเสียงบางอย่างหลุดออกมาเพราะพี่ฟารันใช้ปลายลิ้นตวัดเลียหนักหน่วงกว่าเดิมจนน้ำลายสีใสเปรอะเปื้อน หน้าอกอีกข้างพี่เขาก็ใช้มือมาบีบและสะกิดยอดอกเบาๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ฉันไม่เคยได้รับมาก่อน ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง รู้แค่ว่ามันแปลกๆ จนเผลอเลื่อนมือไปจับบ่าแกร่งแน่นแล้วเงยหน้าส่งเสียงครางอย่างลืมตัว “อ๊ะ…อื้อ” ยิ่งเสียงของฉันหลุดออกมา พี่ฟารันก็สลับเปลี่ยนเป็นอ้าปากดูดหนักหน่วงมากกว่าเดิม พี่เขาดูดแรงมาก ราวกับโหยหามานานยังไงก็ไม่รู้ “อืม…” เสียงครางแผ่วเบาหลุดออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป ฉันจึงหลุบมอง แต่เมื่อประสานดวงตากับคนที่ช้อนตาขึ้นมองพอดี สติสัมปชัญญะที่ลอยหายไปก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง ความเขินอายวิ่งเข้ามาจนฉันทำตัวไม่ถูก ไม่นึกเลยว่าจะคล้อยตามพี่ฟารันได้ง่ายขนาดนี้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD