ตอนที่ 8

1546 Words
"พี่ไปช่วยถือครับ" เสิ่นเฉินซานพูดแล้วเดินตามเธอเข้าไปในครัว ฟ่านปิงไม่ตอบเพราะไม่อยากคุยกับชายหนุ่มเพราะยังโกรธเรื่องเมื่อวานนี้อยู่ไม่หาย เธอรีบหยิบถ้วยจานอย่างออกมาวางบนโต๊ะซึ้งเสิ่นเฉินซานก็หยิบมาถือเอาไว้ก่อนจะถามเธอ "ปิงเอ๋อร์น้องไม่มีไข้แล้วใช่ไหมยังเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ วันนี้แม่พี่ต้มยามาให้น้องด้วยนะครับเดี๋ยวพอกินข้าวเสร็จน้องกินยาเลยนะครับ" เฉินซานบอกฟ่านปิงพออยู่ในครัวสองคน พีระดาในร่างของมู่ฟ่านปิงมองหน้าของชายหนุ่มและตอบไปด้วยความโกรธ "มันใช่เรื่องจะถามไหมละและคนที่ทำฉันเจ็บคือคุณแต่มันยังไม่เท่ากับที่ฉันต้องเจ็บใจและโดนคุณรังแกหรอกค่ะ" พูดจบเธอก็รีบเดินออกจากห้องครัวเลยเพราะไม่อยากอยู่นาน "พี่ขอโทษ" เสิ่นเฉินซานตอบเมียตัวน้อยแล้วรีบเดินตามเธอออกจากในห้องครัวเขาไม่โกรธเธอเลยสักนิดเดียวที่เธอตอบเขาแบบไม่พอใจและยังโกรธในตัวเขาอยู่เสิ่นเฉินซานจะรอจนกว่าที่จะทำให้เธอหายโกรธและใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันจนแก่เฒ่า เมื่อคืนมารดาได้สั่นสอนเขาหลายอย่างและเขาได้ตัดสินใจบอกเรื่องที่ตัวเองต่อว่ามู่ฟ่านปิงไปเมื่อวานนี้ด้วย มารดาโกรธเขามากและต่อว่าลูกชายที่ไม่ได้เรื่องอย่างเขาและขอมาที่บ้านของมู่ฟ่านปิงเพื่อจะช่วยให้เธอหายโกรธเขาเร็วขึ้น ตัวเขาเองต้องมาทุกวันเพื่อช่วยเธอทำงานที่บ้านอีกด้วย พอมาถึงโต๊ะฟ่านปิงก็รีบตักข้าวให้กับสองลูกแม่ก่อนเพราะมาทีหลัง สี่คนกินข้าวด้วยกันด้วยความอร่อยมีเพียงเสิ่นเฉินซานที่รอบมองหน้าภรรยาตัวน้อยของตัวเองบ่อยๆป้าเสิ่นได้แต่ส่ายหัวให้กับลูกชายของเธอ พอทุกคนอิ่มข้าวฟ่านปิงก็เอาผลไม้ออกมาให้กินล้างปากหลังจากนั้นมู่หยางกับเฉินซานจึงออกไปตัดหญ้าต่อฟ่านปิงจึงอยู่ที่บ้านกับป้าเสิ่น "ฟ่านปิงมีอะไรให้แม่ช่วยไหมหนูได้อะไรทำมื้อเที่ยงเดี๋ยวแม่จะช่วยทำเอง" แม่ของชายหนุ่มบอกกับเธอ "อ้อไม่ต้องลำบากคุณป้าค่ะเดี๋ยวหนูทำเองค่ะ" "งั้นก็ได้จ้ะ" "คุณป้าจะปักผ้าเหรอคะ" เธอเห็นป้าเสิ่นเอาผ้าออกมาจากตระกร้าเพื่อจะปักต่อ "ฟ่านปิงเรียกแม่สิลูกยังไงหนูก็เป็นเมียของเฉินซานแล้วและเขาได้เล่าเรื่องที่ต่อว่าหนูให้แม่ฟังไปแล้วเมื่อคืนป้าก็ได้ต่อว่าและสั่งสอนเขาไปแล้วหลายอย่างแม่อยากให้หนูให้โอกาสพี่เขาจะได้ไหม ตามที่จริงแล้วเขาก็ไม่ใช่คนปากร้าย เขายังบอกว่าเป็นคนต่อว่าหนูก่อนทุกอย่างและขอให้แม่ช่วยพูดกับหนูเพราะเฉินซานบอกแม่ว่าหนูยังโกรธเขามากจนไม่อยากจะมองหน้าพี่เขา แม่ก็เลยบอกสอนไปหลายอย่าง ถึงไม่ใช่หนูเป็นใครก็ต้องโกรธแม่จึงอยากให้หนูให้โอกาสพี่เขาสักครั้งนะลูก เขายืนยันจะแต่งกับหนูเพียงคนเดียวเท่านั้นจะรอจนกว่าหนูจะรักตอบ เขาสารภาพกับแม่เมื่อคืนนี้ วันนี้แม่จึงอยากมาขอร้องหนูและอยากได้หนูเป็นลูกสะใภ้ด้วย" "หนูขอคิดดูก่อนนะคะก็ยอมรับว่าโกรธมากและหนูจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเพียงแค่อยากเอาชนะหนูเพียงเท่านั้น หนูคิดว่าถ้าไม่ได้รักจะฝืนแต่งงานกันไปทำไมละคะคนที่จะรับกรรมคือลูกน้อยตาดำๆที่ๆไม่รับรู้ปัญหาของพ่อแม่ เขาต้องเกิดมาจากการที่พ่อจำใจแต่งงานเพื่อรับผิดชอบแม่เพียงเท่านั้นถ้าหากเป็นเช่นนั้นหนูขอเลี้ยงลูกคนเดียวดีกว่าค่ะ" ฟ่านปิงบอกแม่ของชายหนุ่ม "หนูโตกว่าที่แม่คิดไว้อีกนะฟ่านปิงแม่ดีใจและเต็มใจรับหนูเป็นลูกสะใภ้เพียงคนเดียวของเสิ่นเฉินซาน" นางเสิ่นหนานบอกกับฟ่านปิงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "หนูขอดูลายผ้าของคุณป้าได้ไหมคะ" ฟ่านปิงเปลี่ยนเรื่องตัดบทถามป้าเสิ่นหนานเรื่องอื่น "เรียกแม่ได้ไหมฟ่านปิงแม่ขอละแม่ไม่มีลูกสาวขอให้หนูเป็นลูกสาวอีกคนได้ไหม" ลูกป้าเสิ่นขอร้องฟ่านปิง มู่ฟ่านปิงมองหน้าของป้าเสิ่นดวงตาที่อ่อนโยนของหญิงคนนี้บอกว่าจริงใจต่อเธอ "ได้ค่ะคุณแม่" นางเสิ่นหนานน้ำตาคลอและดึงเอามู่ฟ่านปิงมากอดเอามือลูบหลังของเธอ "ขอบใจมากนะลูกต่อจากนี้หนูคือลูกสาวของแม่แล้วนะ มีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียวแม่จะคอยเคียงข้างหนูไปจนกว่าแม่จะตายจาก" นางเสิ่นหนานบอกเด็กสาวเขารู้สึกเอ็นดูฟ่านปิงมากๆ หลังจากที่ทำความเข้าใจกันดีแล้วฟ่านปิงจึงนั่งมองดูการปักผ้าของแม่เสิ่นหนาน ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมเองก็ปักผ้าขายเช่นเดียวกันแต่ทำตามลายที่ทางร้านให้มาเสียมากกว่า วันนี้เธอจึงคิดจะปักผ้าตามลายที่เธอวาดขึ้นมาสามแบบพอดีตอนที่รอพี่ชายและวาดแบบเครื่องประดับอีกสามลาย เธอจึงอยากให้แม่เสิ่นหนานลองปักผ้าลายนี้ไปขายเอาเงินเพิ่มไม่ใช่เพียงปักส่งได้ไม่กี่หยวนนี้ เธอจะลองเอาลายผ้าไปเสนอขายดูก่อนแล้วค่อยมาคุยกันกับแม่เสื่นหนานดู "คุณแม่คะคือหนูมีลายผ้าแบบใหม่ที่หนูวาดเองให้แม่ลองปักลายผ้าของเราเองไปเสนอขายให้กับทางร้านเองคุณแม่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ" "หนูวาดเองเหรอปิงเอ๋อร์ไหนลองเอามาให้แม่ดูลายหน่อยสิว่าพอจะปักไปขายที่ร้านผ้าได้ไหม" มู่ฟ่านปิงจึงเดินไปหยิบเอากระดาษที่เธอวาดตอนเช้ามาให้แม่เสิ่นหนานดู พอแม่เสิ่นเห็นลายผ้าก็ตกตะลึงนี้มันลายอะไรถึงได้เหมือนมีชีวิตตัวอะไรมันถึงได้น่ารักขนาดนี้ "ปิงเอ๋อร์วาดเองหรือลูกทำไมมันถึงได้น่ารักขนาดนี้มันเหมือนกับมีชีวิตเลยนะ" แม่เสิ่นบอกพร้อมกับเอามือลูบลายผ้าด้วยความหลงไหล "ค่ะหนูวาดเองค่ะเมื่อเช้านี้หนูฝันค่ะจึงลองวาดออกมาตามที่ฝันเมื่อคืนนี้คุณแม่ว่าเราจะปักได้ราคาดีไหมคะ" เธอถามคนที่มีประสบการณ์ในที่แห่งนี้มากกว่ามากกว่า "ได้สิ" "หรือเราจะไปขายลายขาดตัวเลยดีคะคุณแม่" ฟ่านปิงโยนหินถามทางดูก่อน นางเสิ่นหนานคิดแล้วจึงตอบเธอ "เราลองปักใส่ผ้าและเข้าไปเสนอที่ร้านดีไหมปิงเอ๋อร์ไม่แน่ว่าลูกอาจจะได้เงินมากมายก็ได้นะ ลำพังแค่เราปักตามลายผ้าที่ทางร้านให้มามันก็ได้ไม่กี่หยวนถ้าเรามีแบบเป็นของตัวเองคงได้เยอะมากกว่าขายขาดตัว แม่ว่าเรามาปักใส่ผ้ากันเถอะแม่อยากเห็นลายในผ้าแล้วสิว่ามันจะสวยขนาดไหน" จากนั้นสองคนที่ไม่ใช่แม่ลูกกันจริงๆจึงลองปักผ้ากันคนละผืนและพูดคุยหัวเราะกันดังไปจนสองหนุ่มที่ตัดหญ้าได้ยินเสิ่นเฉินซานยกยิ้มมุมปากด้วยความถูกใจที่ได้ยินเสียงของมู่ฟ่านปิงหัวเราะกับแม่ของเขา พอใกล้จะถึงเวลาอาหารเที่ยงฟ่านปิงจึงขอตัวไปทำอาหารให้สำหรับทุกคนเธอมีผักมีหมูออกมาผัดและต้มจืดไข่เจียวอีกจานกลัวว่าสี่คนจะไม่อิ่มเธอจึงผัดผักเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง แม่เสิ่นขอไปช่วยเธอบอกไม่ต้องเรื่องทำอาหารเธอถนัดเธอบอกให้แม่เสิ่นปักผ้าสวยๆก็พอ ผ้าเธอยังเอาออกมาให้แม่เสิ่นปักใหม่เลยและเป็นผ้าเนื้อดีและสีสวยเข้ากันรูปสัตว์ที่เธอวาดแบบอีกด้วย หลังจากทำอาหารเสร็จเธอแวบเข้าห้องในมิติอาบน้ำใหม่เพราะเหงื่อออกเยอะตอนทำอาหาร เสร็จแล้วก็ยกกับข้าวออกมาวางที่โต๊ะ สักพักพี่ชายก็เดินตามหลังกันมากับคู่อริของเธอ "ฟ่านปิงทำอะไรให้พี่กินหรือมื้อนี้หอมไปยันสวนท้องพี่ร้องใหญ่เลย" พี่ชายร้องถามน้องสาวที่จัดโต๊ะและกำลังตักข้าวให้กับทุกคนโดยมีแม่ของเสิ่นเฉินซานนั่งยิ้มช่วยรับจานข้าวจากมือของมู่ฟ่านปิง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD