“ดะ เดี๋ยว เอ่อ มีเรื่องอะไรหรือขอรับ”
สุพจน์ เลขาของเลอสรรอายุไล่เลี่ยกันหากแต่บุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง รีบเดินเร็วร้องตามเจ้านายด้วยความสงสัย
“เด็กคนนี้จะเป็นลม เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไม่ต้องตามมา!!”
เลอสรรลากตัวเธอมาที่ไกลลับตาผู้คน เป็นทุ่งหญ้ากว้างมีต้นจามจุรีต้นใหญ่เป็นจุดเด่นอยู่กึ่งกลาง เจ้าของไร่หนุ่มบีบแขนเธอแน่นด้วยความโกรธที่หล่อนบังอาจอู้งานมาก่อเรื่องถึงสนามแข่งม้า หากมีคนของเสี่ยชัชมาเจอเข้ามีหวังได้เกิดเรื่องใหญ่แน่
“บังอาจหนีงานมา อยากลองดีเหรอ กรวลัย ”
“คือ...”
“ฉันถามว่ายังไม่เข็ดใช่มั้ย!!"
“เข็ด เข็ดแล้วค่ะคุณเลอสรร คือหนูแค่อยากจะให้คุณช่วยหนู”
“ช่วยหรือ? ก่อเรื่องมากมาย ยังมีหน้ากล้าขอให้ฉันช่วยหรือ”
“หนูอยากคุยกับพ่อแม่”
“.....”
“นะคะคุณเลอสรร หนูอยากได้ยินเสียงพ่อแม่ แค่รู้ว่าท่านสบายดีไหม”
“ถ้าขืนยังหน้าด้านมาหาฉันอีก มีหวังได้ตายก่อนจะคุยกับพ่อแม่” เขาผลักหล่อนจนล้ม
“โอ๊ย ..หนูจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ” เธอใช้แขนค้ำดันตัวเองขึ้นแล้วเงยหน้าส่งแววตาน่าสงสาร หากแต่เขากลับเห็นเพียงภาพความเย้ายวนจากหล่อน
“แต่ฉันชักอยากจะทำอีกแล้วสินะ”
“ไม่ไม่ หนูจะกลับไปรีดนมวัว”
“หึ สายป่านนี้ เค้าคงเสร็จหมดแล้ว จะเหลือก็แค่ นมเธอ ...ให้ฉันรีดน่ะสิ”
เลอสรรค่อยๆย่อตัวลงนั่งข้างๆหล่อนพร้อมเอ่ยถ้อยคำหยาบโลน สายตาดุจพญาเหยี่ยวจ้องสรีระว่าแล้วฝ่ามือใหญ่ตะปบเข้าเต้าอวบ
“อื้อ อย่า”
“ซี้ดดด ฉันจะเอาตรงนี้ กรวลัย”
“ไม่”
“เธอห้ามฉันไม่ได้หรอก”
เขาห่างเรื่องอย่างว่ามาเป็นอาทิตย์เพราะงานยุ่ง พอวันนี้เพียงแค่ได้มองหน้าหล่อนเจ้าน้องชายตรงหว่างขาก็ดิ้นขลุกขลักเสียแล้ว
“หนูขอคุยกับพ่อแม่ก่อน”
“หุบปาก!! แล้วนอนถ่างขาเฉยๆให้ฉันเสียบ ฉันจะเอารอบเดียวพอ”
“..ไม่”
“แต่ถ้าเธอยังดื้อ รับรองจะกระหน่ำมันถึงค่ำ”
“ฮึกก.."
หญิงสาวผวาหนักเมื่อไม่สามารถต่อรองอะไรจากเขาได้ สุดท้าย เธอต้องนอนถ่างขาปล่อยให้เขากระหน่ำแทงเอาตามแต่ใจ
พั่บๆๆๆๆ
บั้นท้ายระรัวใส่ร่องรักหญิงสาวที่เพิ่งจะหายดีไม่ทันข้ามวันกลับโดนตอกแทงเสียดังสนั่นอยู่กลางทุ่งหญ้าคาโชคดีวันนี้ทองฟ้ามืดครึ้มไร้แสงแดด เขาใช้เสื้อแจ๊คเก็ตรองร่างบางเปลือยล่อนจ้อนนอนแผ่หราเรียวขาถูกยกขึ้นพาดบ่า ส่วนคนตัวโตถอดเพียงกางเกงหวังแค่ปลดปล่อยให้น้องชายสงบ
“ซี้ดดดด”
“อื้อ อือ อูยยยย เบาๆ หนูเจ็บ”
ห่างออกไปกว่า500เมตรเป็นสนามแข่งม้ามีผู้คนส่งเสียงร้องเชียร์การแข่งขันม้ารอบถัดไป ส่วนเจ้าของไร่หนุ่มนั้นกำลังเมามันส์กับบทรักที่ตื่นเต้นกับสาวร่างบอบบาง เนินนมถูกบีบเคล้นอย่างมันมือขณะที่สะโพกกระหน่ำเสียบแทงไม่ยั้ง กรวลัยเอาแต่หลับตาปี๋กลั้นเสียงครางเอาไว้ในลำคอ
ตั่บๆๆๆ
“งืมมม อื้มม”
เลอสรรจับหล่อนพลิกคว่ำอยู่ในท่าหมาแล้วตามเสียบเข้าไปจนสุดลำหญิงสาวร้อเสียงหลงรู้สึกจุกที่ท้องน้อย มันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนอกจากเจ็บ เมื่อยามสะโพกสอบผ่อนแรงกระเด้าเสียบเข้าเน้นๆหล่อนสะดุ้งเฮือกตาเหลือกลานเสียววาบภายในขนลุกซู่เผลอสูดปากครางอย่างพอใจ
"ซี้ดดดดด อื้มมมส์"
เลอสรรยิ้มน้อยๆขณะก้มลงมองกลีบแดงแจ๋ปลิ้นเข้าปลิ้นออก เขาเกร็งบั้นท้ายกระหน่ำแทงจังหวะระรัวจนหล่อนหัวสั่นหัวคลอน หน้าอกกระเพื่อมไหวไม่นานก็ถูกมือหนาเอื้อมมากอบกุมจนแทบเหลวคามือ
"อ๊า หนูเจ็บ ซี้ดดส์ เจ็บหัวเข่า"
พั่บๆๆๆ
"งั้นก็นอนหงายซะ"
เมื่อเธอพลิกนอนหงาย เขาตามทาทับร่างบางพร้อมเสียบตัวตนเข้าอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มเหงื่อใกล้เธอแค่คืบพร้อมส่งเสียงครางฮึมฮัมในลำคอ เธอกลัวเหลือเกิน กลัวสายตาหื่นกระหายของเขาจนไม่กล้าลืมตามอง ไม่คาดคิดว่าเลอสรรจะบ้ากามถึงขั้นกล้าทำอะไรในที่แบบนี้
แล้วก็กลัวว่าใครจะมาเห็นเข้านี่สิ...
..
“ศรี...!!"
"....!!"
..ตายละนั่นเสียงป้าแววนี่!!!....
=br=
"สมศรีโว้ยย!!!
....นังศรี มึงไปอู้งานอยู่ที่ไหนเนี่ย”
กรวลัยสะดุ้งโหยงรีบดันอกแกร่งออกเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกจากป้าแวว
“ฮึก พอ พอก่อน”
“แฮ่กๆ ไม่ อย่าดิ้น ฉันจะเร่งแล้ว”
พั่บๆๆๆๆๆ
“อ่าส์ ซี้ดดด หนูกลัว”
พั่บบบๆๆๆ
“เงียบน่า!!"
“ฮึก...”
....
“นังศรี เดี๋ยวเหอะมึง อย่าให้กูเจอนะ
..อะ อ้าว!!?..”
ป้าแววอ้าปากหวอเมื่อพบสมศรียืนตัวสั่นหอบแฮ่กๆอยู่ข้างๆเจ้าของไร่
มันมาอยู่ที่นี่กับคุณเลอสรรได้ยังไง??
=br=
“นังศรี เอ็ง ..มาอยู่กับคุณเลอสรรได้ไง”
“คือหนู หนู...”
“แม่นี่หลงทางมา” เลอสรรชิงตอบแทนเธอด้วยรำคาญหล่อนที่เอาแต่อ้ำๆอึ้งๆ
ดีที่เขาแตะขอบสวรรค์ได้ทันแล้วรีบใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก่อนที่ป้าแววจะมาพบได้เพียงเสี้ยววินาที
“ไป พาหลานของป้าไปทำงานได้แล้ว อย่าให้มันออกมาเดินเพ่นพ่านขวางลูกตาฉันอีกล่ะ”
ฟึ่บบบ
เลอสรรผลักแผ่นหลังกรวลัยอย่างแรงโดยที่หล่อนไม่ทันได้ตั้งตัวเซไปทางป้าแววดีที่ป้ารับไว้ทัน
นี่สินะ พอได้แล้วก็ผลักไสเธออย่ากับหมูกับหมา
ไม่ได้คุยกับพ่อแม่ แถมยังมาเสียทีให้เขาอีก..
“เอ่อ ป้าขอโทษค่ะคุณเลอสรร
...ป่ะ นังสมศรี ไปทำงานกัน”
ป้าแววโค้งตัวขอโทษเจ้านายแล้วรีบดึงนังสมศรีผู้เงอะๆงะๆไปให้เร็วที่สุด
"นี่แนะ ไปไหนไม่บอกกล่าวกู" ป้าแววหยิกแขนสมศรีด้วยความโกรธ
"โอ๊ยป้า ฉันเจ็บ"
"เออ เจ็บแล้ว จำใส่กะโหลกด้วย อย่าออกไปเพ่นพ่านหรือแม้แต่คิดจะหนีเด็ดขาด เพราะคุณเลอสรรน่ะ เวลาโกรธน่ากลัวยิ่งกว่าผี จำไว้!!"
"จ้ะ ฉันขอโทษนะจ๊ะป้า" กรวลัยยกมือขอโทษขอโพยป้าแววจากใจจริง
=br=
...................
หลังจากช่วยเก็บข้าวโพดจวนใกล้ค่ำสมศรีเดินขาอ่อนขาลากเคียงข้างนายใบ้และป้าแววกลับห้องพัก ทั้งเหนื่อยและร้อนจนเหงื่อท่วมตัวอยากจะถอดผ้าคลุมก็ทำไม่ได้ ได้แต่เดินทำหน้ามุ่ยอยู่อย่างนั้น
“ทำไม? มองอะไรใบ้”
“แบ๊ะๆ”
“เชอะ ก็เห็นอยู่ ว่ามองอย่างสงสัย ฉันอบผิวกลัวหน้าดำหรอกย่ะ”
พอนายใบ้ชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ไร้แดดสมศรีเบ้ปากสะบัดหน้าหนีเพื่อตัดบท
ระหว่างทางเดินเธอเหลือบมองเห็นคุณมิลาวรรณกำลังทานมื้อเย็นอยู่กับเลอสรรที่สวนหย่อมหน้ารีสอร์ทท่ามกลางไฟดวงเล็กๆประดับประดาสวยงาม เลอสรรทำหน้าที่ตักอาหารใส่ชามบางทีป้อนให้น้องสาวอย่างอบอุ่น เธอชะงักฝีเท้าเผลอหยุดยืนมองจนป้าแววที่เดินตามมาติดๆ พร้อมพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานกันออกรสต้องชนหล่อนแทบหัวคะมำ
“โอ๊ะ !! ... เอ๊ะ อินี่ มึงมายืนเซ่อๆซ่าๆอะไรอีก”
“ปะ เปล่าจ้ะ”
กรวลัยรีบสาวเท้าเดินไปพลางหันหลังกลับไปมองสองพี่น้องที่อยู่ไกลลับตา เห็นสภาพคุณมิลาวรรณที่นั่งอยู่บนรถเข็นแล้วหัวใจมันหวิวเหลือเกิน เพราะเธอเป็นตัวต้นเหตุแท้ๆ ทำให้หญิงสาวใบหน้าอ่อนหวานบุคลิกเรียบร้อยต้องมาสูญเสียอนาคตไม่ได้ร่ำได้เรียนก็เพราะเธอ ส่วนเลอสรรนั้นก็ดูเป็นพี่ชายที่น่ารักเหลือเกิน แต่เวลาอยู่กับเธออารมณ์ช่างเกรี้ยวกราดต่างกันราวฟ้ากับนรก
เมื่ออาบน้ำอาบท่าทานมื้อค่ำเสร็จสรรพ กรวลัยออกมาเดินเล่นที่หน้าห้องพัก ร่างบางสวมผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้าผมถูกรวบขึ้นเป็นจุกพร้อมปะแป้งเย็นตามตัวและแก้ม ดีที่คืนนี้ไม่มีฝนมีเพียงสายลมพัดเย็นสบาย ช่วงเวลานี้ช่างดีแท้ ไม่ต้องปกปิดหน้าตาเพราะที่นี่อยู่กลางป่ามีห้องพักแค่สองห้องคือของป้าแววกับนายใบ้ คนงานส่วนใหญ่ไม่ชอบอยากอยู่นัก เพราะมันแคบและเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างห่างไกลและลำบากหน่อย จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีครอบครัว ส่วนหัองพักขนาดกว้างสำหรับอาศัยแบบครอบครัวจะอยู่ถัดไปอีกหลายกิโลเมตร
เมื่อเธอเดินเข้ามายืนกอดอกชมพระจันทร์จนเพลินตา อยู่ๆได้ยินเสียงแว่วผิดธรรมชาติแข่งกับแมลงกลางคืน
“ซี้ดดดด”
“อ่าส์ อ๊าส์ อะ อูยยยยส์”
=br=
.......
เสียงใคร!!???