เอี๊ยดดดดดด
เสียงรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วดันเบรกกะทันหันจนเกิดกลิ่นไหม้จากล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนลากเป็นทางยาว คนขับรถหักพวงมาลัยฉับพลันหวังหลบสาวน้อยปริศนาที่วิ่งข้ามฝั่งไม่ดูตาม้าตาเรือ
ขณะเดียวกันนั้นเอง ตัวรถพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าอย่างจังเสียงดังสนั่นวั่นไหว
โครมมมมม
“ว้ายยยย”
ผู้คนร้องตกใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที กรวลัยยืนนิ่งอึ้งงันอ้าปากค้างหวอตัวสั่นเทาอยู่บนเกาะกลางถนน มองภาพตรงหน้าที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของเธอเอง
เมื่อตั้งสติได้หญิงสาวรีบกดมือถือโทรแจ้งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ สภาพรถพังยับเยินเสาไฟฟ้าหักลงมาทาบทับตัวรถเอาไว้ จนแถบนั้นไฟดับลงทันควัน ลุงคนขับรถคลานออกมาเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างทุลักทุเล ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือกันจ้าระหวั่น ร่างบางเดินขาสั่นเชื่องช้าเพื่อเข้าไปช่วยเหลืออย่างกล้าๆกลัวๆ
“คุณ ...คุณ โฉมฉาย”
กรวลัยสะดุ้งเฮือกเมื่อมองเข้าไปภายในรถพบคุณโฉมฉาย อัศวดิลกกุล เจ้าของไร่เลอสรร หมดสติอยู่ข้างใน ใบหน้าแนบชิดกระจกด้านข้างมีเลือดไหลออกมามากมาย มีหญิงสาวร่างเล็กนอนอยู่ข้างๆใบหน้าซีดเผือดซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวของท่าน
“ว้ายย!!! มีคนกระเด็นออกมาข้างนอกด้วย” เสียงแม่ค้าที่ตั้งแผงลอยติดถนนตะโกนร้องบอกเมื่อพบหญิงสาวอีกหนึ่งรายนอนแน่นิ่งคอพับอยู่ข้างๆเสาไฟฟ้าคาดว่าเธอคงจะกระเด็นออกมานอกรถนอนทับเศษกระจกเกลื่อนกลาดปนลิ่มเลือดจำนวนมาก
กรวลัยช็อคสุดขีดเผลออุทานออกมาไม่เป็นศัพท์ปนเสียงร้องไห้ด้วยความเสียใจเกินจะกลั้น ขาเรียวอ่อนยวบทรุดลงกับพื้นฟุตบาทมองภาพความโกลาหลบนท้องถนน พลเมืองดีช่วยพยาบาลลำเลียงผู้บาดเจ็บขึ้นรถเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เสียงไซเรนบวกกับแสงไฟวิบวับอีกทั้งผู้คนมากมายที่วิ่งมาดูจุดเกิดเหตุทำให้เธอนั่งตัวลีบสมองเบลอไม่รู้จะเริ่มทำอย่างไรก่อน
แน่นอน เธอไม่หนีไปไหน พร้อมให้ปากคำแก่ตำรวจเจ้าของคดีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผู้คนมากมายต่างมุงดูตัวต้นเหตุอย่างเธอพร้อมเสียงก่นด่าประนามดังอื้ออึง
“แล้วนั่นลูกเต้าเหล่าใครนะ”
...
“ก็นังกำไลลูกคนงานในไร่คุณภูผาไง”
..
“อ๋อ ..เห้ออ ไม่น่าเล้ยย มันจะชดใช้คุณเค้ายังไงล่ะเนี่ย”
...
“ซุ่มซ่ามจนได้เรื่องใหญ่โตเลยมั้ยล่ะมึง”
...
นาทีนี้เธอไม่ได้รู้สึกอะไรจากเสียงเหล่านั้นนัก นอกจากเกลียดตัวเองไม่ต่างจากพวกเขา
เธอทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ?!!
เธอฝันไปใช่ไหม
...คุณพระคุณเจ้า โปรดช่วยให้ทุกคนพ้นขีดอันตรายทีเถิด..
หญิงสาวเว้าวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะโทรไปบอกแม่ก็ยังไม่กล้าได้แต่ก้มมองดูเบอร์ในมือถืออย่างคิดไม่ตก
“ท่านไปโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม?!!”
เลอสรรรีบวิ่งเข้ามาที่เกิดเหตุอย่างร้อนรนพร้อมถามอย่างกระวนกระวายปนหอบ
กรวลัยหันไปมองเสียงเข้มของผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวมองดูจุดเกิดเหตุด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด ลูกน้องและแม่ค้ายืนข้างๆกายล่ำสันเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง แล้วชี้มาที่เธอ
ดวงตาคมปราดมามองเธอจนหัวใจดวงน้อยๆกระตุกวูบสั่น
นับจากวินานั้น เธอหมดสติทันทีที่ได้สบตาเขา คุณเลอสรร อัศวดิลกกุล
ฟุ่บบบ
“ว้าย นังกำไลมันเป็นลมแล้วนั่น”
.....
กรวลัยเป็นลมล้มฮวบในทันที ใบหน้าซีดเซียวแนบกับพื้นถนนที่ถูกปิดการสัญจรชั่วคราว เลอสรรที่รีบบึ่งไปยังรถเพื่อไปหามารดาที่โรงพยาบาล เห็นหล่อนเป็นลมลงพอดี ร่างสูงใหญ่ย่างกรายเท้าเดินเฉียดอย่างไม่แยแส หนำซ้ำริมฝีปากหยักเหยียดเย้ย รองเท้าราคาแพงเผลอเหยียบปลายเส้นผมนุ่มผ่านเลยไป