หลังจากที่ทั้งสองจูบกันจนผละตัวออก มันส่งผลให้คนทั้งคู่ทำตัวไม่ถูก ดิสนีย์ต้องรีบเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น ในขณะที่ไรเฟิลเองใบหน้าก็เริ่มเห่อร้อนและแดงระเรื่อ
"เอ่อ.."
"เดี๋ยวเฟิลมานะครับ" เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็เอ่ยออกมาก่อนและเดินหนีไปนอกห้อง เขาตรงมาที่ห้องน้ำชายพร้อมใจที่เต้นระรัว
"คุมตัวเองหน่อยไอเฟิล" ชายหนุ่มเหมือนคนโรคจิต เขาพูดและจ้องมองตัวเองในกระจก เรื่องแค่นี้ทำไมเขาถึงพ่ายแพ้ให้มันนัก เขาพยายามจะบอกกับตัวเองว่าเธอก็แค่ผู้หญิงแย่ ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีค่าพอที่เขาจะเห็นใจ
หากมีสักเศษเสี้ยวที่เขาเห็นความเป็นเพื่อนของเธอและซีจี เขาจะคิดใหม่ แต่ประโยคที่ได้ยินในร้านอาหาร และไหนจะที่เข้าโรงแรมไปด้วยกัน มันทำให้เขาไม่สามารถคิดอะไรได้ดีกว่านี้ เพราะมันคงไม่มีเพื่อนที่ไหนเปิดโรงแรมนอนด้วยกันเป็นแน่
หลังจากที่คิดว่าตัวเองเริ่มดีขึ้น เขากลับไปยังห้องทำงาน เมื่อถึงประตูห้อง ไรเฟิลกระชับแว่นหนาให้เข้าที่และเปิดไปด้านใน ก่อนจะเห็นว่าดิสนีย์ไม่ได้ตื่นเต้นแล้ว เธอนั่งอ่านเอกสารเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่สินะข้อดีของผู้หญิงที่เอามั่วไม่เลือก
"จะเริ่มสอนงานดิสเลยมั้ย?"
"ครับ" เขาตอบพลางนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไรเฟิลอธิบายจุดสำคัญของงานให้ดิสนีย์ฟัง เธอคอยจดและคิดตามหัวข้อที่เขามีมาให้ จนกระทั่งเที่ยง ดิสนีย์เตรียมเก็บของเพื่อจะไปกินข้าวร้านประจำ
"เฟิลไปด้วยได้มั้ยครับ?" เขาถามพลางก้มหน้าลง แสร้งทำหน้าเหมือนคนที่ใสซื่อเอียงอาย
"ได้สิ งั้นไปรถ.."
"รถเฟิลก็ได้ครับ เดี๋ยวเฟิลขับเอง" สุดท้ายก็เป็นไปตามที่เขาเสนอ รถกำลังมุ่งหน้าไปร้านเมื่อวาน ไรเฟิลจำทางได้ดี เขาเหลือบสายตามองผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านข้างเป็นระยะ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเธอ
"อ๊ะ" ดิสนีย์ร้องด้วยความตกใจ เธอไม่ได้ใสซื่ออะไร เพียงแค่ไม่ทันตั้งตัวในเรื่องนี้เลยเวลาที่อยู่กับไรเฟิล
"ขอจับมือได้มั้ยครับ?" ชายหนุ่มไม่ได้มองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำในตอนพูด
"อื้ม ได้สิ"
ไม่นานเมื่อรถมาถึงร้าน วันนี้ไรเฟิลกลับทำตัวแปลกไปจากเดิม เขารีบดับลงและวิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ ดิสนีย์เอ๋อเล็กน้อยแต่ก็ยอมก้าวเท้าลงจากลงแต่โดยดีและไม่เอ่ยถามอะไร
"มาแล้วเหรอลูก?" เสียงของป้าเจ้าของร้านเอ่ยทักมาแต่ไกล ดิสนีย์เป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ ในมุมมองของผู้ใหญ่อย่างป้า เพราะงั้นทุกครั้งเวลาเธอมาป้าจะชวนคุยด้วยเสมอ
"เอาเหมือนเดิมค่ะป้า" หญิงสาวสั่งข้าวพลางยิ้มกว้างให้ป้าเหมือนเช่นทุกวัน ไรเฟิลจ้องมองรอยยิ้มนั่นไม่กะพริบตา
"เฟิล เอาเหมือนเดิมมั้ย?"
"..."
"เฟิล?" เธอมองหน้าเขาที่กำลังอมยิ้มบาง ๆ เหมือนคนที่กำลังเหม่อลอย กระทั่งเธอมายืนที่ตรงหน้าเขา สายตาสอดผสานกับเขาแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว
"ไรเฟิล!!"
"คะ..ครับ"
"คิดถึงสาวที่ไหน ดิสถามว่าเอาเหมือนเดิมมั้ย" เธอรู้สึกน้อยใจแปลก ๆ แค่คิดว่าเขากำลังนึกถึงหน้าของใครทำเอาเธอแปลบที่ใจดื้อ ๆ ไรเฟิลไม่ใช่สเปคเธอสักนิด แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนี้กันนะ
"ฟะ..เฟิลไม่ได้คิดถึงสาวนะครับ" เขารีบแก้ตัวและโบกไม้โบกมือเพื่อปฏิเสธ
"ไม่ได้คิดถึงใครแล้วคิดอะไรอยู่" หญิงสาวยื่นหน้าเข้าถาม ทำให้ไรเฟิลต้องถอยหลังหนี เขายังไม่ชินที่มีใครเข้าใกล้ตัวหรือสัมผัสที่ตัวของเขา
"เอ่อ..ช่างมันเถอะครับ" สุดท้ายดิสนีย์ก็เลือกจะปล่อยไป เธอคิดไปคิดมาไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปบังคับให้เขาพูดมัน
"แล้วสรุปเอาเหมือนเดิมรึเปล่า?" เธอเอ่ยถามคำถามเดิมอีกครั้ง หลังจากที่ถามแล้วไรเฟิลยังไม่ได้ตอบ
"เหมือนเดิมก็ได้ครับ หรือว่าดิสมีอะไรแนะนำมั้ย แต่ต้องไม่เผ็ดนะครับ ไม่งั้นเฟิลได้เข้าโรงพยาบาลแน่ ๆ" ชายหนุ่มพูดพลางส่งสายตาอ้อน ๆ มือหนาลูบท้องไปมาเหมือนเด็กน้อย
"กินกะเพราไม่พริกมั้ย จะให้ป้าเขาทำให้" ไรเฟิลครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง
และไม่นานเมื่อสั่งไปไม่ถึง 10 นาที ข้าวสองจานก็ถูกวางลงตรงหน้าคนทั้งคู่ อีกจานมีพริกแทบยกสวน ส่วนอีกจานเหมือนผัดน้ำมันหอยใส่ใบกะเพราเสียมากกว่า
"มันดูจืดชืดจัง" ดิสนีย์ชะโงกหน้ามามองแล้วพูดเหมือนกับว่ามันคืออาหารเด็กน้อย
"ผมเหรอครับ?" ไรเฟิลชี้มือเข้าหาตัวเอง หากเธอจะคิดว่าเขาจืดก็คงไม่แปลก ดูสภาพของเขาสิ สวมแว่นหนาขนาดนี้ มองยังไงก็ไม่น่าดูเอาเสียเลย
"ทำไมคิดว่าตัวเองจืดเหรอ?" ดิสนีย์ตักข้าวเข้าปากพลางเอ่ยถามไรเฟิลไปด้วย
"ไม่รู้สิครับ ผมดูน่าเบื่อ เห็นหลายคนเคยบอกว่างั้น" หลายคนที่ชายหนุ่มพูดคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาเคยรักมาก เธอทิ้งไรเฟิลไปด้วยเหตุผลที่มันดูไม่น่าจะเป็นเหตุผลได้
เธอบอกกับชายหนุ่มว่าเขามันน่าเบื่อ ชีวิตอยู่แต่กับหนังสือหมวดต่าง ๆ แว่นหนาที่ใส่ตลอดเวลา การแต่งตัวเฉิ่มนั่นทำให้เธออายเสมอเวลาต้องไปไหนด้วยกัน อีกอย่างเขายังไม่เคยสนองเธอในเรื่องเซ็กซ์เลยสักครั้ง
"อยากรู้จังว่าจืดจริงมั้ย" ดิสนีย์พูดเหมือนคนที่ลืมตัว พอนึกได้เธอก็เบิกตากว้างและรีบเงยหน้า แต่โชคดีที่ไรเฟิลเหมือนกำลังสนใจจานข้าวตรงหน้า เขาเหมือนไม่ได้ยินที่เธอพูดเมื่อสักครู่ แต่ความจริงชายหนุ่มได้ยินทุกคำ เขาแค่แสร้งทำ
"เขี่ยอะไรนักหนา?"
"มันมีพริกติดมานิดนึงครับ" ไรเฟิลยื่นช้อนให้ดิสนีย์ดู ก่อนเธอจะเห็นว่ามันเป็นเพียงเศษเล็ก ๆ ที่กินไปแล้วยังไงก็ไม่น่าจะเผ็ดหรือออกรสชาติ แต่ไรเฟิลไม่คิดจะสัมผัสมันด้วยซ้ำ
"กินส้มตำเป็นมั้ย?"
"คืออะไรครับ" เขาไม่ได้แสร้งในเรื่องนี้ แต่ชายหนุ่มนั่นโง่แบบโง่จริง ๆ ไรเฟิลไม่รู้ว่ามันคืออะไร แม้ว่าเบบี้น้องสาวของเขาจะใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แต่ไรเฟิลต่างไปมาก
การเลี้ยงดูคนละแบบกับเบบี้โดยสิ้นเชิง เพราะคนละพ่อแม่กัน เพลิงพ่อของเบบี้เลี้ยงเธอด้วยความเรียบง่าย ต่างกับพัคพ่อของไรเฟิลที่เลี้ยงเขามาอย่างเนี้ยบ ไรเฟิลถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุ 15 อีกทั้งเขายังอยู่โรงเรียนที่คุมเข้มของออสเตรเลียอีกต่างหาก