แต่หน้าตาของมัสลินตอนนี้ดูท่าทางเธอจะยังอ่อนเพลียมาก ในส่วนลึกเขาอยากเข้าไปปลอบประโลมหากทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหันไปทางแดนสรรอีกครั้งและพูดว่า
“ถ้าคุณแดนสรรมาเฝ้าไข้คุณมัสลินก็ช่วยดูแลเรื่องอาการเจ็บแผลของเธอสักนิดก็แล้วกันนะครับเพราะถ้าเกิดว่าเธอเจ็บแผลก็ต้องให้กินยาพาราเซตาม่อนทุก 4 ชั่วโมง นอกเหนือจากนี้หมอก็จะจัดยาฆ่าเชื้อให้เธอกินด้วยครับ”
“ยาพวกนี้จะไม่เป็นอันตรายกับเด็กใช่ไหมครับคุณหมอ?”
“ไม่หรอกครับ ยาที่หมอจัดให้จะเป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่กับลูกในช่วงระยะเวลาของการให้นมบุตรซึ่งก็ไม่มีอะไรที่จะต้องน่ากังวลใจ ถ้ายังไงหมอก็ขอตัวก่อนนะครับ เช้าวันพรุ่งนี้ก็จะเข้ามาตรวจดูอาการอีกครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะเป็นตอนเย็นนี้หมอจะขึ้นมาดูอาการของคุณมัสลินอีกสักครั้งนะครับ”
“ขอบคุณมากครับหมอ คุณหมอนี่ช่างใส่ใจและดูแลคนไข้เป็นอย่างดีเลยนะครับ”
หัสวีร์ยิ้มตอบก่อนที่เขาจะออกไปจากห้องนั้นอย่างเงียบ ๆและหลังจากที่นายแพทย์หนุ่มเดินออกไปแล้วแดนสรรก็รีบไปปิดประตูและหันกลับมายังมัสลิน เขารีบเดินเข้ามาและชะโงกหน้ามองหนูน้อยที่กำลังกินนมแม่พร้อมด้วยรอยยิ้มละมุน
“ลูกแกนี่น่ารักเป็นบ้าเลยว่ะลิน ฉันละอยากเห็นหน้าพ่อของลูกแกจริง ๆ เลยนะ”
มัสลินช้อนตามองเพื่อนสนิทก่อนที่จะหรุบตามองต่ำกลับไปยังลูกสาวตัวน้อยแต่แล้วน้ำตาก็ร่วงไหลออกมาจนแดนสรรค์ถึงกับตกใจ
“เฮ้ย!...แกเป็นอะไรของแกลิน จู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเผาเต่า หรือว่าจะดีใจที่ได้เห็นลูกเป็นครั้งแรกวะ แต่จะดีใจแบบนี้ฉันใจไม่ดีนะเว้ย”
“แกอยากจะเห็นหน้าพ่อของเด็กอย่างนั้นเหรอเดย์ แกอยากจะเห็นหน้าเขาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”
มัสลินพูดทั้งน้ำตา แดนสรรพยักหน้าและพูดว่า
“เออสิวะ...ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อของเด็กนะ ไม่รู้ด้วยว่าพ่อของเด็กน่ะเป็นใคร แต่นี่ไม่ได้เรียกว่าอยากจะรู้เรื่องชาวบ้านหรอกนะ ฉันก็แค่อยากเผือกเท่านั้นเอง ก็เผือกมาตั้งแต่ต้นดูแลแกมาตั้งแต่ตั้งท้องได้ 2 3 เดือนจนถึงตอนนี้คลอดลูกแล้วก็แค่อยากจะรู้เท่านั้นว่าพ่อของเด็กน่ะเป็นใคร รึแกจะให้ฉันดูรูปในโทรศัพท์ก็ได้นะ...แน่ะ...คงเก็บรูปพ่อของแม่หนูเอาไว้ใช่ไหมล๊า”
“ฉันไม่ได้มีความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเก็บเอาไว้หรอกนะเดย์ ผู้ชายแย่ ๆ ที่ไม่ยอมรับฉันกับลูก แต่ถ้าแกอยากจะรู้ว่าแม่หนูลูกของฉันหน้าเหมือนใครก็ให้ดูหน้าคุณหมอหัสวีร์ที่เพิ่งเดินออกไปจากห้องเมื่อกี้นี้ก็แล้วกัน!”
บทที่ 5
แดนสรรตาโตและอุทานออกมาว่า
“ห๊า!...เฮ้ย!...กรีดร้อง...ว๊ายตาย...ฉันจะอุทานออกมาเป็นภาษาอะไรดีวะ นี่แกอย่าบอกนะว่าคุณหมอสุดหล่อที่ฉันพูดด้วยแล้วเดินออกไปจากห้องเมื่อกี้นี้น่ะเป็นพ่อของยายหนูลูกของแก”
มัสลินไม่ตอบแต่น้ำตากลับไหลพรั่งพรูออกมาราวกับว่านั่นแหละคือคำตอบของเธอ แดนสรรเห็นเพื่อนสนิทร้องไห้ออกมาอย่างนั้นก็เข้าไปตบไหล่เบา ๆ และปลอบประโลมว่า
“อย่าร้องสิเฮ้ยลิน แกร้องไห้แบบนี้ฉันไม่สบายใจเลยนะ...เออ ๆ ก็ได้รู้ไปว่าคุณหมอหัสวีร์อะไรเมื่อกี้นี้หน่ะเป็นพ่อของเด็กแต่มันจะเป็นนิยมนิยายเกินไปไหมวะ นี่มันอะไรกันผู้ชายที่ทิ้งจะไปกลับเป็นคนมาทำคลอดให้แกเนี่ยนะลิน”
“เขาทำตามหน้าที่ต่างหากเดย์ ก็เขาเป็นหมอและฉันก็ไม่รู้เลยว่าเขาน่ะมาทำงานอยู่ที่นี่หลังจากที่เราเลิกรากันไปเป็นปี ตอนนั้นท้องได้เดือนกว่าเขาเองเป็นคนที่ตัดฉันออกจากเส้นทางชีวิตของเขาแล้วตอนที่มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลนี้น่ะฉันก็ฝากท้องไว้กับคุณหมออีกคนนึงก็คือคุณหมอบวรแต่คุณหมอดันเกิดอุบัติเหตุมาทำผ่าตัดคลอดให้ฉันไม่ได้ก็เลยต้องกลายเป็นเป็นผู้ชายคนนี้ยังไงล่ะ
“เป็นโชคชะตาหรืออะไรกันแน่วะลิน ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณหมอหัสวีร์สุดหล่อจะเป็นผู้ชายประเภทอย่างนั้น หรือว่าเขาจะมีผู้หญิงคนใหม่ เป็นไปได้ไหมที่เขามีแฟนใหม่ อยากจะรู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร”
“นี่แกอยากจะให้กำลังใจหรือซ้ำเติมฉันกันแน่หาเดย์ ฉันรู้นะว่าแกน่ะกำลังคิดอะไรอยู่เห็นผู้ชายหล่อ ๆ ล่ะเป็นไม่ได้
มัสลินเอ็ดเพื่อนสนิทของเธอทั้งที่น้ำตาหยดไหล จริง ๆ แล้วดูภายนอกแดนสรรคือผู้ชายสุดหล่อเนี้ยบคมเข้มเหมือนนางแบบเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คนแต่มีเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเขาคนนี้ไม่ได้ชอบผู้หญิงโดยปกติทั่วไป แดนสรรมีรสนิยมรักเพศเดียวกันและเห็นผู้ชายหล่อ ๆ เป็นไม่ได้ หากทว่าเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเพราะตั้งแต่เขารู้ว่าเธอถูกทิ้งและจะต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแดนสรรก็คือคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดและความช่วยเหลือเธอมาตลอด เขามาคอยดูแลและไม่ทิ้งเธอไปในเวลาที่ยากลำบากนั้น
“ฉันก็แค่เสียดาย แต่ว่าลิน แกรู้หรือเปล่าว่าผู้ชายหล่อแต่เลวน่ะเป็นอะไรที่ผู้หญิงชอบกันจริง ๆ เลยว่ะ”