เมื่อดาวตั้งสติได้ก็รีบพาเพื่อนๆ ว่ายน้ำกลับเข้ามาริมฝั่งที่ถอดเสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ หล่อนตั้งใจจะคว้าปืนสั้นออกมาเตรียมไว้ป้องกันตัว
ทว่าเมื่อหันมาอีกทีเจ้าเสือตัวใหญ่ก็อันตรธานหายไปราวกับว่าไม่เคยมีอยู่
“ทำไมหายไปเร็วจัง… ”
แพรวที่กำลังเอื้อมมือคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ กล่าวออกมาทั้งแววตายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“นั่นสิ… หายไปเร็วราวกับหายตัวได้”
แก้วรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ รีบใส่เสื้อผ้าลนลาน
“ถ้าเจอแบบนี้พวกเราแย่แน่ๆ… ”
ดาวรู้ว่าอันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ ก่อนจะตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีเงาดำวูบปรากฏขึ้นใกล้กับโขดหินตรงที่เจ้าเสือตัวใหญ่หายไป
ครั้นเมื่อเพ่งมองจนชัดเจน…
จึงเห็นว่าเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ เนื้อตัวกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อ
มีเพียงผ้าสีน้ำตาลเก่าซีดพันรอบเอวปกปิดกึ่งกลางกายเอาไว้ ท่วงท่าดูราวกับเจ้าป่าทาร์ซานยังไงยังงั้น
“ท่านเป็นใคร… ”
แก้วถามด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“อันที่จริงข้าควรจะเป็นคนถามมากกว่าว่าพวกเจ้าเป็นใคร… แล้วเหตุอันใดจึงบุกรุกเข้ามาในอาณาบริเวณของข้า… ”
เสียงเข้มทรงพลัง ชายลึกลับถามราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของป่าแห่งนี้
“พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาบุกรุก… เอ่อ… อันที่จริงเราตั้งใจจะมาตามหาจอมขมังเวทย์คนหนึ่งมีชื่อว่าอาจารย์คงค์… ”
ดาวบอกถึงวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้
“อืมมม… นานจนป่านนี้แล้วผู้คนข้างนอกยังไม่ลืมชื่อนี้อีกรึ… ”
ชายปริศนาเอ่ยออกมาราวกับรู้จักกับชายที่ชื่ออาจารย์คงค์เป็นอย่างดี
“อย่าบอกนะว่าท่านคืออาจารย์คงค์… ”
แก้วตั้งข้อสันนิษฐาน…
ก่อนหน้านี้หล่อนเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของจอมขมังเวทย์ผู้นี้ที่มีผู้คนเคยพบเจอบอกเล่าต่อๆ กันมาว่ามีรูปร่างสูงใหญ่สะดุดตา
เนื้อตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูแข็งแรงราวกับเจ้าป่าทาร์ซาน ผิวสีน้ำตาลเข้ม ผมบนหัวขมวดเป็นก้อนมวยมัดเอาไว้ทางด้านหลังศีรษะ นุ่งผ้าผืนเดียว จากที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ก็ใช่เลย
“ใช่แล้ว… ข้านี่แหละคือจอมขมังเวทย์ที่พวกเจ้ากำลังตามหา… ”
ชายปริศนายอมรับออกมาตามตรง…
ทำเอาหญิงสาวทั้งสามรู้สึกตกใจ เพราะก่อนหน้าที่ตัดสินใจเข้ามาตามหาก็ได้เผื่อใจเอาไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้เจอกับจอมขมังเวทย์ที่ตัดขาดจากโลกไปนาน
“ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่าน… ”
แพรวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและแววตาตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านรีบออกมาจากตรงนั้นเถอะ… เมื่อครู่มีเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ยักษ์หลบเข้าไปตรงนั้น”
แก้วรีบร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง…
จอมขมังเวทย์ได้ฟังก็ยิ้ม ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการตกใจกลัวเลยสักนิด
“ไอ้ลายพาดกลอนที่พวกเจ้าเห็นนั้นคืออาจารย์ของข้า… ”
อาจารย์คงไขข้อสงสัยที่ทำเอาบรรดาหญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ยัง ‘สงสัย’ ว่าเหตุใดขมังเวทย์ผู้นี้จึงมีเสือโคร่งเป็นอาจารย์
“เขาจะทำอันตรายพวกเราไหม… ”
แก้วถาม…
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้ามาดีหรือมาร้าย”
อาจารย์คงค์ตอบ
“พวกเราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับท่าน… เอ่อ… เช่นถ่ายรูป สัมภาษณ์ เราขออนุญาตทำข่าวของท่านได้ไหม… ”
แพรวรีบถาม…
คิดว่าถ้าข่าวนี้มีโอกาสได้เผยแพร่ออกไปเมื่อไร รับรองว่ายอดติดตามจากพวกสายมูในช่องของหล่อนจะต้องพุ่งขึ้นอย่างถล่มทลาย
“ได้สิ… ถ้าพวกเจ้ามีสิ่งแลกเปลี่ยน… ”
ขณะกล่าวอาจารย์คงกวาดสายตาสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสามอย่างกระหาย
“ถ้าหมายถึงเงินก็ได้ค่ะ… ท่านต้องการเท่าไร”
แก้วที่เป็นคุณหนูลูกเศรษฐีรีบถาม
“ทำไมเจ้าคิดว่าผู้ชายที่อยู่ในป่าแห่งนี้มานานอย่างข้าต้องการเงิน… ”
อาจารย์คงกล่าวให้คิด
“แล้วท่านต้องการอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน… ”
ดาวถามด้วยความอยากรู้
“สิ่งที่ข้าต้องการก็คือตัวของพวกเจ้า ข้าต้องสมสู่กับพวกเจ้าเพราะต้องการ ‘น้ำคาวใคร่แห่งการสู่สม’ เพื่อจะถอดสลักกุญแจประตูหินที่จะทำให้ข้าสามารถเข้าไปยังอีกฟากของถ้ำที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยกำแพงแห่งมนตรา… ”
จอมขมังเวทย์กล่าว บอกให้รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใดจึงดีใจนักหนาที่เห็นว่ามีผู้หญิงพลัดหลงเข้ามาในดินแดนของตน
อาจารย์คงค์บอกไม่หมด…
ว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้เข้าไปหลังประตูหินนั้นได้ก็คือของเหลวจากน้ำใคร่ที่เกิดจากการสมสู่ร่วมเพศระหว่างชายหญิง เมื่อนำไปหยอดลงในรูของแม่กุญแจที่ถูกล็อกเอาไว้ ประตูจะเปิดให้เข้าไปอีกฟากของถ้ำที่สันนิษฐานว่าในนั้นมีสิ่งที่ตัวเองกำลังติดตามค้นหา…
“ท่านพูดอะไร… พวกเราไม่เข้าใจ”
แก้วถามเสียงสั่นเครือ
“เอาเป็นว่าพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรในตอนนี้ เดี๋ยวถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะเข้าใจเอง… ข้าไม่อยากเสียเวลา… พวกเจ้าต้องไปกับข้าแต่โดยดี… ”
จอมขมังเวทย์ขู่เสียงเข้ม
“ไม่นะ… ”
แก้วได้ยินก็ส่ายหน้าด้วยความกลัว…
ไม่ต่างจากอีกสองเพื่อนสาวคือแพรวและดาวที่ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด แววตาหวาดกลัวขึ้นมาทันที
เพราะไม่คิดว่าการเข้าป่าเพื่อมาพิสูจน์ความเชื่อบางอย่างในครั้งนี้จะทำให้ได้เจอกับจอมขมังเวทย์หื่นกาม
“ไม่ต้องกลัว… ถ้ายอมเป็นเด็กดีเชื่อฟังข้า… ข้าก็จะไม่ต้องออกแรงมากและพวกเจ้าจะได้ไม่เจ็บตัว”
เมื่อพูดจบ…
จอมขมังเวทย์ก็เอื้อมมือควานลงไปในย่ามสีดำ คว้าสิ่งของบางอย่างออกมาซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแป้งฝุ่นสีขาวในขวดใส
อาจารย์คงเปิดขวดแก้ว…
เทผงสีขาวลงบนฝ่ามือแล้วเป่าๆ เพียงเท่านั้นละอองไอคล้ายกลิ่นของดอกมไม้หอมก็ลอยล่องตรงไปยังทิศทางใต้ลมที่บรรดาหญิงสาวยืนอยู่
กลิ่นหอมแห่งมนต์ดอกไม้ปลุกเสก…
ปลิวละล่องไปในเวิ้งอากาศ ลอยไปกระทบจมูกของหญิงสาวทั้งสาม