ตอนที่ 3

1101 Words
เมื่อดาวตั้งสติได้ก็รีบพาเพื่อนๆ ว่ายน้ำกลับเข้ามาริมฝั่งที่ถอดเสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ หล่อนตั้งใจจะคว้าปืนสั้นออกมาเตรียมไว้ป้องกันตัว ทว่าเมื่อหันมาอีกทีเจ้าเสือตัวใหญ่ก็อันตรธานหายไปราวกับว่าไม่เคยมีอยู่ “ทำไมหายไปเร็วจัง… ” แพรวที่กำลังเอื้อมมือคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ กล่าวออกมาทั้งแววตายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “นั่นสิ… หายไปเร็วราวกับหายตัวได้” แก้วรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ รีบใส่เสื้อผ้าลนลาน “ถ้าเจอแบบนี้พวกเราแย่แน่ๆ… ” ดาวรู้ว่าอันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ ก่อนจะตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีเงาดำวูบปรากฏขึ้นใกล้กับโขดหินตรงที่เจ้าเสือตัวใหญ่หายไป ครั้นเมื่อเพ่งมองจนชัดเจน… จึงเห็นว่าเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ เนื้อตัวกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อ มีเพียงผ้าสีน้ำตาลเก่าซีดพันรอบเอวปกปิดกึ่งกลางกายเอาไว้ ท่วงท่าดูราวกับเจ้าป่าทาร์ซานยังไงยังงั้น “ท่านเป็นใคร… ” แก้วถามด้วยสีหน้าหวาดกลัว “อันที่จริงข้าควรจะเป็นคนถามมากกว่าว่าพวกเจ้าเป็นใคร… แล้วเหตุอันใดจึงบุกรุกเข้ามาในอาณาบริเวณของข้า… ” เสียงเข้มทรงพลัง ชายลึกลับถามราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของป่าแห่งนี้ “พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาบุกรุก… เอ่อ… อันที่จริงเราตั้งใจจะมาตามหาจอมขมังเวทย์คนหนึ่งมีชื่อว่าอาจารย์คงค์… ” ดาวบอกถึงวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้ “อืมมม… นานจนป่านนี้แล้วผู้คนข้างนอกยังไม่ลืมชื่อนี้อีกรึ… ” ชายปริศนาเอ่ยออกมาราวกับรู้จักกับชายที่ชื่ออาจารย์คงค์เป็นอย่างดี “อย่าบอกนะว่าท่านคืออาจารย์คงค์… ” แก้วตั้งข้อสันนิษฐาน… ก่อนหน้านี้หล่อนเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของจอมขมังเวทย์ผู้นี้ที่มีผู้คนเคยพบเจอบอกเล่าต่อๆ กันมาว่ามีรูปร่างสูงใหญ่สะดุดตา เนื้อตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูแข็งแรงราวกับเจ้าป่าทาร์ซาน ผิวสีน้ำตาลเข้ม ผมบนหัวขมวดเป็นก้อนมวยมัดเอาไว้ทางด้านหลังศีรษะ นุ่งผ้าผืนเดียว จากที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ก็ใช่เลย “ใช่แล้ว… ข้านี่แหละคือจอมขมังเวทย์ที่พวกเจ้ากำลังตามหา… ” ชายปริศนายอมรับออกมาตามตรง… ทำเอาหญิงสาวทั้งสามรู้สึกตกใจ เพราะก่อนหน้าที่ตัดสินใจเข้ามาตามหาก็ได้เผื่อใจเอาไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้เจอกับจอมขมังเวทย์ที่ตัดขาดจากโลกไปนาน “ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่าน… ” แพรวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและแววตาตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “ท่านรีบออกมาจากตรงนั้นเถอะ… เมื่อครู่มีเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ยักษ์หลบเข้าไปตรงนั้น” แก้วรีบร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง… จอมขมังเวทย์ได้ฟังก็ยิ้ม ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการตกใจกลัวเลยสักนิด “ไอ้ลายพาดกลอนที่พวกเจ้าเห็นนั้นคืออาจารย์ของข้า… ” อาจารย์คงไขข้อสงสัยที่ทำเอาบรรดาหญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ยัง ‘สงสัย’ ว่าเหตุใดขมังเวทย์ผู้นี้จึงมีเสือโคร่งเป็นอาจารย์ “เขาจะทำอันตรายพวกเราไหม… ” แก้วถาม… “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้ามาดีหรือมาร้าย” อาจารย์คงค์ตอบ “พวกเราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับท่าน… เอ่อ… เช่นถ่ายรูป สัมภาษณ์ เราขออนุญาตทำข่าวของท่านได้ไหม… ” แพรวรีบถาม… คิดว่าถ้าข่าวนี้มีโอกาสได้เผยแพร่ออกไปเมื่อไร รับรองว่ายอดติดตามจากพวกสายมูในช่องของหล่อนจะต้องพุ่งขึ้นอย่างถล่มทลาย “ได้สิ… ถ้าพวกเจ้ามีสิ่งแลกเปลี่ยน… ” ขณะกล่าวอาจารย์คงกวาดสายตาสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสามอย่างกระหาย “ถ้าหมายถึงเงินก็ได้ค่ะ… ท่านต้องการเท่าไร” แก้วที่เป็นคุณหนูลูกเศรษฐีรีบถาม “ทำไมเจ้าคิดว่าผู้ชายที่อยู่ในป่าแห่งนี้มานานอย่างข้าต้องการเงิน… ” อาจารย์คงกล่าวให้คิด “แล้วท่านต้องการอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน… ” ดาวถามด้วยความอยากรู้ “สิ่งที่ข้าต้องการก็คือตัวของพวกเจ้า ข้าต้องสมสู่กับพวกเจ้าเพราะต้องการ ‘น้ำคาวใคร่แห่งการสู่สม’ เพื่อจะถอดสลักกุญแจประตูหินที่จะทำให้ข้าสามารถเข้าไปยังอีกฟากของถ้ำที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยกำแพงแห่งมนตรา… ” จอมขมังเวทย์กล่าว บอกให้รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใดจึงดีใจนักหนาที่เห็นว่ามีผู้หญิงพลัดหลงเข้ามาในดินแดนของตน อาจารย์คงค์บอกไม่หมด… ว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้เข้าไปหลังประตูหินนั้นได้ก็คือของเหลวจากน้ำใคร่ที่เกิดจากการสมสู่ร่วมเพศระหว่างชายหญิง เมื่อนำไปหยอดลงในรูของแม่กุญแจที่ถูกล็อกเอาไว้ ประตูจะเปิดให้เข้าไปอีกฟากของถ้ำที่สันนิษฐานว่าในนั้นมีสิ่งที่ตัวเองกำลังติดตามค้นหา… “ท่านพูดอะไร… พวกเราไม่เข้าใจ” แก้วถามเสียงสั่นเครือ “เอาเป็นว่าพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรในตอนนี้ เดี๋ยวถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะเข้าใจเอง… ข้าไม่อยากเสียเวลา… พวกเจ้าต้องไปกับข้าแต่โดยดี… ” จอมขมังเวทย์ขู่เสียงเข้ม “ไม่นะ… ” แก้วได้ยินก็ส่ายหน้าด้วยความกลัว… ไม่ต่างจากอีกสองเพื่อนสาวคือแพรวและดาวที่ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด แววตาหวาดกลัวขึ้นมาทันที เพราะไม่คิดว่าการเข้าป่าเพื่อมาพิสูจน์ความเชื่อบางอย่างในครั้งนี้จะทำให้ได้เจอกับจอมขมังเวทย์หื่นกาม “ไม่ต้องกลัว… ถ้ายอมเป็นเด็กดีเชื่อฟังข้า… ข้าก็จะไม่ต้องออกแรงมากและพวกเจ้าจะได้ไม่เจ็บตัว” เมื่อพูดจบ… จอมขมังเวทย์ก็เอื้อมมือควานลงไปในย่ามสีดำ คว้าสิ่งของบางอย่างออกมาซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแป้งฝุ่นสีขาวในขวดใส อาจารย์คงเปิดขวดแก้ว… เทผงสีขาวลงบนฝ่ามือแล้วเป่าๆ เพียงเท่านั้นละอองไอคล้ายกลิ่นของดอกมไม้หอมก็ลอยล่องตรงไปยังทิศทางใต้ลมที่บรรดาหญิงสาวยืนอยู่ กลิ่นหอมแห่งมนต์ดอกไม้ปลุกเสก… ปลิวละล่องไปในเวิ้งอากาศ ลอยไปกระทบจมูกของหญิงสาวทั้งสาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD