มัจจรีคุกเข่าต่อหน้าเจ้านายสาว ทางเลือกทางเดียวคือการไปจากที่นี่ อยู่ไปคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ ความลับมันไม่มีในโลก คนชั่วอย่างจักรินทร์คงไม่หยุดแค่นี้แน่
“หายดีแล้วเหรอมัจ ว่าแต่มีอะไรเหรอ” พิมพิมุลเอ่ยถามสาวใช้
ยิ่งเห็นหน้าเจ้านาย น้ำตายิ่งอยากไหล เธอพยายามเก็บมันไว้
“หายดีแล้วค่ะคุณพิม พอดีมัจมีเรื่องอยากคุยกับคุณพิมน่ะค่ะ”
“มีอะไรก็ว่ามาสิ”
“คุณพิมหาแม่ครัวคนใหม่ได้หรือยังคะ มัจอยากกลับไปที่บ้านแล้วค่ะ” มัจจรีบอกความต้องการทันที
สมใจขมวดคิ้วมอง “จะรีบไปไหนล่ะมัจ คนทำงานสมัยนี้หาที่ไว้ใจได้ยาก อยู่ช่วยงานที่นี่ก่อนสักหน่อยเป็นไรไป”
“ฉันต้องไปจัดการอะไรหลายอย่างน่ะป้าสมใจ”
“อยู่อีกสักหน่อยได้ไหมมัจ ฉันจะรีบหาแม่บ้านใหม่มา” ไม่วายที่เธอต้องขอร้องต่อ มัจจรีทำงานดีจนไม่อยากเสียไป คนทำอาหารอร่อยยิ่งหาได้ยาก
“นานแค่ไหนคะคุณพิม” มัจจรีรองต่อรอง
“ไม่เกินเดือนจ้ะ นะมัจ ฉันขอร้อง”
คนถูกขอร้องตีหน้าเครียด แอบถอนหายใจด้วยความอึดอัด ถ้าหากคุณพิมรู้นิสัยสันดานสามีตัวเองจะรู้สึกเช่นไรกัน เธออยากบอกความจริงเหลือเกิน ถ้าไม่กลัวคุณพิมช็อก ช่วงนี้เจ้านายไม่ค่อยสบายเจ็บป่วยบ่อยอยู่ด้วย เธอแค้นไอ้สารเลวนั่นเสียจนอยากฆ่าให้ตายเสีย สักวันต้องถึงวันเอาคืนของเธอบ้าง
แม่ครัวฝีมือเลิศกำลังคนอาหารคาวบนเตา พะแนงเนื้อของโปรดของเจ้านาย ตอนนี้ล่วงเลยไปเกือบสามเดือนแล้ว แม้มัจจรีจะขอร้องคุณพิมพิมลตลอดเวลาเพื่อกลับบ้านเกิด แต่คุณผู้หญิงกลับขอร้องให้เธออยู่ต่อเพื่อช่วยเหลืองานครัว ระยะเวลาที่ผ่านมาจักรินทร์เข้าหาเธอตลอด และต้องยินยอมเพราะเขานำรูปถ่ายของเธอมาข่มขู่
มัจจรีพยายามอดทนเรื่อยมา และมองหาทางหนีไว้ แน่นอนว่าไม่ใช่การกลับไปหาคนรัก ต่อให้คนรักของเธอพยายามติดต่อมา ทว่าเธอกลับไม่อยากรับสาย เพราะละอายแก่ใจ
“มัจใกล้เสร็จหรือยัง ฉันจะไปตั้งโต๊ะแล้ว” สมนึกเร่ง
“ใกล้แล้วนึก” มัจจรีรับคำแล้วชิมอาหารอีกรอบ ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนเดิม เมื่อกลิ่นของแกงทำเอาคลื่นไส้
มือบางยกปิดปางวางทัพพีลงในหม้อ วิ่งออกจากห้องครัวแล้วโก่งคออาเจียน สมนึกตามไปลูบหลังสีหน้าเป็นห่วง
“เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือไงมัจ ฉันว่าแล้วเห็นหน้าซีดๆ”
มัจจรีอาเจียนจนหมดแรง หันมองเพื่อนร่วมงาน
“สงสัยอาหารเป็นพิษ รู้สึกไม่ค่อยดีเลย”
“แกงเสร็จหรือยังล่ะ ได้ไปพัก”
“เสร็จหมดแล้วล่ะ นึกลองชิมให้หน่อยแล้วกัน ถ้าได้แล้วก็ยกไปเสริฟ์เลย”
“อืมๆ ไปพักเถอะ ฉันจะบอกคุณผู้หญิงให้” สมนึกละจากเพื่อนแล้วเดินไปตักกับข้าวใส่ถ้วยและจาน เพื่อนำขึ้นโต๊ะทันที
มัจจรีเดินทางกลับห้องตนเอง ทรุดกายลงบนเตียงสีหน้าครุ่นคิด มันผิดปกติ อาการแบบนี้หรือเธอกำลังตั้งท้อง ไม่จริงหรอก ไม่ใช่แน่นอน ดูท่าเธอคงต้องหาทางตรวจให้เรียบร้อย ก่อนเรื่องทุกอย่างจะแดงขึ้น
รุ่งเช้าเดินทางจ่ายตลาด แวะเข้าร้านสะดวกซื้อได้ที่ตรวจการตั้งครรภ์มา เธอจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วเฝ้ารอผล
“สองขีด...” มัจจรีละเมอกับตนเอง เหมือนถูกน้ำเย็นรดลงมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
น้ำตาเอ่อล้นออกมาจนอาบแก้ม โชคชะตาทำไมถึงโหดร้ายกับเธอเช่นนี้ ทำไมถึงเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไอ้คนสารเลวอย่างจักรินทร์มีความสุข แล้วเธอล่ะเหตุใดต้องจมกับความทุกข์และรู้สึกผิดบาป
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ รีบนำผลตรวจใส่ลิ้นชักแล้วเปิดประตู สมใจยืนอยู่ด้านนอก
“คุณผู้หญิงให้มาตามน่ะมัจ”
“จ้ะป้า เดี๋ยวฉันไป”
สมใจเลยเดินออกมาเพื่อไปครัว เจ้านายทานอาหารเรียบร้อย ก็เหลือแต่เวลาของบรรดาบ่าวไพร่ ที่ต้องหาอะไรเข้าท้องเหมือนกัน
มัจจรีมาถึงเรือนใหญ่ เดินเข้าห้องนั่งเล่นเห็นเจ้านายสองคนนั่งอยู่ ท่าทางจักรินทร์ดูปกติ ช่างเล่นละครเก่งเสียจริง เธอคุกเข่าเบื้องหน้า เพื่อรอฟัง
“มัจ ฉันตามมัจมาเพราะมีเรื่องอยากจะบอก”
คนฟังชาวาบรู้สึกหนาวไปทั่วกาย เรื่องอะไรกันแน่ คงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกนะ
“เรื่องอะไรเหรอคะคุณพิม”
“ฉันหาแม่ครัวคนใหม่ได้แล้วจ้ะ” พิมพิมลยิ้มอ่อนโยน
มัจจรีเงยหน้ามองเจ้านายสาวด้วยความเทิดทูน
“จริงเหรอคะ แล้วแม่ครัวจะมาทำงานเมื่อไหร่!” น้ำเสียงคนฟังตื่นเต้นระคนดีใจที่ตนเองกำลังรอดพ้นจากนรกเสียที
“อาทิตย์หน้าจ้ะ” พิมพิมลวางมือจากไหมพรมแล้วเอื้อมมาดึงมือสาวใช้ไปกุม “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะมัจ”
มัจจรีน้ำตาคลอ เมื่อเห็นคุณพิมพิมลทำกับเธอเช่นนั้น มันทำให้เธอรู้สึกอยากตายเสียตอนนี้ ยิ่งคิดความแค้นภายในยิ่งพุ่งขึ้นมา ตวัดสายตามองไปยังจักรินทร์ เห็นเขามองมาสีหน้าหนักใจ
หญิงสาวยกมือไหว้ราวกับต้องการขอขมาต่อสิ่งที่เธอไม่ได้กระทำ แต่อย่างไรในใจนั้นก็รู้สึกผิด
“มัจลาคุณพิมล่วงหน้าเลยนะคะ อะไรที่มัจทำให้คุณพิมต้องลำบากใจ หรือเสียใจมัจขอโทษด้วยค่ะ”
“จ้ะมัจ ฉันก็ขอให้มัจมีความสุขกับชีวิตคู่นะ”
เธอกราบบนตักคุณผู้หญิงของบ้าน พิมพิมลแปลกใจแต่ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากลูบเรือนผมนุ่มแผ่วเบา
“ขอบคุณค่ะคุณพิม” มัจจรีลุกยืนหลังจากพูดคุยธุระเรียบร้อยแล้ว
พิมพิมลมองสาวใช้ด้วยความแปลกใจ เพราะมัจจรีไม่ได้กล่าวลาคุณผู้ชายของบ้าน แถมยังแสดงท่าทีราวกับสามีเธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้เสียด้วยซ้ำ