ตอนที่ 1 ยินยอม
ทันทีที่กลับมาถึงจังหวัดบ้านเกิดหลังจากเรียนจบ พรพันวาก็พบว่าชีวิตที่กำลังก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ของตนเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้น
“อะไรนะคะ แต่งงาน! พ่อกับแม่จะให้หยกแต่งงานกับคนที่หยกไม่เคยเห็นหน้าเหรอคะ” หญิงสาวถามเสียงสั่นเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตนเองแทบไม่เชื่อหู
“หยก มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจของเราดำเนินไปต่อได้ พ่อกับแม่รักลูกมากแค่ไหน ใครจะยอมให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับคนไม่ดีเล่า” พรพรรณเกลี้ยกล่อมลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ามันเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วจริงๆ
“ผมว่าเราหาทางออกอื่นดีกว่าครับ คุณพ่อคุณแม่ ผมไม่อยากให้น้องต้องแต่งกับไอ้นายหัวหื่นกามนั่น” พงษ์พันธ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นใจน้องสาว และต่อต้านวิธีการแก้ปัญหาของบุพการี
สองสามีภรรยามองหน้ากันแล้วถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม มือของพรพรรณเดี๋ยวกำเดี๋ยวคลายบ่งบอกว่าเครียดจนทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่สมพงษ์ได้แต่วางมือบนเข่าของภรรยาเพื่อให้กำลังใจ
พรพันวาไม่เคยเห็นพ่อแม่เครียดขนาดนี้มาก่อน หากเธอจะปฏิเสธก็คงกลายเป็นลูกอกตัญญู แต่หากเธอตอบรับก็จะสร้างความทุกข์ให้แก่ตัวเอง
ชีวิตวัยยี่สิบสองที่ต้องแต่งงานกับคนที่อายุห่างกันเป็นสิบปี เธอจะมีความสุขได้อย่างไรเล่า
“แล้วทำไมเขาอยากแต่งงานกับหยกคะ” เธอถามมารดาเสียงเบา อยากรู้เหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเธอที่เขาเลือก
“เขาไม่ได้เจาะจงเลือกลูกสาวแม่หรอก ตอนที่เราไปขอความช่วยเหลือเรื่องเงินลงทุน และสัมปทานการใช้เส้นทางการเดินรถขนส่งผลไม้ไปต่างจังหวัด พอเขารู้ว่าครอบครัวเรามีลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบกำลังจะกลับมา เขาจึงขอให้มีการแต่งงานแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือ” สมพงษ์อธิบายแทนภรรยา
“เขาแค่อยากแต่งงานกับใครสักคนเพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่าง แต่พี่ไม่เชื่อหรอก ผู้หญิงทั้งจังหวัดไม่เลือก แต่เจาะจงเลือกหยกเพราะคงเห็นว่าเป็นเด็กจบใหม่ พวกเ*******ูอยากมีเมียเด็ก” พงษ์พันธ์หัวเสียแทนน้องสาวกับเรื่องนี้มาก
พรพันวาได้ยินก็เริ่มใจเสีย นายหัวแก่ๆ ที่อยากได้เมียเด็กอย่างนั้นหรือ จินตนาการของเธอคือนายหัววัยห้าสิบ พุงพลุ้ย ผมเริ่มบาง หนวดเครารุงรัง คิดแล้วก็รู้สึกขยะแขยง “เ*******ูเลยเหรอคะ”
“นายหัวธาดาเพิ่งจะสามสิบหกเองลูก ที่เป็นหยกเพราะว่าครอบครัวเรามีชื่อเสียงและอิทธิพลรองจากเขาในจังหวัดนี้ ถ้าไม่ติดเรื่องบริษัทเรากำลังขาดทุน เราคงไม่ต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเขาหรอก” พรพรรณบอกลูกสาวแล้วยื่นประวัติของนายหัวหนุ่มให้เธออ่าน
พรพันวารับโทรศัพท์ของมารดาที่เปิดโพรไฟล์ของเขาให้เธอดู ชายที่เธอเห็นนั้นหล่อเหลาคมคาย ใบหน้าในวัยสามสิบหกเป็นช่วงอายุที่ดูดีและมีเสน่ห์เพียงแค่เห็นในรูปภาพ
เธอถูกรูปของเขาดึงดูดใจตั้งแต่ที่เห็น ตามประสาหญิงสาวทุกคนที่ชอบคนหน้าตาดี หล่อ รวย มีอิทธิพล ผู้ชายแบบนี้หาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนเล่า
“เขาดูดีขนาดนี้ ยังไม่มีภรรยาแน่เหรอคะ”
“ใช่ โสด และมีผู้หญิงอยากแต่งงานกับเขาทั้งจังหวัด” ผู้เป็นบิดาบอก เขาเองก็ไม่อยากบังคับจิตใจลูกสาวคนเดียว แค่ถามความสมัครใจของเธอดู หากหญิงสาวไม่ตกลงก็คงต้องหาวิธีใหม่
“ยังไงพี่ก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี” พงษ์พันธ์ไม่อยากให้น้องสาวแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เขาไม่อยากรับความช่วยเหลือด้วยการทำตามข้อเสนอที่แปลกประหลาดนี้ แลกกับความทุกข์ของน้องสาว
“หยกอยากคุยกับเขาก่อนค่ะ อยากรู้เหตุผลที่เขาทำแบบนี้ ถ้าคำตอบเป็นสิ่งที่หยกรับได้ หยกจะยอมแต่งงานกับเขา” พรพันวาอยากตอบตกลงแต่ก็กลัวพี่ชายจะกล่าวหาว่าเธอใจง่ายเพียงแค่เห็นรูปเขาก็ตอบตกลง จึงยื่นข้อเสนอของตัวเองออกไป
“ได้สิ เดี๋ยวแม่จะนัดคุยกับเขาให้”
พงษ์พันธ์ถอนหายใจ มองหน้าน้องสาวที่ทำหน้าลำบากใจ ถ้าการแต่งงานนี้เธอยอมตกลงด้วยความเต็มใจเขาก็คงไม่สามารถห้ามอะไรได้
************************
ณ ห้องวีไอพีในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พรพันวานั่งจ้องมองชายตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม ตัวจริงเขาดูดีกว่าในรูปเสียอีก หัวใจเธอแทบจะเต้นแรงทะลุออกนอกเสื้อแต่ต้องสงวนท่าทีเอาไว้
เธอตระหนักดีว่าไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่แสดงความรู้สึกต่อตนก่อน เธอต้องเล่นตัวเสียหน่อย อย่างน้อยก็รักษาหน้าครอบครัว และสร้างความท้าทายให้แก่เขา
“ผมขอคุยกับเธอตามลำพังได้ไหมครับคุณอา” เขากล่าวถามพ่อแม่ของหญิงสาวอย่างสุภาพ
“ได้เลย เดี๋ยวอารอด้านนอกนะ” ผู้เป็นมารดายิ้มให้กำลังใจลูกสาว
เธอและสามีออกไปรอด้านนอกเพื่อให้การเจรจาในครั้งนี้เกิดขึ้นตามลำพังสองคนตามความปรารถนาของว่าที่ลูกเขย
พรพันวาไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอะไรก่อน แค่มองเขาเธอก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว
ธาดามองหญิงสาววัยยี่สิบสองตรงหน้า เธอไม่มีท่าทีว่าจะหลบสายตาของเขาเลยสักนิด หากเป็นคนอื่นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ต้องยำเกรงทั้งนั้น แต่เธอกลับดูต่างออกไป
“มีอะไรจะถามก็ว่ามา” เขาพูดเสียงเรียบ
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมอยากแต่งงานกับฉันคะ” เธออยากรู้คำตอบจากเขาโดยไม่คาดเดาเอาเอง
“อันดับแรก สถานะทางสังคมของเราอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน สอง...ผมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวคุณ ต่างคนต่างมีผลประโยชน์ต่อกัน” เขาไม่ได้พูดถึงอีกเหตุผลคือเออายุยังน้อย น่าจะควบคุมได้ง่ายกว่า
“ผลประโยชน์ คุณต้องการอะไรจากฉันค่ะ”
“ยังไม่อยากบอกตอนนี้ แต่ว่าผมมีข้อเสนอ”
“ข้อเสนออะไรคะ”
“ผมจะแต่งงานกับคุณแค่สองปี ไม่จดทะเบียนผูกมัดใดๆ เป็นภรรยาแค่ในนามเท่านั้น อีกสองปีผมจะให้อิสระแก่คุณ” เขายื่นข้อเสนอที่คิดว่าเธอจะต้องสนใจ
พรพันวาลังเลใจ การแต่งงานที่ไร้ซึ่งความรักในกำหนดระยะเวลาสองปี ก็น่าสนใจดี
ครอบครัวเธอได้รับการช่วยเหลือ เธอเองก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ตรงใจ แค่สองปีหากเข้ากันไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต
แต่ถ้ามันดีก็ค่อยว่ากันใหม่ในภายหลัง เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
“เงินที่ครอบครัวคุณต้องการ ผมจะยกให้เป็นค่าสินสอดทั้งหมด จะไม่ถือว่าเป็นการยืมใดๆ ทั้งสิ้น และช่วยเรื่องการขนส่งกับเส้นทางการเดินรถด้วย” เขายื่นข้อเสนอที่เธอไม่ได้เสียเปรียบเลยสักนิด
พรพันวาไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจเลย สองปีแลกกับผลประโยชน์และการได้อยู่ใกล้ชิดผู้ชายที่ผู้หญิงทั้งจังหวัดอยากได้เขา มีแต่เธอจะตะครุบข้อตกลงนั้นโดยเร็ว
“ผมมีเวลาไม่มากนะ พรพันวา”
น้ำเสียงของเขาฟังดูดุดัน แววตาที่มองมาก็ดูคล้ายจะเย็นชาแต่เธอคิดว่าทุกอย่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
หญิงสาวไม่ได้ตอบตกลงในทันที เธอทำเป็นว่าลังเลเล็กน้อยแล้วแสร้งถอนหายใจ ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังเหมือนว่าเธอไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
************************