ตอนที่ 7
ช่วงหัวค่ำ
งานวันเกิดของท่านรัฐมนตรีทวีป จิรพิมนต์กับณัฐกานต์สองเพื่อนซี้ ที่เดินทางมางานวันเกิดพร้อมกัน จิรพิมนต์อาศัยรถของเพื่อนมา เพราะไม่อยากให้ฉายดนัยส่งคนมารับเธอถึงที่ร้าน ส่วนมารดาของเธอกับพ่อเลี้ยงนั้นล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
เมื่อสักครู่ระหว่างการเดินทางมาที่งานวันเกิด ณัฐกานต์เพื่อนของเธอก็คุยกันเรื่องเมื่อหลายวันก่อนที่จิรพิมนต์เธอโดนแกล้งให้ไปรับฉายดนัยที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่มีรถ และมารดาหรือใคร ๆ ก็ไม่อยู่บ้าน ณัฐกานต์เอ่ยเตือนไม่ให้เธอไว้ใจฉายดนัยอีก
“เธอว่ายัยพัช กิ๊กของคุณฉายดนัยจะมางานนี้หรือเปล่า” คุณกันมาเรื่อยๆ ณัฐกานต์ก็ถามเพื่อนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะห่วงความรู้สึกของจิรพิมนตร์
“คงไม่พลาดหรอก” เธอตอบเพื่อน
“แล้วแกไม่หึงใช่มั้ย”
“บ้าเหรอ ฉันไม่เคยหึงอยู่แล้ว”
“แต่ว่าแม่แกนี่ก็แปลกเนอะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณฉายดนัยนอกใจแกอย่างไร แต่ก็ยังอยากให้แกแต่งงานกับเค้าอยู่ได้ เหมือนกับส่งแกไปลงนรกเลย” ณัฐกานต์พูดกับเพื่อนตรง ๆ จิรพิมนตร์นั่งฟังไปเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้เพื่อนพูดไป
“ฉันเนี่ย..แค้นแทนแกไม่หายเลยนะ ยัยมนต์ ที่นางพัชมันกล้าหลอกให้แกไปที่ผับนั่นน่ะ”
“ช่างเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว” จิรพิมนต์ถอนหายใจแล้วตอบเพื่อน
“แต่แกก็อย่าไปยอมเค้ามากนักสิ”
“ครอบครัวฉันเป็นหนี้ชีวิตพ่อเค้า จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ”
“พ่อแกก็เสียไปตั้งแต่ตอนที่แกเด็ก ๆ แล้วนะ จริง ๆ แกไม่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อแกบอกไว้ก็ได้นี่”
“แม่บอกว่า ถ้าฉันยอมแต่งงานกับพี่ดนัย พ่อของเขาจะคืนหุ้นในบริษัทให้”
“เพื่ออะไร คืนมาเลยไม่ได้รึไงก็คนมันไม่ได้รักนี่”
“พ่อฉันคงกลัวว่าฉันจะไม่เหลืออะไรมั่ง แต่ทุกวันนี้ก็ไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว”
พ่อของฉายดนัยเคยช่วยเหลือทางธุรกิจและเป็นผู้มีพระคุณกับพ่อของจิรพิมนตร์ ข้อนี้เธอจำได้ไม่เคยลืม ก่อนที่พ่อของเธอจะล้มละลาย คุณทวีปพ่อของฉายดนัยเคยโอบอุ้มธุรกิจของครอบครัวเธอ
ทั้งสองเดินเข้าไปภายในงาน จิรพิมนตร์หันไปเห็นชายหนุ่มบุตรชายเจ้าของงานที่มีนภัสรเลขาฯ ของเขายืนอยู่ข้าง ๆ นิตยาผู้เป็นมารดาของเธอก็อยู่ในงานนี้ด้วย โดยไม่รู้สึกอะไร ที่เห็นฉายดนัยควงเลขาฯ ของตัวเองมางานนี้ด้วย
หญิงสาวในชุดเดรสสีครีมอ่อน ใบหน้ารูปไข่เฉี่ยวคมเครื่องสำอางถูกแต่งแต้มลงบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนสาว ทั้งสองแต่งตัวคล้ายคลึงกัน จิรพิมนตร์ผมดำยาวสลวยถูกปล่อยให้ยาวลงมากึ่งกลาง ดวงตาสีดำกลมโต หญิงสาวที่อยู่ข้างกายฉายดนัยรีบหันมามองด้วยแววตาเหยียดหยันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนสาว ส่วนณัฐกานต์อยู่ในชุดเดรสสีบานเย็น ผมซอยสั้นแต่งหน้าจัดเต็มทุกอย่างไม่แพ้กับนภัสสรเลย
“ไงจ๊ะ คิดว่าจะควงหนุ่มหล่อพันล้านคนนั้นมาด้วยซะอีก” นภัสสรอดที่จะถามถึงชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุทำให้ฉายดนัยหัวเสียในคืนนั้นไม่ได้
“ไม่แน่..เค้าอาจจะมางานนี้ก็ได้นะ” ณัฐกานต์รีบพูดทันที หล่อนคบหากับจิรพิมนตร์ตั้งแต่เด็ก ๆ ยอมไม่ได้ที่เห็นเพื่อนถูกกระแหนะกระแหนตั้งแต่แรก ทั้งที่คนถามยังหน้าด้านควงคู่หมั้นของคนอื่นอยู่เลย
“ยัยมนต์ มาก็ดีแล้ว รีบไปเตรียมอาหาร เตรียมเค้กให้คุณอาเค้าสิ ใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว” เสียงเรียกของมารดารีบบอกบุตรสาวที่เพิ่งเดินมาถึงไม่นาน จิรพิมนตร์เดินไปจัดเตรียมเค็ก ทิ้งณัฐกานต์ให้ยืนประจันหน้ากับนภัสสร
“แกไปอยู่ที่ไหนมายัยมนต์ ทำไมมาช้าจัง” มารดาของจิรพิมนต์ที่เดินตามบุตรสาวมาก็ถามไม่หยุด ขณะที่จิรพิมนต์เข้ามาช่วยจัดเตรียมเค้กวันเกิดให้กับท่านทวีปอยู่ภายในห้อง ณัฐกานต์ที่รีบเดินตามมาพลางยกมือไหว้มารดาของเพื่อนแล้วทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เพื่อนของเธอ
หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ออกมานั่งภายในงาน จากนั้นท่านรัฐมนตรีทวีปก็เอ่ยทักทายว่าที่ลูกสะใภ้
“หนูมนต์ ว่าง ๆ ก็มาลองทำงานที่โรงแรมของอาก็ได้นะ อย่าไปมัวแต่ทำพวกขนมอยู่เลย อีกหน่อยแต่งงานกับพี่ดนัยเค้า ก็จะได้ช่วยกันบริหารโรงแรม หนูต้องรีบฝึกเอาไว้นะ” รัฐมนตรีทวีป พ่อของฉายดนัยเอ่ยขึ้นกับจิรพิมนต์
“ค่ะ คุณอา แต่หนูยังไม่สะดวกตอนนี้หรอกค่ะ ร้านเบอเกอรี่ที่เปิดกับเพื่อนยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเลยค่ะ”
“หนูจะไปเหนื่อยทำไมกันละ เรื่องทำขนมหรือพวกอาหารก็ให้พวกพนักงานในร้านจัดการไปสิ เรามีหน้าที่รับเงินอย่างเดียว หรือว่าถ้าต้องการพนักงาน หรือถ้าเชฟมีไม่พอก็บอกอาได้นะ อา..จะส่งเชฟฝีมือดีไปให้ ที่โรงแรมอามีหลายคนเลยละ” ชายสูงวัยพูดขึ้นน้ำเสียงแสดงถึงความเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้า
“ขอบคุณค่ะ..คุณอา” ไม่นานพนักงานของร้านที่อยู่ในห้องครัวก็ยกเค็กมาอวยพรวันเกิดให้กับท่านทวีป แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะร้องเพลงอวยพรให้กับท่านทวีป ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาในงานพอดี