ตอนที่ 5

1277 Words
ตอนที่ 5 เจียวอิงหยัดกายลุกขึ้นเธอดุนกระพุ้งแก้มเล็กน้อย เพราะมีเลือดซึมออกมา เธอแสยะยิ้มอย่างเคียดแค้นคนพวกนี้ “จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอกนะ แต่ถ้าฉันไม่มา พวกคุณ ๆ ทั้งหลายก็ต้องดุด่าสาปแช่งฉันอีก” เธอไม่อยากจะทำร้ายใคร แค่ทุกวันนี้ข่าวลือของเธอมันก็เน่าแฟะอยู่แล้ว “ก็เพราะแกมันเน่าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เมื่อคืนไม่กลับบ้านไปขายตัวที่ซ่องไหนมาล่ะ ดูสิภาพยับเยินแบบนี้ จะมีใครเอาทำเมียกัน เธอมันก็แค่เศษสวะของตระกูลลู่ เมื่อไหร่พ่อจะไล่แกไปให้พ้น ๆ สักทีจะเก็บเอาไว้ทำไม ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดตา” เจียวเหมยก่นด่าถ้อยคำหยาบคายพรั่งพรูออกมาจากหญิงสาวร่างบอบบางน่าทะนุถนอม ใครเล่าจะคิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ฝีปากจัดจ้านยิ่งกว่าแม่ค้าในตลาดเสียอีก เกิดมาสูงส่งเป็นถึงคุณหนูตระกูลลู่แต่กิริยามารยาทช่างต่ำและสถุลจริง ๆ เจียวอิงหัวเราะเบา ๆ คล้ายกับสาแก่ใจ ใบหน้าของเธอขึ้นริ้วเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้า “รู้อะไรไหมพี่สาม ทำไมตาแก่นั่นไม่ไล่ฉันไปสักที เขาคงคิดว่าจะหาสามีสักคนให้ฉัน แล้วเขาก็คิดว่าคงจะได้ค่าสินสอดแน่ ๆ แต่จะบอกให้นะแผนการของตาแก่นั่นฉันรู้หมดแล้วล่ะ” เธอไม่เรียกว่าพ่อสักคำ เพราะผู้ชายคนนั้นไม่เคยสนใจเธอสักนิด ถ้อยคำต่าง ๆ ที่ครอบครัวใหญ่พูดคุยกันเสมอ คือจะจับเธอยัดให้แต่งงานกับคนมีฐานะ หรือไม่ก็ตาแก่ตัณหากลับเถือกนี้ แต่เธอรอแค่โอกาส สักวันเธอจะต้องได้ออกไปแน่ ๆ แต่ยังไม่ถึงเวลา เจียวเหมยเท้าเอวมองอีกฝ่ายอย่างชิงชัง แววตาของเธอดูเย้ยหยันและเหยียดหยามอยู่ในที ริมฝีปากเบะเล็กน้อย กลอกกลิ้งตาไปมาอย่างคนถือดี “คงไม่มีผู้ชายตาบอดคนไหนเอาแกทำเมียหรอกนะ โชคดีที่พี่เขยไหวตัวทัน เขายังบอกว่าเธอมันเน่าและร่านไปทั่วอ่อยเขา หวังจะขึ้นเตียงเขายังไม่เอาแกเลย แกมันก็เป็นได้แค่...ขยะ! นังลูกคนใช้!” ชายชราเส้นผมสีขาว นั่งอยู่หัวโต๊ะสีหน้าเคร่งเครียดผิดปกติ ดวงตาของชายชราดูเย็นยะเยือกชวนให้ใครต่อใครหวาดกลัว ชายคนนี้คืออดีตผู้นำตระกูลจ้าว ส่งต่อให้ลูกชายคนโตนั่นก็คือบิดาของเจ้าเด็กเหลือขอทั้งสองคน แต่ละคนดื้อรั้นหัวแข็ง และไม่สนใจคำสั่งของปู่เช่นเขาอีกนับตั้งแต่ปีกกล้าขาแข็ง สตรีสูงวัยคนหนึ่งเดินเข้า มองหน้าเมื่อเห็นหนุ่มใหญ่และหนุ่มน้อยจ้องตากันไปมาแทบจะเรียกได้ว่าสาดเพลิงใส่กันก็ว่าได้ ด้วยเพราะบ้านนี้ไม่มีลูกสาวมีแต่ลูกชายทั้งสอง คนโตเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน ส่วนคนเล็กชอบอิสรเสรีไม่สนอะไร นอกเสียจากจะมีงานเดินแบบ ถ่ายแบบขอบริษัทในเครือเท่านั้น “คุณผู้หญิงเชิญนั่งค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของเธอกล่าวขึ้นมา สตรีคนนี้เป็นมือซ้ายของเธอ ทำงานดูแลตั้งแต่เรื่องเสื้อผ้าการแต่งกายออกงานต่าง ๆ เดินเคียงคู่ออกงานบ่อยครั้งก็ว่าได้ ส่วนสามีของเธอนั่งปั้นหน้าเหมือนกำลังแบกรับภูเขาเอาไว้บนหัวเพียงคนเดียว “คุณคะ” คุณผู้หญิงของบ้านกล่าวขึ้นมาน้ำเสียงเบา ๆ พลางปลุกทุกคนตื่นจากความเงียบ “ฉันหาว่าที่ลูกสะใภ้เจอแล้วค่ะ” เธอทำลายบรรยากาศอึดอัดโดยฉับพลัน “ผมไม่แต่ง” ลูกชายคนเล็กหวงแหนชีวิตหนุ่มโสดโหมดหนุ่มเพลย์บอย รีบแย้งมารดาขึ้นมาทันที มีหรือเขาจะยอมหากไม่รักจะไม่แต่งโดยเด็ดขาด จะให้เขาแต่งก่อนพี่ชายได้อย่างไร ถือว่าเขารอดตัวแล้วในวันนี้ วันหน้าอาจไม่แน่ “ผมก็ไม่” พี่ชายนั่งเงียบมานาน ในมือของเขาหมุนแก้วไวน์แดงวนไปมา และยังคงไม่ดื่มเสียที ชายหนุ่มคนนี้น้ำเสียงทุ้มดูน่าฟังกว่าใครทั้งหมด แต่สีหน้าของเขาเรียบเฉยกระทั่งสายตายังคงว่างเปล่าอีกต่างหาก ทำให้อดีตผู้นำตระกูลกระแทกไม้เท้าลงกับพื้น ดัง ตึ้ง ตึ้ง ทุกคนต่างก็หันหน้าไปมองและเงียบกริบทันที “แกไม่มีสิทธิ์จะปฏิเสธอะไรที่แม่แกว่าดี ย่อมดี ไม่เหมือนผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น” น้ำเสียงเหี้ยมกล่าวขึ้นมาทันใด เมื่อครู่มีคนรายงานว่าเจ้าหลานชายคนโตโอนเงินให้นังผู้หญิงหิวเงินอีกหลายแสน “แต่ว่าคุณปู่ครับ ผมรักอยู่กับซูหลิน” เขาค้านขึ้นมาทันที ท่าทางฟึดฟัดเอาแต่ใจอีกด้วย และไม่คิดว่าสิ่งที่ตนพูดและแสดงออกมาจะผิด ทุกครั้งและทุกคนเมื่อเขาพูดถึงเธอมักจะมีสายตาไม่พอใจส่งมาเหมือนเชือดเฉือนเนื้อหนังเขาจนปวดแสบปวดร้อน “แกไม่ต้องพูดมาก แกทำอะไรเอาไว้ต้องรู้อยู่แก่ใจ” คราวนี้เป็นผู้นำตระกูลพูดขึ้นมาบ้าง เกรงว่าบิดาของตนหรือก็คือคุณปู่ของเจ้าสองแสบจะเครียดมากจนเส้นเลือดในสมองแตก เพราะมีหลานชายแบบนี้ เขาไม่ดีเองสอนสั่งอันใดไม่ได้ ต้องคอยให้ภรรยากำราบเจ้าเด็ก ๆ สองครั้งอยู่ร่ำไป “ผมทำอะไร” เขายังคงตีสีหน้าเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึก แม้ว่าในใจของเขาจะเดือดปุด ๆ เหมือนกาน้ำกำลังร้อนจัด รอเวลาที่จะปะทุขึ้นมา “ลูกแม่ น้องนะเป็นผู้หญิงยังไงก็ต้องรับผิดชอบ ใครต่อใครก็เห็นว่าเดินออกมาด้วยกันทั้งนั้นจริงไหม” เธอกล่าวจบแล้วจิบน้ำชาอุ่น ๆ ดับกระหาย พลางช้อนสายตาไปทางผู้ช่วยมือขวาอีกครั้งหนึ่ง พยักหน้าเล็กน้อย เป็นอันว่ามีหลักฐานวางอยู่บนโต๊ะเรียงราย รูปถ่ายสามใบตอนเดินออกมาจากโรงแรม รูปถ่ายตอนที่เด็กสาวคนหนึ่งเข้าให้ไปข้างใน เพราะถูกฝ่ายชายกระชากเธอ “พอไหมจ๊ะ” ผู้เป็นมารดากล่าวอย่างยิ้ม ๆ “แม่ว่าหากลูกยังคงดื้อดึงละก็นะ แม่หนูซูหลินมีจุดจบไม่ดีแน่ ๆ ลูกแม่โอนเงินให้เธอพยุงกิจการไปกี่สิบล้านแล้ว ได้คืนบ้างหรือยัง” ถ้วยชาที่ยกขึ้นเมื่อครู่ เธอวางลงแม้ว่าจะไม่ดังมากแต่รับรู้ถึงความไม่พอใจเป็นหนักหนา ใบหน้าของสตรีสูงวัยเพียงหนึ่งเดียวในบ้านตระกูลจ้าว เธอมีสิทธิ์ขาดในทุก ๆ เรื่อง และยังจะมีอะไรที่เธอบงการไม่ได้บ้าง ขนาดพ่อสามีหัวแข็งเธอยังปราบมาแล้ว นับประสาอะไรกับลูกชายแค่หัวดื้อรั้นเท่านั้น “ว่ายังไงลูกแม่” เสียงหวานกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ยิ้มแย้มสักนิดแววตาดูแข็งกร้าวน่าหวาดกลัวนัก “ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านออกไป ถ้าคุณแม่คิดจริงจังแบบนี้ ผมคงต้องแต่งงานกับผู้หญิงไม่ต่ำกว่าสามสิบคนแน่ ๆ” น้ำเสียงแข็งกระด้างกล่าววาจาแดกดันผู้เป็นมารดา ท่าทางยังคงเย็นชาเหมือนไร้ความรู้สึก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD