ใคร่รักมาเฟีย
โนเนจัง
มหาวิทยาลัย T
"เดวา สามนาฬิกา หล่อ สูง ขาว เอ๊ะๆน่าจะเป็นพี่เทมปีสี่คณะวิศวะนะนั่น หล่อเวอร์วัง"
"..."
"เดวา!"
"หา?! แกว่าไงนะ มีอะไร?" ฉันหลุดจากภวังค์มองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองตกใจ จนเธอเบ้ปากใส่แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
"แกเหม่ออีกแล้วนะ ชวนดูผู้ชายก็ไม่ดู จะเรียนจบแล้วยังหาผู้เย้ยไอ้บ้านั่นไม่ได้เลย ใช้หน้าสวยๆให้มีประโยชน์บ้างสิ"
ไอ้บ้าที่เพื่อนฉันหมายถึงคือแฟนเก่าฉันเอง เราคบกันตั้งแต่ม.ปลายจนถึงปีสาม แต่เราจบไม่ค่อยสวย ไม่สิ ไม่สวยเลยแหละ...
แต่ที่ฉันไม่หาผู้ใหม่ ฉันมีเหตุผลและที่เหม่อคิดอะไรคนเดียวก็เพราะเรื่องนี้
'อยู่ปีไหนแล้วเดวา'
'ปีสามเทอมสองค่ะ'
'เรียนจบแต่งงานเลยไหม?'
ฉันละจากจานข้าวเงยขึ้นมองพ่อตัวเอง พ่อไม่รู้ว่าฉันเคยมีแฟนด้วยซ้ำ... แต่หมายถึงแต่งงานกับใคร?
'เดวายังไม่มีแฟนเลยนะคะ จะแต่งงานกับใคร'
'มีคนให้แต่งด้วยแล้วกัน'
'พ่อหาให้เดวาเหรอคะ'
'เปล่าครับ... เขาเลือกเรา และจองไว้นานแล้ว'
เลือก จอง อะไร? แล้วเขาคนนั้นคือใครล่ะเนี่ย!
"เดวา แกเหม่ออีกแล้วนะ ตั้งแต่กลับจากจันทบุรีแกเหม่อเก่งมากเลยเพื่อน มีอะไรรึเปล่า?" ฉันมองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างถอดใจ
"เพลง ฉันมีเรื่องอยากปรึกษา" เพลงพยักหน้า แล้วขยับมาใกล้ๆเท้าคางรอฟัง
"อ่ะ ว่ามา"
"กลับบ้านไปรอบนี้พ่อฉันถามว่าเรียนจบจะแต่งงานเลยไหม"
"ถามจริง! ฮ่าๆ พ่อแกอารมณ์ไหน!"
อยู่ๆคนฟังก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทั้งๆที่หน้าฉันสุดจะเครียด มันเป็นเรื่องตลกตรงไหน? ฉันไม่เข้าใจในคำพูดพ่อเลย ยิ่งบอกว่าโดนจองแล้ว โดนเลือกแล้วยิ่งงงไปใหญ่ ฉันเป็นแค่ลูกสาวสวนทุเรียนส่งออก ธุรกิจอื่นๆของพ่อก็มีแค่ผับที่ทองหล่อและรีสอร์ตตีนเขา ไม่ใช่นักธุรกิจสายไฮโซเหมือนในละครหลังข่าวที่มีคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่เด็ก
"ฉันไม่ตลกนะ ฉันพูดจริงๆ"
"รู้ แต่พ่อแกหวงแกมากเลยนะเดวา ขนาดคบกับไอ้บ้าแฟรงค์ พ่อแกยังรู้ไม่ได้เลย ถามเรื่องแต่งงานเนี่ยนะ"
ใช่ พ่อฉันหวงมาก ที่ท่านขับรถขึ้นลงกรุงเทพบ่อยไม่ใช่เพราะดูผับของตัวเองอย่างเดียว แต่จับตาดูลูกสาวด้วย บางวันโผล่ที่หน้าประตูคอนโดแล้วจ๊ะเอ๋ก็มี
ส่วนผู้ชายชื่อแฟรงค์ ฉันเคยแอบคบมาตั้งแต่ม.ปลายจนถึงมหาวิทยาลัย และพึ่งจับได้ว่าเขาคบซ้อนมาตลอดจนถึงปีสาม ความสัมพันธ์ของเราจึงขาดสะบั้นตั้งแต่ตอนนั้น
ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำ เพราะคนที่เขาคบซ้อนคือเพื่อนเก่าสมัยมัธยมของฉันเอง
"นั่นสิ แต่พ่อไม่ได้ถามเล่นๆนะ สีหน้าจริงจังมากอ่ะ"
"แล้วหลังจากที่พ่อแกพูดแบบนั้น พูดอะไรอีกไหม?"
"ฉันถามว่าจะหาให้ฉันใช่ไหม? แต่พ่อก็บอกว่าเปล่า... เขาเลือกฉันแล้ว และจองไว้แล้วด้วย งงเป็นบ้าเลยแก เขาคนนั้นใครก็ไม่รู้"
"เออว่ะ เป็นฉันฉันก็งง หรือพ่อแกพูดลองเชิงแกวะ"
แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ถึงพ่อจะใจดีมากชอบอำบ่อยแต่ฉันรู้ว่าเวลาไหนท่านพูดเล่นหรือพูดจริง
"แกคิดว่าพ่อจะลองเชิงฉันเรื่องอะไรเพลง"
"ก็...อาจจะสงสัยว่าแกมีแฟนไง ก็เลยแกล้งพูด"
จริงด้วย! เหตุผลของยัยเพลงก็น่าคิด ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ แล้วฉันจะคิดมากทำไมเนี่ย เฮ้อ...ให้พ่อลองเชิงไปเถอะเพราะตอนนี้ฉันก็ไม่ได้คบใครอยู่แล้ว
"คงเป็นแบบที่แกว่านั่นล่ะ งั้นฉันไม่สนใจแล้ว ขอเปเปอร์วิชาอาจารย์สมใจที่แกสรุปไว้มาอ่านหน่อย"
ยัยเพลงพยักหน้าก่อนจะเอี้ยวไปหยิบเปเปอร์จากกระเป๋าถือคริสเตียนดิออร์ส่งให้ฉัน เพลงเป็นเพื่อนสนิทฉันตั้งแต่มัธยมเช่นกัน และเราสองคนก็คบกันบุกเบิกจนถึงมหาวิทยาลัย
อีกอย่างเราสองคนเป็นคนต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพด้วยกัน ฉะนั้นไม่ว่ามีเรื่องอะไรฉันจะปรึกษาเพลงเป็นคนแรก แม้แต่เรื่องแฟรงค์ เพลงก็รับรู้และเกลียดไอ้บ้านั่นเข้าไส้ ถึงขั้นจะบึ่งไปมหาลัยที่ผู้หญิงคนนั้นเรียนเพื่อตบสั่งสอน
แต่ฉันห้ามไว้เองจบกันไปได้ก็ดี เพราะสองคนนั้นคงรักกันมานานมาก ถึงขนาดจบม.ปลายมาเรียนคนละมหาลัยก็ยังดอดไปนอนด้วยกัน ที่ฉันรู้เพราะผู้หญิงคนนั้นทนเก็บตัวตนตัวเองไม่ไหว ส่งข้อความมาแสดงตัวพร้อมรูปถ่ายแฟนของฉันด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ฉันไม่สู้คน...
แต่มันอยู่ที่สิ่งที่ฉันสู้เพื่อได้มา มันมีค่าแค่ไหนต่างหาก
ฉะนั้นแล้ว...ผู้ชายคนนั้นปัดตกไปก็ดี รกสมอง
"แกๆ พี่โต๊ะนั้นมองแกตลอดเลยอ่ะ แฟนบอยแกอีกคนป่ะเนี่ย"
เมื่อฉันเงียบไป เพลงก็สะกิดให้ฉันมองโต๊ะทางขวามือที่มีรุ่นพี่นั่งอยู่ นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ฉันไม่แคร์ เพราะฉันค่อนข้างป๊อป เป็นดาวคณะที่มีผู้ชายหมายปองพอตัว ไม่ว่าจะดอกไม้ ขนม หรือแม้กระทั่งเช็คเงินสดหลักล้านก็เคยมีคนส่งมาจีบฉันแล้ว
แต่ฉันไม่สนใจ ยิ่งเจอผู้ชายแบบแฟรงค์มาภูมิต้านทานเรื่องหัวใจฉันยิ่งมีมาก ฉันปิดกั้นและปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ตกลงคบกับใครง่ายๆอีก
"ปล่อยให้ผู้ชายพวกนั้นมองไปเถอะ ฉันชินแล้ว"
ฉันตอบเพื่อนแล้วก้มหน้าอ่านเปเปอร์ต่อ แต่ยัยเพลงสะกิดฉันอีกแล้ว!
"เออแก โชคดีมากเลยที่แกไม่ได้เสียตัวให้ไอ้บ้าแฟรงค์ ไม่อย่างนั้นน่าเสียดายแย่"
ฉันละจากเปเปอร์เงยขึ้นมองหน้ายัยเพลง เรื่องโชคดีของฉันเรื่องเดียว คือเรื่องไม่ตกลงปลงใจเป็นของผู้ชายคนนั้น เราคบกันนานมากแต่แฟรงค์ทำได้มากสุดแค่จับมือ
"จริง...ฉันโชคดี ตอนคบกันสัญชาตญาณฉันมันบอกว่ากับผู้ชายคนนี้มันไม่ใช่ จะเรียกว่าผีประจำตัวคุ้มครองได้ไหมแก แต่มันหลายครั้งมากเลยนะที่เราอยู่กันสองต่อสองแต่ฉันไม่เคยปล่อยตัวให้แฟรงค์เลย"
"ดีแล้วเพื่อนรักคนสวย และหลังจากนี้แกก็อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่นะ ลุยเลยเพื่อน สวย บ้านรวย มีผู้ชายมาให้เลือกเพียบ"
"พักก่อน" ฉันตอบเพลงอย่างเหนื่อยหน่าย พึ่งเลิกกับคนเก่าไม่ถึงเดือน ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ
"ไม่ต้องพักจะเรียนจบแล้วนะ หาๆไว้บ้าง อย่างน้อยๆก็ทำให้อิบ้าแฟรงค์มันอกแตกตาย ฉันรู้ว่ามันยังรักแกอยู่ ถ้าแกไม่จับได้มันไม่เลิกกับนังนั่นหรอก พรุ่งนี้ตอนเย็นเลี้ยงส่งพี่ปีสี่ไปฝึกงาน แกต้องเจอมันนะเดวา ไม่หาคนควงไปเย้ยจริงดิ"
ฉันยกมือสองข้างปิดหู
"ไม่เอาไม่ฟัง พอแล้วเพลง แกพูดเรื่องแฟรงค์ไม่หยุดเลยนะ ฉันไม่สนใจแล้ว"
เพลงลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือฉันออกจากหู แถมยังจับข้อมือดึงไปจ้องตา
"แกฟังฉันนะเดวา แกต้องเอาคืนมันให้ได้ การเอาคืนของแกไม่ได้หมายถึงแกยังรักมัน แต่ทำให้เห็นว่ามันไม่มีค่าสำหรับแกแล้ว มันจะได้เลิกมั่นหน้ามั่นโหนกสักที!"
พอพูดจบยัยเพลงก็ปล่อยข้อมือฉันแล้วถอนหายใจ
"เฮ้อ! บอกได้แค่นี้แหละไปคิดดูเอาเองแล้วกัน ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ พูดถึงไอ้บ้าแฟรงค์แล้วปวดอึ"
ฉันปล่อยให้ยัยเพลงไปเข้าห้องน้ำแล้วก้มหน้าอ่านเปเปอร์ต่อ ฉันพอรู้ว่าทำไมเพื่อนถึงอยากให้ฉันเอาคืน ก็เพราะว่าหลังจากที่เราเลิกกัน คนในมหาลัยลือให้แซ่ดว่าเดวาคนป๊อปโดนเขี่ยทิ้ง ซึ่งฉันไม่เคยถือเพราะไม่ใช่เรื่องจริง
จนหลังจากที่เพลงกลับมา และเราขึ้นไปเรียนคาบสุดท้ายเสร็จสรรพ จนฉันเตรียมกลับคอนโด ฉันก็เจอกับแฟรงค์ที่ลานจอดรถล่างตึกพอดี
ตอนเห็นเขายืนพิงรถฉัน ปลายเท้าที่กำลังเดินหยุดชะงักอยู่กับที่...
"ขอคุยด้วยหน่อยสิเดวา"
"คุยอะไร? ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วยแล้ว"
แฟรงค์เดินมาหาฉันทันที ก่อนที่จะพยายามจับมือฉันไปกุม แต่ฉันสะบัดออก 'พรึ่บ!' แล้วถอยออกห่างเขาหนึ่งก้าว
"อย่าจับตัวฉัน"
"เดวา... เราเลิกกับเอื้อยแล้ว"
"แล้วมาบอกฉันทำไม?"
"เราอยากขอโอกาส"
"ไม่มี และจะไม่มีวันมี ถอยออกไป ฉันจะขึ้นรถ" ฉันว่าจบก็เดินเลี่ยงร่างสูงไปอีกทาง แต่เขายังเดินมาขวางและพยายามจะจับมือฉันให้ได้
"คุยกันดีๆนะเดวา"
"ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!"
'ฟุ่บ' แฟ้มรายงานที่ฉันหอบหล่นลงพื้นเพราะแรงกระชากของคนตัวใหญ่ และคนแรงน้อยกว่าอย่างฉันจะไปเหลืออะไร ตอนนี้ถลาไปข้างหน้าชนกับหน้าอกเขาแล้ว
"ปล่อย!"
"แค่ครั้งสุดท้ายเดวา เราจะไม่ทำแบบนั้นอีก ขอร้องเถอะนะ"
ฉันไม่สนใจสิ่งที่แฟรงค์วอนขอ พยายามผลักและแกะมือใหญ่ออกจากข้อมือตัวเอง แต่เมื่อขาก้าวออกมาเข้าเลนรถเท่านั้นแหละ รถหรูคันหนึ่งที่ขับมาก็เบรกกระทันหัน แล้วตบไฟสูงใส่เรารัวๆ
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!" ฉันหันไปขอความช่วยเหลือจนแฟรงค์หันตาม ก่อนที่จะฉวยโอกาสตอนนั้นยกเข่ากระทุ้งเป้าเต็มๆ
'ปึก!'
"โอ๊ย! เดวา!"
ฉันวิ่งไปอีกฝั่งของตัวรถหรู และใช้มือเล็กคลำหาที่เปิดประตูพัลวันทำทุกทางเพื่อไปจากที่นี่ แต่พอเปิดประตูหน้าไม่ได้ฉันก็รีบไปเปิดประตูหลังต่อทันที
แต่พระเจ้าช่วย มันเปิดได้!
ฉันจึงรีบขึ้นไปบนรถแล้วยกมือไหว้คนข้างในทันที
"ช่วยเดวาด้วยค่ะ ผู้ชายคนนั้นจะทำร้ายเดวา ขอติดรถไปลงหน้ามหาลัยนะคะ เก็บเงินก็ได้"