ทางด้านตรีภพนั้นทันทีที่ก้าวขาเข้ามาด้านในกลับต้องสะดุดค้างกับภาพของหญิงสาวในชุดเดรสกระโปรงรัดรูปสีดำที่สั้นเลยเหนือเข่าขึ้นมาจนโชว์เอาขาอ่อนขาวเนียนให้ได้เห็น ครั้นเมื่อเงยหน้ามองสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็พบกับแผ่นหลังที่ถูกแหวกจนเห็นผิวกายเนียนละเอียดโดยเจ้าของร่างกายนั้นกลับไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขาเข้ามาด้านในแล้วตอนนี้เพราะมัวแต่กำลังก้มจัดทรงเสื้อผ้าให้เข้าที่อย่างตั้งอกตั้งใจอยู่จนเมื่อเขาเอื้อมมือไปกดลล็อกกลอนเธอถึงได้รู้ตัวก่อนจะเอ่ยพูดทั้งๆ ที่สายตายังคงจดจ่ออยู่ตรงที่เดิมไม่ไปไหน
“พี่ว่าชุดมันก็สวยดีนะคะ เสียอยู่แค่อย่างเดียวคือมันโป๊ไปนิด หรือน้องทิพย์คิดว่ายังไงบ้างคะ…คุณ!” รินลดาตกใจจนแทบสิ้นสติเมื่อหันกลับมานั้นคนที่กำลังยืนรออยู่ตรงด้านหลังกลับไม่ใช่ทิพย์อักษรอย่างที่คิดไว้ หากแต่กลับเป็นใครอีกคน ที่เธอไม่คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอเขาที่นี่ในเวลานี้
“ชุดสวยดีนี่…แต่ไม่เหมาะกับผู้หญิงอย่างเธอเลยสักนิด เลือกมาว่าจะถอดมันออกดีดีหรือว่าจะให้ฉันฉีกมันออกจากตัวเธอเสียเอง!” ตรีภพตวาดสุดเสียง โมโหจนแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้กับภาพที่ได้เห็น หญิงสาวที่แต่ก่อนเคยใสซื่อเชื่องช้าแต่ในตอนนี้กลับดูเหมือนเป็นใครอีกคนที่เขาแทบจะไม่รู้จัก อยากจะฉีกเอาไอ้ชุดบ้าๆ ที่หล่อนกำลังสวมอยู่ให้ขาดวิ่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียไม่อยากให้ใครได้เห็นมันนอกเสียจากตัวเองผู้ซึ่งมีสิทธิ์เพียงคนเดียวเท่านั้น
ความหวงที่กำเริบหนักมันพาลทำให้เขานึกหงุดหงิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยืนตัวสั่นน้ำตานองหน้าเพราะความกลัว ไมเพียงแต่ก้าวเข้าไปหาเขากลับคว้าเอาไหล่ของหล่อนเขย่าไปมาอย่างรุนแรงจนใบหน้าหวานที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ สั่นคลอนไปมา
“ฉันสั่งให้ถอดมันออก! ไม่ได้ยินรึยังไงรินลดา!!”
“ถะ…ถอดแล้วค่ะ ฉันจะถอดมันออกเดี๋ยวนี้ แต่คุณภพช่วยออกไปรอข้างนอกก่อนได้ไหมคะ” หญิงสาวร้องตอบกลับไปทันควันพยายามกลั้นเสียงสะอื้นชองตัวเองเอาไว้แต่ก็ลำบากยิ่งนักในเวลานี้ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเธอกลัวอารมณ์โกรธของเขามากแค่ไหน
“เธอกล้าดียังไงมาสั่งคนอย่างฉัน! ตกลงจะไม่ถอดใช่ไหม ได้! ฉันจะถอดให้เธอเอง มานี่!” ไม่พูดเปล่าให้เสียเวลาอีกต่อไปมือหนาจัดการกระชากเอาชุดเดรสให้ออกจากร่างกายของหญิงสาวอย่างรุนแรงป่าเถื่อนจนเล็บของเขานั้นขูดเรือนร่างของเธอจนเกิดบาดแผลเป็นทางยาวจนเจ้าตัวนั้นส่งเสียงร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยแต่ก็ไม่เป็นผล เสียงของเธอนั้นไม่อาจดังเข้าไปเรียกสติของคนหน้ามืดที่กำลังตกอยู่ผวังโกรธกริ้วได้เลยสักนิดจนในที่สุดชุดเดรสก็ขาดวิ่นก่อนจะถูกกระชากออกไปจากตัวของหญิงสาวอย่างแรงปรากฏร่างเปลือยเปล่า ที่มีเพียงชุดชั้นในสีดำสองชิ้นเท่านั้นที่ปรากฏต่อสายตาให้ได้เห็น
รินลดาสะอื้นไห้อย่างหนักต่อการกระทำที่โหดร้ายของสามีที่กระทำต่อเธอ มือทั้งสองพยายามปกปิดส่วนสงวนของร่างกายเอาไว้แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าคงปกปิดอะไรได้ไม่มากนักแต่อย่างน้อยเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเธอเองมันก็ยังดีกว่าที่ต้องทนยืนเปลือยให้คนใจร้ายตรงหน้าได้เห็น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ตายแล้วพี่หนูเล็ก! นี่มันเกินไปแล้วนะคะพี่ภพ!” ทิพย์อักษรที่ใจเย็นทนรอให้ทั้งสองเปิดประตูให้ไม่ไหวถึงได้ขอเอากุญแจสำรองไขเข้ามาร้องลั่นขึ้นอย่างตกใจอย่างหนักกับสภาพของพี่สะใภ้ที่ได้เห็น ปากว่าพี่ชายที่ใจร้ายของตัวเองก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปคว้าเอาเศษเสื้อผ้าที่ตกอยู่ที่พื้นมาช่วยคลุมร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่าของพี่สะใภ้เอาไว้แน่น
“แค่นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จภายในห้านาที อย่าให้ฉันต้องเข้ามาเหยียบห้องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นเธอจะมีสภาพไม่ต่างอะไรจากเศษผ้าพวกนั้น!” กล่าวจบก็สะบัดตัวเดินจากไป ทำให้ห้องทั้งห้องเหลือไว้แต่สองสาวที่ต่างกำลังกอดกันร้องไห้อย่างหนัก ทิพย์อักษรรู้สึกผิดจับใจที่ไม่อาจช่วยอะไรพี่สะใภ้ ตามที่เคยให้สัญญากับผู้เป็นย่าเอาไว้ก่อนมา
“เจ็บมากไหมคะพี่หนูเล็ก น้องทิพย์ขอโทษนะคะที่เข้ามาช้าไป พี่ภพนะพี่ภพคนอะไรร้ายกาจที่สุด คอยดูนะน้องทิพย์จะกลับไปฟ้องคุณย่าให้เข็ด!”
“ไม่ได้นะคะน้องทิพย์ ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ”
“จะไม่ได้ได้ยังไงกันคะ เพราะถึงเราไม่พูดยังไงเสียคุณย่าก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละค่ะ มาเถอะค่ะเดี๋ยวน้องทิพย์ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นะคะ” รินลดารับคำด้วยการพยักหน้าก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกมาจากห้องรองชุดในเวลาต่อมาก็พบว่าตรีภพนั้นกำลังยืนกอดอกรออยู่ที่หน้าร้านแต่ครั้งนี้กลับไร้วี่แววคู่ขาที่เขาควงมาด้วยแต่อย่างใด หากให้ทั้งสองเดาเขาคงจะไล่เธอคนนั้นกลับไป ในระหว่างที่ยืนรอทั้งสองสาวช่วยกันเปลี่ยนชุดอยู่ไม่ผิดแน่
“เราหมดธุระที่นี่แล้ว กลับบ้าน!” ตรีภพเป็นคนแรกที่พูดขึ้นหลังจากใช้สายตาไม่สบอารมณ์ของตัวเองจ้องมองภรรยาขึ้นลงอย่างพอใจก่อนจะรั้งต้นแขนเล็กให้เดินตามตัวเองไปยังทางออกที่มีรถส่วนตัวของเขาจอดรอเอาไว้อยู่ก่อนหน้าแล้วในทันที