วันต่อมา
"น้ำเต้าหู้จ้าาา~ สดๆ ใหม่ๆ เลยนะจ๊ะ"
"น้ำเต้าหู้จ้า วิ่งเสร็จแล้วอย่าลืมมาซื้อน้ำเต้าหู้พอใจไปกินรองท้องนะจ๊ะ"
พอใจกับกะรัตมาเตรียมของเพื่อขายกันตั้งแต่เช้า เมื่อเตรียมเสร็จเธอทั้งสองคนก็ช่วยกันเข็นรถเข็นมาขายของที่สวนฯ ตามเดิม ส่วนพ่อเลี้ยงกับแม่ของพอใจไม่อยู่บ้าน ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าหากไม่อยู่บ้านแบบนี้แต่ละคนไปทำอะไรที่ไหน ถ้าเป็นแม่เธอก็คงจะเมาหัวราน้ำอยู่ที่ไหนสักแห่ง หรือไม่ก็อยู่ในวงไพ่ที่บ่อนแถวนี้ ส่วนพ่อเลี้ยงคงอยู่ตามซอกตามหลืบ หรือไม่ก็ตามตึกร้างเพื่อรอส่งยา หรือไม่ก็เล่นยากับพรรคพวกของเขา นั่นแหละ
"น้องพอใจ พี่เอาน้ำเต้าหู้ห้าถุงครับ"
"ได้ค่า"
"สวัสดีครับน้องกุ้ง"
"วันนี้มาวิ่งคนเดียวเหรอคะพี่เปา" กะรัตเอ่ยทักทาย คนนี้ก็เป็นลูกค้าประจำของพอใจ เขามาซื้อบ่อยจนเริ่มสนิทขึ้นนิดหน่อย
"ครับ เพื่อนๆ พี่ขอพักหนึ่งวัน วันนี้เลยซื้อแค่ห้าถุงเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เปา นี่ค่ะพอใจแถมซาลาเปาให้พี่เปาห้าตัวเลย"
"เยอะไปครับ แค่ตัวเดียวก็พอ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ ถ้าพอใจไม่ได้พี่เปา ร้านน้ำเต้าหู้ของพอใจคงไม่มีใครซื้อแน่"
ก็เพราะว่าเปามาวิ่งทุกวันตั้งแต่สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดใหม่ๆ เขาอยู่คอนโดที่ไม่ไกลจากแถวนี้สักเท่าไหร่ จนพอใจมาขายน้ำเต้าหู้วันแรก และยังเป็นเจ้าแรกของที่แห่งนี้ด้วย เปามาซื้อน้ำเต้าหู้เธอกินครั้งแรกเพียงแค่หนึ่งถุงเท่านั้น หลังจากนั้นก็ซื้อทุกวัน และเริ่มเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพักหลังๆ ยังชวนเพื่อนมาวิ่ง และมาซื้อน้ำเต้าหู้ของเธอกินจนเธอมีรายได้มากขึ้น
"ไม่อยากรับเลย อยากให้น้องพอใจขายได้เยอะๆ "
"นะคะ พอใจเสียน้ำใจแย่เลย"
"รับไปเถอะค่ะพี่เปา พี่เปาใจดีกับพอใจก็เหมือนดีกับกุ้งด้วยเหมือนกัน"
"ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวพี่จะถ่ายรูปอวดเพื่อนสักหน่อยว่าได้กินซาลาเปาฟรี พวกมันต้องเสียดายที่วันนี้ไม่มาวิ่งกับพี่แน่นอน"
"ซื้อเสร็จแล้วใช่มั้ย"
"เสร็จแล้วก็ถอยไป คนอื่นจะได้ซื้อบ้าง"
"พี่ลมหนาว คุณเชฟ" หึ ทักไอ้ลมก่อนเลยนะ มันน่าหมั่นไส้นัก
"ทำไมพูดกับลูกค้าของพอใจไม่ดีเลยคะ พอใจต้องขอโทษแทนพี่ชายพอใจด้วยนะคะพี่เปา" ประโยคแรกเธอหันไปดุเข็มทิศที่พูดจาไม่ดีกับลูกค้าของเธอ ส่วนประโยคหลังเธอกล่าวขอโทษลูกค้าที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
"ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาอุดหนุนใหม่"
"พี่ชาย? " ลมหนาวพูดขึ้นแล้วแสร้งหันไปมองเข็มทิศที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่แบบนั้น
"ค่ะ ก็พี่ลมหนาวดูแลพอใจมานี่คะ ขอบคุณนะคะ" เหอะ ไอ้ลมที่ไหนเล่า เขาต่างหาก
"ไม่ชะ…!"
"ขอกินน้ำเต้าหู้หน่อย" ลมหนาวกำลังจะเอ่ยปฏิเสธ แต่เข็มทิศก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ทำให้พอใจงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเล็กน้อย กะรัตกำลังกางโต๊ะพร้อมเก้าอี้เล็กๆ ให้ทั้งสองคนนั่งแล้วเดินมาหาพอใจ
"ของซื้อของขาย มาขอกันกินง่ายๆ ได้ไงคะ"
"ฉันซื้อ ฉันไม่กินฟรีหรอกน่า"
"ฮั่นแน่ ไม่ใช่ว่ามากินน้ำเต้าหู้พอใจแล้วจะเอาไปขายเองนะคะ พอใจหวงสูตรนะ"
"ยัยบื้อ เอาน้ำเต้าหู้มา"
ลมหนาวนั่งแอบขำกับทั้งสองคนอยู่ไม่ต่างจากกะรัตเองก็ด้วยที่นั่งแอบขำอยู่เช่นกัน พอใจจัดการตักน้ำเต้าหู้ใส่แก้วให้ทั้งสองคนแล้วเป็นฝ่ายยกมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง
"หืมมม มุมปากเธอทำไมเป็นรอยช้ำละ"
เข็มทิศสังเกตเห็นในตอนที่พอใจโน้มตัวลงมาแล้วเสิร์ฟน้ำเต้าหู้ให้เขา ใบหน้าของเธอค่อนข้างใกล้กับเขา จนเขาสังเกตได้
"เอ่อ พ พอใจนอนละเมอต่อยหน้าตัวเองน่ะค่ะ"
"โว๊ะ! ซื่อบื้อยันในฝันเลยนะ แล้วฝันว่าอะไรเหรอทำไมถึงละเมอละ"
"ฝันว่าต่อยคุณเชฟอยู่มั้งคะ" พูดแล้วก็รีบวิ่งหนีเขามายืนขายของประจำที่จนกระทั่งมีรถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดต่อจากรถของลมหนาว
"ไอ้โซ่ ทางนี้" โซ่เป็นนักศึกษาคณะวิศวะปีเดียวกันกับพอใจ มหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาเป็นรุ่นน้องของลมหนาวที่เจอกันที่สนามแข่งรถบิ๊กไบค์บ่อยๆ ทั้งสองเปิดสนามแข็งรถเหมือนกันต่างกันเพียงแค่ของลมหนาวผิดกฎหมายส่วนของโซ่เป็นสนามเถื่อนเหมือนกัน แต่โซ่ดันมีแบ็กอัปที่ดี เลยได้ยกระดับมาเป็นสนามที่ถูกกฎหมาย แต่ทั้งสองคนก็มักจะช่วยเหลือ และแลกเปลี่ยนอะไรกันอยู่บ่อยๆ นับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง
"เฮียลมหวัดดี"
"กูคิดว่ามึงจะไม่มา นั่งก่อนนั่ง น้ำเต้าหู้ร้านน้องกูกินดิ อร่อยนะเว้ย"
"เฮียเข็มหวัดดีครับ ผมขอน้ำเต้าหู้ใส่ทุกอย่างหนึ่งแก้วครับ" ประโยคแรกโซ่หันไปทักทายเข็มทิศ ส่วนประโยคต่อมาก็หันไปสั่งน้ำเต้าหู้กับแม่ค้าที่แสนจะน่ารัก
"ได้ค่าา"
โซ่ยังคงมองพอใจอยู่ไม่เลิก แถมเขายังอมยิ้มอีกด้วย และทุกการกระทำของเขาก็อยู่ในสายตาของเข็มทิศ และลมหนาว
"มองตาไม่กะพริบเลยนะมึง"
"ต้องมองดิเฮีย นี่เด็กทุนที่ขึ้นชื่อว่าเก่งมากๆ คนนึงของมหา'ลัยเลยนะ ปกติจะเจอตัวได้ยากเพราะไม่ค่อยออกจากห้องเรียน ขนาดกลางวันกินข้าวนานๆ ทีถึงจะลงมาเลย ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยเฮีย ว่าพอใจขายของอยู่ที่นี่"
พูดแล้วก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดหมายจะสูบ แต่ก็ต้องชะงักไปกับสายตาของเข็มทิศที่มองเขา และยังมองไปที่มวนบุหรี่ที่เขาคาบเอาไว้อีกต่างหาก
"สูบไม่ได้เหรอเฮีย" ถามเข็มทิศ ที่นั่งเงียบมาตั้งนานแล้ว
"พอใจแพ้ควันบุหรี่น่ะ"
"อ้าว โทษทีเฮีย ผมไม่รู้"
"น้ำเต้าหู้ได้แล้วจ้าาา~" คนที่มาเสิร์ฟเป็นกะรัต เพราะพอใจต้องทำน้ำเต้าหู้ให้กับคนที่มายืนออต่อแถวซื้อ เข็มทิศที่เห็นอย่างนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินมายืนข้างๆ พอใจ ช่วยพอใจเอาปาท่องโก๋ ซาลาเปาใส่ถุง แย่งหน้าที่ของกะรัตจนกะรัตทำหน้าเหลอหลาเพราะไม่มีงานทำ
"มานั่งนี่มา" ลมหนาวกวักมือเรียกกะรัตให้ไปนั่งแทนที่ของเข็มทิศ เธอก็เดินไปนั่งด้วยอาการงงๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจอะไรเลย เธอพอจะเห็นอาการของเข็มทิศอยู่บ้างซึ่งมันก็แตกต่างจากเมื่อวานที่เขาแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างสิ้นเชิง
"พี่ๆ เพื่อนพี่ชอบเพื่อนกุ้งเหรอ"
"ไม่รู้สิ"
"จิ๊! กวนประสาท"
"นี่เธอว่าฉันเหรอ" ลมหนาวหันมาหมายจะเอาเรื่อง แต่ก็ต้องหยุดเมื่อกะรัตทำท่าทีไม่สนใจลมหนาว แล้วยังลอยหน้าลอยตายิ้มให้กับโซ่อีกด้วย
"ยัยเด็กแก่แดด!"
"ผู้ใหญ่อะไร โตแต่ตัว"
เข็มทิศช่วยพอใจทั้งมัดถุงน้ำเต้าหู้ ทอดซาลาเปา ปาท่องโก๋อยู่ยกใหญ่จนผู้คนเริ่มเบาบางลงพร้อมกับของที่พอใจเตรียมมาก็เริ่มน้อยลงแล้ว
"เหนื่อยมั้ยคะ"
"ไม่เท่าไหร่ เธอนั่นแหละเหงื่อแตกเชียว"
เข็มทิศหันไปเช็ดมือ แล้วหยิบทิชชูมาซับเหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้า และไหลลงตามลำคอของพอใจอย่างแผ่วเบา พอใจรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองเริ่มร้อนผ่าวเพราะเธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอไม่คิดว่าเข็มทิศจะทำกับเธอแบบนี้
"เอ่อ"
"น้ำเต้าหู้หวานเหมือนกันนะเฮีย" โซ่เอ่ยแซวแล้วยิ้มมุมปาก
"ใช่ๆ ฉันก็ว่างั้น" กะรัตก็ร่วมวงด้วย แต่มีใครบางคนที่ไม่เข้าใจ
"หวานจริงเหรอ ของฉันก็อร่อยเป็นปกตินะ ไหนเอาแก้วเธอมาชิมดิ"
"เฮ้ยพี่! นี่มันแก้วของกุ้งนะ"
"ก็ฉันจะชิมแก้วเธอ" ศึกระหว่างกะรัตกับลมหนาวทำเอาบรรยากาศดูดีขึ้นมานิดหน่อย ปกติพอใจคงจะนั่งเหนื่อยหอบอยู่คนเดียว แต่วันนี้เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอเริ่มมีสีสันขึ้นมาบ้างแล้ว
"เหนื่อยขนาดนี้แล้ว ยังจะขายโจ๊กอีกเหรอ"
เข็มทิศถามขึ้นมาในตอนที่กำลังค่อยๆ ซับเหงื่อที่ลำคอระหงให้พอใจ พอใจพยายามใช้มือปัดมือเขาแล้ว แต่ก็เหมือนกับว่าจะเข้าทางเข็มทิศพอดี เพราะเขาใช้จังหวะนี้จับมือของเธอออก แล้วถือโอกาสประสานมือกับเธอเอาไว้เลย
"ก็พอใจต้องทำมาหากินนี่คะ"
"ไม่ต้องทำแล้ว มาเอาเงินที่ฉันมั้ย"
"พูดจริงเหรอคะ พอใจเอาหมดตัวเลยนะ" เธอคิดว่าเขาพูดเล่น เธอจึงหยอกเขากลับไป
"ฉันพูดจริง"
"ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวคุณไม่จ่ายเงินเดือนพอใจ"
"ยัยงกเอ๊ย!" ทั้งสองคนต่างก็หัวเราะออกมา แล้วหันมาช่วยกันขายของต่อจนของของพอใจหมดเกลี้ยงรถเข็นเลย