“แม่ของน้องพีทน่ะมีชู้ พันศักดิ์เลยขับรถตามเมียกับชู้ไปจนเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตาย พายเลยไม่อยากพูดถึงพี่สะใภ้ให้ลูกฟัง แค่ให้น้องพีทรู้ว่ามีลุงที่เสียชีวิตไปนานแล้ว”
“สงสารน้องพีทจังเลยนะคะ”
“แม่ก็สงสาร และรู้จักครอบครัวนี้ พ่อแม่ของพายก็ตายไปนานแล้ว เหลือแต่พายที่ต้องดูแลธุรกิจของครอบครัวเพียงคนเดียว น้องพีทเลยค่อนข้างจะขาดคนดูแล แม้พายเขาจะให้ความรักลูกเต็มที่ แต่เด็กที่ขาดแม่ก็ย่อมโหยหาความรักจากแม่เป็นธรรมดา ถ้าหนูช่วยอะไรเขาได้ก็ช่วยนะลูก อย่างน้อยเขาก็มีบุญคุณกับหนู”
“ค่ะคุณแม่”
ฟ้าใสรับปากมารดา เธอเลยอยู่โยงเฝ้าไข้คนป่วยแทนการจ้างพยาบาลพิเศษ ส่วนน้องพีทเธอก็จัดการอาบน้ำอาบท่า ป้อนข้าวและพาไปส่งโรงเรียนทุกวัน นับวันเข้าน้องพีทยิ่งติดเธอ เธอเองก็ทำตัวเหมือนคุณแม่เข้าไปทุกวัน
“หลายวันมานี่คุณฟ้าคงเหนื่อยแย่”
คนป่วยที่นั่งมองเธอปอกผลไม้อยู่บนเตียงพูดขึ้นอย่างเกรงใจ
“ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยค่ะ คุณช่วยชีวิตฟ้าเอาไว้”
“น้องพีทติดคุณมากเลยนะครับ อยากได้คุณเป็นแม่จริงๆ”
“อุ๊ย!”
เธออุทาน มีดปอกผลไม้บาดมืออย่างไม่ตั้งใจ
“ขอโทษครับ ผมทำให้คุณโดนมีดบาดเลย”
เขารีบพยุงตัวเองมาดูแผลให้เธอ แต่เธอบอกว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะจัดการห้ามเลือดและไปทำแผล
“เมื่อครู่ผมขอโทษนะครับ”
เขาพูดอย่างสำนึกผิด ขณะเธอทำแผลเสร็จแล้วและเดินเข้ามาในห้องพักฟื้น
“ไม่ต้องขอโทษฟ้าหรอกค่ะ ฟ้าเองก็เอ็นดูน้องพีทเหมือนกัน แกขาดแม่ก็คงอยากมีแม่เป็นธรรมดาน่ะค่ะ”
“แล้วเอ่อ... คือผมก็ยังไม่มีแฟนน่ะครับ”
คนพูดลูบท้ายทอยไปมา อาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เลยพอจะขยับร่างกายได้ไม่ปวดแผลเหมือนก่อน ใบหน้าของเขาขึ้นสีเรื่อ ขณะพูดกับคนตรงหน้า
“คะ?”
เขายังไม่มีแฟนแล้วมาบอกเธอทำไมกัน ฟ้าใสมองหน้าเขาก่อนจะหน้าแดงเมื่อเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“คือคุณฟ้าลองคบกับผมไหมครับ”
“คะ?”
เธอมองเขาตาปริบๆ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาคงพูดเล่นใช่ไหม”
“ผมพูดจริงๆ ครับ คือน้องพีทชอบคุณ ผมเองก็ไม่เคยมีใครเป็นตัวเป็นตน ผมชอบคุณมาก เราลองมาคบกันไหมครับ”
“ฟ้าขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ”
“ครับ ผมไม่ได้เร่งรัดครับ อายุก็ขนาดนี้แล้ว”
เขาพูดเก้อๆ กลัวเธอปฏิเสธ แต่อย่างน้อยเธอก็ขอเวลาคิด แสดงว่าก็ยังไม่ได้ปฏิเสธเขาในคราเดียว
“คุณครูพี่ฟ้าครับ คิดถึงจังเลย”
เสียงของเด็กน้อยขัดจังหวะคนทั้งคู่ พศินวิ่งเข้ามากอดขาของฟ้าใสเอาไว้อย่างประจบประแจง คนที่พาเด็กน้อยมาโรงพยาบาลคือมารดาของเธอนั่นเอง
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
พายัพยกมือไหว้ผู้มาใหม่ไม่ต่างจากฟ้าใส
“แม่อยากมาเยี่ยมพายัพน่ะ เลยพาน้องพีทมาด้วยเสียเลย หนูจะได้ไม่ต้องไปรับไง”
ปกติฟ้าใสต้องไปรับพศินที่โรงเรียนทุกวันพามาเยี่ยมบิดา อาบน้ำ สอนการบ้านและพาเข้านอน ห้องพิเศษที่โรงพยาบาลอาจจะไม่สบายเหมือนบ้าน แต่เด็กน้อยมีความสุขที่ได้อยู่กับบิดาและคุณครูพี่ฟ้า แค่นี้เพียงพอแล้วสำหรับเด็กตัวเล็กๆ ที่อยากมีครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนคนอื่นเขา แม้จะรู้ว่าฟ้าใสไม่ใช่มารดา แต่เด็กน้อยกลับคิดเสมือนว่าอีกฝ่ายเป็นมารดา และตัวเองก็มีแม่เหมือนคนอื่นเขาแล้ว
“อาการเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
“ผมโอเคขึ้นมากแล้วครับ ไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว นั่งๆ นอนๆ ผมชักจะเบื่อแล้วเหมือนกัน เกรงใจคุณฟ้าด้วยน่ะครับ”
“อาการดีขึ้นก็ดีแล้ว เรียกยัยฟ้าว่าคุณอะไรกัน เราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย”
“ครับ”
เขายิ้มรับ ฟ้าใสไม่ได้ว่าอะไร เธอเองก็อยากทำตัวสนิทกับเขาให้มากกว่านี้ แต่ไม่กล้าเอ่ย
“งั้นป้าไปก่อนนะ ขอให้ดีวันดีคืนแล้วกัน ป้าซื้อของมาเยี่ยมเยอะแยะ กินบำรุงมากๆ จะได้แข็งแรง”
“ขอบคุณครับคุณป้า”
พายัพยกมือไหว้ ฟ้าใสเดินไปส่งมารดาหน้าห้อง เพราะท่านโบกไม้โบกมือว่าไม่ต้องไปส่งถึงรถก็ได้ ท่านเดินไปเองได้ ฟ้าใสจึงส่งมารดาแค่หน้าลิฟต์
ฟ้าใสเข้าห้องพักผู้ป่วย ก่อนจับเด็กน้อยอาบน้ำและรับประทานมื้อเย็นพร้อมกันกับคนป่วย
หลังจากนั้นก็สอนการบ้านและพาเด็กน้อยเข้านอน เธอห่มผ้าให้ร่างอ้วนกลมที่หลับปุ๋ยไปพร้อมกับตุ๊กตา ปากอิ่มจรดที่หน้าผากเล็กๆ อย่างเอ็นดูระคนรักใคร่
เด็กน้อยกอดมือฟ้าใสเอาไว้ อมยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนกับฝันดี
“อิจฉาน้องพีทจังเลยครับ”
คนป่วยที่เดินเหินลงมาจากเตียงได้แล้วเอ่ยขึ้น เธอหันไปมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“อิจฉาทำไมเหรอคะ”
“อยากโดนจุ๊บหน้าผากก่อนนอน แล้วบอกว่าฝันดีบ้างน่ะครับ”
คนพูดแอบเกี้ยวคนตรงหน้า ฟ้าใสหน้าแดงก่อนจะค้อนให้คนป่วย
“หมอบอกว่าเดี๋ยวคุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ”
“ครับ ดีใจที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล แต่ตอนนี้ไม่อยากออกจากโรงพยาบาลซะแล้วสิครับ”
“ทำไมละคะ”
“ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ไม่ได้เห็นหน้าน้องฟ้าทุกวันแบบนี้สิครับ”
“แน่ะ! ทำยังกับว่าจะไม่ไปรับน้องพีทที่โรงเรียนนะคะ ไปรับน้องพีทก็เจอฟ้าแล้วค่ะ”
“แต่อยากเจอแบบอยากอยู่ด้วยกันแบบนี้น่ะครับ พี่ต้องทำยังไงครับ”
เขาเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ก่อนจะยกมือเธอขึ้นมากุมเอาไว้
“จะจีบฟ้าเหรอคะ”
“ครับ กำลังจีบอยู่นี่แหละ จนกว่าน้องฟ้าจะยอมเป็นแฟนด้วย”
“ขอเวลาคิดก่อนสิคะ”
“ก็ให้คิดครับ ระหว่างนี้ก็จีบไปพลางๆ ก่อน”
เขายกมือเธอขึ้นมาจุมพิตเบาๆ ตรงหลังมือ มองสบตาเธอด้วยความรู้สึกเสน่หา
“อยากจีบก็จีบไปสิคะ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
เธอเขินอาย ดึงมือหนี หันหลังให้เขา แต่สัมผัสได้ถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่กอดแนบมาจากทางด้านหลัง
“ขอบใจนะที่มาดูแลพี่ทุกวัน”
“พี่พายช่วยชีวิตฟ้าเอาไว้นี่คะ”
เธอยอมให้เขากอด หัวใจเต้นแรงแทบกระหน่ำออกมานอกอก
“แค่ช่วยชีวิตเองเหรอครับ ไม่ได้คิดอะไรกับพี่สักนิดเลยเหรอ”
เขาหมุนร่างเธอมาหา คนเขินอายไม่กล้าสบตา
“ไม่คิดสักนิดเลยเหรอ”
เขาเชยคางมนให้แหงนขึ้นสบตา ถามซ้ำอย่างอยากรู้ เธอหน้าร้อนผ่าว หลบตาเขาอีกครั้ง ในขณะที่เขาก้มลงมาเพื่อจะจุมพิต กลายเป็นเขาพลาดไปหอมแก้มเธอแทน
“อุ๊ย!”
“ฟ้ารักน้องพีทไหมครับ”
เขาเอ่ยถาม เธอพยักหน้าก่อนตอบเสียงสั่นๆ
“รักค่ะ น้องพีทน่ารัก น่าเอ็นดูมากๆ และก็น่าสงสารด้วยค่ะ แกอยากมีแม่”
“แล้วไม่อยากเป็นแม่จริงๆ ของน้องพีทเหรอครับ”
“เอ่อ...”
เล่นถามเธอแบบนี้จะให้ตอบว่ายังไงกันล่ะ
“แล้วพ่อของน้องพีทละครับ รักหรือเปล่า”
“ถามกันแบบนี้จะให้ตอบว่ายังไงละคะ”
“ตอบกว่ารักและเอ็นดูคนไม่มีเมียคนนี้หรือเปล่า ใจอยากมีเมียกับเขาเหมือนกันนะครับ แต่พอผู้หญิงเห็นว่าพี่มีลูกติด ก็ไม่มีใครจริงจังด้วย น้องฟ้าจะเมตตาพ่อหม้ายลูกติดแบบพี่ไหมครับ”
แม้พศินจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็คือลูก ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่อยากมีลูกติด บางคนก็แค่อยากได้เขาแต่ไม่อยากได้ลูก เขาสงสารพศินเลยไม่ยอมแต่งงานสักที ชาติกำเนิดของพศินน่าสงสารมากพอแล้ว เขาไม่อยากสร้างปมให้เด็กอีก
“ไม่ได้รังเกียจค่ะ แต่ขอคิดก่อนสิคะ”
เธอตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แม้ใจจะเอนเอียงไปทางเขาอยู่มาก แต่เพราะยังอยากดูกันไปเรื่อยๆ ไม่อยากรีบร้อน
“ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ถ้าพี่แวะไปหาที่คอนโดได้ไหมครับ เผื่อน้องพีทอยากจะเที่ยว”
“น้องพีทอยากเที่ยวก็ชวนฟ้าไปเป็นเพื่อนได้ค่ะ”
“แล้วถ้าพ่อน้องพีทอยากเที่ยว ก็ชวนได้ใช่ไหมครับ”
“ชวนได้ค่ะ”
เธอตอบรับแล้วยิ้ม เขาไล้แก้มสาวไปมา รอบนี้กดจุมพิตลงไปบนกลีบปากหวาน โดยที่เธอหลบไม่ทัน