ม่านมุก หญิงสาวหน้าตาดีเรียนจบปริญญาตรีมาจากอังกฤษ ฐานะทางบ้านโดยพอสมควรแต่เธอเป็นคนที่มีนิสัยไม่ชอบยุ่งหรือสุงสิงกับใคร หรือเรียกง่ายๆว่า เธอมีโลกส่วนตัวสูงนั่นเอง ม่านมุกยังไม่ได้หางานทำที่ไหนเพราะเธอเพิ่งจะเรียนจบมาหมาดๆ เธอจึงอยากอยู่แบบนี้ไปก่อนจนกว่าจะหางานสายที่เธอเรียนมาได้
แม่ของม่านมุกชื่อว่าสมร พ่อของเธอได้ตายจากไปหลายปีแล้วด้วยโรคหัวใจกำเริบ แม่ของเธอจึงมีสามีใหม่ซึ่งอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี แถมพ่อเลี้ยงของเธอคนนี้ยังชอบมีนิสัยและท่าทีแปลกๆกับเธออีก ชอบมาเคาะประตูห้องของเธอกลางดึกเวลาที่แม่ของเธอไม่อยู่ หรือชอบทำตัวรุ่มร่ามกับเธอ มากสุดเคยถูกพ่อเลี้ยงจับที่บั้นท้ายของเธอ และพ่อเลี้ยงของเธอก็กล่าวขอโทษและบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุทั้งๆที่เธอรู้สึกว่ามันเป็นการจงใจที่จะทำ
จนกระทั่งวันนี้...
ม่านมุกหนีออกจากบ้านเพราะเธอเกือบจะถูกพ่อเลี้ยงของเธอข่มขืน เธอใช้แจกันฟาดที่หัวของพ่อเลี้ยงอย่างแรงจนเลือดอาบหน้าจากนั้นเธอก็รีบวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เธอไม่มีเงินหรืออะไรติดตัวมาเลยเพราะตอนที่เธอหนีมาเธอไม่ได้คว้าอะไรมาสักอย่างแม้กระทั่งรองเท้า เธอคิดแค่ว่าจะต้องหนีไปให้ได้
เธอเดินมาตามทางเรื่อยๆไม่มีจุดหมายที่จะไปเพราะเธอไม่มีเพื่อนที่ไหน และเธอก็กลับบ้านไม่ได้เพราะพ่อเลี้ยงของเธอจะต้องรอเธออยู่ที่บ้านแน่ๆ และเธอก็เคยบอกเรื่องนี้กับแม่ของเธอให้รับรู้แล้วแต่แม่ของเธอกลับไม่สนใจอะไรเลย
ซ่าาา!!!
ในขณะที่ม่านมุกกำลังเดินไปตามทางเรื่อยๆห่าฝนก็โหมกระหน่ำลงมาทันทีราวกับฟ้ารั่วเหมือนจงใจจะแกล้งเธอ ม่านมุกรีบวิ่งไปหาที่หลบฝนทันที เธอเข้าไปนั่งอยู่ที่ศาลาริมถนนตรงนั้นมันมีเพียงไฟที่อยู่หน้าถนนเท่านั้น ส่วนตรงศาลามืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย
ร่างบางนั่งขดตัวสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ ร่างกายของเธอเปียกปอนจากเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก
"ฮึกกก....พ่อจ๋ามุกคิดถึงพ่อ" เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้จนตัวสั่น นึกถึงวันวานที่เธอและครอบครัวมีความสุขด้วยกัน แต่หลังจากที่พ่อของเธอจากไป แม่ของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีจากคนที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนก็กลายเป็นคนที่ถูกผีพนันเข้าสิง เล่นการพนันจนต้องเอาของและสมบัติในบ้านไปขายจนหมด เหลือเพียงสร้อยที่ม่านมุกใส่อยู่เส้นเดียว ด้านในสร้อยเป็นรูปของเธอและพ่อ เธอหวงสร้อยเส้นนี้มากเพราะมันคือสิ่งเดียวที่พ่อเธอให้ไว้กับเธอก่อนจะจากไป ถึงมันจะมีราคาไม่แพงแต่มันก็มีคุณค่าทางใจกับเธอมาก
ครืน!!ครืนน!!ซ่า!!
ฝนยังคงโหมกระหน่ำลงมาอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเลย ม่านมุกเธอไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเธอเลยไม่ค่อยรู้จักและชินเส้นทางบนถนนแห่งนี้ เธอนั่งขดตัวสั่นเทาด้วยความหนาวสั่น บวกกับอาการปวดหัวที่กำลังเพิ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ....เธอกำลังเป็นไข้
นานพอสมควรที่ม่านมุกนั่งทนหนาวสั่นอยู่แบบนั้น รอที่จะมีคนขับรถผ่านมาแต่มันก็ไม่มีเลย ท้องถนนด้านหน้าของเธอเงียบสนิทไม่มีแม้แต่แสงไฟของรถสักคันที่จะขับผ่านมา มีเพียงเสียงฝนที่ตกลงดังกระทบพื้นและแสงไฟจากเสาที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าถนน สายตาของม่านมุกจับจ้องไปยังด้านหน้าอย่างมีความหวัง จนสายตาของเธอเริ่มที่จะพร่ามัวมองอะไรไม่ค่อยเห็น
ร่างกายของเธอเริ่มที่จะปรับสภาพไม่ได้ อาการปวดหัวก็เพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอเริ่มที่จะควบคุมอาการมันไม่อยู่ ปากบนและปากล่างของเธอสั่นกระทบกันไปมาจนมีเสียงดังออกมาเล็กน้อย
และแล้ว....
ม่านมุกก็ล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้นไม่ได้สติอีกเลย
จนกระทั่งสายๆของวันต่อมา.....
มีคนขับรถมาพบกับม่านมุกที่นอนจมกองไข้อยู่อย่างไม่ได้สติ ก่อนที่จะพาเธอไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพราะเธอกำลังช็อคกับพิษไข้
"เธอฟื้นเมื่อไหร่พาไปที่บ้านของฉันทันที"
"ครับนาย"