“ชีวิตก็สุขสบาย ตั้งแต่เล็กจนโต กระทั่งผมทะเลาะกับพ่อ ถูกตัดหางปล่อยวัด มีที่นี่เป็นที่ซุกหัวนอน เพราะห้องนี้เป็นของแม่ที่ยกให้ผมแล้ว และเงินในบัญชีที่มากพอจะให้ผมใช้ชีวิตที่เมืองไทยได้อย่างไม่ยากลำบาก ถ้าไม่โดนแก๊งคอลฯ เซ็นเตอร์
หลอกโอนหมดตัวก่อนนะครับ”
คำพูดของโจฟินทำให้หญิงสาวหัวเราะร่วน
“ก็อย่าประมาทนะคะ มีคนหมดตัวเพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมาแล้วมากมาย บางคนถึงกับลาโลกเลยนะ”
“ผมจะระวังครับ แต่ถ้ามีเพื่อน มีคนให้ปรึกษาอย่างคุณ ผมคิดว่าผมคงเอาตัวรอดได้ เพราะที่ผ่านมา ผมมาเมืองไทยแค่ตอนมาเที่ยวกับคุณแม่เท่านั้น”
“ไม่มีญาติที่เมืองไทยเหรอคะ”
“มี แต่ไม่สนิท และไม่อยากยุ่งกับพวกเขาเท่าไหร่ เจอหน้าก็ขอแต่เงิน”
“ฉันเข้าใจค่ะ เอาเป็นว่า ฉันจะเป็นที่ปรึกษาให้คุณใช้ชีวิตในเมืองไทยแล้วกัน”
“ขอบคุณมากๆ ครับบี” เขาดีใจจนลืมตัว ขยับตัวเข้ากอดเธอไว้แน่น พอหญิงสาวไม่ได้ขัดขืน เขาก็กอดไว้แบบนั้น
ดวงตาสีฟ้าเข้มสานสบกับดวงตาสีดำขลับของหญิงสาว
โจฟินเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าที่สวมแมส เธอไม่ขยับหนี เขาเลยจูบปากเธอผ่านแมส แล้วยิ้มให้จนดวงตาสีฟ้าเข้มเป็นประกายขบขัน
“ตลกเหรอ” เธอถามแล้วหัวเราะเบาๆ เพราะจะว่าไปมันโคตรขำเลยละ
“ไม่ตลกหรอก แต่แปลกนิดหน่อย” แล้วเขาก็หัวเราะเสียงดัง
เธอเลยทุบเบาๆ ที่อก แล้วยอมรับตรงๆ
“ฉันแปลก ฉันยอมรับก็ได้”
“ผมไม่รู้นะครับว่าทำไมบีถึงไม่อยากให้ผมเห็นหน้า บีอาจมีเหตุผล และผมจะไม่เซ้าซี้ แต่ยังไงก็เถอะ ถึงตอนนี้แล้ว ไม่ว่าหน้าบีจะสวยหรือไม่สวย แต่ผมชอบบีนะ อยู่กับบีแล้วสนุกดี”
“ฉันก็สนุก รู้ไหม นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันไว้ใจคนแปลกหน้าขนาดนี้” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ มันทำให้เธอบ้าบิ่นจริงๆ หากโจฟินเป็นผู้ชายโรคจิต หรือพวกก่ออาชญากรรมมาก่อนจะเป็นอย่างไร คงไม่ได้นอนคุยกันแบบนี้แน่นอน
“ตอนนี้ยังแปลกหน้าอยู่เหรอครับ”
“แปลกใจมากกว่าว่าทำไมหล่อขั้นเทพขนาดนี้” เธอพูดแล้วเอื้อมมาลูบแก้มเขาอย่างชื่นชม จบท้ายด้วยการบีบจมูกโด่งๆ นั้นอย่างเอ็นดู แล้วถามขึ้น
“หน้าละอ่อนมาก ถามจริงบรรลุนิติภาวะแล้วนะ”
“ผมอายุยี่สิบเอ็ดแล้วครับ เรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วย บีจะดูพาสปอร์ตผมไหมล่ะ”
“ไม่ดูหรอก ฉันเชื่อคุณ แต่อายุน้อยกว่าฉันตั้งเจ็ดปีแน่ะ เรียกน้องได้ไหมน้า” เธอลากเสียงล้อเลียน
“งั้นผมเรียกพี่ดีไหมน้า” เขาล้อคืน
“ดีเหมือนกันนะ เพราะฉันเป็นลูกคนเดียว งั้นเรียกน้องโจเลยแล้วกัน”
“ไม่เอาครับ ผมไม่อยากเป็นน้อง”
“ฉันก็ไม่อยากมีน้องหล่อๆ เหมือนคุณ”
“ชมหล่อตลอด”
“ก็หล่อจริง” เธอบีบจมูกเขาอย่างเอ็นดู ก่อนบอกต่อไปว่า
“รู้ไหมตัวใหญ่เกินอายุ” เพราะอีกฝ่ายน่าจะสูงเกือบ 190 เซ็นฯ ได้ แถมกล้ามเนื้อลีนไปทั้งตัว
“ผมชอบเล่นกีฬา แต่ว่าบีตัวเล็กไปนะ” เขาแกล้งว่า ทั้งที่จริงนั้นชอบผู้หญิงตัวเล็กแบบเธอนี่แหละ แต่ไม่ใช่ตัวเล็กแล้วรูปร่างแบบบาง แต่เธอมีทรวดทรงชัดเจน ทั้งหน้าอกอวบ เอวคอดและสะโพกกลมกลึง ทั้งเนื้อทั้งตัวดูเย้ายวน เซ็กซี่แบบไม่ต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือโชว์เนื้อหนัง
“ฉันไม่ชอบกินนม”
“แต่ผมชอบ” คนพูดไม่พูดเปล่า ทว่าจ้องหน้าอกที่โผล่ออกมาจากเสื้อคลุม เธอรีบจับสาบเสื้อปิดไว้ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้แมสร้อนเผ่ากับสายตาของเขา
“เด็กบ้า” เธอทุบบ่าเขาเบาๆ
“ถ้าผมปิดไฟหมด บีจะเปิดแมสให้ผมจูบไหม”
“จะอยากจูบอะไรขนาดนั้น”
“ก็มันอยาก”
“เออ ขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ถามเลยครับ”
“ดาราฮอลลีวูด โจชอบใครที่สุด ดาราผู้หญิงนะ”
“ผมชอบสกาเล็ต จอห์นสันครับ ผมหลงรักเธอตั้งแต่ผมอายุสิบขวบ ถึงตอนนี้เธอจะอายุมากแล้ว ก็ยังสวย เซ็กซี่มากๆ”
“แล้วดาราไทยล่ะ”
“ผมไม่รู้จักเลยสักคนครับ เพราะแม่ผมห้ามดูละครไทยตั้งแต่เด็ก บอกว่ามีแต่เรื่องไม่เหมาะที่เด็กจะดู อีกอย่างผมชอบดูหนังฮอลลีวูดมากกว่า ก็ชอบดูแนวแอคชั่นตามประสาผู้ชาย หนังรักแทบไม่เคยดู ยกเว้นเรื่องที่สกาเล็ต จอนห์สันเล่นเท่านั้น”
“อ๋อ ดีแล้วค่ะ ละครไทยน้ำเน่า มีแต่เรื่องตบตีแย่งผู้ชายกัน”
“แม่ผมก็พูดแบบบีนี่แหละ ผมเลยไม่สนใจจะดู เลยไม่รู้จักดาราไทยเลย แล้วบีชอบดาราฝรั่งคนไหนบ้างครับ”
“ชอบคีอานู รีฟ ตั้งแต่เขายังหนุ่ม ยันตอนนี้เลย”
“ว้าว เหมือนแม่ผมเลย แม่ก็ชอบเขามาก บอกว่าหล่อตลอดกาล”
“ใช่ ฉันว่าเขาหล่อขั้นเทพ”
“ขั้นเทพ” โจฟินทำหน้างงๆ
“ก็หล่อระดับเทพบุตร” เธอเปรียบเปรยแบบง่ายๆ เพื่อให้เขาเข้าใจ
“อ๋อ แล้วผมล่ะ หล่อระดับไหน”
“ระดับลูกรักพระเจ้า”
“ว้าว ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขาทำหน้าตื่นเต้นที่ได้รับคำชม
“หล่อขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมให้จูบ”
“อยากมากเลยงั้นสิ”
“ก็มาก มากๆ” เขาลากเสียง ทำตาอ้อนวอน
“งั้นก็มาจูบ” ไม่พูดเปล่า แต่เธอดึงแมสออกทันที
โจฟินถึงกับตัวแข็งค้าง ตาเบิกกว้าง ปากอุทานออกมา
“โอ้มายก็อต”
“เป็นไงล่ะ ตะลึงเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ปากอิ่มนั้นคลี่ยิ้ม
“นี่...มันนางฟ้าชัดๆ”
“อะไร นี่หน้าสดนะ”
“หน้าสด” โจฟินทำหน้างงๆ
“ไร้เมคอัปไง”
“ขนาดไร้เมคอัปยังสวยขนาดนี้เลย” ในสายตาเขา หน้าตาเธอสวยมาก เครื่องหน้าคือเหมาะเจาะและดูน่ารัก มีเสน่ห์มองแล้วก็อยากมองไปเรื่อยๆ
“แสดงว่าชอบสาวหน้าสด”
“ก็มันได้เห็นใบหน้าแท้ๆ มันรู้สึกเหมือนได้รู้จักกันมากขึ้น มันสัมผัสถึงตัวตนอีกด้าน”
“โห เวอร์น่า คนเรามีตั้งหลายด้าน” เรื่องของปณตกับพิมพายทำให้เธอรู้ซึ้งในข้อนี้มากที่สุด
ปณตเป็นผู้ชายจากตระกูลไฮโซฯ ชื่อดัง สุภาพ ให้เกียรติเธอมาตลอดตั้งแต่คบกันมาหกเดือน ส่วนพิมพายเป็นเพื่อนตั้งแต่ร่วมงานกันครั้งแรก ก็ตั้งห้าปีแล้ว
สุดท้ายสองคนนั้นกลับหักหลังเธอ ลักลอบคบกัน ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา คงโกหกเธอต่อไป
คิดถึงสองคนนั่นแล้ว อารมณ์สนุกเธอก็ดร็อปลงทันที
“ใช่ แต่มุมนี้ของบี ผมชอบนะ” ใบหน้าของบีเรียวเล็ก เครื่องหน้ารับกันเหมาะเจาะ จมูกเธอเล็ก ปลายรั้น ปากอิ่มเต็มสีระเรื่อ แก้มเนียนใสเป็นสีแดงปลั่ง เขารู้สึกขำตัวเองที่คิดว่าเธอสวมแมสเพราะไม่สวย
แท้จริงแล้วเธอปิดบังความสวยโดดเด่นของตนเองไว้ต่างหาก
“มุมไม่แต่งหน้านี่นะ”
“สวยของแทร่”
เธอถึงกับหัวเราะก๊ากกับคำชมของเด็กลูกครึ่งที่พูดไทยแปร่งหู แต่ยังอุตส่าห์ใช้ศัพท์นิยมของยุคนี้
“ไปเอาคำนี้มาจากไหน”
“เพื่อนคนไทยสอน”
“เพื่อนอยู่ที่ไทยหรือเปล่า”
“อยู่ที่เมกา หมอนั่นคงไม่ได้กลับไทยง่ายๆ เพราะมีแฟนเป็นสาวอเมริกัน ถ้าเขาอยู่เมืองไทย ผมคงมีเพื่อนบ้าง” ท้ายประโยคมีความเหงาแฝง
“อย่าเศร้าไปเลย มีฉันอยู่ทั้งคน” เธอลูบแก้มเขาปลอบ
“งั้นอยู่กับผมไปนานๆ นะ”
หญิงสาวไม่ตอบ แต่เป็นฝ่ายขยับหน้าไปใกล้ แล้วจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากหยักสวยสีแดงสดของเขา
โจฟินยิ้มบางขณะนอนตะแคงมองใบหน้าสวยของคนที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างตัวเขา
แก้มขาวใสจนเห็นเส้นเลือดฝาดของวัยสาว เธอบอกว่าอายุยี่สิบแปดแล้ว แต่ใบหน้านี้เหมือนเด็กวัยรุ่น บวกกับตัวเล็ก ดีที่ว่าสัดส่วนกลมกลึง มีเว้าโค้งชัดเจน ทำให้ดึงดูดสายตามากๆ และใจเต้นแรงตามมาด้วย
เขามีวันไนท์สแตนท์นับครั้งไม่ถ้วน หรือความสัมพันธ์ชั่วคราวในระยะเวลาหนึ่ง แล้วแยกย้ายกันไปตามทาง แต่ความรู้สึกที่อยากนอนมองคนข้างตัวเวลาตื่นนอน แทบไม่เคยเกิดขึ้น
แต่นี่เขานอนมองบีหลับนานนับสิบนาทีได้แล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งพบว่าหน้าตาเธอสวยแบบมองไม่เบื่อ อาจเพราะเครื่องหน้าเล็กๆ ที่รับกันไปหมด ทั้งคิ้วเรียว จมูกเล็กๆ ปลายรั้น ทว่าเรียวปากอิ่มเต็มตึง เย้ายวน มองทีไรก็อยากจูบทุกที
กำลังเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ทันใดดวงตาดำขลับก็ลืมตาแป๋ว แล้วใช้นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากเขาไว้
“อย่ากวน อยากนอนต่อ” แล้วเธอก็หลับตาลง
“โอเคครับ ไม่กวนก็ได้ เพราะเมื่อคืนผมกวนคุณมากพอแล้ว เดี๋ยวผมไปว่ายน้ำ แล้วจะเตรียมอาหารเช้าแล้วกัน”
“อือ” เธอครางรับแค่นั้น
โจฟินก็ดีดตัวลุกจากเตียง คว้าเสื้อคลุมไว้ในมือ แล้วเดินตัวเปลือยเปล่าเข้าไปในห้องน้ำ
""""""""""""""""