เข้ากันได้ดี1

1294 Words
1 เข้ากันได้ดี แดดยามสายที่ลอดผ่านผ้าม่านเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ร่างเปลือยเปล่าที่ซุกอยู่ใต้ผ้านวมขยับตัวทันที เธอนอนนิ่งๆ แล้วลืมตามองไปทั่วห้องนอนที่กว้างขวาง เมื่อวานก็ไม่มีเวลาและไม่มีแก่ใจชมห้องพัก เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ตัวเองเลือกจะทำ ยอมรับว่ามันรู้สึกดีกับเซ็กซ์เมื่อคืน แต่มันก็เป็นสิ่งไม่ควรทำ วันไนท์สแตนท์กับคนแปลกหน้า สุ่มเสี่ยงเกินไป หากเขาเป็นโรคจิตชอบทำร้ายคู่นอน แอบถ่ายคลิป หรือร้ายแรงกว่านั้นคือเป็นอาชญากรล่ะ แต่ถือว่าเธอโชคดีที่โจฟินไม่ได้เป็นแบบนั้น จริงๆ ก็ยอมรับนอกจากอีกฝ่ายหน้าตารูปร่างถูกใจ ก็ใช้ความรู้สึกตัดสินล้วนๆ จากการพูดคุยสนทนาก่อนหน้าจะตามเขามา เมื่อคืนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ดีมากด้วยซ้ำกับเซ็กซ์ครั้งแรกในชีวิต ที่ทำไปไม่ได้ประชดอดีตคนรักที่ทรยศ เพียงแค่อยากหลุดกรอบแนวคิดเดิมๆ ของตัวเอง ที่มองว่าเซ็กซ์จะต้องมอบให้กับคนที่พร้อมจะเป็นคู่ชีวิต และหลังคบหากันมานาน จนแน่ใจว่าเขาจะจริงจังและซื่อสัตย์กับเธอคนเดียว สุดท้ายผู้ชายคนนั้นทนรอไม่ไหว ทั้งที่เพิ่งคบกันได้แค่หกเดือน หาสาวอื่นเพื่อตอบสนองอารมณ์ตามธรรมชาติ นั่นคือเหตุผลที่ปณตบอก หลังจากเรื่องที่เขาทำพิมพายเพื่อนสนิทของเธอท้อง เอาล่ะ ต่อไปนี้ เธอจะใช้ชีวิตในแบบที่คนทั่วไปทำ เซ็กซ์ก็แค่เหมือนอาหารจานหนึ่ง อยากเมื่อไหร่ก็กิน ไม่จำเป็นต้องฝืนทน เพื่อรักษามาตรฐานทางความคิดหรืออารมณ์ผิดชอบชั่วดีใดๆ เพราะเซ็กซ์ในความสัมพันธ์แบบวันไนท์ หรือชั่วครู่ชั่วยาม ก็ไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์กันต่อไปในอนาคตเสียหน่อย เพราะตอนนี้เธอก็ไม่ได้คบหาใครจริงจัง หญิงสาวสะบัดผ้านวมออกจากตัว ลุกจากเตียงหยิบเสื้อคลุม แล้วเดินตัวเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ นอนแช่น้ำอุ่นในอ่างจากุชชี เมื่อคืนก็มัวแต่ตื่นเต้น ตั้งหน้าตั้งตาอาบน้ำ เลยไม่ได้สำรวจห้องน้ำ ยอมรับห้องน้ำตกแต่งอย่างหรูไม่ต่างจากห้องนอน แถมห้องน้ำยังมีกระจกมองไปยังท้องทะเลได้ รู้สึกทุกห้องมองเห็นทะเล ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอน ราคาคอนโดฯ ที่นี่คงไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้าน เพราะมีห้องนอนสองห้อง และห้องโถงที่แบ่งโซนห้องนั่งเล่น ห้องครัว มุมกินข้าว ค่อข้างกว้าง โจฟินไม่ได้บอกว่าครอบครัวทำธุรกิจอะไร นอกจากบอกว่าถูกพ่อตัดหางปล่อยวัด มีห้องพักที่เป็นมรดกจากมารดา รวมทั้งเงินในบัญชีที่มากพอจะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย หากไม่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ล่อลวงโอนหมดบัญชีเสียก่อน เธอก็ไม่อยากถามเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก เพราะความสัมพันธ์นี้ มันแค่... “บีครับ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” หญิงสาวหยุดครุ่นคิด เมื่อได้ยินเสียงคนที่เธอกำลังนึกถึงร้องถามอยู่หน้าห้อง “อยู่ค่ะ กำลังแช่น้ำอุ่น สักพักจะออกไป” “โอเค ผมเตรียมอาหารไว้รอแล้วนะ” “ค่ะ” หญิงสาวลุกจากอ่าง เดินไปยังใต้เรนชาวเวอร์ สระผมทำความสะอาดร่างกาย สวมเสื้อคลุมตัวเดิม ใช้ไดร์เปาผมให้พอหมาดแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ พ่อครัวได้ยกอาหารมื้อแรกมาวางบนโต๊ะพอดี เป็นอเมกันเบรคฟาสต์ มีขนมปัง แฮม ไส้กรอก ไข่ดาวกับไข่ลวก “เครื่องดื่มรับอะไรดีครับ ที่มีทุกอย่างเลยนะ ชา กาแฟ น้ำผลไม้” เขาถามพร้อมส่งยิ้มให้ ไม่น่าเชื่อในเวลากลางวัน ใบหน้าที่ไร้แมส รวมทั้งไร้เมคอัปนั้นยิ่งชวนมอง ขาวเนียนไร้สิว ไร้จุดด่างดำ มีเพียงขี้แมงวันเล็กๆ ตรงข้างแก้มซ้าย รวมทั้งผมยาวชื้นของเธอก็ทำให้หญิงสาวดูเซ็กซี่แบบเป็นธรรมชาติ “ขอกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลค่ะ” “กินเหมือนกันเลย” โจฟินว่า ไม่กี่นาทีต่อมากาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลสองแก้วก็วางอยู่บนโต๊ะ “คุณเช็คเอาท์โรงแรมวันไหนเหรอครับ” “พรุ่งนี้ค่ะ” “เช็กเอาท์วันนี้ แล้วมาพักด้วยกันเถอะครับ” เขาเอ่ยชวน “อืม จะดีเหรอ” จริงๆ เธอก็อยากอยู่กับเขา เพราะการอยู่คนเดียวในสถานการณ์แบบนี้ อารมณ์ก็ดิ่ง คิดแต่เรื่องอดีตคนรักกับอดีตเพื่อนสนิท ตอกย้ำว่าตนเองไม่มีค่าพอที่ปณตจะรักมากพอจะเลือกใช้ชีวิตร่วมกันในวันหนึ่ง กับเพื่อนสนิทที่คบหามานาน เหมือนถูกแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอธิบายอย่างไร เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี การลักลอบมีความสัมพันธ์กันลับหลังเธอ เรียกว่าความรักแท้ที่มีต่อผู้ชายคนหนึ่ง จนยอมทุกอย่างแม้แต่เป็นผู้หญิงลับๆ ของเขา โดยไม่คิดจะแย่ง แต่เพราะบังเอิญท้อง ปณตเลยต้องเลือกอีกฝ่าย แน่นอนถึงเขาไม่เลือก เธอก็ไม่คิดจะคบเขาต่อไปอยู่แล้ว เพราะเธอรักตัวเองมากพอ ระดับความเจ็บปวดที่ได้รับนั้น พิมพายให้ได้มากกว่าปณต เพราะระยะเวลาที่คบหาเป็นเพื่อนนั้นเนิ่นนานก่อเกิดความผูกพัน แทบจะเหมือนคนในครอบครัว “นะครับ มาอยู่ด้วยกันอีกสักคืน หรือหลายๆ คืนก็ได้” ท้ายประโยคนั้นส่งยิ้มอ้อน ดวงตาสีฟ้าเข้มเหมือนน้ำทะเลในยามนี้ ทำให้เธอเผลอกระโจนลงไปแหวกว่าย “โอเคๆ ตื๊อเก่งชะมัด” ก็ไม่อยากสานความสัมพันธ์กับใครในเวลานี้ แต่เธอก็ไม่อยากดำดิ่งอยู่กับอารมณ์เทาๆ ของตัวเอง ที่สำคัญพ่อหนุ่มวัยกลัดมันก็ทำให้เธอเพลิดเพลินจนลืมความเศร้าในใจได้ “ขอบคุณครับ” ไม่ว่าเปล่า ก็โน้มตัวลงมาจูบแก้มเธออีก ถึงโจฟินจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรในตัวหญิงสาวมากนัก แต่เขาก็ไม่เซ้าซี้ เพราะตอนเที่ยงเขาชวนบีไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เธอจะปฏิเสธทันควัน บอกว่าไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ แต่พอชวนไปเดินเล่นชายหาดในตอนเย็น หรือไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้ากลับยอมไปด้วยกัน ทั้งที่ก็เป็นสถานที่ที่มีคนเยอะเช่นกัน และที่ไม่เปลี่ยนเลย คือเธอสวมแมสตลอดเวลาอยู่ข้างนอก ด้วยเหตุผลที่เซฟตัวเอง เพราะไม่อยากรับเชื้อโรคจากภายนอก ทั้งไข้หวัดใหญ่ ฝุ่น หรือแม้แต่โควิด ที่ตอนนี้ถึงไม่มีอาการรุนแรง เพราะเป็นมาสองครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากติด โควิดอีก ขณะที่เรากำลังเดินเข้าลิฟต์ ในมือมีของถุงข้าวของที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า มีหญิงสาวสองคนเข้ามาในลิฟต์ด้วย บีขยับห่างจากทั้งสอง ไปซุกอยู่ด้านหลังผม ขณะสองสาวหันมามองโจฟินแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แบบที่คนไทยชอบยิ้มให้คนต่างชาติ โจฟินจึงยิ้มตอบ จากนั้นสองสาวก็หันไปคุยกัน “เออ เพิ่งอ่านข่าวบันนี่ สงสารนางเนาะ” “ใช่ ผู้ชายก็เลวเกิน อีผู้หญิงก็หน้าด้านสุดๆ หักหลังเพื่อนได้ เป็นนางร้ายทั้งในจอและนอกจอเลย” “ยังมีหน้ามาร้องไห้เสียใจ ขอโทษบันนี่ ขอโทษสังคมที่เป็นตัวอย่างไม่ดี ทำผิดไปเพราะความรักมันห้ามกันไม่ได้ โอ๊ยฟังแล้วจะอ้วกจริงๆ” “นั่นสิ ถ้าฉันเป็นบันนี่จะตบด้วยสากกะเบือ” “แต่บันนี่คือเงียบกริบเลยแก” """""""""""""
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD