บทที่ 5
ลงโทษเด็กไม่ดีหนีเที่ยว
ย้อนเวลาไปเมื่อ 23.09 น.
ที่ผับ R
สายเรียกเข้า : WIN
“มีอะไร” ผมกดรับ แล้วกรอกเสียงนิ่งๆ ไปยังปลายสายทั้งที่ไม่ได้มองโทรศัพท์
“ลงมา พวกกูอยู่ที่เดิม” ปลายสายตอบกลับมา พร้อมเสียงดนตรีและเพื่อนๆ พูดกันเสียงดังเข้ามา
“กูทำงาน” ผมบอกไอ้วิน
“เออ กูรู้ แต่เฮียต้องการพบมึง” ไอ้วินว่าต่อ
“อื้ม” ผมพยักหน้าใส่โทรศัพท์ แล้ววางสาย พร้อมหยิบเอกสารขึ้นมาดูต่อให้จบ ช่วงนี้ช่วงสิ้นเดือน ผมต้องเคลียร์เรื่องเงินให้พนักงาน เลยทำให้ดูยุ่งๆ นิดหน่อย
ก๊อกกก!!
“เข้ามา” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ผมเอ่ยอนุญาต แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองว่าใครมา
“คุณชันครับ”
“ครับ” เสียงที่ดังขึ้นนั่นเป็นเสียงของพี่แมน ผู้จัดการผับคนสนิทรุ่นพี่ของผมเอง
“พวกเพื่อนๆ ของคุณชันให้ผมมาตามคุณลงไปหาครับ”
“ไอ้พวกห่านี่ ยุ่งจริงๆ” ผมเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร แล้วเอนหลังพิงเบาะเก้าอี้ แล้วหมุนเก้าอี้หันไปมองพี่แมนอย่างนิ่งๆ
“พักบ้างนะครับ” พี่แมนบอกผม
“งั้นผมฝากพี่ดูบัญชีต่อด้วยก็แล้วกัน” ผมบอกพี่แมน แล้วโยนเอกสารลงบนโต๊ะ เพราะตอนนี้บัญชีร้านมีแค่ผมกับพี่แมนที่ทำ
ถามว่าไม่มีพนักงานบัญชีเหรอ เคยมีนะ แต่เพิ่งไล่ออกไปอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง เพราะผมจับได้ว่าเธอโกงบัญชียักยอกเงินในร้านไปเยอะเลยทีเดียว ตอนนี้จึงยังไม่ไว้ใจใครให้มาทำให้ ต้องทำเองไปก่อน…
“นั่นไง มันมาล่ะเฮีย”
ทันทีที่ผมเดินเข้าไปใกล้โต๊ะประจำของเพื่อนผมที่อยู่ชั้นสอง ไอ้ปอนด์หันมาเห็นผมก็หันไปบอกเฮียไฟ
“มีอะไรเฮีย” ผมเดินเข้าแล้วมองหน้าเฮียไฟตรงๆ
“นั่งก่อนสิ กูแค่มาดื่มด้วย” เฮียไฟปรายตามามองผม แล้วบอกให้ผมนั่งลง พอผมนั่งลงไอ้ปอนด์ก็ยื่นแก้วเหล้ามาให้ผม
“วันนี้เด็กมึงเหรอ” เฮียไฟถามผม
“มันจีบอยู่เฮีย” เป็นไอ้พาสพูดแทนผม
“จริง?” เฮียไฟถามผม นั่นทำให้พวกเฮียและเพื่อนหันมามองผมกันหมด
“อื้อ” ผมตอบไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“ผมบอกเฮียแล้ว” ไอ้วินพูด
“เฮียถามทำไม” ผมถาม เพราะปกติเฮียไฟจะไม่ยุ่งของใคร
“กูก็แค่ถาม เห็นว่ากล้าดี” เฮียไฟตอบผมชิวๆ
“วันนี้ผมขอโทษที่ขัดเฮีย” ผมเอ่ยขอโทษเฮียไฟไปเพราะวันนี้ผมขัดเฮียต่อหน้าเพื่อนผมทั้งหมด
“เออ ไม่เป็นไร กูไม่ซี”
ซึ่งเฮียไฟสบายๆ อยู่แล้ว ถึงผมจะขัดหรือไม่กลัวเฮียยังไง คนอื่นก็ไม่กล้าขัดเขาหรอก
“เฮ้ยๆ เรียกมาดื่มไม่ได้ให้มาซีเรียส ชนๆ”
แล้วเพื่อนเฮียก็เริ่มสร้างบรรยากาศให้มันดีขึ้น จนทั้งโต๊ะมีแต่เสียงเฮฮา
“เฮ้ย ไอ้ชัน นั่นเด็กมึงปะ” แล้วขณะที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่นั้น เพื่อนเฮียไฟก็พูดขึ้นพร้อมชี้ไปด้านล่าง ที่โต๊ะของวาวา น้องไอ้วินที่วันนี้มาจัดงานวันเกิดที่นี่
แล้วสายตาผมก็มองไปที่คนตัวบางคุ้นเคยที่นั่งอยู่ในโต๊ะนั้น
“เฮ้ย นั้นน้องเหมยนี่หว่า” ไอ้พาสอุทานเสียงดัง
“ทำไมกูไม่รู้ว่าน้องเหมยรู้จักน้องกูวะ” ไอ้วินก็พูด
ส่วนผมรีบลุกขึ้นเดินไปด้านล่างทั้งๆ ที่วันนี้มีเรื่องมาแท้ๆ ทำไมไม่นอนพัก ยังมาเที่ยวอีก
“เฮ้ยๆ ไอ้ชัน มึงจะไปไหน” ไอ้พาสรีบร้องถามผม
“ลงโทษเด็ก” ผมหันไปตอบมันนิ่งๆ แล้วเดินลงไปยังโต๊ะที่เหมยนั่งอยู่…
ผมเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะของสาวๆ รุ่นน้องและไม่สนใจด้วยว่าใครจะคิดยังไง เมื่อมายืนตรงโต๊ะ ผมไม่ได้ทักทายน้องๆ แต่ผมรีบคว้ามือของเธอ ดึงให้ลุกขึ้น
“มานี่!”
“อุ๊ย!” ฉันตกใจนะ ที่จู่ๆ ก็มีมือหนาคว้ามือฉัน แล้วดึงให้ฉันลุกขึ้นยืน แล้วลากฉันออกจากกลุ่มเพื่อนๆ พาเดินไปทางห้องน้ำ
“เดินตามมาเร็ว” ผมคำรามเมื่อฉุดกระชากลากดึงเธอให้เดินตาม
“นี่ ปล่อยนะ” ฉันกลัวมาก เพราะทางที่เขาพาฉันมามืดด้วย และเมื่อเขาเปิดประตูห้องที่ไม่ใช่ห้องน้ำ
“เข้าไป!” เขาดันฉันให้เข้าไปข้างใน ฉันหันมองรอบๆ ก็เห็นเป็นห้องเก็บของจำพวกเหล้า แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องสนใจ
“พะ พี่ราชัน” ฉันหันไปมองคนที่ลากฉันออกจากกลุ่มเพื่อนมาที่ห้องนี้
พี่ราชันเดินต้อนฉันจนหลังฉันติดผนังห้อง พี่เขายิ้มน่ากลัว แขนแข็งแรงยังโอบเอวของฉันไว้ จนฉันและพี่เขาแนบชิดกัน แล้วเขาก็ก้มหน้ามากระซิบเสียงทุ้มข้างหูฉันว่า
“หนีเที่ยวเหรอ”
“คะ ใครหนีเที่ยว” ฉันใจเต้นแรงตึกตักๆ มากตอนนี้ ยอมรับแหละว่ากลัวเขา สั่นไปทั้งตัวและเสียงที่เอ่ยถามก็สั่นอะ เพราะพี่ราชันยังไม่เอาหน้าออกมาแถมยังซุกเข้าไปที่ซอกคอฉันอีก
“เธอไง เด็กไม่ดี หนีเที่ยว” พี่ราชันบอกชิดซอกคอของฉัน
“พะ พี่ราชัน เอาหน้าพี่ออกไปห่างๆ หนูเลย” ฉันพยายามดันคนตัวสูงให้ออกจากตัว แต่ออกแรงแค่ไหนก็ไม่ได้ผล เพราะพี่เขายืนชิดฉัน แขนกำยำข้างที่ไม่ได้โอบเอวฉันยันผนังห้องกักขังฉันไว้
“รู้มั้ย เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษยังไง” นานเกือบห้านาที ในที่สุดพี่ราชันก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองหน้าฉันตรงๆ ทำให้ฉันเห็นว่าตอนนี้ตาพี่เขานี่แดงก่ำและเยิ้มเชียว เมาแหละ
“อื้ออ!!” ฉันร้องเสียงอู้อี้ ดวงตาเบิกโตเมื่อพี่ราชันก้มหน้าลงมาใกล้หน้าฉัน ปากหยักประกบฉกจูบปากของฉันอย่างถือสิทธิ์
ปึก! ปึก!
ฉันพยายามทุบตีแขนเขา แต่เหมือนพี่ราชันจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ปากร้ายๆ นั่นขบเม้มที่ปากฉันอย่างหยอกล้อ จนฉันได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ
“หวานมาก” ครั้งนี้ผมใช้มือสองข้างจับใบหน้างามของน้องให้แหงนขึ้นเพื่อรับสัมผัสจูบของผม
“อื้ออ อ่อย” จากที่ตอนแรกฉันตีเขาอย่างบ้าคลั่ง พอหลังจากนั้นกลายเป็นว่าตอนนี้ขาของฉันแทบอ่อนระทวยลงไปกองกับพื้นเพราะสัมผัสของพี่เขา แต่พี่ราชันโอบตัวฉันให้แนบชิดกว่าเดิมโดยไม่ถอนปากออกจากปากของฉัน
“ชอบจูบพี่ไหม” ผมถามชิดริมฝากปากนุ่ม จูบตอบเล็กน้อย
“เฮือก แฮ่ก แฮ่ก” นานกว่าที่เขาจะปล่อย แล้วฉันก็รีบโกยหายใจเข้าปอดทันที
“หึๆ” ผมหัวเราะในลำคอเมื่อเธอยืนเกาแขนผม หายใจพะงาบๆ เหมือนปลาขาดน้ำเลยนะ
“นี่ พี่ระ อื้ออ”
อีกแล้ว พอฉันจะต่อว่าเขา พี่ราชันก็ฉกริมฝีปากเข้ามาอีกรอบ แต่ครั้งนี้ฉันเม้มปากไว้ทัน พี่ราชันจึงดูดดึงริมฝีปากทั้งบนและล่างฉันเล่น
“อ้าปากจูบพี่สิ”
ผมบังคับน้องด้วยเรียวลิ้นซอนไซไปตามริมฝีปากหอม แล้วเมื่อเธอเผยอปากออก ผมก็ฉกจูบตวัดลิ้นไปมาในเรียวปากหวาน ผมรู้ว่าเธอยังไม่เคยจูบ เพราะอาการมันบอก สั่นไปทั้งตัวแบบนี้
ตึก ตึก ตึก..ใจฉันตอนนี้เต้นรัวอย่างกับจะทะลุออกมาด้านนอกอย่างงั้นแหละ เมื่อพี่เขาหยุดจูบ ฉันก็ได้แต่หายใจเข้าปอด และยืนก้มหน้าอยู่ในอ้อมกอดของพี่เขา
“มากับใคร”
พี่ราชันถามแล้วเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉัน มือหนาที่ไม่ได้กอดเอวฉันยกขึ้นดันคางของฉันให้เงยหน้าจนคอฉันตั้ง สบตาสีเข้มที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าแหละฉันมองออก ขนาดฉันยังเมาเลยเมื่อได้จูบกับเขา
“กับเพื่อนค่ะ”
ฉันตอบแล้วหลับตาปี๋ เพราะเขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันเกินไป จนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน
“ใครบอกให้หนีเที่ยว” ผมจูบปลายจมูกเชิดรั้น และจูบริมฝีปากแดงระเรื่อ สงสัยแดงเพราะผมจูบแน่
“ไม่ได้หนี” ฉันเถียงเขา ทั้งที่ยืนเกาะปกคอเสื้อเขาไว้ ถ้าไม่จับมีหวังฉันทรุดลงไปนอนกองบนเท้าเขาแน่
“เด็กไม่ดี” พี่ราชันดุฉัน
“ไม่ใช่เด็ก” ฉันก็เถียงกลับเช่นเคย
“เถียงเก่ง” พี่ราชันเอามือขึ้นมาดีดหน้าผากฉันไม่แรงนัก
“โอ๊ย”
ฉันยกมือขึ้นมาลูบหน้าผาก แล้วมองเขาอย่างไม่พอใจ ชิ คนบ้า เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ทำอย่างกับเป็นแฟนฉัน แล้วไหนจะมาจูบฉันอีก ใจอยากถามมากเลยว่าจูบทำไม
“มีอะไร” พี่ราชันคงเห็นฉันมองเขาอย่างสงสัยมั้ง จึงถามขึ้น
“จะ จูบทำไม” ฉันทำใจกล้าถามเขาไป
“อยากจูบ” แล้วดูคำตอบเขาสิ จริงจังกับฉันที่ไหน
“ไม่เคลียร์” ฉันทำหน้ามุ่ย
“ไม่เคลียร์ยังไง” ผมจูบเธออีกครั้ง ยอมรับว่าเคยจูบกับสาวๆ หลายคนนะ แต่ทำกับเธอคนนี้มันวิเศษมาก
“นี่จูบแรกหนูนะ” ฉันทำหน้ายักษ์ใส่พี่เขา แล้วทุบที่หน้าอกแกร่งไปหนึ่งที
“พี่รู้” ผมพยักหน้ารับ แล้วจูบแก้มเธอ
“พี่ราชันบ้าที่สุด” ฉันดันเขาออก นี่เขาจะเอาเปรียบฉันมากเกินไปแล้วนะ
“ถามจริงไม่รู้เหรอ” เขาอมยิ้มแล้วเอามือขึ้นมาลูบแก้มฉัน
“มะ ไม่รู้ แต่ก็รู้นิดนึง” ตอบอะไรของแกเนี่ยยัยเหมย
“จีบอยู่ไม่รู้รึไง” ผมก้มหน้าลงจนหน้าผากชนหน้าของน้อง
“มะ ไม่รู้ด้วยหรอก” ฉันกลั้นยิ้มแล้วพยายามหลบตาเขา ก็พอจะรู้แหละว่าที่เขาทำนะมันไม่ธรรมดา ฉันเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีแฟน แต่ความรักครั้งแรกของฉันมันใสๆ ไม่รุกหนักเหมือนพี่ราชัน แต่ก็ยอมรับว่าการกระทำของเขามันทำให้ฉันใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อยากจูบอีก” พี่ราชันพึมพำเบาๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากว่าเดิม
“...” ฉันไม่พูด ได้มองหน้าพี่ราชันอย่างหวั่นๆ
แอ๊ดด!!
แล้วเสียงประตูที่เปิดออก ทำให้ฉันหันไปมองอย่างตกใจและรีบผลักพี่ราชันออก
“เอ่อ นาย” ผู้ชายที่เดินเข้ามาก็ตกใจที่เห็นฉันและพี่ราชันสองคนอยู่ในห้องนี้
“เชี่ย! มีอะไร” พี่ราชันจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปถามพี่ผู้ชายเสียงเข้ม
“ขะ ขอโทษครับ พอดีผมเข้ามาเอาเหล้าให้พี่แมนครับ” พี่คนนั้นรีบก้มหัวขอโทษพวกเราสองคน
“ให้มันได้อย่างงี้สิ” ผมสบถด่าอย่างหัวเสีย แล้วหันไปมองหน้าน้องน้อยดุๆ
“คะ” ฉันทำหน้างง ถามเมื่อถูกมองอย่างคาดโทษ
“นี่ก็รีบผลักเชียว” ดวงหน้างามแดงระเรื่อ ทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะตำหนิเธอ
‘แหนะ มาว่าฉันอีก’ ฉันพูดในใจ
“หยุดพูดเลยนะพี่ราชัน”
ฉันชี้หน้าเขา ไม่สนใจว่าอารมณ์เขาตอนนี้เป็นยังไง นี่ถ้าฉันไม่ผละออก เขาก็คงจูบโชว์ให้พี่ผู้ชายมองรึยังไง บ้าไปแล้ว
“ไปเอาเหล้าสิ ยืนเซ่ออยู่ทำไม” เมื่อเล่นงานน้องไม่ได้ ผมก็หันไปสั่งลูกน้องเสียงนิ่ง
“ครับๆ” ซึ่งทำให้มันรีบเข้าไปหยิบเหล้าที่ชั้น แล้วรีบออกไป
“ผับพี่เหรอคะ”
เมื่อพี่คนนั้นออกไปแล้ว ฉันก็หันไปถามพี่ราชันอย่างสงสัย เพราะดูเขามีอำนาจมาก พนักงานก็เคารพเขา
“อื้มม ป่ะ” พี่ราชันพยักหน้าแล้วจูงมือฉันเดินไปที่ประตู
“ดะ เดี๋ยว จะพาหนูไปไหน” ฉันร้องห้ามและพยายามขืนตัวไว้ แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้
“จะดื้อทำไม เดินตามมาเร็วๆ” ครั้งนี้ผมไม่จูง แต่ผมเข้าไปโอบบ่านุ่ม พาเธอเดินเข้าไปในบริเวณผับ…
พี่ราชันพาฉันออกมาจากห้องนั้นแล้วทำการลากฉันขึ้นไปชั้นสาม เขาพาฉันเดินเข้าห้องหนึ่งไป โดยไม่สนใจอาการขัดขืนของฉันเลยสักนิดแล้วพอเห็นว่าเป็นห้องทำงานฉันก็โล่งใจ
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะ พี่ราชันก็นั่งลงที่เก้าอี้หมุนได้ แล้วพี่เขาดึงฉันให้นั่งลงบนตักเขา ฉันรีบดิ้นหนีแล้วพยายามบอกเขาให้ปล่อย
“พี่ ปะ ปล่อย”
“นั่งเฉยๆ” ผมทำเสียงดุตาขึงใส่น้อง เมื่อเธอเอาแต่ขัดขืน
“พี่ก็ปล่อยหนูสิคะ” ฉันหันไปบอกเขาแล้วพยายามปีนลงจากตักของเขา
“อยู่นิ่งๆ” แต่พี่ราชันกลับไม่ฟัง เขากอดฉันไว้แน่น แล้วทำเสียงดุใส่ เหมือนฉันเป็นน้องดื้อรั้นอย่างนั้นแหละ
“แต่หนูอยากลงไปนั่งดีๆ นี่ค่ะ” ฉันทำหน้าหงอยทันทีที่โดนดุ
“นั่งนี่แหละ”
แต่คนตัวโตก็ไม่สนใจเลยสักนิด พี่ราชันยังทำหน้านิ่งหยิบแฟ้มขึ้นเปิดแล้วอ่าน ฉันจึงได้แต่นั่งเซ็งๆ และมีบ้างที่ชะโงกไปดูเอกสารของเขา ก็เห็นว่าเป็นรายรับรายจ่ายของผับ
‘เก่งจัง’ ฉันคิดในใจ เพราะเขาเรียนสถาปัตย์แต่ดูคล่องแคล่วกับเรื่องพวกนี้มาก ต่างจากฉันที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ และที่เกลียดเข้าไส้เลยคือตัวเลข
พอนั่งไปนานๆ ฉันก็เริ่มเมื่อย จึงค่อยๆ เอนหลังไปพิงที่อกเขา แล้วฉันก็จับมือพี่ราชันที่กอดเอวฉันไว้อยู่ขึ้นมาเล่น มือสวยแหะ มีอะไรมั้ยที่ผู้ชายคนนี้ไม่เพอร์เฟก
“อย่าซน”
ผมกระตุกยิ้มตั้งแต่เธอเอนหลังมาพิงอกของผม และผมก็ปล่อยให้เธอสำรวจผม แม้กระทั่งนิ้วมือ นี่เธอจะเป็นหมอตรวจสุขภาพผมเหรอ
“หนูไม่มีอะไรทำ” ฉันบอกเขาเสียงอ่อย
“อ่ะ เล่นไป อยากเล่นเกมก็โหลดเอา”
พี่ราชันมองหน้าฉันเล็กน้อย แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาปลดล็อกแล้วยื่นให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มเบาๆ ให้เขา อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้ทำล่ะว่ะ
“แล้วก็อยู่นิ่งๆ อย่าซน”…