ตอนที่ 1 ผู้ชายปากร้าย
“อคินลูก วันนี้ลูกจะไปนอนที่คอนโดเลยใช่มั้ยคะ”
เพลงขวัญเอ่ยถามลูกชายคนโตของตัวเองขณะนั่งกินข้าวด้วยกัน วันนี้มหาลัยของลูกชายเปิดเรียนวันแรก เพราะอคินมักจะไปนอนที่คอนโดช่วงเปิดเรียนแล้วกลับมานอนบ้านช่วงวันหยุด ยกเว้นช่วงปิดเทอมที่เขาจะมาอยู่ที่บ้านยาวจนกว่าจะเปิดเทอม
“ครับแม่”
อคินตอบกลับผู้เป็นแม่สั้นๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อจนเพลงขวัญได้แต่พยักหน้าตอบลูกชาย
“เรื่องที่ผับเป็นไงบ้างอคิน เห็นว่าเมื่อคืนมีคนมาสร้างเรื่องว่าผับหลอกเด็กมาบริการลูกค้า จัดการเรียบร้อยยัง”
มาวินเอ่ยถามลูกชายเสียงเรียบตามประสาคนพูดน้อย เพราะเขา ราเชนทร์ และดินแดนนั้นได้ยกผับของตัวเองให้ลูกๆ ดูแลต่อแล้ว
“ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับพ่อ”
อคินตอบผู้เป็นพ่อไปด้วยท่าทางนิ่งขรึม เรียกได้ว่านิสัยถอดแบบจากมาวินผู้เป็นพ่อมาเต็มๆ
“อืม รู้ยังว่าเป็นฝีมือใคร”
มาวินถามขึ้นอีกครั้ง
“ยังครับ แต่รามินกำลังตามสืบอยู่”
“ทำไมถึงให้น้องทำ ถ้าเกิดเป็นพวกมีอิทธิพลมันจะไม่ลอบทำร้ายรามินรึไง”
มาวินพูดขึ้นเชิงตำหนิลูกชาย แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเสียงใส่ เพียงแค่เอ่ยถามขึ้นเพราะรอบตัวพวกเขาก็ยังมีศัตรูอยู่ไม่น้อย
“รามินเป็นคนขอไปสืบเอง เรื่องการเข้าหาคนเป็นเรื่องถนัดของน้องอยู่แล้ว อีกอย่างรามินมันสู้เก่งนะครับ เผื่อพ่อลืม”
อคินตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะเขากับไดม่อนลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร ต่างจากรามินที่เป็นคนพูดเก่ง รู้จักเข้าหาคน จึงง่ายต่อการสืบหาคนทำไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงน้อง แต่เพราะเชื่อใจในฝีมือของรามินต่างหาก อคินและไดม่อนจึงยอมให้รามินทำหน้าที่สืบหาคนที่พยายามทำให้ผับพวกเขาเสียชื่อเสียง ทางด้านมาวินเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายก็ได้แต่พยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรต่อ เขาเผลอเป็นห่วงบรรดาลูกๆ จนลืมไปว่าตนเองกับเพื่อนๆ นั้นได้ฝึกการต่อสู้ทุกอย่างให้ลูกๆ พวกเขาตั้งแต่เด็ก
“หยุดพูดเรื่องงานแล้วกินข้าวค่ะ”
“ครับ/ครับ”
ทั้งอคินและมาวินต่างก็ขานรับพร้อมกันเมื่อได้ยินคำพูดของเพลงขวัญ
“อิอิ คุณพ่อตอบคุณแม่เร็วมาก สายตาดุๆ เมื่อกี๊หายไปในพริบตาเลย”
มิรินลูกสาวคนเล็กของมาวินและเพลงขวัญเอ่ยแซวผู้เป็นพ่ออย่างล้อเลียนเพราะตอนคุยกับพี่ชาย คุณพ่อของเธอทำหน้านิ่งขรึมแต่พอหันมาคุยกับเมียนิสายตาหวานเยิ้มคลั่งรักสุดๆ จนเพลงขวัญได้แต่หัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว
"อย่าแซวพ่อมิริน ก็พ่อรักของพ่อจะให้ส่งสายตาดุๆ ให้เมียสุดที่รักได้ยังไง"
"พี่วินพูดอะไร อายลูกบ้างสิคะ"
เพลงขวัญต่อว่าสามีอย่างเขินอายเมื่อโดนสามีบอกรักต่อหน้าลูกๆ ของตัวเอง ขนาดลูกๆ โตจนเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วมาวินก็ยังเสมอต้นเสมอปลายออดอ้อนเพลงขวัญไม่เคยเปลี่ยน จนทำให้อคินและมิรินยิ้มตามกับการหยอกล้อของพ่อแม่ตัวเอง
"คุณพ่อน่ารักอ่ะ เห็นคุณแม่เคยบอกว่าพี่คินนิสัยเหมือนคุณพ่อตอนสมัยหนุ่มๆ เป๊ะ แสดงว่าพี่คินต้องคลั่งรักแฟนมากแน่ๆ ใช่มั้ยพี่คิน"
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับหันไปถามพี่ชายตัวเอง
"ไม่รู้"
อคินตอบน้องสาวสั้นๆ โดยที่ยังกินข้าวอยู่
"ไม่รู้ได้ยังไง พี่อยู่ปี 2 แล้วนะ ยังไม่มีแฟนจริงๆ หรอ"
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอคินด้วยความอยากรู้
"ไม่มี แล้วก็ไม่อยากมีด้วย"
คำตอบของอคินทำเอามิรินทำหน้าสงสัยแล้วเอ่ยถามพี่ชายตัวเองต่อ
"ทำไมถึงไม่อยากมีล่ะ เป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีสาวคนไหนสวยสะดุดตาพี่เลยหรอ อีกอย่างหล่อๆ อย่างพี่ ยังไงก็มีสาวๆ สวยๆ มาจีบแน่นอน หรือมีแล้วไม่ยอมบอกน้องกันแน่คะ"
"ก็มีคนมาจีบ แต่พี่ไม่ชอบ เลิกถามเซ้าซี้ได้แล้วมิริน"
อคินพูดตัดบทน้องสาวตัวเองทันทีเพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้ จนมิรินได้แต่เบะปากใส่อคินเมื่อพี่ชายพูดตัดบทพร้อมกับส่งสายตาดุให้เธอจึงหยุดพูดแล้วหันกลับมากินข้าวต่อ
"ผมไปนะครับ สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่"
เมื่อกินข้าวอิ่มแล้วอคินก็ลุกขึ้นแล้วบอกพ่อกับตัวเองทันที
"เสาร์นี้จะกลับมาบ้านเหมือนเดิมใช่มั้ยลูก"
เพลงขวัญเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ครับ"
เมื่อตอบผู้เป็นแม่แล้วอคินก็เดินออกจากบ้านตรงไปยังรถสปอร์ตหรูสีดำคู่ใจเพื่อขับไปยังมหาลัยทันที
"ไอ้คินทางนี้มึง"
เมื่อมาถึงมหาลัยแล้วอคินก็ตรงไปยังตึกคณะของตัวเอง ขณะที่กำลังลงจากรถก็ได้ยินเสียงเรียกของเอสเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในห้องของเขา เพราะอคินเป็นคนที่เก็บตัวไม่สุงสิงกับใครยกเว้นแต่เอสที่อคินเคยช่วยตอนที่เขาโดนรุมกระทืบสมัยเรียนมอปลายจึงทำให้เอสนั้นตามอคินมาเรียนที่นี่ด้วย เมื่อได้ยินเสียงเรียกอคินก็เดินตรงไปหาเอสทันที
"มาเช้าเป็นด้วยหรอมึง"
อคินเอ่ยถามเอสทันทีเมื่อเดินมาถึงเพราะน้อยมากที่จะเห็นเพื่อนตัวเองมามหาลัยแต่เช้าได้
"วันนี้ต้องมาเช้าครับเพื่อน เพราะกูจะมาดูน้องๆ ปี1 เห็นว่าสาขาเรามีแต่สวยๆ แล้วมึงก็ต้องไปเป็นเพื่อนกูด้วย"
"กูไม่ไป"
อคินตอบกลับทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
"สัส ตอบแบบไม่ลังเลเลยนะมึง ใจคอมึงจะครองฉายาหนุ่มหล่อผู้เย็นชาแห่งคณะบริหารไปตลอดรึไงวะ"
เอสพูดบ่นให้อคินทันที เพราะอคิน คือหนุ่มหล่อหน้านิ่งแห่งคณะบริหาร นิสัยดุ เย็นชา แถมยังปากร้ายใส่ผู้หญิงที่มาจีบเขา ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยขนาดไหนก็ไม่อาจทลายความเย็นชาของเขาได้ จึงเป็นที่มาของฉายาหนุ่มหล่อผู้เย็นชาแห่งคณะบริหารนั่นเอง อคินมีรูปร่างที่สูงเกือบ 190 หน้าตาหล่อเหลา แถมหุ่นยังเต็มไปด้วยมัดกล้ามถึงเขาจะไม่เคยถอดเสื้อโชว์ใครแต่แค่เห็นใส่ชุดนักศึกษาก็ทำเอาสาวๆ นั้นกรี๊ดกับหุ่นที่เพอร์เฟคของเขาแล้ว แต่ติดตรงที่เขาดันไม่มีท่าทีสนใจผู้หญิงคนไหนเลยสักคน
"มึงจะไปก็ไปคนเดียว กูจะไปลงทะเบียนเรียนแล้วจะกลับเลย"
อคินพูดขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปยังห้องลงทะเบียนเรียน เพราะวันนี้เป็นวันที่ให้นักศึกษาลงทะเบียนวิชาเรียนของตัวเอง อคินเลือกเรียนคณะบริหารเพราะเขาตามมาวินผู้เป็นพ่อไปที่บริษัทตั้งแต่เด็กจึงชื่นชอบในการทำงานของพ่อตัวเองเลยเลือกเรียนคณะนี้ซึ่งมาวินก็ไม่ได้ขัดที่ลูกไม่เรียนวิศวะเหมือนตัวเองเพราะอยากให้อิสระในการใช้ชีวิตของลูกชาย ในบรรดาแก๊งพี่น้องมีอคินคนเดียวที่เรียนคณะบริหาร เพราะไดม่อนเรียนวิศวะเครื่องกลเหมือนผู้เป็นพ่อ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ปีสองเหมือนกันกับอคิน แต่รามินเพิ่งเข้ามาเรียนปีหนึ่ง โดยเลือกเรียนคณะวิศวะยานยนต์เพราะชื่นชอบการแข่งรถจนขอพ่อเปิดสนามแข่งรถเองโดยมีอคินและไอม่อนเป็นหุ้นส่วนด้วยเพราะราเชนทร์ผู้เป็นพ่อของรามินไม่ยอมให้ลูกชายทำคนเดียวเพราะเห็นว่ารามินยังเด็ก อคินและไดม่อนจึงเสนอขอเป็นหุ้นส่วนด้วยเพราะอยากให้รามินผู้เป็นน้องได้ทำตามฝันของตัวเองเมื่อราเชนทร์เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของบรรดาลูกชายจึงยอมให้เปิดสนามแข่งรถซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จและทำการเปิดมาได้สามเดือนกว่าแล้ว เรียกได้ว่าตอนนี้สามหนุ่มนั้นต้องดูแลทั้งผับและสนามแข่งรถช่วยกัน ถึงจะอายุยังน้อยแต่ทั้งสามก็ดูแลกิจการของตัวเองได้เป็นอย่างดีจนทำให้พ่อๆ ต่างไว้วางใจในการทำงานของพวกเขา
"เฮ้ย! รอด้วยสิไอ้คิน มึงไม่ไปกูก็ไม่ไป รอกูด้วย"
เอสรีบก้าวเท้าเดินตามอคินไปอย่างเร็ว เมื่อไม่สามารถชวนเพื่อนไปดูสาวๆ ได้ เมื่อเดินมาถึงห้องลงทะเบียนอคินและเอสก็ยื่นใบลงทะเบียนที่ตัวเองเลือกให้เจ้าหน้าที่ทันที
"ขอโทษนะคะ พอดีเราทำโทรศัพท์หายขอยืมโทรศัพท์โทรหน่อยได้มั้ยคะ เผื่อมีคนเก็บได้"
ขณะที่อคินยื่นรอเอกสารจากเจ้าหน้าที่อยู่นั้นก็มีสาวสวยเดินมาขอความช่วยเหลือจากเขา แต่จริงๆ แล้วเธอแค่อยากได้เบอร์ของอคินเท่านั้น
"เอส"
อคินเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสั้นๆ ซึ่งเอสก็เข้าใจดีว่าอคินต้องการอะไร
"นี่ครับโทรศัพท์"
เอสหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วยื่นให้สาวสวยตรงหน้า แต่เธอก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเอสพร้อมกับมองอคินด้วยสายตาอ้อนวอนแต่อคินกลับยืนนิ่งไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
"ไม่เอาแล้วหรอครับ"
เอสเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นเธอยืนนิ่งไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเขาสักที
"เอ่อ...คือเราขอความช่วยเหลือจากเธอนะ"
สาวสวยหันไปพูดกับอคินโดยไม่ได้สนใจเอสเลยแม้แต่น้อย
"โทรศัพท์เธอมันเลือกด้วยหรอว่าต้องเอาเบอร์ฉันโทรไปเท่านั้น หรือแค่อยากได้เบอร์ฉันแล้วมาโกหกว่าโทรศัพท์หาย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอก็ไปซะเพราะฉันไม่ชอบผู้หญิงตอแห..ล"
คำพูดของอคินทำเอาสาวสวยหน้าเสียทำตัวไม่ถูกทันทีเมื่อเขาพูดตรงๆ ใส่ไม่คิดว่าคนหล่อจะปากร้ายได้ขนาดนี้ เมื่อโดนจับได้ว่าโกหกสาวสวยคนนั้นก็รีบวิ่งไปทันทีเพราะอายที่โดนผู้ชายปฏิเสธตรงๆ
"คำพูดคำจามึงเนาะ ชาตินี้จะได้เมียกับเค้ามั้ย"
อคินไม่ได้โต้ตอบอะไรเมื่อโดนเอสพูดกวนใส่ เมื่อได้รับเอกสารการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วอคินก็ไปดูงานที่สนามแข่งรถทันทีเพราะเขาไม่ได้เข้าไปทำกิจกรรมรับน้องเหมือนไดม่อนและรามินที่ต้องไปทำกิจกรรมรับน้องของคณะวิศวะ ขณะที่กำลังเดินไปที่รถก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นไดม่อนโทรมาเขาก็กดรับสายทันที
"ว่าไง"
(มึงอยู่ไหน)
"อยู่มหาลัย กำลังจะไปสนามแข่ง มีอะไร"
(คืนนี้เข้าไปที่ผับด้วย รามินบอกว่ารู้ตัวคนทำแล้ว)
"อืม"
เมื่อคุยกันเสร็จอคินก็วางสายแล้วขับรถตรงไปยังสนามแข่งรถทันที