ส่วนเรื่องเรียนนั้นเธอจำต้องดรอปเรียนไปก่อน เพราะตั้งครรภ์ขึ้นมาในขณะที่ยังเรียนไม่จบ
หลังคลอดเธอจะกลับไปเรียนให้จบอย่างแน่นอน เด็กสาวบอกตัวเองในใจ เพราะการเรียนสำคัญกับเธอมาก มันคือวิชาความรู้ที่จะทำให้เธอพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
“อยู่กับฉันเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ต้องการอะไรหรือขาดเหลืออะไรหรือเปล่า” ศจีเอ่ยถามอย่างใส่ใจ
“หนูสบายดีค่ะคุณท่าน อยู่ที่นี่กินอิ่มนอนหลับ แถมยังได้ช่วยป้ากาสะลองทำอาหารอร่อย ๆ ทุกวันด้วยค่ะ” กาสะลองชอบทำอาหาร ทำให้เธอได้เป็นลูกมือให้ท่านและได้สูตรเด็ดเคล็ดลับมามากมาย
“ดีแล้วจ้ะ แล้วเราน่ะแพ้ท้องบ้างหรือเปล่าล่ะ” ท่านเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“ไม่แพ้ท้องเลยค่ะ” เธอตอบออกไปก่อนจะลูบหน้าท้องของตัวเองที่ยังไม่นูนมากนัก
“แปลก” ศจีเอ่ยขึ้น
“แปลกยังไงหรือคะ” คนถามทำหน้างุนงง
“เราน่ะไม่หงุดหงิดไม่แพ้ท้อง ไม่มีอาการของคนท้องเลย แต่ว่ามีใครอีกคนที่มีอาการเหมือนคนแพ้ท้องเลยนะ”
“ใครกันเหรอคะ” เตยหอมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พูดถึงก็มาเลย เดินหน้าตูมมาโน้นแล้ว” ทานบุ้ยใบ้ไปทางหลานชายตัวดี
พอเห็นหน้ากาสะลอง ปราบก็เลยขอของเปรี้ยวดับอาการคลื่นเฮียนอาเจียนของเขาในทันที
เตยหอมมองหน้าศจีตาโต ไม่คิดว่าคนที่มีอาการแพ้ท้องแทนเธอคือปราบ นั่นทำให้เตยหอมต้องไปช่วยป้ากาสะลองจัดเตรียมมะม่วงน้ำปลาหวานมาให้ปราบในทันที เพราะเขาร่ำร้องว่าอยากจะกินเหลือเกินในตอนนี้
เขาต้องกินให้ได้ ต้องได้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ เหมือนเด็กโข่งตัวโตที่สุดแสนเอาแต่ใจตัวเอง
“เป็นอะไรของเราหึ! พ่อตัวดี อยากกินแต่มะม่วงน้ำปลาหวาน กินแต่ของเปรี้ยวอย่างกับคนแพ้ท้อง” ประโยคของศจีทำให้ปราบที่กำลังกินมะม่วงน้ำปลาหวานอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับสำลัก
“ผมจะท้องได้ยังไงครับคุณป้า ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ปราบเอ่ยขึ้นหลังจากหายสำลัก ก่อนจะหันไปสนใจกับของเปรี้ยวของดองตรงหน้าอีกครั้ง
“ผู้ชายท้องไม่ได้ แต่ก็แพ้ท้องแทนเมียได้นะ” ศจีพูดแล้วแทบจะหลุดขำเมื่อเห็นว่าหลานชายสำลักจนหูตาแดงอีกรอบ
“ผมยังไม่มีเมียครับ จะไปแพ้ท้องแทนเมียได้ยังไงกัน” ปราบพูดอย่างนั้น ก่อนที่จะชะงักเหลือบไปเห็นสาวน้อยตรงหน้าที่ยืนอุ้มท้องลูกของเขาอยู่
ไม่อยากยอมรับว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของตัวเอง แต่เขาได้ไปสืบมาแล้ว เธอไม่ได้ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับใครนอกจากเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“อ้าว... นี่ยังไม่มีเมียจริงรึ” ศจีเอ่ยขึ้น ก่อนจะทำหน้ายิ้ม ๆ หันไปสบตากับกาสะลองซึ่งเป็นคนสนิทของท่าน นั่นทำให้ปราบ ขยับตัวไปมาด้วยความรู้สึกอึดอัด
“วันนี้มีอาหารอะไรอร่อย ๆ บ้างครับ” ปราบเอ่ยถาม
“บ้านเราไม่มีข้าวกินรึไงหึ! ตาปราบ ถึงได้มาหาข้าวที่นี่กินได้ทุกวี่ทุกวัน” ศจีเอ่ยถามหลานชาย รู้อยู่เต็มอกว่าหลานชายจอมปากแข็ง ติดอกติดใจอาหารรสมือของเตยหอมเพียงใด
ทำไมท่านถึงรู้น่ะเหรอ ก็เวลากินอาหารยังเผลอพูดออกมาว่านี่ฝีมือใคร นี่ฝีมือกาสะลอง นี่ฝีมือเตยหอม อาจเพราะจำรสมือของเตยหอมได้ เพราะกินกันมาบ่อย ถึงได้ติดอกติดใจกันนัก ผู้หญิงเราต้องมีสักอย่างสินะ ที่จะมัดใจผู้ชายได้
“บ้านผมไม่มีแม่ครัวทำอาหารอร่อยนี่ครับ” ปราบเผลอพูดออกมาอีกครั้ง เขาไม่อยากยอมรับว่าอยากมาที่นี่เพราะอยากเห็นหน้าเตยหอม มันรู้สึกเสียหน้าชะมัดทั้ง ๆ ที่เขาไล่เธอกับลูกออกไปจากชีวิต ไม่ยอมรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
การรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ซึ่งอาหารทุกอย่างอร่อยถูกปากเขาเหลือล้น
ปราบรู้สึกอิ่มท้องเป็นอันมาก หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ถึงแม้จะรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนอยู่มาก แต่เขาก็กินจุเหลือเกิน จนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“จะไปไหน” ปราบเอ่ยถามสาวน้อยที่กำลังจะเดินหนี ในขณะที่หล่อนกำลังชมดอกไม้อยู่ในสวนหลังบ้าน
“จะไปให้พ้นหน้าคุณไงคะ ก็คุณไม่ชอบเตยไม่ใช่เหรอ” เตยหอมพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“พอย้ายมาอยู่กับคุณป้า เธอก็แข็งข้อกับฉันอย่างนั้นหรือ เวลาพูดมองหน้าฉันด้วย ฉันเคยบอกเธอตั้งหลายครั้งแล้ว” เขากระชากร่างของเธอมาหา กอดรัดเอาไว้แนบอก ไม่อยากยอมรับว่าคิดถึงร่างแสนหอมกรุ่นนี้เหลือเกิน
กำลังจะจุมพิตริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเธออาเจียนใส่หน้าเขาเต็ม ๆ
“นี่เธอกล้าอ้วกใส่หน้าฉันอย่างนั้นเหรอ” ปราบพูดเสียงดุระคนหงุดหงิดและตกใจไม่น้อย ทำเอาคนอาเจียนหน้าเหวอ
“อ้าว! เกิดอะไรขึ้นล่ะคะนั่น” กาสะลองเอ่ยถามก่อนที่ศจีจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตอบคนสนิทว่า
“สงสัยตาปราบของเราโดนเมียกับลูกเหม็นขี้หน้าเข้าให้น่ะสิ ก็ปากเจ้าตัวดี ดันไปพูดว่าไม่ต้องการเมียกับลูก สงสัยเจ้าตัวน้อยในท้องของหนูเตยเลยแกล้ง อ้วกใส่พ่อเสียเลย” คนพูดหัวเราะอย่างมีความสุข
“จริงหรือคะนี่” กาสะลองหลุดขำออกมาในขณะที่ศจีปล่อยให้คนทั้งสองได้คุยกันต่อ
เตยหอมทำท่าจะเข้าไปหาปราบ แต่เขารีบยกมือขึ้นห้าม กลัวเธอจะอ้วกใส่เขาอีกรอบ ก่อนที่เขาจะเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ เธอจึงรีบนำผ้าเช็ดตัวและของใช้อื่น ๆ ตามเขาเข้าไปในห้องน้ำด้วย
“เธอไม่แพ้ท้องเลยจริง ๆ เหรอ” ปราบอดจะเอ่ยถามเสียไม่ได้
“ค่ะ คุณปราบมีอะไรคะ” เตยหอมเอ่ยถามกลับไปนึกสงสัยเหมือนกันที่ปราบถามเธอเช่นนี้
“ดีจริงนะ เธอท้อง แต่ฉันนี่ดันคลื่นไส้อาเจียนแทนเธอซะงั้น” เขาไม่อยากยอมรับว่าแพ้ท้องแทนเธอเพราะช่วงนี้เขาหิวแต่ของเปรี้ยว รู้สึกบ้านหมุนบ่อย ๆ คลื่นไส้อาเจียนหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด
เตยหอมไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่มองเขาตาปริบ ๆ เท่านั้น
อาการแพ้ท้องและคลื่นไส้อาเจียนของปราบ ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง จนวันที่เตยหอมถึงกำหนดคลอด ซึ่งเด็กสาวได้รับการดูแลอย่างดีจากศจีและกาสะลอง
ปราบไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะได้ลูกสาวและไม่คิดว่าป้าของเขาจะลงทุนตรวจดีเอ็นเอเขากับลูกทั้ง ๆ ที่เขาเองก็มั่นใจแล้วว่าเด็กในท้องของเตยหอม เป็นลูกของเขา เนื่องจากให้ลูกน้องไปสืบมาอย่างละเอียดถึงการเป็นอยู่ของเธอ เตยหอมไม่เคยทำอะไรนอกลู่นอกทางเลย ไม่เหมือนกับอดีตคนรักของเขาในอดีต
ปราบไม่อยากยอมรับอีกว่าอยากเห็นหน้าลูกน้อยเหลือเกิน อยากรู้ว่าลูกสาวของตนจะหน้าตาเป็นยังไง เหมือนเขาหรือเหมือนแม่มากกว่า
อาจเพราะเขานั้นไล่ลูกเมียออกไปจากชีวิต ไม่อยากรับคนทั้งสองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง แต่ศจีเหมือนเป็นตัวเชื่อมเขากับเตยหอมและลูกอีกครั้ง
“หน้าตาเหมือนเราตอนเด็ก ๆ เลยนะตาปราบ” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้เขาต้องเหลือบมอง ทั้ง ๆ ที่แกล้งทำท่าทีไม่สนใจแต่แรก
เด็กน้อยตัวแดงเถือกหน้าตายับย่น นี่คือลูกสาวของเขาอย่างนั้นหรือ ปราบมองเด็กน้อยด้วยอาการตกตะลึงพรึงพรืด เขาไม่กล้าอุ้มเจ้าตัวจ้อย แต่ก็เห็นว่าเตยหอมให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้าอยู่ เขาก็เผลอมองไม่วางตา จนเห็นแก้มสาวแดงเรื่อขึ้นมาทันตาเห็น
ศจีพยักหน้าให้กาสะลองออกไปจากห้อง ปล่อยให้คนทั้งสองทั้งได้อยู่กับลูกอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ปราบเดินไปเดินมาในห้องเหมือนหนูติดจั่น ใจอยากอุ้มลูกเอามากอดแนบอกสักครั้ง แต่ปากก็หนักไม่กล้าจะพูดขอออกไป กลัวเสียฟอร์มและถูกหัวเราะเยาะจากแม่ของลูก
เขาอยากอุ้มลูก อยากอยู่กับลูก แล้วก็ไม่อยากให้แม่ของลูกจากไปไหนอีกแล้ว
ความสัมพันธ์ของเขากับเตยหอมนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาหลายเดือนที่เธอตั้งครรภ์ เขาเห็นหน้าเธอทุกวันกินอาหารฝีมือเธอทุกวัน แล้วก็แพ้ท้องแทนเธอทุกวันความผูกพันที่เขามีให้เธอมันยากที่จะสลัดเธอออกไปจากใจได้อีก เขาไม่อยากเสียเธอไปจากชีวิต