“หนูเอ่อ...” เตยหอมอึก ๆ อัก ๆ เธอคงไม่กล้ารบกวนหญิงชราตรงหน้าหรอก เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของเธอด้วย
“อยากให้ตาปราบรับผิดชอบลูกในท้องเธอเหรอ” ศจีหยั่งเชิงถามสิ่งที่เด็กสาวกำลังคิดอยู่ภายในใจ
“ไม่ค่ะ หนูแค่อยากบอกคุณปราบเฉย ๆ คุณปราบไม่รับลูกในท้องของหนูหรอกค่ะ ที่สำคัญก็คือ หนูไม่อยากบังคับจิตใจใคร ยิ่งบังคับเขาก็ยิ่งเกลียดหนู แต่ที่หนูพูดเพราะคิดว่าเขาอาจจะเห็นแก่ลูกบ้างน่ะค่ะ”
“รักหลานชายของฉันไหมล่ะ” ศจีถามตรงประเด็น แบบไม่อ้อมค้อม
“เอ่อ... คือว่าหนู มีสิทธิ์รักคุณปราบได้ด้วยเหรอคะ” ประโยคของเด็กสาวทำให้ศจียิ้มออกมา
“รักได้สิ”
“คุณปราบไม่ได้รักหนู ไม่อยากมีลูกกับหนู ที่หนูท้องก็เหมือนมัดมือชกเขาน่ะค่ะ จะมาให้เขารับลูกในท้องอีก เขาคงโกรธและเกลียดหนูมากขึ้นไปอีก”
“ถ้าเขาไม่รับผิดชอบแล้วจะทำยังไงล่ะ”
“หนูคงต้องไปตามทางของหนูค่ะ”
“แต่ฉันอยากอุ้มหลาน มาอยู่กับฉันไหม ฉันจะดูแลเธอเอง”
“เอ่อ... จริง ๆ เหรอคะ” คนไม่มีที่ไปเอ่ยถามด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ
“ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น มาอยู่กับฉันรับรองว่าจะไม่มีใครรังแกเธอได้อย่างแน่นอน”
“ถ้าเขาไม่รับผิดชอบ เราเลี้ยงลูกเองก็ได้นี่นา เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ต้องแกร่งเอาไว้ อย่าอ่อนแอให้ใครมาดูถูกดูแคลนหรือทำร้ายจิตใจได้ง่ายๆ” ประโยคของหญิงชราทำให้เตยหอมมีกำลังใจในการต่อสู้กับชีวิตต่อไป
“ไปบอกตาปราบมาหาฉันหน่อย” ศจีหันไปบอกกาสะลอง คนสนิทของท่าน กาสะลองรีบรับคำก่อนที่จะไปเชิญปราบที่เดินวนไปเวียนมาอยู่ด้านนอก
“คุณปราบคะ คุณท่านเชิญค่ะ” ได้ยินประโยคนั้นปราบก็เดินตัวปลิวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของบ้านในทันที เขาร้อนใจเป็นอันมาก คิดว่าเด็กสาวคงบีบน้ำตาเรียกร้องให้เขารับผิดชอบ โดยให้ศจีบีบบังคับเขาอย่างแน่นอน ซึ่งเขาไม่มีวันยอมเด็ดขาด
ใบหน้าบึ้งตึงของปราบและดวงตาคมดุของเขาทำให้เตยหอมต้องก้มงุด เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังโกรธกรุ่น ทำท่าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเธอเสียอย่างนั้น
“ผมไม่ต้องการแต่งงานหรือรับผู้หญิงคนนี้เป็นเมียครับคุณป้า ไม่ว่าเธอจะบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ เรียกร้องความสนใจจากคุณป้าเพียงใด แต่ผมไม่ต้องการเมียและลูก คุณป้าก็ทราบดี”
“แล้วป้าพูดรึว่าจะให้เรารับเตยหอมเป็นเมีย” เสียงดุ ๆ นั้นทำให้ปราบอ้าปากค้าง เขารู้สึกหน้าแตกยับเยินเสียเหลือเกินในเวลานี้
“ผมก็ต้องพูดดักเอาไว้ก่อนครับ” เวลาปราบอยู่กับป้าของเขา เขาเหมือนอีกคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาไม่เหมือนปราบที่ดุดัน เข้มงวด ปากร้าย เย็นชาแต่กลับมีท่าทีหงอให้ผู้เป็นป้า แม้จะไม่หงอมากมายอะไร แต่ก็เห็นว่ายอมลงให้ศจีอย่างไม่น่าเชื่อ
ศจีคงมีพระคุณและดูแลปราบมาเป็นอย่างดี ปราบจึงได้ทำตัวเหมือนเขาเป็นลูกชายคนหนึ่งของศจีเช่นนี้
“ไม่ต้องพูดดัก เราก็รู้ว่าป้าไม่ชอบบังคับใคร แต่ป้าจะขอเตยหอมไปอยู่กับป้า”
“ขอไปทำไมครับ” ปราบเอ่ยถามอย่างตกอกตกใจ
“ก็เราไม่รับเด็กในท้อง ไม่ต้องการลูก ไม่ใช่รึไง”
“ก็ครับ” เสียงของปราบอ่อยลง
“ป้าคงไม่ยอมให้เราขับไสไล่ส่งคนท้องไปตายเอาดาบหน้าหรอกนะ ยังไงป้าก็จะขอรับเขาไปดูแลเอง เรามีปัญหาอะไรรึพ่อตัวดี”
“ผมหรือครับจะมีปัญหาอะไร” ปราบมองหน้าเด็กสาว ก็เห็นว่าเธอเอาแต่มองป้าของเขาอย่างลุ้นๆ คล้ายกับว่าอยากจะไปอยู่กับป้าของเขาเสียเหลือเกิน นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย
“เราน่ะไปเก็บข้าวของก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับหลานชายของฉันสักหน่อย กาสะลองพาเตยหอมไปเก็บเสื้อผ้าด้วยจ้ะ หลังอาหารเย็นจะได้เดินทางกันเลย” ประโยคนั้นทำให้เตยหอมรู้ว่าป้าของปราบไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันกับปราบ
“คุณป้ามีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”
“เรื่องเพชรดาน่ะมันตั้งนานมาแล้ว ผู้หญิงน่ะไม่ได้เหมือนกันหมดหรอกนะ”
“คุณป้าเลิกพูดถึงผู้หญิงแพศยาคนนั้นเสียทีได้ไหม”
“ป้าแค่อยากเตือนสติเราว่าคนเราเท่านั้น ไม่มีใครเหมือนกันไปเสียหมด เราอย่าตัดสินทุกคนจากคนคนเดียวสิ”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดนั่นแหละครับ”
“รวมถึงป้าด้วยรึ”
“ผมไม่ได้หมายความถึงคุณป้านะครับ”
“ป้าเป็นผู้หญิงนะ เราก็บอกว่าเหมือนกันหมด”
“ผมยกเว้นคุณป้าเอาไว้คนนึงครับ”
“ถ้าเด็กคนนั้นท้องลูกของเราจริง ๆ เราก็จะไม่รับเหรอ” ท่านหยั่งเชิงถาม
“ไหนคุณป้าบอกว่าจะไม่บังคับให้ผมต้องรับผิดชอบ”
“ป้าถามเรา ไม่ใช่บังคับให้รับ เราเป็นอะไรของเรา อารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“เธอท้องลูกของใครก็ไม่รู้นี่ครับ”
“นอนกับเราจะไปท้องกับหมาแมวที่ไหน” เสียงดุเข้มเอ่ยถาม ทำเอาปราบหน้าเหวอ
“จะไปรู้เหรอครับ มีผู้ชายมาชอบเธอเยอะแยะ” เขาพูดแล้วกัดฟันกรอด
“หึงเขารึไง”
“ผมนี่นะจะหึงเขา” คนโดนจี้จุดทำเสียงดังกลบเกลื่อนหัวใจตัวเอง
“แล้วถ้าพิสูจน์ได้ว่าเด็กนั่นเป็นลูกเรา เราจะว่ายังไง”
“เอาลูกไม่เอาแม่ ผู้หญิงแบบนั้นผมไม่เอาหรอกครับ”
“แบบไหน” ศจีถามอย่างทันกัน
“ผู้หญิงที่นอนกับผู้ชายจนท้อง”
“เขาถูกหลอกเอามาขายมิใช่รึ เราเองอยากได้เขา”
“เขาบอกหรือไง” คนถามมีแววหงุดหงิดเมื่อคิดถึงตัวต้นเรื่อง
“ป้ารู้ก็แล้วกัน เราอยากได้เขา ก็เลยมีคนหลอกเขามาขาย ประเคนให้เราจนถึงปาก เขาเลยต้องนอนกับเรา และต้องท้อง สาเหตุมาจากใครรึ”
“คุณป้าจะโทษว่าเป็นความผิดของผมเหรอครับ”
“ป้าพูดสักคำหรือยัง” ประโยคนั้นทำให้ปราบนิ่งอึ้งไปอีกรอบ เขาไม่เคยเถียงชนะป้าของเขาเลยสักครั้ง
ให้ตายดิ้นสิ!!!
“เอาละ สรุปว่าป้าจะเอาเด็กเตยหอมนั่นไป ป้าไม่ได้ต้องการให้เราตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ต้องการให้เรารับรู้แค่นั้นเอง” ประโยคนั้นของท่านทำให้ปราบได้แต่ยืนอึ้งพูดอันใดไม่ออก
เขาได้รับประทานอาหารกับผู้เป็นป้าอีกครั้ง โดยมีเตยหอมนั่งรับประทานอาหารอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“ป้าจะรับเตยหอมเป็นหลานอีกคน ถูกชะตานัก มีสัมมาคารวะ หน้าตาก็น่ารักเหลือเกิน” ศจีพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้เป็นหลานสาวของคุณป้า คงไม่คิดที่จะฮุบสมบัติของป้าฉันหรอกนะ”
“ไม่ต้องหรอก ถ้าป้าอยากให้ ป้าก็จะให้เอง สมบัติของป้า ใครจะขัดรึ”
“ดีจังนะครับ รับเป็นหลานยังไม่ทันข้ามวัน คุณป้าก็ให้ท้ายเสียแล้ว”
“เราก็อย่าไปหาเรื่องเด็กมันเลย” ศจีเอ่ยปรามหลานชาย
“แตะต้องไม่ได้เลยนะครับ” ปราบมองเด็กสาวด้วยดวงตาที่ดุเข้ม ทำเอาเธอรีบหลบสายตาวูบ
“ไม่ต้องทำท่าทางวางก้ามขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวป้าจะพาเตยหอมกลับไปอยู่ที่บ้านเดี๋ยวนี้แหละ” ประโยคนั้นทำให้ปราบต้องเงียบปากลง
เตยหอมคิดว่าศจีจะพาเธอเดินทางไปที่ไหนไกล ๆจากปราบเสียอีก แต่ที่ไหนได้บ้านของศจีคือบ้านหลังใหญ่อีกหลังที่อยู่ใกล้ ๆ กับปราบนั่นเอง
แสดงว่าเธอก็ต้องเห็นหน้าคนใจร้ายอย่างเขาทุกวันอีกอย่างนั้นเหรอ
การย้ายมาอยู่กับศจีทำให้เธอรู้สึกขอบคุณท่านเหลือล้น
ท่านทำให้เธออบอุ่นใจยิ่งนัก ท่านและป้ากาสะลองดูแลเธออย่างดี ในขณะที่เธอไม่แพ้ท้องเลยสักนิด
ป้ากาสะลองนั้นยังใจดีให้คำแนะนำเธอมากมายในเรื่องการเลี้ยงลูก แถมยังหาหนังสือที่เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กมาให้เธออ่านเป็นความรู้อีกด้วย