" พี่รามิลมาบ้านเกลที่เดียวเลยนะคะ มะลิมารอที่บ้านเกลแล้วค่ะ " เมื่อได้รับเมสเสจจากสาวน้อยก็ทำเอารายมิลมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
รถตู้ยี่ห้อดังสีดำเงาวับจอดอยู่ที่หน้าบ้าน สองสาวที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วเดินออกไปก่อนจะมีชายวัยกลางคนล
มาเปิดประตูให้
" ขอบคุณค่ะ " เกวลินกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งข้างๆกับรามิล และมะลิที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างอีกฝั่ง
" ใจหายเหมือนกันนะคะ "
" คงคิดถึงเราแย่เลย " รามิลพูดขึ้นทำสองคนหันไปมองหน้าขวับ!!
" พูดจริงๆคงคิดถึงแย่เลย " เขาย้ำอีกครั้งว่าที่เขาพูดมาเขาจริงจังมากแค่ไหน
" ไว้เกลกับมะลิทำงานจะเก็บเงินหาค่าตั๋วแล้วบินไปหานะคะ " เกวลินตัดบทเข้าขำเพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก
" ถ้าอยากไปขอแค่บอกเรื่องค่าใช้จ่ายพี่จัดการเอง "
" อยากไปด้วยจัง " เป็นมะลิที่พูดขึ้นมาน้ำเสียงแฝงความเศร้า เพราะตอนนี้เธออยากหนีไปให้ไกลๆจากที่นี่
" นี่มึงก็คิดจะทิ้งกูไปอีกคนหรอมะลิ " คราวนี้เป็นเกวลินที่เข้าโหมดจริงจังบ้าง
เมื่อถึงสนามบินชายหนุ่มเข้าจุดเช็คอินโดยมีคนขับรถของที่บ้านคอยเข็นกระเป๋าสัมภาระให้ เขาเดินมาที่สองสาวก่อนจะส่งยิ่มให้แต่มันเป็นยิ้มที่เศร้าอย่างเห็นได้ชัดจนคนที่มองรู้สึกใจหายไม่ต่างกัน
" อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิคะ " เกวลินบอก
" นั่นสิคะ ยิ้มหน่อยเร็วอยากเห็นรอยยิ้มหวานๆ " มะลิพูดเสริมขึ้นมาทำให้เขายิ้มออกมา
" รามิล " เสียงเข้มของใครบางคนเรียกมาจากด้านหลังก่อนที่สามคนที่ยืนอยู่จะหันไปมอง
" คุณกวิน " เป็นเสียงเกวลินที่พูดชื่อเขาเบาแทบไม่ได้ยิน
" ฝากด้วยนะเว้ย " รามิลเดินมาหากวินที่ด้านหน้า
" อืม มีอะไรก็บอกอย่าเก็บไว้คนเดียวมึง...ยังมีกู " กวินพูดประโยยคที่ยาวออกมา เกวลินมองเขาความรู้สึกด้วยความรู้สึกดีขึ้นมา อาจจะเพราะเธอไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้มาก่อนละมั้ง เสียงประกาศเตือนผู้โดยสารดังขึ้นทำห้รามิลต้องแยกจากคนที่เขาไม่อยากจาก
" อือ กูไปนะ " รามิลพูดก่อนจะเข้ากอดเพื่อนสนิท
" พี่ไปนะ " เขาหันไปบอกมะลิและเกวลินที่ยืนด้านหลัง
" โชคดีนะคะ โทรเกลได้ตลอด " เกวลินโผเข้ากอดร่างสูงทำให้เขายืนอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็สร้างความอบอุ่นหัวใจได้มากเช่นกัน
" เดินทางปลอดภัยนะคะถึงแล้วก็ส่งข่าวมาบ้างนะคะ " มะลิแตะแขนของเขาเบาๆก่อนที่เขาจะจับมือเธอไว้กุมเบาๆและส่งยิ้มให้
สามคนยืนส่งรามิลขึ้นบันไดเลื่อนจนสุดสายตา
" เหมือนขาดอะไรไปเลยเนาะ " มะลิพูดขึ้นหลังจากหันหลังเดินกลับออกมา
" แล้วเรื่องของมึงเอายังไง จะไปวันไหน " เกวลินวกเข้าเรื่องที่มะลิยังเป็นกังวล
" วันเสาร์นี้แหละ " สองสาวคุยกันจนลืมไปว่าทีชายอีกคนที่เดินตามหลังมาเงียบๆและเขากำลังจะเดินเลยไป
" เอ่อคุณกวินคะ " เกวลินเรียกเขาไว้ ร่างสูงหันกลับมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
" ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ " เสียงหวานของเกวลินบอกออกไปพร้อมกับสบเข้ากับสายตาคมที่จ้องมองมาโดยไม่หลบเหมือนครั้งที่ผ่านมา
" ไปเถอะดึกแล้ว " กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติไม่ได้เข้มหรือดุแต่ก็ไม่ได่อ่อนหวาน เกวลินยิ้มออกมาราวกับดีใจมองตามหลังกว้าของกวินจนเขาเดินไปถึงรถที่จอดอยู่อีกด้านกับรถตู้
" มึง ไม่กลัวคุณกวินแล้วหรอวะ กูเห็นจ้องหน้าเขาขนาดนั้น " เมื่อขึนมาบนรถมะลิที่ข้องอยู่ตัดสินใจถามขึ้น
" หายกลัวละ นิดนึง " เกวลินตอบยิ้มๆ
บริษัท KN Group
" เฮ้อออ~~~~ " เสียงถอนหายใจยาวเฟื้อยจากเกวลิน
" เป็นอะไรจ้ะลูกสาว " เป็นเสียงเจ้ก็อตที่เดินเข้ามาพอดี
" อุ้ย!!! แม่ก็อต ขอโทษค่ะเกลถอนหายใจดังไปหน่อย "
" เป็นอะไรไหนเล่าซิ แล้วนี่มะลิไปไหน " ยังไม่ทันที่เกวลินจะตอบเจ้ก็อตก็ถามหาเพื่อนสนิทของเธอซะก่อน
" ลากลับบ้านค่ะ เกลโทรตั้งแต่เช้ายังไม่รับเลยไม่รู้ว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า " เกวลินพูดขึ้นใบหน้าแสดงความกังวล
" เอาน่า เขาอยู่กับครอบครัวหรือเปล่า " เจ้ก็อตพูดหวังปลอบใจ
" เบื่อไหม ออกไปหาลูกคากับแม่ปะ...พาไปหาประสบการณ์ " ชายปากแดงพูดยิ้มอย่างมีเลศนัย เกวลินมองเขายิ้มๆก่อนจะเก็บของและเดินตามหลังไป โดยถือแฟ้มเอกสารให้ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาเดินฉับๆด้วยความคล่องแคล่ว สายตาคมของใครบางคนมองลงมาจากตึกสูงสายตานิ่งยากคาดเดา
" นายครับ ไอ้ชาติชายมันรังแกชาวบ้านอีกแล้วครับ " ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาบอกทำให้เขาเลิกสนใจคนตัวเล็กด้านล่างหันมามองหน้าลูกน้องสายตานิ่งเมื่อครู่ฉายแววคมกริบออกมาราวกับกระบี่ที่ถูกลับคมมาพร้อมเชือดเฉือนสิ่งที่ขวางหน้า
" เมื่อไหร่ "
" เมื่อวานครับ สายรายงานมาว่ามันกระทำการเหิมเกริมขึ้นทุกวันจนชาวบ้านแถวนั้นเริ่มอยู่กันลำบากแล้วครับ " ลูกน้องรายงานตามที่รับเรื่องมา
" เตรียมรถ " ชายชุดดำลูกน้องคนสนิทเดินออกไปทันที
" เกลช่วยฉันด้วย " ข้อความจากเพื่อนสนิททำเอาเกวลินหน้าถอดสี ก่อนจะรีบโทรหาทันที ทว่าโทรเท่าไหร่ก็ไม่รับ
" แม่ก็อต เกลคงไปกับแม่ก็อตไม่ได้แล้วค่ะ " เกวลินพูดขึ้นขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนออกต้องหยุดชะงักทันที
" มะลิน่าจะเกิดเรื่องค่ะ "
" อ้าวหรอตายจริง "
" ค่ะ เกลขออยู่ที่บริษัทต่อก่อนนะคะ จะลองติดต่อหามะลิดู "
" อ้ะ จ้ะๆไปๆได้เรื่องยังไงบอกแม่ด้วยนะ "
เกวลินลงจากรถก่อนรีบวิ่งเข้ามาที่บริษัท ร่างบางหยุดนิ่งเมื่อเพื่อนสาวส่งรูปบางอย่างมาให้
" ห้ะ " เกวลินยกมือเล็กขึ้นมาปิดปากตากลมโตเบิกโพรงอย่างตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่เพื่อนสนิทส่งมา หัวใจดวงน้อยก็พลันเต้นแรง
" รอก่อนนะมะลิกูจะไปช่วยมึงเอง " ว่าแล้วเกวลินก็กระชับกระเป๋าแน่นพร้อมวิ่งออกนอกบริษัททันที
เอี๊ยดดดด!!!!
" อ้ะ โอ้ย " ร่างเล็กเซล้มลงกับถนนคอนกรีตหน้าบริษัท
" เป็นอะไรไหมครับ " ชายชุดดำคนเดิม รถคันเดิม แต่คราวนี้คนที่สวมสูมดำลงมายืนดูด้วย
" เธออีกแล้วหรอ "
" ขอโทษนะคะ ฉันรีบ " เกวลินพูดจบก่อนจะลุกขึ้นมาพรวดโดยลืมสำรวจตัวเองว่ากระโปรงนักศึกษาทรงเอสั้นเหนือเข่าที่เธอสวมอยู่รอยผ่าด้านหลังมันฉีกขึ้นมาจนเกือบเห็นก้น
" เดี๋ยว " ถึงจะรีบแค่ไหนก็ต้องหยุดเมื่อเสียงเข้มเอ่ยเรียก
" คุณกวินคะ คือว่า "
" ขึ้นรถ "
" แต่ว่า " ไม่รอให้คนตัวเล็กได้พูดอะไรต่อเขาก็เดินหันหลังให้
" ไปเถอะกระโปรงเธอ " ชายชุดดำบอกกับเกวลินเป็นนัยก่อนที่เธอจะสำรวจกระโปรงตัวเอง
" เชี่ย!!! " เกวลินรีบวิ่งมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งด้านข้างของกวินก่อนจะจับกระโปรงหมุนมาด้านข้างแทนเผยให้เห็นขาขาวเนียน
" คุณกวิน เอ่อ รบกวนอะไรคุณหน่อนได้ไหมคะ " เกวลินหันไปพูดกับคนด้านข้าง เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
" ช่วงไปส่งที่สถานีขนส่งหน่อยได้ไหมคะ " หลังจากได้ยินประโยคกวินหันมามองเกวลินเล็กน้อย
" เอ่อ คือมะลิค่ะ มะลิส่งข้อความแล้วก็ภาพนี้มา เกลต้องไปช่วยมะลิค่ะ นะคะ เกลขอร้อง " มือเล็กยกขึ้นมาไหว้ไว้ตรงอกสายตาคมมองที่หน้าจอโทรศัพท์ที่วางไว้หน้าขาพร้อมกับฉายแววดุดันออกมาอย่างเห็นได้ชัด
" ไป " ได้ยินคำสั่งชายชุดดำก็เคลื่อนรถคันหรูออกไปทันที เกวลินที่นั่งไม่ติเพราะคิดเป็นห่วงเพื่อนสนิท
" คุณกวินคะ นี่ไม่ใช่ทางไปขนส่งนี่คะ " เกวลินมองรถที่กำลังวิ่งออกนอกเส้นทาง
" นี่เธอ อย่าพูดมากได้ไหม นายกำลังอารมณ์ไม่ดีอยากโดนจับโยนลงรถหรือไง " ชายชุดดำพูดเตือนเกวลินออกมาทำให้สาวน้อยต้องนั่งเงียบปากเม้มเป็นเส้นตรง
" รับสิมะลิ " มือเล็กที่พยามกดโทรหาเพื่อนทว่ากลับไม่มีท่าทีว่าจะรับสาย
" เพื่อนเธอไม่กล้ารับสายหรอก "
" คะ "
" ก็ถ้าเพื่อนเธอตกอยู่ในอันตรายเขาจะรับสายเธอได้ยังไง " เป็นคำอธิบายจากชายชุดที่ขับรถอยู่
" ตายจริง ป่านนี้คุณยายคงรอแย่แล้ว " เกวลินนึกได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกคุณยาย
" มีนาไปอยู่เป็นเพื่อนแล้ว " กวินพูดออกมาอีกครั้ง วันๆนึงหากว่าไม่ได้คุยเรื่องธุรกิจเขาแทบจะพูดนับคำได้ แต่ตั้งแต่เธอขค้นรถมาก็ทำเขาพูดไปแล้วมากกว่าสิบคำ