Chapter 3 : ตระกูลต้องสาป
ในห้องรับรองแขกกว้างขวางสไตล์กรีกโบราณ ทุกอย่างถูกประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ด้วยฝีมือสถาปนิกชำนาญงาน เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงได้รับการเลือกสรรให้เข้ากันกับเพดานทรงโค้งสีขาว ส่วนช่องว่างนั้นตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมัน
แน่นอนว่าห้องนี้เป็นสถาปัตยกรรมแนวกรีกตามใจเจ้าของบ้าน ห้องทุกห้องจึงมีรูปวาดของเทพเจ้าในยุคโบราณ ความเชื่อของผู้คนในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านพ้นมานานนับหลายศตวรรษ แม้แต่ในห้องนอนก็ยังมีรูปวาดของเทพีแอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือวีนัส (Venus) เทพีองค์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มากที่สุด
เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีเทาเข้มกำลังนั่งสนทนากับลูกน้องบนเก้าอี้โซฟาหลุยส์ตัวยาว ใบหน้าหล่อเหลาคมคายราวกับว่าเป็นหนึ่งในชิ้นงานประติมากรรมชั้นเลิศของเทพเจ้า ไร้ที่ติ สมบูรณ์แบบ เขาพิถีพิถันในการแต่งตัวกว่าทุกวันเมื่อมีนัดสำคัญ จัดแจงทรงผมลูบลงให้เรียบด้วยเจล เหลือปอยผมเล็ก ๆ ด้านหน้าหล่นลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ เผยให้เห็นหน้าผากกว้าง สันกรามแบบหนุ่มลูกครึ่ง-แขกขาว แม้ขอบตาดำคล้ำอาจดูอิดโรยเหมือนคนอดหลับอดนอนมาร่วมอาทิตย์
“เธอเซ็นสัญญามาแล้ว... ฮึ! ข่าวดีของฉันจริง ๆ”
“นายแน่ใจนะครับ ผมว่า...เธอไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงินหรือจะชอบ...”
“ถ้าหากว่าเธอไม่มาอยู่ข้าง ๆ ฉัน เจ้าพวกนี้คงได้รบกวนชีวิตอยู่เรื่อย แกน่าจะรู้นะมาร์คัส” พูดแทรกขึ้นมา ขณะนั่งพิงแผ่นหลังอย่างสบายใจ ตาคมหลุบมองสีสันสดสวยของลูกน้องแต่ละตัวอย่างเอ็นดู ในมือหนาคีบมวนยาสูบด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ กำมันไว้หลวม ๆ ด้วยมารยาทผู้ดี
การสูบมวนยาสูบชนิดนี้ส่วนใหญ่จะกินเวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมง เจ้าของบ้านมักสูบมันในตอนเช้า เรียกลูกน้องมานั่งคุย ใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเขา
เจ้าแมงมุมขาแหลมนับสิบตัวกำลังไต่ไปมาบนโต๊ะ สันเก้าอี้ บนเบาะนุ่มปักดิ้นทอง ไม่เว้นแม้แต่หน้าขาที่มีกางเกงแสล็คสวมทับ ลักษณะของพวกมันเป็นตระกูลเดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ มีลวดลายสีแดงรูปนาฬิกาทรายสีส้มหรือเหลืองบริเวณหน้าท้อง บางตัวก็เป็นสีดำสนิททั่วทั้งตัว เพศผู้ยังมีขนาดตัวราวครึ่งหนึ่งของตัวเมียและมีลำตัวสีอ่อนกว่าตัวเมีย
ในสีหน้าท่าทางอารมณ์ดี สูบซิการ์ชิลล์ ๆ นั่งฟังเพลงโรแมนติกทำเอาคนในบ้านขนลุกชูชัน โดยเฉพาะคนในฝั่งตรงข้ามกัน หนุ่มวัยสามสิบห้าปี อัฟซา มาร์คัส ลูกน้องคนสนิทยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ด้วยความที่พวกเขาไม่ชอบมองภาพพวกแมงมุมยั้วเยี้ยสักเท่าไร
“ผมว่าเธอไม่ชอบพวกมันแน่ ๆ ไม่อยากนึกภาพว่าจะกระโดดกรี๊ดตัวโยนขนาดไหน”
“นั่นสิ เธอควรตกใจไหมนะ?” เสียงหัวเราะดังจากนั้น ชายหนุ่มยกมือปิดปากกลั้นขำ ค่อยหันไปบอก “ฉันไม่ให้แกไปสืบอะไรเรื่องของเธอนะอัฟซา มันเป็นการละลาบละล้วง ฉันกลัวว่าถ้าเธอมารู้ทีหลัง เธอจะไม่ไว้ใจฉัน...”
“ผมแค่บังเอิญไปซื้อข้าวมันไก่น่ะครับ”
“อ้าวหรือ? บ้านเธอขายกับข้าว... ข้าวมันไก่? อร่อยไหมล่ะ” แล้วเขาก็มีท่าทีสนใจเรื่องราวของหญิงสาว ปากยังพ่นควันจากปากเป็นรูปทรงกลม เมื่อหลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงรสและกลิ่นของซิการ์ พันวาตั้งใจว่าหมดมวนนี้คงพอก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะอยากกินข้าวมันไก่ขึ้นมา ก่อนเหลือบตามองลูกน้องกุมมือสั่นเทาไว้ด้านหน้าหลับตาปี๋ นั่งหุบขาเรียบร้อย พอเจ้าแมงมุมสีดำลายสวยตัวหนึ่งไต่ขึ้นบ่าไป
“อย่าให้มันมาใกล้ผมครับนาย ผมไม่ชิน... เจ้าพวกนี้มันไม่น่ารักครับ”
“ฉันจำได้ว่าพวกเธอไม่เคยทำร้ายแกนะมาร์คัส”
“ไม่เคยครับ! แต่ผมไม่ชอบแมงมุม”
“แต่ฉันเห็นแกดูหนังไอ้แมงมุม”
“มันไม่ใช่เจ้าพวกนี้เลยนะนาย อันนั้นมันหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่เจ้าพวกนี้มัน...” ปลายเสียงเงียบไป พอแม่ตัวหนึ่งง้างขาแหลม ๆ ของมันบนแก้มสาก แยกเขี้ยวขู่อย่างไม่พอใจ
พวกมันเข้าใจภาษามนุษย์ พร้อมประกาศศักดาว่าพิษของมันมีผลต่อระบบประสาทโดยตรง ผลที่ตามมาคือ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งจนเป็นอัมพาต
“กัดทีเดียวตาย... มันน่าแหยง...”
“ไม่เอาน่ะ จะมากลัวอะไรกัน อุตส่าห์อยู่บ้านนี้มาตั้งนาน ทีทารันทูล่ายักษ์ของแม่ฉัน ยังไม่เห็นแกจะกลัว” พลันหันไปทางขวามือของเขาที่มีคนสนิทกว่า ใจกล้าพอตัว “ใช่ไหมอัฟซา? แกกลัวเจ้าพวกนี้รึเปล่า”
“คือ... ที่พวกผมไม่แสดงท่าทีว่ากลัวมาดามเพราะเธอจะทำให้พวกผมยิ่งกลัว บางครั้งเธอก็ชอบแกล้ง ส่วนกับคุณพันวาคงไม่มีอะไร ผมรู้ว่านายเป็นคนใจดี เหมือนมาดามแหละครับ”
“อ้อ... งั้นหรือ?”
นัยน์ตาคู่คมสลดลงพอนึกถึง ‘มาดามโคลอี้’ มารดาผู้แสนน่ารักใจดี เพราะถึงจะใจดีเท่าไรหากถึงคราวดุแล้วก็นับว่าเป็นคนเด็ดขาดทีเดียว เขายังจำได้ว่าแรก ๆ นั้นอัฟซากับพนักงานหนุ่มคนสนิทอีกสองคนรีบเขียนใบลาออกทันทีที่รู้ว่าบ้านนี้ซุกซ่อนความลับอะไรไว้ น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ก้าวขาออกจากคฤหาสน์ เมื่อนายหญิงใหญ่กรีดเสียงแหลมเล็กออกมาจากลำคอว่าใครลาออกตาย! คุณแม่ยังเสกกองทัพแมงมุมนับพันตัวมาเดินเต็มบ้าน พนักงานคนสนิทแต่ละคนเลยต้องอยู่ทำงานด้วยความหวาดกลัว รับใช้มาดามและลูกชายชนิดถวายหัว จนในที่สุดก็กลายเป็นความเคยชิน พ่วงด้วยความขยะแขยงอยู่น้อย ๆ
มาดามโคลอี้ลาจากโลกไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ทิ้งลูกชายให้อาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่โต่ตามลำพัง มีแมงมุมเป็นเพื่อนกับแม่บ้านคนขับรถและบอดีการ์ดส่วนตัวไม่กี่คน
“เธอออกจะน่ารักอัธยาศัยดี ลิซซี่ โคลอี้ เมล...” เสียงทุ้มอ่อนโยนลงเมื่อเรียกหาสัตว์เลี้ยง ที่ยอมเดินลงจากบ่ากว้างของผู้ชายตัวโต มาวิ่งเล่นในมือเจ้าของ
พวกมันเป็นภาพลวงตา มีบางตัวที่เป็นของจริง หลงทางมาเพราะอำนาจมนตร์ พวกมันคงคิดว่าเขาเป็นจ่าฝูง คอยติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหน แต่ถ้าหากว่าเขาสั่งให้อยู่บ้านมันก็จะอยู่ในกรง รอรับประทานอาหารจากเจ้านายสบาย ๆ ไม่ต้องออกไปตามล่าหาเหยื่อกินเอง
“ฉันสูบเสร็จละ ไปเถอะ... อย่าให้เธอต้องรอนาน แล้วฉันหิว... ไส้จะขาด” บ่นอุบอิบ ร่างสูงในเชิ้ตสีขาวครีมลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายหนังสีดำพาดบ่า
มาร์คัสลอบถอนหายใจดัง อกสั่นขวัญแขวนไม่หาย ต่างคนลอบมองหน้ากันเมื่อแมงมุมร้ายหายไปเพียงพริบตา เหลือเพียงสามตัวขยับขาเดินออกจากห้อง กลับไปยังกรงของพวกมัน ซึ่งอยู่ในเรือนกระจกถัดจากลานจอดรถ
คนทำงานมานานคงรู้ใจดีว่าสิ่งที่จะมาเติมเต็มกระเพาะของคุณพันวาได้คงไม่ใช่อาหาร
แต่เป็นวิญญาณมนุษย์...
Arachné Tailors
ห้องเสื้อแบรนด์ดังย่านถนนสุโขทัยค่อนข้างคึกคักวุ่นวายเพราะไม่ได้ขายแค่สูทเพียงอย่างเดียว ยังมีผ้าประเภทอื่นอย่างผ้าซิ่นผ้าไหมซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของประเทศไทย เน็กไท ผ้าเช็ดหน้า งานผ้าชนิดอื่นอีกหลายประเภท รวมถึงของชำร่วยเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายใช้สอย และด้วยความที่ห้องเสื้อแห่งนี้ติดสัญญาสปอนเซอร์บริษัททัวร์ ฉะนั้น นอกเหนือจากการไปเยี่ยมชมร้านจิวเวลรี่ ร้านเครื่องหนัง หรือแม้แต่ร้านขายน้ำผึ้ง จะมีนักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์เดินเข้าเดินออกที่แห่งนี้ทุกวัน
ผ่านกระจกบานสูงใหญ่หากมองจากข้างนอกเข้ามา จะเห็นว่ามีพนักงานมายืนรอลูกค้าประมาณหกถึงเจ็ดคน ทุกคนสวมสูทมีราคา แต่งตัวดีพูดจาดีท่าทางน่าเชื่อถือ บางคนมีนาฬิกาเรือนหรูไว้อวดฐานะทางการเงิน บางคนก็เป็นลูกครึ่งที่พูดได้ถึงสามภาษา ยังมีชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทย และคนไทยแท้อย่างตรึงใจ
เด็กจบใหม่ไฟแรงสามารถพูดได้ถึงสี่ภาษาทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ไม่น้อยหน้าพนักงานคนอื่นแม้แต่คนที่เป็นเจ้าของภาษาเองยังชมว่าเธอสำเนียงดี มีรอยยิ้มหวานสมชื่อ ‘ตรึงใจ’ ราวกับว่ารอยยิ้มของเธออาจติดตามผู้รับไมตรีไปด้วย ยังถือดีกรีปริญญาตรี-เอกภาษาสเปน พร้อมคอร์สตัดเสื้อของมาดามโคลอี้อีกหนึ่งใบ หุ่นดี หน้าตาสะสวย ถามว่ามีหนุ่มมาตามทอดสะพานให้เยอะไหม? คงพอสมควร แต่ความเป็นคนอัธยาศัยดี ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อการทำงาน ตรึงใจคงไม่รู้ว่าใครเข้ามาแจกขนมจีบ เธอคิดแค่ยืนสวยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ห้องเสื้อสาขานี้ และต้องทำยอดขายให้ทะลุเป้า
ร่างบางในเดรสสูทตัวสวยกระชับจับเสื้อให้เข้าที่ ยกมือสะบัดปอยผมสีน้ำตาลดัดลอนปลาย เมื่อรถบัสคันใหญ่จากไป รถตู้ของบริษัททัวร์จอดลงด้านหน้าบอกว่าแขกรอบนี้คงไม่เยอะมากเท่าเมื่อเช้า เธอยกมือไหว้ ‘สวัสดีค่ะ’ ต้อนรับลูกค้าหนุ่มร่างสูงใหญ่กับภรรยาสาว มัคคุเทศก์ดูมีอายุราว ๆ สักห้าสิบปีสวมเครื่องแบบบริษัท
“ฝากด้วยน้อง แขกสเปนฯ ฐานะล่ำซำ คุณเขาอยากได้สูทกับผ้าไหมให้คุณนาย...”
“ค่ะพี่เบลล์ วันนี้มาของเวิลด์ฯ นะคะ?”
“จ้ะน้องดาวคนสวย...” มัคคุเทศก์สาวใหญ่ส่งยิ้มให้พนักงานอย่างน่ารัก ใต้รอยยิ้มเป็นมิตรสื่อถึงใจกันว่าพร้อมทำงาน และเธอเองก็ต้องการค่าคอมมิชชั่นพอ ๆ กับพี่ไกด์!