"อ้าว คุณพ่อติดผ่าตัด คุณแม่ติดเคสด่วนอีก ให้โทรบอกอาพายุ แล้วอาพายุจะว่างไหมอ่ะ ขานั้นก็งานเยอะเหมือนกัน ถ้ากลับแท็กซี่ก็จะโดนดุอีก หรือว่าจะไปหาพี่บัวดี ถ้าไปจะไปเป็น ก.ข.ค. พี่บัวกับพี่ธามไหมนะ" ฟ้าใสอ่านข้อความของคนเป็นพ่อกับแม่ที่ส่งมาบอกว่าไม่สามารถมารับเธอได้กันทั้งคู่ ให้โทรบอกพายุ คุณอาสุดหล่อ อดีตคาสโนว่าตัวพ่อที่สิ้นลาย โดยคนที่จัดการลบลายก็คือปรอย แพทย์หญิงที่ตอนนี้ประจำแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูของโรงพยาบาล เพื่อนร่วมรุ่นของสายฟ้ากับแบม มีลูกสาวอายุสิบขวบ และลูกชายอายุห้าขวบ และตอนนี้พายุก็เข้าบริหารงานที่บริษัทผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอากาศยานและยานยนต์อย่างเต็มตัว
"นี่ ยืนบ่นอะไรอยู่คนเดียว" ขณะที่ฟ้าใสใคร่ครวญพึมพำกับตัวเอง มารีเพื่อนร่วมคณะก็เดินเข้ามาแตะไหล่ พร้อมรอยยิ้มสดใส
"มารี ฟ้าใสนึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก เห็นหมดเวลาปุ๊บก็เก็บของออกไปเลย" ฟ้าใสว่า พอหมดเวลาเรียนมารีรีบเก็บข้าวของและออกจากห้องไปด้วยความรีบร้อน ทำเอาเธองุนงงที่มารีไปแบบไม่บอกไม่กล่าวทั้งที่ก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ
"มารีปวดท้อง อั้นไว้ตั้งแต่อาจารย์เข้าห้องแล้ว"
"แล้วไม่ขออาจารย์ไปเล่า ฟ้าใสก็ว่าทำไมมารีนั่งนิ่ง ขนแขนนี่ลุกเกลียวเลย" ฟ้าใสว่าอย่างขำๆ
"แล้วทำไมยังไม่กลับ หรือว่ารอคนมารับ"
"คุณพ่อคุณแม่ติดเคสด่วนน่ะ บอกให้อามารับ แต่ฟ้าใสยังลังเลอยู่ว่าจะไปหาพี่สาวที่คณะบริหารดีไหม"
"แล้วตัดสินใจได้ยัง"
"ยัง แล้วมารีกลับยังไง"
"มารีอยู่คอนโดใกล้ๆ มหาลัยนี่เอง งั้นมารีอยู่เป็นเพื่อนก่อนเนอะ"
"ไม่เป็นไร ...ฟ้าใสรู้ละว่าจะกลับยังไง มารีกลับได้เลยนะ ฟ้าใสไปละ พรุ่งนี้เจอกัน" ฟ้าใสหันไปเห็นร่างสูงของใครบางคนที่เดินไปเปิดประตูรถคันหรูราคาแพง ไวเท่าความคิด ขาเรียวๆ ทั้งสองข้างก้าวไปหาเป้าหมายทันที
"ฟ้าใส!!" มารีร้องเรียกด้วยความตกใจที่จู่ๆ ฟ้าใสก็วิ่งไปยืนขวางหน้ารถ
เอี๊ยดดดดด!!
"ยัยบ้า!! อยากตายหรือไงห๊ะ!!" ธันน์เปิดประตูลงจากรถก็ด่ากราดคนที่วิ่งมายืนขวางหน้ารถเขาทันทีด้วยความโมโห ดีที่เป็นในมหาวิทยาลัยเขาจึงไม่ได้ใช้ความเร็วมาก
"ระดับน้องชายพี่ธามนักแข่งรถระดับแชมป์เปียนส์ของแบบนี้มันอยู่ในสายเลือดยังไงนายก็เบรคทัน และด้วยความเร็วที่นายใช้ นายเอาอยู่อยู่แล้ว" ฟ้าใสยิ้มกริ่มกวนอารมณ์ของคนโมโห
"เธอนี่มัน....." ธันน์ยกมือขึ้นมาชี้หน้าคนที่ไม่สะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเองเลยสักนิด
"ไปส่งหน่อยดิ คุณพ่อติดผ่าตัด คุณแม่ติดเคสด่วน อาพายุน่าจะไม่ว่าง จะไปหาพี่บัวก็เกรงใจเผื่อสวีทกับพี่ธามอยู่"
"เหอะ! ทำไมฉันต้องไปส่งเธอด้วย แท็กซี่ก็มีก็ไปเรียกดิ"
"มันอันตราย นายไม่รู้ไง ยิ่งผู้หญิงสวยๆ อย่างฉันด้วย"
"คนบ้าไรหลงตัวเอง"
"ฉันไม่ได้หลงตัวเองซะหน่อย ตั้งแต่เล็กจนโตก็มีแต่คนเรียกฟ้าใสคนสวย คุณพ่อก็เรียก คุณแม่ก็เรียก ปู่ย่าตายายก็เรียกหมด พี่บัวว่าที่พี่สะใภ้นายก็ยังเรียกฉันว่าฟ้าใสคนสวยเลย นายตาดีจริงป่ะเนี่ยถึงมองว่าฉันไม่สวย ไปตัดแว่นเหอะถ้าจะตาถั่วขนาดนี้"
"เพราะเธอสวย ฉันเลยต้องไปส่งเธอด้วยใช่ไหม"
"ใช่ และมันก็เป็นเหตุผลที่ดีมากๆ ด้วย" ว่าแล้วฟ้าใสก็เดินละลิ่วไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่งฝั่งข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย
"เธอนี่มัน....." ธันน์พูดได้แค่นั้นก็เข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
"นี่ๆ จอดก่อน เปิดกระจกด้วย" ฟ้าใสออกคำสั่งเมื่อรถเคลื่อนตัวมาถึงจุดที่มารียืนอยู่
"วุ่นวายฉิบ" ธันน์ว่าแต่ก็ยอมเปิดเลื่อนกระจกให้
"มารี เจอกันพรุ่งนี้นะ บ๊ายบาย" ฟ้าใสโน้มใบหน้าส่งยิ้มสดใส โบกมือให้มารี
"ไปด้วยกันไหม" ธันน์เอ่ยชวนด้วยจำมารีได้ ฟ้าใสรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ ด้วยน้ำเสียงที่เขาใช้ มันช่างแตกต่างกับที่เขาใช้กับเธอ
"เออ...ไม่เป็นไร คอนโดอยู่แค่หน้ามหาลัยเอง"
"จากคณะกว่าจะถึงหน้ามหาลัยก็ไกลอยู่นะ ขึ้นมาเถอะ ธันน์ไปส่ง" ฟ้าใสมองหน้าธันน์ ไม่ใช่แค่น้ำเสียง แต่ยังจะสรรพนามนั่นอีกที่แตกต่าง
"ก็ได้" มารียอมขึ้นรถตามคำชวนของธันน์ ธันน์ลงจากรถปรับเบาะให้มารีเข้าไปนั่งด้านหลังคนขับ
"ขอบใจธันน์มากนะที่ให้มารีติดรถมาด้วย เจอกันพรุ่งนี้นะฟ้าใส" มารีเอ่ยบอกเมื่อธันน์ขับรถมาถึงหน้าคอนโดมิเนียมที่เธอพักอาศัย ธันน์ยิ้มรับคำขอบใจ
"อืม เจอกันพรุ่งนี้" ฟ้าใสโบกมือให้มารีอีกครั้ง ก่อนธันน์จะขับเคลื่อนรถออกไป มารียืนมองจนรถของธันน์หายลับตาไปจึงเดินเข้าคอนโดมิเนียม
"จะนั่งบื้ออีกนานไหม ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอขับรถเล่นหรอกนะ" ธันน์เอ่ยขึ้นหลังจากขับรถออกมาได้สักพัก แต่ฟ้าใสก็ไม่ยอมบอกสักทีว่าให้ไปส่งที่ใด
"สองมาตรฐานชัดๆ ...แล้วนายจะไปไหน" ฟ้าใสพึมพำกับตัวเองในประโยคแรก ทีตอนพูดกับมารีไม่เห็นจะใช้น้ำเสียงแบบที่ใช้กับเธอเลย ก่อนจะเอ่ยถามแทนที่จะตอบคำถามของเขา
"ไปสนามแข่ง"
"ไปด้วยดิ" ฟ้าใสบอกด้วยความกระตือรือร้น
"เธอจะไปทำไม"
"ก็ไม่รู้จะไปไหน จะไปโรงพยาบาลคุณพ่อคุณแม่ก็ติดเคส คุณปู่คุณย่าก็ไปฮันนีมูนรอบที่ล้าน ขากลับฉันกลับกับพี่บัวก็ได้ ไม่รบกวนนายหรอก"
"อืม" ธันน์ตอบรับเพียงเท่านั้น
"ปกตินักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งต้องอยู่หอในไม่ใช่เหรอ" ฟ้าใสถามหลังจากนั่งเงียบมาสักพัก
"อืม" ฟ้าใสหันมองด้วยความหมั่นไส้กับคำตอบของธันน์ จะตอบให้ยาวกว่านี้กลัวดอกพิกุลจะร่วงหล่นลงมาจากปากหรือไง
"แล้วทำไมนายไม่อยู่"
"เรื่องของฉัน"
"ไอ้ธันน์!! ไอ้บ้า!!" ฟ้าใสตะโกนใส่ด้วยความโมโหกับคำตอบที่แสนยียวนของธันน์ สะบัดหน้าพรืดใหญ่หันไปมองข้างทางพร้อมทั้งกอดอกหน้าเง้าหน้างอ
ธันน์แสยะยิ้มขึ้นมาทันทีที่มุมปากกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดแสนงอนของฟ้าใส หลังจากนั้นภายในรถก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบจนถึงสนามแข่งรถ