ชายิกาไม่รอให้ถูกเล่นงานกลับ พอถีบร่างใหญ่ตกจากเตียงแล้ว ก็กระโจนลงจากเตียงใหญ่อีกครั้ง คราวนี้คว้าผ้าห่มผืนหนาพันรอบกายขณะวิ่งลงมาด้วย
แต่!...ผ้าห่มที่ยาวรุ่มร่ามพันแข้งพันขา ทำให้ชายิกาวิ่งหนีไม่ได้รวดเร็วดั่งที่ใจต้องการ พอวิ่งผ่านหน้าคนที่ยังคงนอนจุกอยู่กับพื้น ก็ถูกอีกฝ่ายตะครุบปลายผ้าห่มไว้ ทำให้เธอล้มลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้นห้องบ้าง
“ฤทธิ์มาก สมกับเป็นบอดี้การ์ดเลยนะ ชายิกา”
ความเจ็บปวดจากการถูกชก เริ่มคลายลงไปบ้างแล้ว ผู้พันฟาเรลล์จึงตามไปล็อกร่างบางไว้ด้วยเรือนกายใหญ่โตของตนเอง โดยการนั่งทาบทับไปบนร่างเล็กที่พยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระ
“แสบนักนะ ทั้งชก ทั้งถีบ เล่นเอาผมน่วมไปทั้งตัว”
“คุณจะโดนมากกว่านี้ หากไม่ปล่อยฉันไป”
“อย่าขู่ซะให้ยาก ต่อไปถึงเวลาที่ผมจะเอาคืนบ้างแล้ว”
เปลวไฟแห่งความปรารถนาที่เผยให้เห็นจากดวงตาสีนิล ส่งให้ชายิกาหวาดกลัว และรู้ว่าตนเองกำลังจะถูกแก้แค้นกลับคืนด้วยวิธีใด
“แน่จริง ก็ปล่อยฉัน สู้กันตัวต่อตัว มาดูว่าใครจะหมอบก่อนกัน”
ชายิกาเอ่ยท้า หวังว่าผู้พันฟาเรลล์จะหลงกลของเธอบ้าง ทว่า...คนที่ชาญฉลาดอย่างผู้พันฟาเรลล์มีหรือจะหลงกลของหญิงสาวง่ายๆ
“ไม่ดีกว่า ชายิกา ผมไม่นิยมต่อสู้กับผู้หญิงด้วยวิธีนั้น สู้ปราบพยศคุณด้วยวิธีนี้ดีกว่าเยอะ”
“อย่านะ ไอ้บ้า...”
น้ำเสียงที่เหลือขาดหายไปในลำคอ เมื่อเรียวปากอิ่มสีกุหลาบถูกปิดผนึกด้วยริมฝีปากร้อนผะผ่าว มือเล็กที่พยายามยกขึ้นผลักไสร่างกำยำล่ำสัน ถูกรวบไว้ด้วยมือใหญ่ ร่างบางอรชรไม่มีโอกาสดิ้นหนีไปไหนได้ เมื่อผู้พันฟาเรลล์กดกายทาบทับร่างบางไว้ทั้งตัวด้วยเรือนกายเปล่าเปลือยของเขา
ชายิกาไม่มีโอกาสปฏิเสธปลายลิ้นร้อนรุ่มที่กำลังแทรกเข้ามาในเรียวปากของตนเอง ริมฝีปากร้อนผะผ่าวที่บดขยี้จุมพิตดุดัน ปลายลิ้นร้อนที่ชอนไชเกี่ยวกระหวัดพัวพันวาดไปทั่วโพรงปาก ก่อให้เกิดอาการร้อนวูบกระสั่นเสียวไปทั่วทั้งตัวเกิดมาไม่เคยถูกชายใดจุมพิต และไม่เคยยอมให้ใครสามารถลุกล้ำเข้ามาตักตวงความหวานจากเรียวปากคู่นี้มาก่อน
“ปล่อย!”
ชายิกาตะเบ่งเสียงออกคำสั่ง มือเล็กที่ถูกจับยึดไว้แน่น ร่างบางอรชรถูกกดทาบทับไว้ด้วยเรือนกายกำยำ ทำให้เธอไม่สามารถดิ้นหนีให้หลุดพ้นจากความเร่าร้อนของเปลวไฟสวาทได้
“ผมอยากปราบพยศคุณ ชายิกา”
ผู้พันฟาเรลล์ประกาศความต้องการอย่างชัดเจน แค่เพียงได้จุมพิตชอนไชเข้าไปสำรวจภายในโพรงปากคู่นี้ ผู้พันหนุ่มก็ได้รับความหวานกำซ่าน และต้องการจุมพิตให้ทั่วทั้งตัว ซึ่งเขามั่นใจว่าเรือนร่างอรชรหอมละมุนจะหวานฉ่ำ ทำให้เขามีความสุขจนถึงขั้นสำลัก
ผู้พันฟาเรลล์รู้ว่านี่คือครั้งแรกของชายิกา และเขาต้องการมอบบทเรียนรักอันแสนเร่าร้อนหวานฉ่ำให้หญิงสาวจดจำไม่รู้ลืม พื้นพรมจึงไม่เหมาะสำหรับการพร่ำสอนทำนองรัก มือใหญ่ช้อนลงไปใต้หัวเข่า อุ้มร่างบางอรชรซึ่งเบาหวิวไม่ต่างจากวัตถุไร้น้ำหนักไปวางลงบนเตียงใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับกดกายทับร่างเปลือยเปล่าไว้แนบแน่น ไม่ให้หญิงสาวถอยหนีได้ตามที่ต้องการ
“ชายิกา...ชื่อของคุณแปลว่าอะไร...”
ผู้พันฟาเรลล์กระซิบถามชิดกับเรียวปากอิ่ม วาดปลายลิ้นโลมเลียตามเรียวปาก แล้วดูดขบเม้มหนักหน่วง ก่อนจะผละออกเพียงเล็กน้อย เพื่อรอฟังคำตอบจากหญิงสาว
“ถ้าฉันตอบไปแล้ว คุณจะปล่อยฉันไหม” ชายิกาเอ่ยต่อรอง
และผู้พันฟาเรลล์ก็ปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ไม่!”
“ถ้ายังงั้นก็อย่ารู้เลยว่าแปลว่าอะไร”
“ไม่บอกก็เป็นไร ผมมีวิธีเค้นเอาคำตอบจากคุณ”
มือใหญ่ช้อนลงไปใต้สะโพกผายมนแล้วยกขึ้น เพื่อให้เนินเนื้อนุ่มลอยเด่นแนบชิดเสียดสีกับกายแข็งเขม็ง ปลุกให้เปลวไฟในกายเขาและเธอ ลุกพรึบขึ้นในทันที ไม่ต่างจากกองไฟถูกราดด้วยน้ำมัน
“ปะ...ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”
ชายิกาวิ่งวอนเสียงสั่นพร่า เพราะไร้ซึ่งประสบการณ์ในเพลิงเสน่หา คราใดที่ผู้พันฟาเรลล์แสร้งกดกายเสียดสีอย่างหนักหน่วงกับกลีบดอกไม้อันชุ่มฉ่ำ หญิงสาวก็ไม่อาจกลั้นเสียงครางกระเส่าไว้ได้
“บอกผม...ชื่อของคุณแปลว่าอะไร...”
ผู้พันฟาเรลล์ลอบยิ้ม ขณะได้ยินเสียงหอบกระเส่า และเสียงครางเบาๆ หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่ม ที่เจ้าตัวพยายามกัดเม้มไว้แน่น
“ฉัน...ฉัน...ไม่บอก...”
ชายิกายังยืนกรานคำเดิม ใบหน้างามแดงซ่านเพราะพิษเสน่หา กายสั่นสะเทิ้มในทุกคราที่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งร้อนรุ่มกดเสียดสีสัมผัสกับดอกไม้หวานของเธอ
“ผมจะทำให้คุณพูดให้ได้”
ผู้พันฟาเรลล์มั่นใจในความสามารถของตัวเอง เริ่มลงมือปฏิบัติภารกิจสำคัญที่มีความหวานฉ่ำวาบหวามรออยู่ข้างหน้า ด้วยการลดริมฝีปากร้อนรุ่มเข้าหาเรียวปากอิ่ม ไล้ปลายลิ้นไปตามกลีบปากสีกุหลาบ ขบกัดลงไปเบาๆ แล้วดูดเม้มหนักหน่วง บดขยี้จุมพิตดุดัน สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปพัวพันตักตวงและมอบความหวานให้กับหญิงสาวด้วยความชำนาญ
ขณะเดียวกันมือใหญ่ทั้งสองได้เลื่อนลงไปกอบกุมความอ่อนนุ่มของปทุมถันอวบอิ่ม เคล้นคลึงฝ่ามือบนปทุมถันงามสล้างเต็มไม้เต็มมือ ก่อนจะสะกิดยอดถันสีชมพูหวานด้วยปลายนิ้วรัวเร็ว สลับกับการฟอนเฟ้นปทุมถันนุ่มเนียนมือ ส่งให้ชายิกาต้องหลุดเสียงครวญครางกระเส่า เพราะกลั้นความกระสั่นเสียวไว้ไม่อยู่
“โอ้ว์...ได้โปรด...ปล่อยฉัน...”
ชายิกาครางอ้อนวอนเสียงสั่นพร่า พยายามดีดตัวขึ้นลง บิดกายถอยหนี โดยไม่รู้เลยว่า
การกระทำของตนเอง เป็นการยั่วยวนให้เปลวไฟสวาทในตัวของผู้พันฟาเรลล์ลุกฮือมากกว่า
เดิม จนผู้เป็นเจ้าของปวดหนึบไปทั่วแก่นกายแข็งเขม็ง ซึ่งเต้นตุบๆ รอคอยเวลาในการจมดิ่งเข้าสู่กายสาว