บทที่ 13

1171 Words
เมื่อชายิกาไม่ฟังและไม่คิดทำตาม ผู้พันฟาเรลล์จึงจำต้องกำราบคนที่รั้นหัวชนฝา ด้วยการอุ้มร่างบางพาดขึ้นบ่า ก่อนจะโยนลงไปบนเตียงใหญ่ พร้อมกับโถมกายทาบทับหญิงสาวได้ด้วยเรือนกายใหญ่โตเปล่าเปลือยของตนเอง “หยุดดิ้นสักครู่ได้ไหม” ชายิกาไม่ตอบ เพราะกำลังจุกไปทั้งตัว เมื่อถูกจับโยนลงมา แถมยังมีเรือนกายเปล่าเปลือยอุ่นจนร้อนทาบทับลงมาด้วย ยิ่งทำเอาพูดไม่ออก นอกจากเบิกตาจ้องมองคนที่อยู่บนเรือนกายของตนเองเขม็ง “ดีมาก รู้จักสงบปากสงบคำซะบ้าง” ผู้พันฟาเรลล์คิดว่าชายิกาเชื่อฟังคำสั่งของเขา ทว่าจริงๆ แล้วหาใช่เป็นเช่นนนั้นไม่ “ฉันจะฆ่าคุณ!” ชายิกาเค้นเสียงลอดไรฟันเพราะความโกรธจัด จ้องมองคนตรงหน้าแทบตาถลน หากฆ่าผู้ชายคนนี้ได้ด้วยดวงตาทั้งคู่ คงทำไปนานแล้ว “เก็บความแค้นของคุณไว้ก่อน ยังไม่ถึงเวลาที่คุณจะฆ่าผม” ชายิกาบิดกายไปมาเพื่อดิ้นรนให้เป็นอิสระจากการจองจำด้วยเรือนกายใหญ่โต ดวงตาคู่สวยคมดุเพ่งมองคนตรงหน้าอย่างไม่กะพริบตา “ฉันจะฆ่าคุณในทุกวินาทีที่มีโอกาส” ชายิกาเค้นเสียงขู่ฟ่อ หากแม้นฆ่าผู้ชายคนนี้ได้ในขณะนี้ เธอจะลงมือฆ่าเขาในทันที “เฮ้อ...ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ผมรึอุตส่าห์ช่วยคุณให้รอดพ้นจากอันตราย แต่คุณกลับคิดจะฆ่าผู้มีพระคุณอย่างผม” ผู้พันฟาเรลล์แสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ นึกชอบใจและรื่นรมย์ไปกับการปะทะคารม โดยมีเรือนร่างอรชรคอยเสียดสีกับเรือนกายของเขาในตลอดเวลา และเมื่อได้จ้องมองกับดวงตาคู่สวยตรงๆ ผู้พันฟาเรลล์ก็เชื่อแล้วว่า ชายิกามีดวงตาดุคมไม่ต่างจากนางเสือ และดูเหมือนว่า นางเสือคนนี้จะพยศอยู่ไม่น้อย “ฉันไม่ได้เป็นปลื้ม ที่คุณฉุดฉันมา และไม่ทราบว่าฉันกำลังตกอยู่ในอันตรายจากใคร!” “จากชะ...” ผู้พันฟาเรลล์ชะงักคำพูด ไม่ให้ชายิการู้ความจริงจะเป็นการดีที่สุด “ช่างมันเถอะ คุณอย่ารู้เลยว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายจากใคร” “ถ้ายังงั้นก็ปล่อยฉันไป ฉันไม่ต้องการความคุ้มครองจากใครทั้งนั้น ฉันดูแลตัวเองได้ ฉันเป็นบอดี้การ์ด ได้ยินไหม” ขณะออกคำสั่ง ชายิกาพยายามนอนอยู่นิ่งๆ เพื่อให้บุรุษผู้นี้ตายใจ นอกจากนั้น การไม่กระดุกกระดิกกาย ยังช่วยให้เรือนร่างของเธอสัมผัสเสียดสีกับความแข็งแกร่งของกายแข็งเขม็งได้น้อยที่สุด เพราะคราใดที่รับรู้ถึงกายแข็งเขม็งสัมผัสโดนเนินเนื้ออ่อนนุ่ม ส่งให้เลือดของเธอไหลซ่านไปทั่วทุกอณูของผิวกาย ทำให้เธอนึกอยากฆ่าตัวเอง ที่เกิดอาการเช่นนี้กับศัตรูที่ลักพาตัวเธอมา ผู้พันฟาเรลล์ส่ายหน้าปฏิเสธกับคำสั่งของชายิกา “ผมปล่อยคุณไปไม่ได้ ทันทีที่คุณออกจากบ้านของผม คุณจะต้องตกอยู่ในอันตรายชนิดที่ว่าคุณคาดไม่ถึงมาก่อน” “ไม่ต้องมาหลอกฉัน” ชายิกาตวาดกลับ “ฉันไม่มีศัตรูที่นี่ ฉันแค่มาทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับพวกนางแบบ ไม่เคยสร้างศัตรูกับใคร แล้วอันตรายที่คุณกำลังพูดถึง มันจะมาหาฉันได้ยังไงกัน” ‘ลืมไปแล้วหรือยังไง ว่าคุณไปกระตุกหนวดเสือ ทำให้ชีคอัลซาทรงกริ้ว’ ผู้พันฟาเรลล์เลือกปกปิดความจริงไว้ ไม่อยากบอกให้ชายิการู้ว่าเธอกำลังจะตกเป็นอาหารอันโอชะของชีคอัลซา ซึ่งต้องการแก้แค้นเธอด้วยวิธีอันโหดเหี้ยม “คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใครกำลังจ้องทำร้ายคุณ หากคุณสัญญาว่าจะไม่หนีออกไปจากที่นี่ ผมจะดูแลรับรองความปลอดภัยให้กับคุณเอง” “ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะได้รับความปลอดภัยจากคุณ” ช่างเป็นคำตอบที่แทงใจดำของผู้พันฟาเรลล์ยิ่งนัก แน่นอนว่าเขารับประกันความปลอดภัยจากชีคอัลซา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาจะปกป้องเธอด้วยชีวิตของเขา แต่! ไม่รับประกันความปลอดภัยจากตัวเขา เพราะตอนนี้กายแข็งเขม็งของเขาถูกควบคุมด้วยเปลวไฟเสน่หา ซึ่งเขากำลังจะควบคุมไม่อยู่ “เชื่อหน่อยเถอะน่า ชายิกา รับรองว่าคุณจะปลอดภัย เมื่ออยู่แต่ภายในบ้านของผม” “ไม่! ฉันจะกลับบ้าน และหากออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไร ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาลากคอคุณเข้าคุก!” แทนที่จะหวาดกลัวกับคำขู่ฟ่อของชายิกา ผู้พันฟาเรลล์กลับแหงนศีรษะหัวเราะร่วน ราวกับได้ยินเรื่องตลกก็ไม่ปาน “ใครหน้าไหนจะกล้ามาจับ ผู้พันฟาเรลล์” ‘ผู้พัน...บ้าจริงๆ ยศสูงขนาดนี้ ใครจะกล้าจับเขา’ ชายิกาสบถอยู่ในใจเชื่อในคำพูดของผู้พันฟาเรลล์ เพราะในบ้านเมืองของเธอ คนที่ร่ำรวยมีเงินทอง มีดาวประดับบนบ่าไปเกือบทั้งแถบ ความผิดมักจะเข้าไม่ถึงผู้คนเหล่านี้ “ถ้าไม่มีใครกล้าจับ หรือลงโทษคุณ ฉันก็จะเป็นคนลงมือเอง” ผัวะ!!! หากคิดว่าชายิกาจะยอมสยบให้ง่ายๆ ผู้พันฟาเรลล์ ก็คิดผิดซะแล้ว และหากคิดว่าชายิกามีดีแค่เพียงความสวยเซ็กซี่ ที่เห็นอยู่นอกกาย ผู้พันฟาเรลล์ก็คิดผิดเช่นเดียวกัน หมัดเล็กๆ ที่เสยไปเต็มปลายคาง ทำเอาร่างใหญ่ล่ำสันถึงกับผงะหนี ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดไปตามแรงชกของหมัดนี้ “ให้ตายสิ! มือหนักชะมัด” ผู้พันฟาเรลล์ขยับกรามไปมา พร้อมกับยกมือลูบหนักๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ชายิกาไม่ได้ประเคนหมัดให้กับผู้พันฟาเรลล์แค่เพียงหมัดเดียวเท่านั้น ด้วยความเป็นบอดี้การ์ดเรียนรู้วิธีการต่อสู้มามากพอตัว หญิงสาวจึงส่งหมัดฮุคเข้าไปตรงบริเวณหน้าท้องเต็มแรง แม้จะชกอีกฝ่ายทั้งๆ ที่ตนเองยังคงนอนอยู่บนเตียง แต่ก็ทำเอาผู้พันฟาเรลล์จุกไปหลายนาที และต้องหงายหลังตกจากเตียงใหญ่ เมื่อถูกหญิงสาวถีบเต็มแรงไปบนลำตัว โดยที่ผู้พันหนุ่มไม่ทันได้ระวัง ตุ๊บ! “บ้าชะมัด พิษสงเยอะจริงๆ” ผู้พันฟาเรลล์สบถอยู่ในลำคอ ถูกชกไปหลายมัดแถมยังถูกถีบตกมานอนแอ้งแม๋งอยู่กับพื้น ทำเอาจุกเห็นดาววิ่งวนอยู่บนหัว และเห็นทีว่าจะให้อภัยคนที่เล่นงานเขาไม่ได้แล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD