ถนนหวังฝู่จิ่ง
หวังฝูจิ่งหรือถนนคนเดินแห่งเมืองปักกิ่ง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจคู่กับเมืองนี้มาอย่างช้านาน ซึ่งนอกจากจะเป็นถนนที่รวบรวมเอาสินค้าอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ เสื้อผ้า ยังมีอาหารที่มีทั้งของขึ้นชื่อยอดนิยมของชาวจีน ไปจนถึงอาหารแปลกตาที่หารับประทานไม่ได้จากที่อื่น จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์และสีสันอันคึกคักของถนนหวังฝูจิ่งเป็นยิ่งนัก
ถนนหวังฝูจิ่งในปัจจุบันมีทั้งห้างร้านและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดของทางตะวันตกเปิดบริการตั้งเรียงราย แต่ร้านอาหารและของทานเล่นจีนในแบบดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ช่วยแต่งแต้มสีสันและบรรยากาศอันคึกคัก
ทำให้ถนนหวังฝูจิ่งได้ชื่อว่าเป็นถนนย่านแห่งการท่องเที่ยวและเป็นสตรีทฟู้ด ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ถนนช็องเซลีเซ่ของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสหรือกินซ่าของเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงนิวยอร์คฟิบฟ์ แห่งเมืองนิวยอร์คประเทศสหรัฐอเมริกา
สองสาวเพื่อนคู่ซี้ต่างพากันเดินเตร็ดเตร่บนถนนเส้นดังกล่าวอย่างเพลิดเพลิน ของกินมากมายถือไว้เต็มทั้งสองมือ ก่อนจะมาสะดุดหยุดลงเมื่อเดินมาถึงร้านตรงหัวมุมถนน พร้อมเสียงของหยู่เยี่ยนดังขึ้นมาทันใด
“เฮ้ยเสี่ยวชวน!!!”เสียงร้องเรียกชื่อดังแทรกขึ้นมาทันที ในขณะที่คนถูกเรียกยังก้มหน้าก้มตากินของที่ซื้อมาอยู่เต็มสองมือในขณะนั้นอย่างเพลิดเพลิน
“เรียกทำไมกำลังกินอยู่”หญิงสาวตอบเพื่อนกลับไป
พรืดดด!!! ไม้ปลายแหลมถูกหยู่เยี่ยนดึงออกจากมือของเธอทันที ก่อนจะถูกลากให้เดินตามกันมา
“เฮ้ยไปไหนเสี่ยวเยี่ยน! นี่แกกำลังจะพาฉันไปไหน”เสี่ยวชวนร้องถามเพื่อนด้วยความงุนงง
“แกมานี่เลยเสี่ยวชวน! แล้วก็ดูซะ!”หยู่เยี่ยนตอบกลับไป
ทันทีที่เดินมาถึงหน้าร้านตรงหัวมุมถนนฝู่จิ่ง สองมือจับใบหน้าของเพื่อนให้หันกลับไปมองร้านที่เปิดขายสินค้าย้อนยุคและมีวัตถุโบราณสิ่งเป็นของส่วนตัวนำมาฝากขายที่ร้านดังกล่าวจนแน่นขนัดและดูมีสีสันตระการตาอย่างยิ่งยวด
และทันทีที่ฉิงชวนถูกเพื่อนสนิทจับใบหน้าให้หันกลับมามองร้านซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมาทันทีครั้นเห็นสิ่งที่ปรากฏภายใต้กระจกใสขวางกั้นในขณะนี้
“อะไรกันนี่! ภาพวาดโบราณไม่ใช่เหรอ”ฉิงชวนพูดออกมาทันทีพร้อมเสียงของหยู่เยี่ยนดังแทรกขึ้น
“ภาพวาดที่พนักงานในร้านบอกว่าเหมือนกับแกอย่างไงเล่า ตอนแรกที่ฟังก็คิดว่าพี่แกคงจะมองเห็นเป็นพวกหน้าเหมือนแต่ที่ไหนได้นี่มันตัวแกชัดๆ เลยนะเว้ยเสี่ยวชวน! ถามจริงเหอะ...ไปนั่งให้จิตรกรวาดภาพโบราณแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลยวะแก”หยู่เยี่ยนรบเร้าถามเพื่อนจะเอาคำตอบให้ได้
ในขณะที่ฉิงชวนยังคงยืนนิ่งงัน ดวงตาเบิกค้างอยู่เช่นนั้นเมื่อเห็นภาพวาดของสตรีที่อยู่ในชุดโบราณสูงค่าพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับมากมาย บ่งบอกฐานะได้เป็นอย่างดี
“แกถามฉันแบบนี้คิดว่าจะตอบได้อย่างนั้นเหรอ ในเมื่อคนในภาพไม่ใช่ฉัน!”ฉิงชวนตอบกลับไปตามความเป็นจริง
“ห๊ะ! ไม่ใช่แกอย่างนั้นเหรอเสี่ยวชวน”หยู่เยี่ยนอุทานออกมาด้วยความแปลกใจครั้นได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันกลับไปมองภาพวาดโบราณที่วางตั้งโชว์เอาไว้หน้าร้านอีกครั้ง
“อย่าบอกนะว่าแกมีฝาแฝดเสี่ยวชวน”หยู่เยี่ยนถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ
“แฝดบ้าอะไร! ฉันไม่เคยมี! ยืนอยู่ตรงนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากจะเข้าไปถามให้มันรู้เรื่องไปเลย”ฉิงชวนบอกเพื่อนพร้อมเดินตรงไปยังทางเข้าของประตูร้านอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!รอด้วยเสี่ยวชวน...ไปด้วย!!!”หยู่เยี่ยนตะโกนไล่หลังเพื่อนพร้อมรีบก้าวตามไปติดๆ
ในขณะเดียวกัน ภายในร้านดังกล่าวมีสินค้าโบราณมากมายหลายรายการที่มีเจ้าของวัตถุโบราณนำมาฝากขายไว้ที่ร้านมากมาย รวมไปถึงสินค้าที่ทำลอกเลียนแบบนำมาจำหน่ายในรูปของที่ระลึกต่างๆ
ฉิงชวนเดินสำรวจไปทั่วบริเวณร้านอย่างละเอียด ซึ่งนอกจากภาพวาดแล้วยังมีวัตถุโบราณอีกนับไม่ถ้วน มิรู้ว่าชิ้นไหนจริงและชิ้นไหนเป็นของลอกเลียนแบบจัดแสดงพร้อมจำหน่ายไปในคราเดียวกัน
สองเท้าเดินตรงดิ่งไปทางหน้ากระจกซึ่งตั้งภาพวาดแบบแขวน ขึงด้วยลวดสลิงทั้งสี่ด้านให้ภาพดังกล่าวตึง เพื่อใช้ภาพนั้นดึงสายตาจากภายนอกเข้ามาอยู่ที่ภาพดังกล่าวทั้งหมดรวมไปถึงดวงตาของเธอด้วยเช่นกัน
ดวงตาคู่งามจ้องภาพวาดของสตรีซึ่งถอดแบบมาจากหวังฉิงชวนเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ดุจดั่งฝาแฝดก็ว่าได้
“คุณผู้หญิงต้องการอะไรแจ้งความประสงค์กับทางร้านได้นะครับ”เสียงของผู้ชายในวัยประมาณ 50 ปีตอนปลายเอ่ยขึ้นอยู่ทางด้านหลังของสองสาว
เฮือก!!! หวังฉิงชวนและจางหยู่เยี่ยนต่างหันกลับมามองด้านหลังของเธอทันทีที่ได้ยินเสียง
“โอ๊ยตกใจหมดเลย...มาเงียบๆ”หยู่เยี่ยนพูดพลางยกมือตบลงบนหน้าอกของเธอติดต่อกัน
ในขณะที่ชายคนดังกล่าวมองหน้าฉิงชวนไปอยู่ชั่วอึดใจสลับมองภาพวาดดังกล่าวไปในคราเดียวกัน ด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวด ก่อนจะได้ยินเสียงของหญิงสาวดังขึ้น
“เออ..คุณลุงคะคือหนูอยากรู้ว่า ภาพวาดที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้านใครมานั่งเป็นแบบวาดให้อย่างนั้นหรือคะ”ฉิงชวนถามกลับไปด้วยความอยากรู้
และนั่นทำให้คิ้วขาวของชายคนดังกล่าวขมวดเข้าหากันทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
“เออ..”เสียงที่เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจดังอยู่ในลำคอของชายที่เป็นเจ้าของร้านนั้นขึ้นมาทันที
ฉิงชวนยืนมองด้วยความสงสัยอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณลุง ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญไม่สามารถบอกได้ หนูไม่ละลาบละล้วงถามแล้วค่ะ”หญิงสาวพูดออกไปจากความรู้สึกนึกคิดของเธอ
“ม..มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับอะไรหรอก เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าอย่างไงมากกว่า บอกตามตรงว่าเห็นหน้าแม่หนูเมื่อครู่ยังคิดว่าเป็นคนเดียวกันกับในภาพวาด ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าภาพนี้วาดโดยจิตรกรในสมัยราชวังถัง ซึ่งวาดตามต้นแบบมาอีกทอดหนึ่งจากภาพวาดในยุคสมัยจ้านกว๋อ และแม่นางคนที่อยู่ในภาพนี้แหละเคยมีชีวิตอยู่จริงในยุคนั้น”
ห๊ะ! สองสาวเพื่อนคู่ซี้ต่างส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ผู้หญิงในภาพวาดนี้เหรอคะ คือคนที่เคยมีชีวิตอยู่ในยุคของจ้านกว๋อ”ฉิงชวนถามกลับไปด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ล่วงรู้อยู่ในขณะนี้
แทนการตอบรับชายคนดังกล่าวพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันพร้อมเอ่ยขึ้น
“ภาพนี้มีอายุประมาณสองพันกว่าปีแล้ว เป็นสมบัติเก่าแก่ตกทอดมาจากเมืองฝูเจี๋ยน ถ้าในสมัยยุคจ้านกว๋อก็คือเมืองอูเจี๋ยน ติดกับแคว้นหมิ่นเยว่ ถ้าในสมัยราชวงศ์ฉินคือแคว้นหมิ่นจง พอมาถึงสมัยราชวงศ์ถังคือแคว้นฝูเจี๋ยน ว่ากันว่ามีฐานะสูงศักดิ์เป็นถึงท่านหญิงลูกสาวเจ้าเมืองเลยเชียวนะ”เจ้าของร้านพูดพลางจ้องหน้าฉิงชวนเขม็ง จนหญิงสาวรู้สึกผิดสังเกต
“คุณลุงมองหนูแบบนั้นทำไมคะ แต่ถ้าจะถามว่ามีอะไรเกี่ยวพันสืบทอดต่อมาอะไรหรือเปล่า เรื่องนี้หนูก็ไม่ทราบค่ะ เพราะพื้นเพของแม่หนูเป็นชาวปักกิ่ง มาจากสกุลเจิ้ง คงจะเป็นเรื่องบังเอิญที่หนูดันไปมีหน้าตาเหมือนกับคนในภาพวาดเสียมากกว่า”ฉิงชวนอธิบายกลับไป
และคำพูดของเธอก็ยิ่งทำให้คิ้วขาวขมวดมุ่นเข้าหากันมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งน่าแปลก เป็นไปได้อย่างไงที่คนในยุคปัจจุบันจะไปมีหน้าตาเหมือนคนในยุคโบราณที่เคยมีชีวิตอยู่จริงเมื่อสองพันกว่าปีก่อนแบบนั้น...แปลกมาก...แปลกมากจริงๆ”เจ้าของร้านรำพึงมิรู้วาย
ฉิงชวนได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ กลับไป ก่อนจะเหลือบสายตามองตรงไปที่ภาพสตรีสาวจากยุคจ้านกว๋อ ไม่ว่าจะเพ่งพิศมองตรงไหน เหมือนเธอดุจพิมพ์เดียวกันไม่เว้นแม้กระทั่งขี้แมลงวันที่อยู่เหนือริมฝีปากด้านซ้ายยังมีตรงกันอีก
“อะไรจะเหมือนกันจนถึงขี้แมลงวันยังอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเลย”เสียงของหยู่เยี่ยนดังแทรกขึ้น ในขณะที่เพื่อนสาวหันกลับมามองหน้า
“นี่แกก็เห็นด้วยเหรอ”ฉิงชวนถามกลับไป
“ก็ตาไม่ได้บอดนี่หว่าทำไมจะไม่เห็น เล่นเหมือนกันทุกจุดไม่เว้นแม้กระทั่งตำแหน่งของขี้แมลงวันยังตรงกันเลย”หยู่เยี่ยน บอกเพื่อนกลับไป
ฉิงชวนยืนอึ้งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเพื่อนบอกกลับมาเช่นนั้น เธอหันกลับไปสำรวจภาพวาดตรงหน้าอีกครา ก่อนจะเหลือบไปเห็นตัวอักษรจีนโบราณเขียนข้อความทิ้งไว้บนภาพดังกล่าว
“คุณลุงคะในภาพวาดมีตัวอักษรจีนโบราณด้วย อ่านว่าอะไรเหรอคะ”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้
“อ่อ...เห็นบอกว่าเป็นชื่อแม่นางในภาพนี้นะ รู้สึกว่าจะชื่อเฉียนเฉียน”เจ้าของร้านตอบกลับไป
“เฉียนเฉียน”ฉิงชวนรำพึงเรียกชื่อดังกล่าวออกมา ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“โอโห่! นี่ขนาดชื่อก็ยังเหมือนกันด้วยเหรอแปลกจังเลย”หยู่เยี่ยนพูดแทรกขึ้นมาทันที ในขณะที่ฉิงชวนยืนงงมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
“อ้าว! แม่หนูคนนี้ก็ชื่อเฉียนเฉียนเหมือนกันด้วยเหรอ”เจ้าของร้านเอ่ยถามกลับมาด้วยความแปลกใจไม่แพ้กัน
“ชื่อเล่นของหนูค่ะ”ฉิงชวนตอบกลับไป
ใบหน้าที่ผ่านประสบการณ์มาพอสมควรพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นได้ยินเช่นนั้น
“อ่อ..บังเอิญอย่างน่าแปลกประหลาดมาก ที่หนูกับแม่นางในภาพวาดนอกจากจะมีหน้าตาเหมือนกันแล้วยังมีชื่อที่ตรงกันอีก และคิดว่าชื่อที่ปรากฏอยู่ในภาพวาดนี้คงจะเป็นชื่อรองหรือชื่อเล่นเหมือนกัน เพราะสตรีในสมัยโบราณถ้ายังไม่ถึงวัยปักปิ่น ชื่อจริงจะยังไม่มีจนกว่าจะเข้าพิธีปักปิ่นเรียบร้อยแล้ว จึงจะได้ชื่อจริงอย่างเป็นทางการ”
ทั้งฉิงชวนและหยูเยี่ยนต่างหันกลับมามองหน้ากันด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเธอทั้งสองได้ยินเมื่อครู่
“หมายความว่าอย่างไงเหรอคะคุณลุง หนูไม่เข้าใจ”ฉิงชวนเป็นฝ่ายถามกลับไป
และนั่นทำให้เจ้าของร้านสูงวัยต้องขยับแว่นสายตาขึ้นลง
“ถ้าใครชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชนชาติจะเข้าใจได้ทันที แต่เอาเถอะลุงจะอธิบายให้พอได้เข้าใจง่ายๆ ก็แล้วกัน พิธีปักปิ่นเป็นประเพณีในสมัยโบราณที่มีขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว กำหนดให้เด็กหญิงที่มีอายุครบ 15 ปีเข้ารับการปักปิ่นเพื่อประกาศว่าได้พ้นจากวัยเยาว์ ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และพร้อมออกเรือนแล้ว และจะได้รับชื่อจริงจากพ่อและแม่หรือจากนักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียงในกรณีที่ครอบครัวมาจากตระกูลสูงในวันนั้นอย่างเป็นทางการ”
ใบหน้าสวยของสองสาวต่างพยักหน้าขึ้นลงพร้อมกันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“อ่อ..ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง คนโบราณมีพิธีการเยอะจังเลย”ฉิงชวนพูดออกมาเบาๆ เธอหันกลับไปมองภาพวาดดังกล่าวอีกครั้ง และต้องแปลกใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นั่นก็คือไม่มีราคาตั้งขายแต่อย่างใด
“ภาพนี้ไม่มีราคาขายเหรอคะคุณลุง”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความสงสัย
แว่นสายตากระดกขึ้นลงติดต่อกัน ครั้นได้ยินเช่นนั้น
“อ่อ...ภาพวาดผืนนี้เป็นชิ้นเดียวภายในร้านที่ไม่ขาย เพราะว่าเจ้าของภาพวาดเขาเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่ลงทุนร่วมกันเปิดร้านนี้ ให้ลุงนำมาแขวนประดับภายในร้านชั่วคราว ถึงกำหนดก็ต้องนำกลับไปคืนตามเดิม ถ้าภาพวาดนี้ตั้งราคาขายบอกเลยว่า ถูกขายออกไปตั้งแต่วันแรกที่ลุงเปิดร้านแล้วละ เคยมีคนให้ราคาสูงถึง 5 ล้านหยวน เจ้าของภาพเขายังไม่ขายเลยแม่หนู”เจ้าของร้านอธิบายกลับไป
ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวฉายแววผิดหวังเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้นกลับมา
“แสดงว่าเจ้าของภาพคงจะรักภาพนี้มากจึงไม่ยอมขายออกไป ห้าล้านหยวนเป็นเงินก้อนมหาศาลมากเลยนะ แกเองไม่มีปัญญาซื้อหรอกเสี่ยวชวน เผลอๆ ถ้าตีอายุของภาพวาดจริงๆ ราคาอาจจะสูงมากกว่านี้หรือประเมินค่าไม่ได้เลยนะหากรัฐบาลประกาศให้เป็นสมบัติของชาติ”หยู่เยี่ยนพูดแทรกขึ้นระหว่างกลาง ก่อนจะได้ยินเสียงเจ้าของร้านตอบกลับมา
“ภาพวาดชิ้นนี้เป็นมรดกตกทอดนับตั้งแต่ยุคจ้านกว๋อ สิ่งใดที่เป็นของตกทอดต่อๆ กันมาของตระกูลเก่าแก่ในจีน รัฐบาลจะไม่ประกาศให้เป็นสมบัติของชาติเพราะว่าสกุลนั้นเขาประกาศความเป็นเจ้าของแล้วนับตั้งแต่โบราณ จริงๆ แล้วภาพนี้ไม่ใช่ต้นแบบ ของจริงเล่ากันว่าฝังไปพร้อมกับหลุมศพ”
เอิ่มมม..เสียงฮึมฮำดังอยู่ภายในลำคอของสาวน้อยวัยแรกรุ่นทั้งสองขึ้นมาทันที
“รู้สึกว่าจะได้กลิ่นตุตุอย่างไงก็ไม่รู้ ในความสวยมีความนัยแอบแฝง”หยู่เยี่ยนพูดเปรยออกมา
และนั่นทำให้ปรากฏรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าจากเจ้าของร้านทันใด
“แม่หนูคนนี้พูดถูก เห็นสวยๆ แบบนี้ ตามเรื่องเล่าที่ได้ยินมา นางมีจิตใจที่เหี้ยมโหดมากเลยนะ ฆ่าน้องสาวต่างแม่เพื่อทำให้ตัวเองได้แต่งงานกับคนที่เข้าใจว่าจะได้เป็นรัชทายาทในยุคนั้น โดยไม่รู้ว่าคนที่แต่งด้วยกลับเป็นโจรสลัด”
“ห๊ะ! โจรสลัด!!!”สองสาวอุทานออกมาพร้อมกันครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ยุคนั้นมีโจรสลัดด้วยเหรอคะคุณลุง”ฉิงชวนถามกลับทันใดด้วยความอยากรู้อย่างยิ่งยวด
และคำว่าโจรสลัดทำให้เธอนึกถึงโจทก์ในการเขียนบทละครขึ้นมาทันทีทันใด ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ออกจากชายสูงวัยตรงหน้าเธอ
“เอ้า! ทำไมจะไม่มีละแม่หนู ขึ้นชื่อว่าโจรมีทุกยุคทุกสมัยนั้นแหละ มีทั้งโจรป่า โจรบนดอยหรือที่เรียกว่าโจรภูเขาและโจรที่อยู่ตามท้องทะเล พวกที่อยู่ตามท้องทะเลเรียกว่าโจรสลัด และในยุคจ้านกว๋อแคว้นหมิ่นเยว่หรือเมืองฝูเจี๋ยนในยุคปัจจุบันของเราที่ต่างก็รู้จักกันดีในอดีตกาล คือเมืองที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทางทะเล เปรียบเหมือนทางสายไหมซึ่งเป็นการค้าขายทางทะเล เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก และเป็นยุคที่มีโจรสลัดเลื่องชื่อมากด้วยเช่นกัน”เจ้าของร้านอธิบายกลับมาพร้อมส่ายหน้าไปมาติดๆ กัน
“เด็กสมัยนี้คงจะไม่ได้ค่อยได้อ่านประวัติศาสตร์ของชาติเสียเท่าไร ก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย”เจ้าของร้านพึมพำเบาๆ
ในขณะที่จางหยู่เยี่ยน ซึ่งเป็นชาวมณฑลฝูเจี๋ยนในยุคปัจจุบันตั้งแต่กำเนิดยังต้องยืนอ้าปากค้างครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ขนาดฉันลืมตาขึ้นมาดูโลก เป็นคนมาจากมณฑลฝูเจี๋ยนตั้งแต่เกิดแท้ๆ ยังไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ว่าเมืองที่ตัวเองอยู่จะมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความสำคัญมากขนาดนี้”หยู่เยี่ยนรำพึงรำพันออกมาโดยมิทันสังเกตเพื่อนสาวที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงครั้นได้ยินคำอธิบายจากเจ้าของร้านเช่นนั้น
“ฉันรู้แล้ว! ฉันรู้แล้ว!”ฉิงชวนพูดซ้ำไปซ้ำมาแต่ประโยคเดิม
และนั่นทำให้หยู่เยี่ยนต้องหันกลับไปเอื้อมมือเขย่าไหล่เพื่อนสาวของเธอ
“เสี่ยวชวนแกเป็นอะไร! รู้อะไรอย่างนั้นเหรอ”หญิงสาวถามเพื่อนรักกลับมา
ดวงตาคู่สวยหันหน้ากลับไปมองเพื่อนสนิทของเธอพร้อมเอ่ยขึ้น
“ฉันรู้แล้วว่าจะเขียนบทละคร 40 ตอนจบนี้ได้อย่างไงเสี่ยวเยี่ยน!!!”ฉิงชวนบอกเพื่อนด้วยความดีใจ
ในขณะที่คนเป็นเพื่อนยังยืนงงๆ กับคำพูดของเพื่อนสนิทของเธอมิรู้คลาย
“เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ..แกคิดพล็อตเรื่องมาจากไหนกันเสี่ยวชวน”หยู่ยี่ยนถามกลับไปทันที
“จากที่นี่แหละ! ไปเถอะแก! กลับกันได้แล้ว ไป! ไป! ไป!”หญิงสาวพูดพร้อมคว้าข้อมือของหยู่เยี่ยนรีบเดินจำอ้าวออกไปจากร้านทันที โดยเพื่อนที่กำลังถูกลากให้เดินตามหลังไปติดๆ นั้น ต้องหันกลับมาพูดกับเจ้าของร้านดังกล่าว
“ขอบคุณนะคะคุณลุง เอาไว้โอกาสหน้าจะแวะมาอุดหนุนที่ร้านนะคะ ถ้าพวกหนูมีเงินพอจะซื้อของในร้านได้!!!”หยู่เยี่ยนตะโกนบอกกลับไป
ท่ามกลางสายตาของชายสูงวัยที่กำลังมองตามเด็กสาวทั้งสองเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
“ไปเสียแล้ว! ยังไม่ได้ถามเลยว่ามีชื่อแซ่มาจากสกุลไหน หน้าตาเหมือนแม่นางในภาพวาดแบบนั้น ถ้าเจ้าของภาพล่วงรู้ต้องอยากเห็นตัวจริงแม่หนูคนนั้นแน่ๆ”เจ้าของร้านได้แต่ยืนพึมพำ
พร้อมเหลือบสายตามองไปที่ภาพวาดโบราณซึ่งมีอายุสองพันกว่าปี แต่กลับมีสาวน้อยในยุคปัจจุบันที่มีใบหน้าเหมือนในภาพวาดทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งตำแหน่งของขี้แมลงวัน!!!