ป้าศรีนั่งคอยแก้วอยู่นานไม่เห็นกลับเรือนก็เป็นกังวลใจชอบกล มือหนึ่งจัดจีบพลูเจียนหมากให้พระยาไชยากรก่อนจัดให้ตนเองอีกชุดหนึ่ง
"นี่มันจะยามหนึ่งแล้วนะเจ้าคะ แม่นายสวดมนต์ใกล้เสร็จแล้วด้วยถ้าเป็นเด็กแม่จะตีให้เนื้อเขียว ชาวบ้านเขายิ่งลือหนาหูว่าผีเด็กที่จมน้ำตายตามหลอกคนที่พายเรืออยู่ประเดี๋ยวก็โดนหลอกเอาหรอก"
"มันคงไปเที่ยวเล่นตามประสาคนหนุ่มนั่นแหละจะห่วงไปไยทำอย่างกับมันไม่เคยไป มันคงไปนอนกับเกลอมันเหมือนเคยนั่นแหละ"
ท่านพูดปัดไปเนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าแก้วไปทำงานให้ลูกชายแต่ท่านไม่อยากให้ใครรู้ ยิ่งคนรู้มากแก้วก็จะไม่ปลอดภัย แต่อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายใต้เรือน ม่วงรีบวิ่งมาบอกคนบนเรือนว่าแก้วโดนทำร้ายให้ลงไปดูก็เห็นเถ้าแก่เซ่งกับลูกสาวนั่นเองที่หามแก้วมาส่ง แก้วดูบาดเจ็บกว่าครั้งก่อนเนื้อตัวเกรอะไปด้วยเลือด เถ้าแก่เซ่งกับลูกสาวไปส่งของแถวโรงโสเภณีเห็นคนกำลังทำร้ายแก้วแต่ไม่กล้าเข้าไปห้ามเพราะกลัวโดนทำร้าย จึงรอจนพวกนั้นลากแก้วไปไว้ข้างทางจึงช่วยออกมา พระยาไชยากรถามรู้หรือไม่ว่าใครทำร้ายแก้ว เถ้าแก่เซ่งบอกหล่อนจำได้
"พวกอั๊วเห็นพวกไอ้ดำลูกน้องหมื่นพิพัฒน์เปงคงซ้อมอาแก้วที่ซ่องของจีนหย้ง แลอั๊วก็เห็นอาคุงชายน้อยที่ชื่อยศกับหัวหมื่นยืนดู แต่พวกอั๊วก็ไม่ทันเห็นเขาทะเลาะอะไรกัง เห็นอาแก้วอีนอนอยู่พงหญ้าจะกลิ้งตกน้ำอยู่แล้วเลยรีบช่วย อั๊วสองคงเห็นพวกโปลิศผ่านมาแต่ไม่กล้าแจ้งความกลัวเรื่องจะใหญ่โต"
เถ้าแก่เซ่งชี้แจงตามที่รู้เห็น ท่านได้ยินว่าหลานตนมีส่วนรู้เห็นก็โมโห ท่านยกไม้ตะพดฟาดเข้าข้างฝาอย่างแรงจนทุกคนสะดุ้งและตกใจไม่เคยเห็นท่านโกรธขนาดนี้มาก่อน
"ไอ้เจิมมึงเตรียมเรือบัดเดี๋ยวนี้!! กูจะไปซ่องไอ้จีนหย้ง!!"
พระยาไชยากรพร้อมลูกชายและบ่าวไพร่อีกจำนวนหนึ่งออกเรือเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ป้าศรีรีบตั้งไฟต้มยาสมุนไพรแต่ยาหมดเพราะได้ให้รักษาแก้วจนหมดแล้วยังไม่ได้หามาแทน คุณหญิงน้ำทิพย์ให้ไปขอแบ่งที่เรือนพระยาภักดีดำรงค์ก่อนวันพรุ่งค่อยหาใหม่ คุณยิ้มเดินมาดูนางได้ยินเสียงเอะอะจนถึงเรือนเล็กพอเห็นสภาพแก้วนางดูสะใจยิ่งนักจนอดพูดเหน็บแนมไม่ได้
"สมน้ำหน้ามัน นี่คงจะไปก่อเรื่องไม่ดีเป็นแน่ เลี้ยงไม่เชื่องหาแต่เรื่องเดือดร้อนให้เจ้าคุณพี่ ไม่เหมือนพ่อยศสงบเสงี่ยมไม่ก่อเรื่องราวให้ปวดหัว"
คุณยิ้มนั่งพูดคนเดียวหน้าตายิ้มเยาะไม่รู้เรื่องรู้ราวจนพี่สาวเอ็ดเอา
"ก็ที่สภาพมันเป็นเช่นนี้เพราะลูกชายหล่อนนั่นแหละสั่งคนทำร้ายไอ้แก้วจนเจียนตาย! ตอนนี้เจ้าคุณพี่กับพ่อชิดกำลังไปเอาความอยู่ที่โรงโสเภณี เจ้าเป็นแม่ประสาประไรปล่อยให้ลูกไปเที่ยวหญิงโคมเขียวเช่นนั้นฮะ!!"
คุณยิ้มได้ยินถึงกับหน้าชาพูดไม่ออก พอตั้งสติได้นางรีบค้านทันทีว่าเป็นเรื่องโกหกไม่เชื่อว่าลูกชายจะทำตัวเช่นนั้น
"พ่อยศเป็นเด็กดีไอ้แก้วใส่ร้ายพ่อยศเป็นแน่!"
"เหรอ... แล้วลูกชายแม่ไปไหนเสียล่ะ อย่าบอกนะว่านอนแล้วนี่ก็พึ่งจะยามหนึ่งเอง"
"เออ... คือ... พ่อยศไปนอนเล่นบ้านหมื่นพิพัฒน์เจ้าค่ะ เห็นว่าอยากจะเรียนรู้งาน..."
"โกหก! เจ้ายศหรือจะทำงานอายุก็แค่นี้! แค่ไม่อันตพาลใส่บ่าวไพร่ยังยาก! ปกป้องกันเข้าไป!!"
คุณยิ้มเถียงพี่สาวไม่ยอมรับความจริงว่าลูกตนเกเร พี่สาวนางไม่อยากพูดด้วยรอให้เห็นตอนที่พระยาไชยากรลากตัวกลับมาก่อนค่อยสั่งสอนทีเดียว คุณยิ้มกระวนกระวายใจอยากจะไปดูลูกแต่พี่สาวห้ามไว้
"ถ้ากล้าลงเรือนไปก็มิต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก! "
"คุณพี่!! "
"อย่ามาขึ้นเสียงกับข้า!!"
คุณหญิงน้ำทิพย์ไม่ทนน้องสาวอีกต่อไปสั่งนางนั่งลงไม่ให้ไปไหนรอเวลาสามีท่านกลับอย่างใจจดใจจ่อ
บัวหวีผมอยู่ชานเรือน นั่งคุยเล่นกับคนในครอบครัว อีกไม่กี่วันพ่อกับแม่หล่อนก็จะกลับปากน้ำโพอีกนานถึงจะมาคลองบางรัก ป้าศรีวิ่งขึ้นเรือนเสียงดังโครมครามสร้างความแปลกใจแก่ทุกคน ปกติทั้งสองเรือนจะไม่ค่อยมาหากันตอนภพค่ำเช่นนี้ถ้าไม่มีธุระด่วน
"เกิดเหตุอันใดขึ้นนังศรีค่ำมืดถึงได้มาที่นี่"
พระยาภักดีดำรงค์ถามเสียงเข้มวางมือจากหนังสือที่อ่าน ทุกคนมองป้าศรีเป็นตาเดียว นางนั่งหอบหายใจแรงๆ ด้วยเหนื่อยจากการวิ่งยังดีไม่เป็นลมกลางทางก่อนจะดื่มน้ำที่เศรษฐีบุญช่วยตักให้
"คืออีฉันจะมาขอแบ่งสมุนไพรแก้ฟกช้ำเจ้าค่ะ! ไอ้เจ้าแก้วมันโดนทำร้ายตอนนี้อาการปางตายเจ้าค่ะ! แฮก...แฮก..."
บัวหยุดหวีผมตั้งใจฟัง หล่อนรู้สึกเป็นห่วงแก้วขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"ไอ้แก้วที่พ่อทดเลี้ยงดูนะหรือเป็นกระไรไปล่ะ"
ป้าศรีเล่าเรื่องราวให้ฟังคราวๆ ท่านให้คนไปจัดยาให้ พุดกับพุ่มขอไปดูที่เรือนด้วยว่าเขาพึ่งช่วยแก้วไม่กี่วันก็โดนทำร้ายอีก บัวคิดหาทางขอไปดูแก้วด้วยคนแต่ไม่ทันพี่ๆ กับป้าศรีลงเรือนไปแล้ว หล่อนรู้สึกไม่ค่อยดีนั่งกระวนกระวายจนเมี่ยงต้องบอกให้นั่งนิ่งๆ
นี่ข้าคงเป็นบ้าไปแล้วกระมัง อยู่ๆจะไปเป็นห่วงเขาทำไม บ้าๆ ๆ
บัวนั่งคนเดียวความคิดกำลังตีกันเอง
หน้าโรงโสเภณี
"พี่หมื่น...ฉันละสะใจยิ่งนักได้แก้แค้นไอ้แก้ว... แต่ไหนแต่ไรเจ้าคุณลุงก็เห็นแต่หัวมันจนไม่เห็นหัวฉัน... โดนสั่งสอนเสียบ้างก็ดี! "
ยศนั่งดื่มเหล้ากับหมื่นพิพัฒน์และมาโนช ทีแรกพวกเขาว่าจะกลับบ้านของหมื่นพิพัฒน์แต่เกิดเรื่องก่อนเลยอยู่ฉลองที่จัดการคู่อริได้ แต่ตอนนี้หมื่นพิพัฒน์กลัวแก้วจะฟ้องเจ้านาย เมื่อครู่เขามัวแต่สะใจที่ได้ทำร้ายคนจนลืมคิดว่าแก้วไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปแต่มีเจ้านายเป็นถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เขาถามยศด้วยความกังวลใจ
"ไอ้แก้วถึงมันจะวอนโดนตีนเยี่ยงไรแต่มันก็ซื่อบื่อพอที่จะไม่ไปฟ้องใครเรื่องคุณยศนะขอรับ บ่าวกับคุณยศแกล้งมันออกบ่อยมันไม่เคยแม้แต่เอ่ยชื่อเราสองเลยขอรับ"
หมานบ่าวคนสนิทยศพูดแทนนาย เขามั่นใจว่าเรื่องจะเงียบเหมือนทุกครั้งที่กลั่นแกล้งแก้ว
"มึงมั่นใจขนาดนั้นหรือไอ้ชาติหมา!! "
พระยาไชยากรพร้อมลูกชายมาถึง ท่านเห็นหลานชายนั่งดื่มเหล้าเมามายไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่ก่อก็โมโห ถ้าไม่ได้ลูกชายเตือนสติตั้งแต่ก่อนมาท่านคงเอาไม้ตะพดฟาดยศเข้าให้แล้ว ยศตกใจแทบสิ้นสติไม่คิดว่าจะเจอลุง เขารีบหลบหลังหมื่นพิพัฒน์อย่างคนขี้ขลาด
"ทำผิดแล้วยังหน้าชื่นตาบานอีกนะไอ้ยศ!! "
"นี่ไอ้แก้วมันกล้าฟ้องเจ้าคุณลุงหรือ..."
ยศถามเสียงสั่น ไม่เคยเห็นท่านโกรธจนหน้าแดงเช่นนี้มาก่อน
"เป็นจริงอย่างที่เขาบอกสินะว่าพวกเอ็งทำร้ายไอ้แก้ว หึ! ไอ้แก้วนะหรือจะพูดวันพรุ่งยังไม่รู้มันจะฟื้นหรือไม่! เอ็งทำเกินไปแล้วนะไอ้ยศที่ผ่านมาข้าอุตส่าห์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้! แต่เอากันถึงตายได้เพียงนี้ใช้ได้ที่ไหน!! "
ท่านด่ายศเสียงดังไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เถ้าแก่หย้งเจ้าของสถานที่ถึงกับพาลูกน้องออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเห็นพระยาไชยากรเขาถึงหน้าเสีย มองหน้าปากคอสั่นคิดว่าท่านคงมาตามหลานชาย
"เออ...ใจเย็นๆ ก่อนขอรับท่าน ตอนนี้คุณยศกำลังเมากระผมกำลังเกลี้ยกล่อมให้กับเรือนอยู่ขอรับ" หมื่นพิพัฒน์รีบออกตัว
"หัวหมื่นก็เหมือนกันเหตุใดถึงได้ทำร้ายหลานข้าจนเจ็บหนักถึงเพียงนั้น! อย่าปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นข้ามีพยาน!!"
ท่านชี้หน้าหมื่นพิพัฒน์ พระยาไชยากรเรียกแก้วว่าหลานได้เต็มปากหมื่นพิพัฒน์ถึงกับเหงื่อแตก เขาคิดหนักจะทำอย่างไรไม่ให้โทษถึงตนเอง
ไอ้ยศเอ้ย...ทำไมมึงไม่บอกกูว่าไอ้ไพร่นั่นเป็นผู้ใด ที่นี้จะทำเยี่ยงไรดี!
"คืออาจเป็นการเข้าใจผิดนะขอรับ คือพอดีไอ้แก้วมันเดินเมาเหล้าด่าคนไปทั่วแลยังมาลวนลามหญิงโสเภณีนครของเถ้าแก่หย้ง ซ้ำยังมาด่าลามปามคุณยศแลหัวหมื่นพวกกระผมเลยสั่งสอน หัวหมื่นท่านพยายามห้ามแล้วขอรับแต่ตอนนั้นมิรู้ว่าใครเป็นใครบ้างรุมกระทืบไอ้แก้วจนหัวหมื่นท่านบอกจะแจ้งโปลิศพวกมันเลยหยุด กระผมเห็นมันเจ็บหนักเลยหามไปไว้ข้างท่าน้ำว่าจะพาไปส่งเรือนแต่เจ้าแก้วก็หายไปแล้วขอรับ"
ดำบ่าวน้องหมื่นพิพัฒน์ออกตัวรับผิดแทนนายอย่างรู้งาน เขาคิดว่าแก้วกินเหล้าเมาเพราะได้กลิ่นเหล้าติดตัวจึงโบยความผิดให้แก้วแบบเนียนๆ และไม่ให้นายเสียหน้า
"จริงขอรับ! กระผมห้ามแล้วคนแต่มิรู้ใครเป็นใครเห็นแล้วได้แต่สงสารที่ช่วยคนไว้ไม่ทัน มึงไอ้ดำกลับไปกูจะลงหวายมึงสี่สิบที!!"
หมื่นพิพัฒน์ถีบบ่าวล้มกลิ้งแต่ท่านดูออกว่าเป็นเพียงการแสดง
"ส่วนคุณยศก็คงน้อยใจท่านที่ทำไปเช่นนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบนะขอรับ"
หมื่นพิพัฒน์แก้ตัวไปหน้าตาเฉย เขาพยามผลักปัญหาออกจากตัวให้มากที่สุด ขุนวิชิตมองหน้าไม่เชื่อคำพูดเพราะเขารู้จักแก้วดีและก็รู้จักหมื่นพิพัฒน์ดีพอตัวแต่เขาไม่อยากให้มีปัญหาเพราะต่างฝ่ายก็มียศศักดิ์กันทั้งคู่ การที่พ่อของเขามาเองเช่นนี้ก็เท่ากับประกาศให้คนรู้ทั่วกันแล้วว่าใครก็ห้ามรังแกคนของท่าน
"เอาเถิด! ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็ขอให้เรื่องจบแค่นี้ข้าจะไม่เอาความคนของหัวหมื่นแล้วกัน แต่กับไอ้ยศอย่างไรเสียก็ต้องถูกลงโทษ พ่อชิดเอาตัวมันมา!"
ท่านสั่งลูกชายให้ลากยศที่หลบอยู่หลังหมื่นพิพัฒน์มาหาตน ยศสะบัดแขนไม่ยอมให้จับตัว
"ฉันไม่กลับ! แต่เล็กจนโตเจ้าคุณลุงก็รักแต่ไอ้แก้ว อะไรๆ ก็ไอ้แก้ว... เจ้าคุณลุงนั่นแหละลำเอียงรักแต่ไอ้ขี้ข้านั่นกระผมเป็นหลานแท้ๆ ทำไมเจ้าคุณลุงถึงไม่เคยเข้าข้างฉันบ้าง... มันทำกระไรก็ดีไปหมด ที่มันเจ็บเช่นนั้นก็ดีแล้วใครบอกให้มันแส่หาเรื่องเอง!! "
ยศที่กำลังเมาพูดออกมาด้วยความน้อยใจคิดว่าท่านไม่รักตน
"ข้ามิเคยลำเอียง! มันกับเอ็งก็เป็นหลานข้าทั้งสองข้ารักเอ็งทั้งสองเท่าๆกัน เอ็งคิดดูดีๆเอ็งอยู่สุขสบายบนเรือนมีคนคอยรับใช้ดูแล แล้วไอ้แก้วมันเทียบเอ็งได้หรือเอ็งกับแม่เอาแต่ตั้งแง้รังเกลียดรังแกมันจนมันหนีไปอยู่เรือนบ่าว ใจเอ็งมันมืดบอดมองไม่เห็นใครดีใครชั่ว ในเมื่อเอ็งคิดว่าข้าลำเอียงเช่นนี้... ได้"
ท่านหันมองผู้คนทั้งหลายที่อยู่ตรงนั้น ทั้งบ่าวในเรือน คนของหมื่นพิพัฒน์กับเถ้าแก่โรงโสเภณี
"เจ้าแก้วมีฐานะเป็นหลานชายข้ามีศักดิ์เท่าเทียมไอ้ยศ แลใครที่คิดจะทำร้ายหลานข้าเท่ากับมันผู้นั้นคิดจะมีเรื่องกับข้า!! "
ท่านประกาศกร้าวเสียงดังกังวานได้ยินท้วนหน้า
"เจ้าคุณลุงทำเยี่ยงนี้มิได้นะ! จะยกไอ้ขี้ข้าชาติไพร่นั่นมาเทียมฉัน! ฉันไม่ยอม!! "
ยศโวยวายไม่พอใจ ขุนวิชิตพยายามให้เขาหยุดเถียงผู้ใหญ่แต่ไม่เป็นผล
"ทำไมจะไม่ได้! ไอ้แก้วเป็นหลานข้าคนหนึ่งถ้ามิได้มีปัญหากับเอ็งและต้องปิดบังฐานะมันไว้มันคงไม่ลำบากเช่นนี้! แค่นี้ข้าก็ไม่รู้จะมองหน้าพ่อแม่มันติดได้เยี่ยงไร! ฝากลูกไว้ให้ข้าดูแลแต่กลับโดนรังแกเช่นนี้ถ้าเอ็งไม่พอใจก็ออกจากบ้านข้าไป!!"
ยศจะเถียงอีกแต่ขุนวิชิตให้บ่าวจับตัวไว้ ยศพยายามขอความช่วยเหลือจากหมื่นพิพัฒน์แต่ไม่สำเร็จ นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขาไม่อยากยุ่ง ท่านหันไปพูดกับเถ้าโรงโสเภณีที่ยืนตัวซีดเซียว
"จีนหย้ง! แต่นี้ต่อไปห้ามไอ้ยศหลานข้าเข้ามาที่นี่อีก ถ้าข้ารู้ว่ายังให้มันมานี่ซ่องเอ็งได้เหลือแต่ชื่อแน่!! "
ปึง!!
ท่านเอาไม้ตะพดเคาะโต๊ะข่มขู่ว่าเอาจริง ถึงโรงโสเภณีแห่งนี้จะเปิดอย่างถูกกฏหมายและเสียภาษีบำรุงถนน แต่ไม่เกินกำลังถ้าท่านจะเอาเรื่องเพราะทราบมาว่ามีนางโสเภณีนครที่นี่หลายนางไม่ได้จดทะเบียน ท่านกวาดสายตามองรอบๆ อย่างไม่พอใจที่มีแต่คนหนุ่มลูกหลานขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งนั้น เสเพลกันแต่เด็กแล้วพ่อแม่จะฝากฝีฝากไข้ได้เช่นไร
"ที่แอบอยู่ใต้โต๊ะน่ะ! รีบกลับเสียก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจบอกพ่อแม่พวกเอ็ง!! " มาโนชสหายของยศที่คลานเข่าออกมาเนื้อตัวสั่นรีบยกมือไหว้แล้ววิ่งหนีออกไปอีกทาง
"มาโนชช่วยข้าด้วย! ปล่อยข้าไอ้เฒ่าเจิมข้าไม่กลับ!!"
"เงียบ! โทษหนักอยู่แล้วยังจะปากดีอีก!"
ขุนวิชิตชักจะหมดความอดทนเอามือปิดปากยศที่ดิ้นคลุกคลักแล้วตบหัวเข้าหนึ่งที่สะใจบ่าวในเรือนนัก
"กลับเรือน!!! "
พระยาไชยากรสั่งทุกคนกลับไม่วายมองค้อนหมื่นพิพัฒน์ที่ยืนก้มหน้าอย่างเจียมตัว พอท่านจากไปเขาถอนหายใจโล่งออกทันทีที่รอดตัวไป