บทที่ 2.1
บรรณาการไร้ค่า
“สตรีไร้ยางอาย ไสหัวไปจากจวนของพวกข้าเดี๋ยวนี้”
เสียงของแม่ทัพเกาเฉิงหนางตวาดก้องจวนพยัคฆ์ จนบรรดาทหารที่เดินราดตระเวนในจวนตัวสั่นเทา หากแต่ไม่ทันได้เรียกสติที่หนีหายของตนกลับคืนเสียงของสตรีนางหนึ่งก็ดังขึ้น
“จะเป็นสตรีเช่นไรก็ล้วนเป็นสตรีของพวกท่านทั้งสองคน”
สิ้นคำตอบของท่านหญิงฉานอัน ท่านหญิงบรรณาการแห่งเผ่าเหลียง นายทหารที่เดินผ่านหน้าประตูห้องโถงก็ชะงักเท้าตัวแข็งค้างขึ้นมา สตรีของพวกท่านทั้งสองคน คำพูดประโยคนี้ไม่ต้องอธิบายขยายความก็สามารถเข้าใจสัมพันธ์ของคนทั้งสามในทันที เพียงแต่ท่านหญิงผู้นี้มิใช่ว่าถูกส่งมาเพื่อแต่งเป็นพระชายาในองค์รัชทายาทหรือไร เหตุใดยามนี้นางจึงมาปรากฏกายที่จวนพยัคฆ์เช่นนี้
“ท่านหญิงเรื่องคืนนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไรท่านย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ อย่าได้ทำให้พวกข้าสองพี่น้องต้องลำบากใจเลย”
น้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มละมุนของกุนซือเมิ่งซืออิงดังขึ้น หากแต่สตรีดื้อดึงเช่นท่านหญิงเผ่าเหลียงกลับไม่ยินยอมโดยง่าย
“ข้าย่อมรู้ดีแก่ใจว่ายาปลุกกำหนัดนั่นมีฤทธิ์แค่เพียงหนึ่งชั่วยาม”
เมื่อถูกนางเอ่ยถึงเรื่องนี้ใบหน้าของสองจอมทัพก็ร้อนผ่าว ด้วยรู้ดีว่าเรื่องในค่ำคืนนั้นแม้เริ่มต้นจากฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดของนาง แต่ที่ยาวนานจนฟ้าสางนั้นล้วนเกิดจากแรงปรารถนาในกายของพวกเขาทั้งสิ้น
“ท่านหญิง เรื่องทั้งหมดเพราะพวกข้าเข้าใจผิด คิดว่าท่านคือสตรีที่องค์รัชทายาทส่งมาปรนนิบัติ”
เมิ่งซืออิงยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน ตรงข้ามกับผู้เป็นน้องชายบุญธรรมที่ยามนี้ขบกรามแน่นเอ่ยเสียงลอดไรฟันด้วยความแค้นเคือง
“หึ! เป็นถึงท่านหญิงว่าที่พระชายา กลับทำตัวต่ำตมเสียยิ่งกว่าหญิงนางโลม”
ท่านหญิงฉานอันถูกบุรุษตรงหน้าเอ่ยวาจาถากถางให้เจ็บใจก็ขบกรามแน่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานยั่วยวน
“ถึงข้าจะเป็นสตรีต่ำตม แต่ก็ทำให้ยอดจอมทัพเช่นพวกท่านทั้งสองสลบคาเตียงมาแล้วมิใช่หรือ”
“ท่านหญิง!”
เกาเฉิงหนางฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะตรงหน้าก่อนลุกขึ้นยืน ชี้หน้าสตรีหน้าหนาตรงหน้า ทว่ายามที่จะโต้แย้งกลับไร้คำพูดจะเอ่ยออกมา ด้วยเรื่องที่นางพูดเมื่อครู่ไม่มีประโยคใดผิดเพี้ยนแม้เพียงนิด คืนนั้นพวกเขาสองคนล้วนสลบคาอกนางด้วยกันทั้งคู่
อกที่ทั้งขาว ทั้งนุ่ม และใหญ่เกินมือของพวกเขา
เพียงแต่คิดถึงเรื่องในคืนนั้นร่างกายของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาจนต้องเบนหน้าหลบสายตาสตรีตรงหน้า แล้วทรุดตัวลงนั่งสงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตน
“เช่นนั้นพวกเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่”
ฉานอันเห็นท่าทางไม่ยินยอมโดยง่ายของสองบุรุษตรงหน้าแล้วเอ่ยเสียงหวานเย้ายวน ก่อนจะรินชาร้อนใส่ถ้วยชาของตนแล้วยกขึ้นด้วยท่วงท่าสูงส่งสง่างามตามแบบสตรีสูงศักดิ์
“ทำมาเป็นวางท่าสูงส่ง น่ารำคาญ”
ยังคงเป็นเกาเฉิงหนางที่พูดจาแข็งกร้าวถากถางอย่างไร้น้ำใจ เมิ่งซืออิงถอนหายใจยาวด้วยความอ่อนใจ ตัวเขาเองแม้โกรธเคืองการกระทำของท่านหญิงตรงหน้าไม่ต่างจากน้องชาย แต่จะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงท่านหญิง ที่มีความสำคัญต่อสายสัมพันธ์ระหว่างแคว้นต้าเจิ้งและเผ่าเหลียง เพื่อบ้านเมืองกุนซือหนุ่มจึงข่มกลั้นโทสะ คลี่ยิ้มอ่อนโยนเอ่ยเสียงละมุนด้วยท่วงท่าสงบราวผืนทะเลสาบ
“ไม่ทราบว่าข้อเสนอของท่านหญิงคือ”
ฉานอันวางถ้วยชาในมือลง ช้อนด้วยตาหงส์ที่เพียงได้สบตาก็สะกดบุรุษให้หลงใหลโดยง่าย แล้วส่งยิ้มหวานให้กุนซือเมิ่งฉายายอดบุรุษหน้าหยกแห่งเมืองเหนือ
“หนึ่งชั่วยามนับจากนี้ หากพวกท่านสองคนทนการยั่วยวนของข้าได้ ข้าจะไม่มาให้พวกท่านเห็นหน้าอีก”
“หึ! ท่านหญิงจะตีค่าราคาตนเองสูงส่งเกินไปหรือไม่ สตรีเช่นท่านฝืนกินครั้งเดียวก็กล้ำกลืนเต็มที”
เกาเฉิงหนางเอ่ยวาจาดูแคลนคนตรงหน้าอย่างโจ่งแจ้ง ฉานอันพลันหางตากระตุก ทว่าเพื่อหลีกหนีจากชะตาที่นางไม่ปรารถนา ฉานอันจึงกล้ำกลืนความอัปยศนี้ของตนเอาไว้ แล้วขยับกายลุกเดินไปหยุดยังเบื้องหน้าโต๊ะหนังสือของแม่ทัพหนุ่ม โน้มตัวข้ามโต๊ะกว้างเอ่ยกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างใบหูของเขา
“แล้วหากท่านแม่ทัพทนไม่ไหวเล่า”
“ไม่มีทาง! ข้า...”
เกาเฉิงหนางที่เอ่ยเสียงแข็งกร้าวหนักแน่น พลันลมหายใจติดขัดทันทีที่สบดวงตาหวานเย้ายวน ยามที่หลุบตาลงต่ำถ้อยคำที่จะเอ่ยก็หลงลืมไปจนหมด เพราะถูกอกอวบอิ่มตรงหน้าดึงความสนใจจนสติเลือนหาย ร่างกายร้อนผ่าวปวดหนึบ
“หากท่านทนไม่ได้ท่านต้องแต่งให้ข้าตกลงหรือไม่”
“ขะ... ข้าไม่มีทางแต่งกับสตรีไร้ยางอายเช่นท่าน”
เกาเฉิงหนางเอ่ยเสียงแหบพร่าลอดไรฟัน ก่อนจะค่อยๆ สูดลมหายใจเรียกสติของตน เพียงแต่ยามที่สูดลมหายใจเพื่อควบคุมตนเองกลิ่นกายหอมเย้ายวนของนางกลับยิ่งปลุกเร้าจนร่างกายเขาร้อนผ่าวตื่นตัว
ฉานอันมองท่าทางของคนตรงหน้าแล้วยกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นถอยห่างจากเขา แล้วเดินไปยังกุนซือหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างเขาแทน
“หากในหนึ่งชั่วยามพวกท่านทนการยั่วยวนของข้าได้ ข้าจะไม่มากวนใจพวกท่านอีก เรื่องในวันวานก็จะไม่รื้อฟื้น”
ฉานอันเอ่ยพรางก้าเท้าเข้าใกล้กุนซือหนุ่ม จวบจนกระทั่งอยู่ในระยะประชิด แขนเรียวก็ยกขึ้นคล้องลำคอของเมิ่งซืออิง แขนเสื้อกว้างพลันเลื่อนหล่นลงมาที่ต้นแขน เผยเรียวแขนขาวเนียนชวนสัมผัสต่อหน้าชายหนุ่ม
“แต่หากพวกท่านคนไหนทนไม่ได้ก็แต่งให้ข้า เช่นนี้กุนซือเมิ่งเห็นเป็นอย่างไร”
“ตกลง!”
.............................................
หึ! รู้จักท่านหญิงฉานอันน้อยไปเสียแล้ว
ทนให้ไหวละกันนะจ๊ะหนุ่มๆ
รีดเตรียมทิชชูให้พร้อม แล้วตอนหน้าเรามาเอาใจช่วยน้องอัน ยั่วอีพี่ทั้งสองกัน