PROMISES LOVER :: INTRO [100%]

928 Words
“เป็นภูมิแพ้ไม่เท่าไหร่แต่มีไข้ด้วย รู้สึกแย่จัง” ฉันบ่นพึมพำใส่คุณหมอดินแดน พลางลูบแขนตัวเองไปมา “โรคภูมิแพ้อากาศจะมีโอกาสกลับมาเป็นอีก คุณเอวาต้องดูแลสุขภาพดีๆ นะครับ” หมอดินแดนเอ่ยคำพูดขึ้นก่อนจะจับท่อนแขนฉันไปดูจนกระตุกแขนตัวเองเพื่อดึงกลับด้วยความเพราะว่ามีแค่พ่อกับเตชินทร์ที่แตะเนื้อต้องตัวฉันได้ ต่อให้เป็นหมอก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงบอกไม่ถูก เขาใช้สายตามองพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ “โชคดีนะครับที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง” “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” สงสัยกับอาการที่ตัวเองเป็น หมอดินแดนจึงปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ ก่อนจะจดอะไรบางอย่างลงในกระดาษขนาดพอดีซึ่งคงเป็นใบประวัติคนไข้ “ใช่ครับ โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยผมจึงต้องวินิจฉัยให้รอบคอบ เผื่อว่าคุณเอวาจะเป็นหนักมากกว่านี้” “แล้วตกลงหนักไหมคะ?” “ภูมิแพ้ปกติครับ แต่ถึงยังไงหมอก็อยากให้คุณเอวาช่วยดูแลสุขภาพพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้คุณเอวาแพ้อย่างเช่นเกสรดอกไม้” “ทำไงได้คะ ฉันหลีกเลี่ยงไม่ค่อยจะได้ ทำงานห้องเสื้อเวลามีคนมาแสดงความยินดีพวกเขาไม่รู้ว่าฉันแพ้เกสรดอกไม้ก็มักจะยื่นมาให้เสมอ แค่ใกล้ๆ ก็รู้สึกแย่แล้วค่ะ” “หมอเข้าใจครับ” รอยยิ้มของหมอดินแดนทำให้ฉันรู้สึกดีที่ได้คุยเรื่องอาการของตัวเอง เวลาที่พ่อหรือเตชินทร์ถามฉันมักจะปฏิเสธที่จะตอบและบอกว่าตัวเองแข็งแรงดี “อาการของคุณเอวาไม่ได้หนักถึงขนาดต้องใช้ยาพ่นจมูก” “...” “หมอสั่งยาแก้แพ้ให้นะครับ ทานสองมื้อเช้ากับเย็นแล้วอาจจะง่วงก็ขอให้พักผ่อนเยอะๆ ทานยาแก้แพ้แล้วก็ห้ามขับรถเด็ดขาดเลยนะครับ มียาแก้ไข้ทานสามมื้อหลังอาหาร ดื่มน้ำให้เยอะมั่นเช็ดตัวบ่อยๆ อุณภูมิในร่างกายจะได้ไม่ร้อนเกินไป” พูดยาวเยียดจนฉันพยักหน้ารับก่อนจะมือไหว้หมอดินแดนที่รับไหว้ด้วยความเต็มใจ “ขอบคุณค่ะ คุณหมอดินแดน” เอ่ยชื่อเขาออกไปพลางยกมือไหว้ หมอดินแดนก็รับไหว้อย่างเต็มใจ “ฉันไม่อยากมาหาหมอเลยค่ะ หวังว่าจะหายนะคะ” “หมอขอนัดคุณเอวาตอนที่ทานยาหมดแล้วนะครับ” “โอเคค่ะ” ตอบเสียงเอื่อยหมอดินแดนก็ยกยิ้มพลางยื่นเอกสารส่งให้ทางช่องด้านข้างที่มีคนจ่ายยารับไปเรียบร้อยแล้ว “ไม่เป็นไรมากหรอกครับ แค่ทานยาที่หมอสั่งบวกกับพักผ่อนให้เยอะๆ ก็เพียงพอแล้วครับ” “ป่วยแบบนี้รู้สึกแย่มากเลยค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนแต่ด้วยเพราะมึนหัวอย่างรวดเร็วจึงเซคว้าขอบโต๊ะไว้ ทว่าท่อนแขนแกร่งของคุณหมอดินแดนก็สอดเข้าเอวและประคองร่างฉันไว้ด้วยความตกใจไม่ต่างกัน ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สายตาของฉันมองไปทั่วใบหน้าของเขา “ขะ ขอบคุณนะคะ” ดันท่อนแขนของหมอดินแดนออกซึ่งเขาก็ขยับตัวออกห่างฉันทันที “คุณมีใครมาด้วยไหมครับ ผมจะไปตามให้ เป็นแบบนี้คุณล้มแน่” หมอดินแดนถามไถ่ด้วยความห่วงใย “มีค่ะ ผู้ชายสวมสูทสีดำ” ฉันยังคงยืนจับขอบโต๊ะไว้ก่อนที่หมอดินแดนจะเดินออกจากห้องตรวจและมาอีกครั้งพร้อมกับเตชินทร์ที่รีบมาประคองร่างฉันไว้ด้วยความห่วงใยก่อนจะวางมือลงบนหน้าผาก “ตัวร้อนมากเลยนะครับ” “ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ยังคงเถียงจนเตชินทร์ส่ายหน้าพลางหันไปพูดขอบคุณคุณหมอดินแดนที่ยืนมองอยู่ “มาตามเวลานัดด้วยนะครับ” “ขอบคุณครับ” “คุณเป็นสามีคุณเอวาใช่ไหมครับ? ถ้าใช่อย่าปล่อยให้เธอขับรถระหว่างที่ทานยาแก้แพ้นะครับ” ฉันหันไปมองหมอดินแดนด้วยสายตาหงุดหงิดจนหมอดินแดนมึนงงเข้าไปใหญ่ ทว่าร่างสูงที่ประคองฉันไว้กลับยิ้มหัวเราะออกมาจนตีมือลงบนแผงอกแกร่ง “หัวเราอะไร” “ผมเปล่านะ” “ชอบจริงเลยนะ เวลาคนมองว่าคุณเป็นสามีฉันเนี่ย” ฉันถอนหายใจก่อนจะเดินออกจากห้องตรวจพิงประตูกระจกรอเตชินทร์จ่ายยาและรับใบนัดหลังจากที่กินยาหมด ยกมือนวดคลึงไปตามขมับของตัวเองสายตาก็มองไปยังร่างสูงใหญ่ที่ถอดเสื้อกราน์ออกแล้วเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่รับกับกล้ามแน่นๆ ของเขา กางเกงสเล็คสีดำพร้อมรองเท้าผ้าใบสีขาวหมอดินแดนมองฉันพร้อมกับส่งยิ้มที่สดใสมา “ไปกันเถอะครับ จะได้พักผ่อน” พยักหน้ารับมองเตชินทร์ที่ประคองเอวฉันเดินออกจากคลินิกของเขาที่พอเงยหน้ามองก็เห็นตัวอักษรสีเขียว ‘คลินิกหมอดินแดน’ จากนั้นสายตาของฉันก็ปะทะเข้ากับร่างสูงที่ยืนคุยอะไรสักอย่างกับคนที่ดูแลจ่ายยา ทำไมฉันถึงละสายตาจากเขาไม่ได้เลยนะ... เพราะอะไรกัน?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD