คนขี้หึง

2692 Words
ลูอิสทำงานในไร่กับป๋อและเก๋ทุกวันจนเริ่มสนิทกัน เนื่องจากเขาเป็นคนหัวไว จึงเริ่มพูดภาษาไทยได้บ้างแล้ว เรื่องที่ยังบีบหัวใจเราอยู่ตอนนี้คือฟ้ายังไม่ให้เขาได้เจอกับลูกอีกเลย ทุกวันทำได้แค่รีบตื่นแต่เช้าไปนั่งรอดูลูกผ่านกระจก สายๆ ก็ต้องไปทำงานแล้ว กับฟ้าก็แวะเวียนไปกวนได้ช่วงเช้าๆ ตอนแม่ยายเผลอนั่นแหละแอบไปเดินเลาะหน้าต่างห้องครัวบ้างถ้าแม่ฟ้าไม่อยู่ก็อาจจะเดินไปนั่งร้องเพลงตรงใกล้ๆ หน้าต่าง อีกเรื่องก็ไอ้หน้าจืดไร่ข้างๆ นี่แหละมันแวะมาขายขนมจีบให้ฟ้าทุกวันเดี๋ยวนี้พัฒนาจากผลไม้ก็มีปิ่นโตข้าว ไก่สดบ้าง เนื้อหมูป่า สารพัดจะเอามา เมียกูดูอดอยากนักรึไงขนแต่ของกินมาให้ ลูอิสกลับจากเรียนภาษาไทยพอรู้ว่าฟ้าไปกินข้าวบ้านพิทักษ์ก็ไปดักรออยู่หน้าทางเข้าบ้าน ทันทีที่เห็นเงาของร่างบางระหงส์เดินผ่านความมืดเข้ามาถึงไฟหน้าบ้านลูอิสก็ขยับตัวออกจากมุมมืดมาเช่นกัน “ข้าวที่บ้านมันไม่อร่อยรึไง ถึงต้องไปกินที่อื่น” ฟ้าตกใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของลูอิส แต่คนมาส่งนี่สิ ตกใจจนแทบจะโดเข้าป่าข้างทาง “อะไร” ฟ้าถามเสียงแข็ง ทำไมชอบมาทำท่าทางเหมือนหวงทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนี้ “โธ่ทำท่ามาส่งตัวเองจะเดินกลับคนเดียวได้รึป่วก็ไม่รู้” ลูอิสหันไปบ่นใส่พิทักษ์แต่หนุ่มสุภาพรูปร่างคุณชายผู้ชายในคายเรียนภาษาอังกฤษคนนี้ฟังที่เขาพูดไม่ออกหรอก “ใครอนุญาตให้พูดภาษาอังกฤษไม่ทราบ” ฟ้ากอดอกถาม “จะให้ผมพูดภาษาไทยมั้ยล่ะ” ลูอิสก็ยืดอกสู้อย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “พูดได้ก็เอาสิ” ฟ้ายักไหล่ท้าทาย “ไอ หนา จืด” ลูอิสว่าพร้อมกันหันไปชี้หน้าพิทักษ์ ทำให้เจ้าตัวยิ่งทวีความกลัวไปใหญ่ ส่วนฟ้าได้แต่อ้าปากค้าง ใครมันสอนคำพูดบ้าๆ แบบนี้ให้วะเนี่ย “เอ่อ..คุณพิทักษ์คะคือฟ้าขอโทษแทนนายดินด้วยนะคะ สงสัยจะเมา” ฟ้ารีบหันไปขอโทษยกใหญ่ก่อนจะหันมาชี้หน้าคนก่อเรื่อง “นี่คุณไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนฮะ” “ผมอยากพูดคำไหน ผมก็ศึกษาเอาสิ อยากให้พูดผมก็พูดแล้วไง” บ้าจริง ไม่ได้ให้พูดบ้าๆ แบบนี้สักหน่อย “งะ งั้น ผะ ผม ขอตัว นะครับ คุณฟ้า บ๊ายบายนะดิน” พิทักษ์หันไปล่ำลาแม่หม้ายสาวสวยก่อนจะหันมาโบกมือลาลูอิส “เป็นบ้าอะไรห้ะ” พอพิทักษ์ไปไกลแล้วฟ้าจึงหันมาโวยใส่คนบ้าที่มาดักรอเธอ “ไม่ชอบขี้หน้ามัน” “เขาไปทำอะไรให้ถึงไม่ชอบขี้หน้า” ฟ้าท้าวเอวถาม ในใจมันก็เต้นตึกตักไปหมด หรือว่าจะหึง “ก็….หน้าตามันกวนตีน เลยไม่ชอบ” ลูอิสแถหลบข้างถนนเอาดื้อๆ “ห้ามทำแบบนี้อีกไม่งั้น….” “ฉันจะส่งคุณกลับอิตาลี” ลูอิสพูดแทรกขึ้นมาทันที ฟ้าเอาคำนี้มาขู่เขาจนจำได้ขึ้นใจแล้ว “จำได้ก็ดีแล้ว” พูดจบฟ้าก็เดินเลยเขาออกมาได้เพียงก้าว มือหนารีบคว้าแขนของฟ้าให้หมุนตัวกลับไปหาเขา “นี่ บอกแล้วใช่มั้ยอย่ามาทำแบบนี้กับฉัน” ฟ้ารีบร้องว่า “ป่าว ผม…ผมอยากอุ้มลูกอีกได้มั้ย ผมทรมานมากเลยที่ทำได้แค่เกาะกระจกเล่นกับพวกเขาวันละไม่กี่นาที” “ปีนึงที่คุณไม่เจอลูกเลยยังไม่เห็นจะเป็นไร ทนมองลูกผ่านกระจกสักปีคงไม่เป็นไรมั้ง” ฟ้าสะบัดแขนออกจากมืออุ่นๆ ของเขาอย่างไม่ใยดี ทำไมถึงได้ใจแข็งนักนะ ลูอิสได้แต่มองตามร่างอรชรที่เดินห่างและหายไป เขาพลาดเองนั่นแหละ ต่อให้ฟ้าจะไม่ยอมให้เจอลูกเลย ฟ้าก็ไม่ผิดอยู่ดี เขาปล่อยให้ฟ้าท้องจนคลอดลูกออกมาเลี้ยงคนเดียวตั้งปีลำบากขนาดไหนกัน อยู่ๆ เขาจะมาขอเลี้ยงกันหน้าด้านๆ ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก ฟ้าอาบน้ำแล้วเข้าไปหาลูกพาลูกเข้านอนเสร็จแล้วจึงกลับมานอนที่ห้อง แต่เรื่องเมื่อค่ำก็มากวนใจให้นอนไม่หลับ จนต้องออกมานั่งมองดาวที่ระเบียงห้อง อะไรกันฟ้าแค่เขาดูจะหึงแค่นั้นเอง จะใจอ่อนแล้วหรือไง นึกถึงตอนที่อุ้มท้องลูกมาตั้ง 9 เดือนสิ ไหนจะเลี้ยงมาจนโตอีกตั้งปีเต็ม เขาไม่เห็นจะมาสนใจอะไรเลย เขากลับมาได้ไม่ถึงเดือนจะยอมใจอ่อนได้ยังไง ฟ้าเหม่อมองออกไปที่แสงไฟสว่างเรืองรอดผ่านหน้าต่างบ้านคนงาน เงาคนร่างสูงโปร่งเดินวนอยู่ริมระเบียงบ้าน แม้มันจะห่างกันจนมองเห็นเป็นเพียงเงาดำๆ เคลื่อนไหวอยู่ไกลๆ อดทนหน่อยสิฟ้า เขาปล่อยให้แกรอเขามาเป็นปีๆ เลยนะ ในที่สุดร่างบางก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนโดยตัดทุกความคิดวุ่นวายออกจากหัวก่อนจะหลับตาลงสู่ห้วงนิทรา -ถนนคนเดิน,ปาย- ในตอนกลางคืนของทุกวัน ที่ปายจะมีถนนคนเดิน ลักษณะเป็นตลาดเล็กๆ น่ารัก ในนั้นจะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายเรียงรายยาวตลอดสองข้างทางเดินเล็กๆ และแบ่งเป็นซอยต่างๆ อาหารที่นีมีให้เลือกทานอย่างหลากหลาย ข้าวของงานฝีมือ ของฝากแปลกตาน่าซื้อมากมาย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี วันนี้หลังจากเรียนภาษาไทยกันเสร็จครูแก้วเลถือโอกาสพานายดินหรือลูอิสมาลงนามใช้ภาษาไทยแบบจริงจัง และเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์พ่อมาเฟียตกอับเลยมีเงินใช้ถึง 300 บาท ทั้งคู่เดินคุยกันไป ซื้อของกินไป แม่ครูแก้วจะดูเป็นสาวเรียบร้อยหวานๆ แต่พอได้รู้จักดีดีแล้วเลย ยังเป็นคนอารมณ์ขันมีมุกตลกมาเล่นอยู่เรื่อยๆ ทั้งคู่เดินมาจนถึงร้านเสื้อผ้าชนเผ่า ลูอิสมองเห็นเสื้อผ้าขนาดเท่ากับตัวลูกๆ เข้าเลยอยากได้ จึงเดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านทันที “อัน นี้ กี่ บาท” ลูอิสพยายามใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แม้จะไม่คล่องนักแต่นั่นจะช่วยให้เขาพูดได้เร็วขึ้น “ชุดละ 280” ลูอิสก้มมองเงินในมือ ถ้าเขาต้องการ 2 ชุดเขาต้องเก็บเงินนี้ไว้แล้วมาซื้ออีกทีอาทิตย์หน้า ถ้าไม่มีกฎของฟ้าละก็พ่อจะเหมาทั้งร้านเลย “อยากได้หรอคะ” ครูแก้วที่เดินตามเข้ามาเอ่ยถาม “ครับ” ครูแก้วมองลูอิสสลับกับชุดที่เขาสนใจ “คุณ…มีลูกแล้วหรอคะ” แม้ครูแก้วจะพบชาวต่างชาติมามากมาย แต่ก็ไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้ใครเลย เพราะความเป็นสุภาพบุรุษของดิน ความสุภาพ ความสุขุม มันทำให้คนเป็นครูหวั่นไหวอยู๋ทุกครั้งที่สอนให้นักเรียนคนนี้ “เอ่อ…” ลูอิสคิดอยู่นาน ตอนนี้ฟ้ายังไม่ให้บอกกับคนอื่นว่าเขาเป็นพ่อของน้องเมฆกับน้องฝน เขาควรจะตอบยังไงกันดี “น้องครับ ผมอยากให้น้อง” “ยืมแก้วก่อนมั้ยคะ” ครูแก้วคนสวยแอบมองเห็นก่อนแล้วว่าเงินที่ลูอิสมีอยู่นั้นไม่พอ “ไม่เป็นไรครับ” “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ ถือว่าเป็นรางวัลของคนตั้งใจเรียน” “ไม่เป็นไรจริงๆ ครับผมเกรงใจ” “โอเค งั้นแก้วขอเลี้ยงข้าวแทนก็แล้วกันนะคะ” “แต่…” “อย่าปฏิเสธเลยค่ะ แก้วเต็มใจ” ลูอิสไม่ทันได้พูดจบครูแก้วก็รีบออกตัวก่อนเลย สุดท้ายก็ต้องเลยตามเลย ออกจากร้านเสื้อผ้ามาทั้งคู่ก็เดินหาของกินกันเรื่อยเปื่อย แวะร้านนั้น โผล่ร้านนี้กันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้รู้เลยว่าตาคู่คมของบางคนกำลังจ้องมองอย่างร้อนผ่าว ฟ้าพาแม่มาเดินเล่นเหมือนกันพอเห็นภาพบาดตาบาดใจก็ไม่เป็นอันจะซื้ออะไร แต่ก็แอบตามดูอย่างห่างๆ กลัวลูอิสจะมองเห็นเข้า ฟ้ากลับมาถึงบ้านก่อนกลับมาก็อารมณ์ร้อนทำอะไรบึงบังด้วยความหงุดหงิด และร้อนใจอยากรู้ว่าคนที่เห็นเดินอยู่กับลูอิสเมื่อเย็นนี้เป็นใคร เดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าต่างห้องนั่งเล่นรอดูลูอิสเดินผ่านกลับไปยังบ้านพักคนงาน จนพาเด็กๆ ไปนอนแล้วก็ยังไม่เห็นกลับ หรือจะกลับไปตอนที่พาลูกนอน ฟ้าออกจากบ้านเดินตรงไหยังบ้านพักคนงาน แต่ไปได้เพียงครึ่งทางก็นึกเปลี่ยนใจ ถ้าเกิดไปถามเขาก็จะหาว่าหึงรึป่าวล่ะ ไม่ไปดีกว่านึกได้อย่างนั้นร่างบางก็หมุนตัวเตรียมกลับ แต่อีกใจก็ท้วงขึ้นว่าไม่อยากรู้หรือไงว่าคนสวยคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงดูสนิทกันนัก ฟ้ายืนนิ่งเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ “มารอผมหรือไง” เสียงขอลูอิสทำให้ฟ้าตกใจเล็กน้อย ตาคมหันไปค้อนเต็มแรง “ใครมารอคุณ ทำไมฉันต้องรอคุณด้วย” “แล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้” ลูอิสกอดอกถามคนปากแข็ง “ฉัน…” เอายังดี ฟ้ากรอกตามองรอบๆ “มาเดินรับลม” แถไปก่อน ลูอิสเบะปากกับคำตอบมั่วๆ ของฟ้า “ใส่ชุดนอนโป๊ะๆ มาเดินที่เปลี่ยวแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนฉุดเข้าป่าหรอก” ลูอิสขยับเข้าไปกระซิบบอกข้างหูคนตรงหน้า ทำเอาฟ้าเสียววาบไปทั้งตัว มือเรียวผลักอกกว้างออกห่างตัว แค่เขาเข้าใกล้ฟ้าก็ร้อนไปทั้งัวเสียแล้ว “นี่หาว่าฉันมาอ่อยคุณหรือไง” ฟ้าโวยลั่น “ผมไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย อย่าร้อนตัวสิ” ลูอิสหัวเราะชอบใจท่าทางรุกรี้รุกรนของฟ้าในตอนนี้ที่สุด “ใครร้อนตัว พูดให้มันดีดี ฉันบอกว่าฉันไม่ได้อ่อย” “ไม่ได้อ่อยก็ไม่ได้อ่อย ผมไม่เถียงกับคุณแล้ว” เถียงไปก็เหนื่อยป่าผู้หญิงน่ะชอบเอาชนะจะตาย “ใช่สิ แหมกลับบ้านมาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว ไปเที่ยวไหนมาล่ะ” ในที่สุดความโมโหมันก็พาให้คนขี้หึงพาลไปเรื่องเมื่อค่ำนี้จนได้ “ผมไปเรียนภาษาไทยมา” “มีเงินหรือไง” “ผมเรียนฟรี ครูใจดีมากเลยนะ สวยด้วย” ลูอิสแกล้งแหย่ฟ้า อ่อคนที่เห็นเมื่อเย็นนี้เป็นครูเองสินะ แม้แสงไฟจะสลัวจนแทบมองไม่เห็นหน้ากัน แต่ลูอิสก็พอมองเห็นว่าฟ้ากำลังโกรธจัด “ให้ไปเรียนไม่ได้ให้ไปหาเมีย!! ทำไมเรียนกับครูผู้ชายมันไม่มีรึไง” ฟ้าเผลอลืมตัวโวยวายลั่นจนป๋อกับเก๋ที่กำลังเดินกลับมาบ้านพักต้องตกใจ เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายโวยขนาดนี้ แต่พยายามแอบฟังก็ไม่เข้าใจ ทั้งคู่พ่นภาษาอังกฤษกันฉอดๆ แปลไม่ทัน “นี่อย่าพาลสิ ก็ที่นั่นเรียนฟรีมีแค่ครูแก้วนี่” “มีแค่เค้าหรืออยากไปเรียนกับเค้ากันแน่” “นี่อย่าหึงจนไม่มีเหตุผลสิ ผมมีลูกแล้วนะ ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก” “ฉันไม่ได้หึง ลูกก็ลูกฉันคนเดียวอยากจะไปมีกับใครก็มีไปสิ ใครห้ามล่ะ” ลูอิสหัวเราะชอบใจ ใหญ่ขนาดแสงน้อยยังมองออกเลยว่าฟ้าโกรธจนหน้าแดงไปหมดแล้ว “อยากมีน่ะอยาก แต่เมียไม่ยอมให้นอนด้วย” “ใครเมียคุณ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” “ผมไม่ได้บอกนี่ว่าเป็นคุณ” ลูอิสยังคงสนุกกับการแกล้งฟ้า “เดี๋ยวเถอะให้วันละ 50 มันเหลือกินเหลือใช้ใช่มั้ยถึงเอาไปเที่ยวกับผู้หญิงน่ะ เดี๋ยวจะลดลงให้เหลือแค่ 20” “นี่คุณไม่ต้องให้ผมใช้แล้วก็ได้นะถ้าจะให้แค่นั้น” “ก็จริงข้าวก็มีให้กิน บ้านก็มีให้อยู่ รถก็มีให้ขับไปไร่ ไม่เห็นต้องใช้เงินเลย” เรื่องบานปลายไปใหญ่ ไม่น่าไปแกล้งเลย ลูอิสเงียบและยืนฟังฝ่ายเดียวเพื่อให้อารมณ์ของอีกฝ่ายเย็นลง พอไม่มีคนโต้ตอบ คนที่ร้อนก็ค่อยๆ เย็นลงในที่สุด “กลับเข้าบ้านเถอะ ตากน้ำค้างเดี๋ยวไม่สบายนะ” พอฟ้าเงียบลงแล้ว ลูอิสจึงพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันน่ะทั้งถึก ทั้งอึด ไม่ตายง่ายๆ แน่นอน” ฟ้ายังประชดประชันไม่เลิก “โกรธผมมากหรอ” “คิดว่ามากมั้ยล่ะ ทิ้งให้ฉันท้องแล้วก็เลี้ยงลูกอยู่ในห้องคลอดคนเดียว ทั้งเจ็บปวด ทั้งทรมาน ฉันต้องผ่านมันมาคนเดียว มองไปทางไหนก็มีแต่คนไม่รู้จัก ฉันทั้งกลัว ทั้งเจ็บ ตอนนอนอยู่โรงพยาบาลคนอื่นก็มีผัวมาอยู่เพื่อน ฉันต้องลำบากตะวันตลอด” พูดถึงเรื่องนี้น้ำตามันก็ไหลออกมา ความทรงจำที่ยังฝังอยู่ในส่วนลุกของหัวใจ วันที่เธอเฝ้ารอให้เขาตามหา วันที่รอว่าเขาจะติดต่อมา แต่เปล่าเลย มันว่างเปล่า ไร้ร่องรอยคนใจร้าย ลูอิสดึงฟ้าเข้าไปกอด ไออุ่นจากมัดกล้ามแนบชิดกับเนื้อเย็นๆ จากอากาศหนาว มือหนาลูบบนเรือนผมยาวสลวย “ผมขอโทษ ผมมันขี้ขลาด” “คุณมันใจร้าย ไอ้คนใจดำ” ฟ้าทั้งด่า ทั้งทุบตามตัวของเขา แต่มือเล็กๆ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บใดใดเลย “ผมจะไม่ขอให้คุณยกโทษให้หรอกนะ ผมขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณกับลูก ให้ผมทำอะไรผมก็ยอม” คนที่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนหยุดทุบตี เธอแค่ยืนนิ่งๆ ฟังที่เขาพูด ใจทั้งสองเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน หน้าของฟ้าที่แนบอยู่กับอกอุ่นได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างชัดเจน “ไอ้ป๋อ ไอ้เก๋ ให้ไปเอากับข้าวได้รึยัง” เสียงป้าปุ๊ร้องเรียกเด็กหนุ่มที่แอบดูฟ้ากับลูอิส ทำให้ทั้งคู่ตกใจและผละออกจากกันอย่างทันที ฟ้ารีบเช็ดหน้าเช็ดตา ส่วนลูอิสก็ทำอะไรไม่ถูกยืนเงอะงะมือไม้พันกันไปหมด “คุณกลับไปนอนเถอะ เดี๋ยวไม่สบายนะ” ลูอิสบอกฟ้าอีกครั้ง “อืม” ฟ้าตอบรับเพียงสั้นๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับ “ฝาน ดี นะ ครับ” ลูอิสตะโกนบอกตามหลัง ฟ้าก็แอบยิ้มแต่ไม่ได้หันกลับมามอง เดินหน้าต่อทำเป็นว่าไม่สนใจ พอฟ้าเข้าบ้านไปแล้วป๋อกับเก๋จึงวิ่งออกมาจากที่ซ่อน ทำเอาคนตัวสูงตกใจไม่น้อย “ฮั่นแน่” สองหนุ่มชี้ไม้ชี้มือล้อเขา “ชู่วว” ลูอิสยกนิ้วขึ้นมาปิดปากเป็นสัญลักษณ์บอกให้ทั้งคู่เงียบ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกดโทรศัพท์แปลข้อความบอกกับป๋อ “ถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น พี่จะบอกครูแก้วว่าแกชอบเค้า” ป๋อถึงกับนิ่งไปอย่างทันที แต่เก๋ยังส่งเสียงไม่หยุด “มึงต้องเหยียบเรื่องนี้ให้มิดเลยนะไอ้เก๋” “เรื่องของมึงหรือเรื่องของพี่ดิน” “ทุกเรื่อง ไม่งั้นกูจะไปบอกอีขิ่นว่ามึงแอบดูมันอาบน้ำ” ต่างคนต่างเงียบ งานนี้ไก่ก็เห็นตีนงู งูก็เห็นนมไก่ เรื่องแดงเมื่อไหร่ฉิบหายกันทั้งวงแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD