ผมชื่อดิน

2774 Words
ทั้ง 3 คน ใช้เวลาบนเครื่องบินจนหมดวันกว่าจะถึงปายเล่นเอาเมื่อยไปตามๆ กัน ส่วนลูอิสก็เมารถแย่ เมื่อมาถึงที่บ้านแล้วฟ้าก็รีบไปหาน้องเมฆกับน้องฝนคนที่เธอคิดถึงที่สุดอย่างทันที “คุณจะไปไหน” พอฟ้าเห็นลูอิสเดินตามมาต้อยๆ ก็หันไปถาม “ไปหาลูกไง ลูกผมน่ะ” ฟ้านึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแม่เลย ตาคู่คมหันไปมองหญิงวัยห้าสิบที่กำลังเดินเข้ามาหา ตอนนี้เวลาเพิ่งจะทุ่มนิดๆ เด็กๆ ยังไม่นอนกันแน่ ถ้าไม่รีบบอกก่อน อาจูกับมะขิ่นอาจจะอุ้มเด็กมาให้แม่เห็นก่อนจะได้อธิบาย “แม่” ฟ้าอึกอักทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนก่อนดี “พี่ฟ้า” “แอ้” ช้าไปแล้วมะขิ่นกับอาจูอุ้มเด็กๆ ออกมารับฟ้าที่หน้าประตูแล้ว ทันทีที่ลูอิสเห็นว่ามีเด็กถึงสองคนเขาก็ต้องหันมาจ้องหน้าฟ้า และต้องการคำอธิบาย “ฟ้า นั่นลูกใคร” เมื่อผู้เป็นแม่มองเก็นเด็กๆ ก็หันมาถามลูกสาว มันเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่า เด็กพวกนั้นเป็นหลานของตน “คือ…ฟ้าว่าเข้าบ้านก่อนนะคะ” ฟ้าคิดว่าคงต้องบอกแน่ แต่ไม่ใช่จังหวะนี้ ทุกคนพากันเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ทั้งลูอิสและแม่ต่างจ้องมองไปที่ฟ้าเพื่อรอฟังคำอธิบาย “ลูกมึงเองใช่มั้ยฟ้า” “ลูกผมเหรอ ผมมีลูกแฝดเหรอ” เมื่อฟ้าไม่พูดคนอยากรู้ก็ต้องตัดสินใจถามเอง “ใช่จ่ะแม่” “เอ็งท้องกับไอ้ฝรั่งนี่ใช่มั้ย” แม่ดุเสียงดังพร้อมกับชี้มือไปที่ลูอิส ก็แหงล่ะหน้าเหมือนพ่อขนาดนี้ จะโกหกอะไรได้ “จ่ะ” ฟ้าจำใจตอบเสียงเบา ตอนที่จะคุยเรื่องนี้กันฟ้าได้ให้อาจูกับมะขิ่นออกไปรอข้างนอกแล้ว เพราะอยากคุยกันแบบลับๆ ไม่อยากให้มารับรู้เรื่องส่วนตัวขนาดนี้ “เอ็งไปท้องกันตอนไหน” “สักพักแล้วแม่” “ไม่สักพักละ ลูกโตจนเริ่มอ้อแอ้แล้ว แกนี่มันจริงๆ เลยนะ” “มันผ่านไปแล้วนี่แม่ ทำอะไรไม่ได้แล้ว” “แล้วไอ้ฝรั่งนี่มันรวยรึป่าว” โอ้โหแม่ห่วงลูกรึห่วงเงินกันแน่เนี่ย “เคยรวย แต่ตอนนี้ถังแตก เราไม่ได้รักกันแล้วแม่ ฝรั่งขี้นกหนูจะเอามาทำไม” “เออฝรั่งขี้นกแล้วเอ็งพกมาทำไม” “เขาอยากเจอลูก แล้วก็จะมาขอทำงานที่นี่ด้วย” ฟ้าจำเป็นต้องโกหกแม่ เพราะคิดว่าถ้าแม่รู้ว่าลูอิสรวยขนาดไหน คงได้จับใส่พานถวายกันแน่ พอเคลียร์กับแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงหันไปเคลียร์กับลูอิสต่อ “ 2 คนนี้เป็นเด็กแฝดชายหญิง” “ดูตาพวกเขาสิ เหมือนเขากำลังอยากเล่นกับผมเลย ผมขออุ้มเขาได้มั้ย” ลูอิสจ้องมองลูกๆ ตาเป็นประกาย เขาอยากกอดอยากหอมใจจะขาด ลูกของเขาช่างน่ารักซะจริงๆ “คนผู้ชายชื่อน้องเมฆ ส่วนผู้หญิงชื่อน้องฝน” ฟ้าเดินไปที่เปลพร้อมกับยกน้องเมฆขึ้นมาอุ้ม วินาทีที่ลูอิสได้เห็นลูกชายใกล้ๆ น้ำตาก็ไหลพรากออกมา มันไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจ แต่มันเป็นความรู้สึกดีใจ ดีใจจนน้ำตามันไหลออกมา “เค้าน่ารักมาก หวัดดีหนุ่มน้อย” “แอ๊ะ” น้องเมฆหัวเราชอบใจเมื่อฟ้าอุ้มให้เข้าไปใกล้พ่อ ลูอิสก้มหน้าลงหยอกล้อกับลูกอย่างมีความสุข “อุ้มเป็นรึป่าว” ฟ้าถามก่อนที่จะตัดสินใจส่งลูกให้ “ต้องทำแบบไหน” “แบบนี้ ฟ้าค่อยๆ สอนให้ลูอิสอุ้มเด็ก แล้วจึงส่งน้องเมฆให้ จากนั้นจึงหันไปอุ้มน้องฝนขึ้นมา ภาพแห่งความประทับใจที่รอมานานกว่าหนึ่งปี พ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เด็กๆ ดูจะเข้ากับลูอิสได้ง่ายจนไม่อยากจะเชื่อ พอให้อุ้มจนพอใจแล้วฟ้าจึงเรียกอาจูกับมะขิ่นให้พาเด็กๆ ไปนอนส่วนตัวเองพาลูอิสไปส่งที่บ้านพักคนงาน “คุณต้องพักอยู่ที่นี่” เมื่อมาถึงหน้าบ้านพักที่ไม่ได้แย่ เป็นบ้านปูนขนาดกลาง มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมทุกอย่าง ขาดก็แต่แอร์ที่ไม่มี “ทำไมไม่ให้ผมอยู่กับคุณ ผมอยากอยู่กับลูก” “คุณจะไม่ได้อุ้มลูกอีก จนกว่าฉันจะอนุญาต” “อะไรนะ” ลูอิสโวยลั่น ได้ยังไงล่ะ เขาทั้งอุ้ม ทั้งหอมลูกไปแล้ว และยังอยากทำแบบนั้นทุกๆ วันจะมาห้ามกันได้ยังไง “อะไรอีกล่ะฟ้า คุณให้ผมทำอะไรผมก็ยอมแล้วนะ” “ยอมก็ตองทำตามข้อนี้ด้วย อย่าลืมสิคุณไม่มีสิทธิอะไรในตัวลูกเลยนะ” “มีสิ สิทธิความเป็นพ่อไง” “นี่คุณ ตามหลักกฎหมายแล้วเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันฉะนั้นลูกเป็นสิทธิของฉันคนเดียว ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว ตอนคลอดฉันก็ไม่ได้ใส่ชื่อพ่อซึ่งก็หมายความว่าตาเมฆกับยัยฝนไม่มีพ่อ” “ดีเอ็นเอบนหน้าไง คุณคอยดูก็ได้ใครก็ต้องรู้ว่าเมฆกับฝนเป็นลูกผม” “รู้ก็รู้ไปสิ รู้แล้วทำอะไรได้ล่ะ” ลูอิสได้แต่ยืนนิ่ง เพราะเถียงอะไรไม่ได้ เอาวะมาถึงนี่แล้วได้เห็นลูกแล้ว อุ้มแล้วหอมแล้ว ยังไงก็ยังพอมีหวังบ้างล่ะ “อีกเรื่อง เราจะเริ่มพูดภาษาไทยกันตั้งแต่พรุ่งนี้ หวังว่าคุณจะทำได้ดี กู๊ดไนท์” “เดี๋ยวสิคุณจะไม่ให้เวลาผมฝึกเลยรึไง” “ฉันไม่รู้ แต่พรุ่งนี้ฉันจะไม่พูดภาษาอังกฤษแล้ว บาย” “เดี๋ยวสิ พาผมไปส่งข้างในก่อน” จริงสิข้างในมีแต่คนไทยคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ฟ้าเลยต้องเดินนำลูอิสเข้าไปในบ้าน “หนูฟ้า มาทำอะไรคะกลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ป้าปุ๊แม่บ้านของรีสอร์ทเอ่ยทักทายเมื่อเห็นฟ้า แต่พอมองเลยฟ้าไปถึงลูอิสกต้องตกใจ เมื่อหน้าของฝรังที่ตามมาด้วยเหมือนกันกับลูกๆ ของฟ้าไม่มีผิด “เอ่อ…หนูฟ้า นี่แฟนหนูหรอคะ” ป้าปุ๊พูดพร้อมกับชี้มือไปที่ลูอิส “เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ นี่คนงานใหม่ ฝรั่งถังแตกมาขอทำงานด้วยอ่ะค่ะ ฝากป้าปุ๊ดูแลด้วยนะคะ” “อ่อได้ค่ะ” ถึงฟ้าจะบอกไปว่าอย่างนั้นแต่ป้าปุ๊ก็ยังสงสัยอยู่ดี และแอบคิดในจว่าจะต้องสืบให้ได้ “แล้วที่นี่มีห้องว่างอยู่มั้ยคะ” “มีห้องนึงพอดีค่ะ” “งั้นฟ้าฝากด้วยนะคะ เดินทางมาเหนื่อยมากคงต้องขอตัวก่อนนะคะ” “ค่ะ” “นี่คุณคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ถ้าจะให้ดีก็ใช้แอพคุยกับเขาไปก่อน ฉันไปนะง่วง” “เดี๋ยวสิฟ้า” “ไม่ ปล่อยด้วย” ฟ้าสะบัดแขนออกจากลูอิสแล้วเดินออกมาจากบ้านคนงานตรงไปยังห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้าก็ตื่นมาแต่เช้าตามปกติแต่วันนี้มีแม่มาเป็นลูกมือช่วยทำกับข้าวอีกคน จังหวะที่ทำกับข้าวอยู่ฟ้าหันไปเห็นว่าลูอิสเดินเข้ามาในบ้านเลยวิ่งออกไปดู “มาทำไม” ลูอิสตีหน้ามึนใส่เพราะเขาฟังสิ่งที่ฟ้าพูดไม่ออก “มาทำไม” สุดท้ายก็ต้องเป็นฟ้าที่ยอมพูดภาษาอังกฤษ “แค่อยากมาดูลูก” “บอกแล้วไง ถ้าฉันไม่อนุญาต ก็คือไม่ได้” “แค่ดูก็ไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้” ฟ้ายืนกรานที่จะไม่ยอมให้ลูอิสได้เจอกับลูก เธออยากจะสั่งสอนให้เขาได้รู้ว่าการทิ้งลูกทิ้งเมียมันทรมานยังไง “ก็ได้ แล้วผมจะได้เจอเมฆกับฝนอีกเมื่อไหร่” ลูอิสตอบเสียงหงอย เขายังคิดถึงแก้มนุ่มๆ ของลูกๆ อยู่เลย “แล้วแต่ว่าคุณจะทำตัวดีหรือป่าว” ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ อาจูก็วิ่งเข้ามาพอดี “พี่ฟ้ามีคนมาหาค่ะ” “ใคร” “คุณพิทักษ์ค่ะ” ฟ้าพยักหน้ารับให้พาเขาเข้ามา พิทักษ์เดินเข้ามาพร้อมตะกร้าผลไม้อีกเช่นเคย คราวนี้มีทั้งเงาะ ลำไย มะละกอ แก้วมังกร สารพัดจะขนมา “ไอ้หน้าจืดนี่ใคร” พอลูอิสเห็นก็ถามอย่างไม่พอใจ “เขาชื่อพิทักษ์ เป็นเจ้าของไร่ผลไม้ใกล้ๆ กันนี่แหละ” “มันจีบเหรอ” “จีบไม่จีบ มันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ” “หน้ายังกับเด็กยังไม่ทิ้งนม จะดูแลใครได้” “เค้าตามดูแลฉันมานานแล้วย่ะ” “ตกลงคือมันจีบคุณใช่มั้ย” สองคนเสียงดังลั่น สกิลภาษาของพิทักษ์เร็วไม่พอที่จะแปลได้ว่าสองคนเถียงอะไรกัน “ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆคุยกันดีกว่า” “ชัตอัพ!!!” ลูอิสหันไปดุเสียงดังลั่น ทำให้คุณชายสุภาพอย่าพิทักษ์ตกใจกลัวจนเผลอวิ่งไปหลบหลังฟ้า “หยุดบ้าเดี๋ยวนี้นะเห็นมั้ยว่าเค้ากลัวแล้ว” “ผมจะดุมันให้ฉี่ราดเลยคอยดู” “นี่ ถ้าไม่หยุดฉันจะส่งคุณกลับอิตาลีเดี๋ยวนี้เลย” ลุอิสหยุดชะงักทันที แต่สายตายังคงส่งไปดุคุณชายที่หลบอยู่หลังเมียของเขา “ฟ้าต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีเค้าเป็นคนงานใหม่ของที่นี่อะค่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องมารยาทสักเท่าไหร่” “อ่อครับ มะ ไม่เป็นไรครับ ผะ ผมไม่ถือ” ผิวที่ขาวอยู่แล้วซีดเผือดจนเหมือนไก่ต้ม เหงื่อก็แตกเป็นเม็ดๆ อาบทั่วหน้า แต่พอมองดีดีพิทักษ์เริ่มสังเกตได้ว่าฝรั่งคนนี้ช่างหน้าเหมือนกับเด็กๆ ไม่มีผิด หวังว่าคงจะไม่ใช่พ่อของเด็กๆ หรอกนะ “ใครมาวะฟ้า” เมื่อเห็นลูกสาวหายมานานเลยเดินออกมาดู “คุณพิทักษ์น่ะแม่ เค้าเป็นเจ้าของไร่สตรอเบอรี่ข้างๆ รีสอร์ทนี่แหละ” “นี่แม่คุณเหรอครับ สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” เมื่อรู้ว่าพ่อหนุ่มหน้าจืดคนนี้เป็นเจ้าของไร่สตรอเบอรี่แม่แดงก็เกิดรู้สึกสนใจขึ้นมา ไหนๆ ลูกเขยมันก็ถังแตกไปแล้ว ถ้ามันมีคนดีดีเข้ามาก็น่าสนใจเหมือนกัน “อยู่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนมั้ยคะคุณ” แม่แดงเอ่ยชวนอย่างเป็นมิตร ลูอิสรับรู้แล้วว่าแม่ของฟ้ากำลังให้ความสนใจกับไอ้หน้าอ่อนนี่ ยิ่งทำให้เขาโมโหไปใหญ่ “อ้าว มายืนทำอะไร ไปทำงานสิ” แม่ของฟ้าหันไปดุลูอิส ถึงจะฟังไม่ออกแต่ดูจากท่าทางแล้วก็พอจะเดาได้ว่ากำลังโดนไล่ ลูอิสยอมเดินออกมาง่ายๆ เพราะไม่อยากจะชกหน้าขาวๆ ของไอ้หนุ่มไทยคนนั้น ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านพักลูอิสเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่พี่เลี้ยงพาเด็กๆ มาเล่นกันอยู่ ด้วยความที่เป็นห้องกระจกเลยทำให้มองเห็นเด็กๆ ได้อย่างชัดเจน ลูอิสเลี้ยวเข้าไปนั่งเกาะกระจกดูลูกๆ เขาอยากจะทุบกระจกบ้านี่แล้วเข้าไปใจจะขาด แต่ก็ไม่อยากละเมิดกฎของฟ้า พอเห็นว่าเด็กๆ มองเห็นเขาแล้ว มือหนาก็ยกขึ้นโบกหยอกล้อกับเด็กๆ ทั้งน้องเมฆและน้องฝนพอเห็นว่าพอมานั่งอยู่ก็คลานมาเกาะกระจกกันใหญ่ อาจูกับมะขิ่นได้แต่นั่งดู ไม่ได้ห้ามหรือจับเด็กๆ ไปที่อื่น “แกว่ามั้ยขิ่นพี่ฝรั่งคนนี้อะหน้าเหมือนน้องๆ เด๊ะเลย” อาจูหันไปกระซิบกระซาบ “ฝรั่งก็หน้าแบบนี้ทั้งนั้นอะ แกไม่เคยไปเดินถนนคนเดินรึไง” มะขิ่นตอบสายตาก็จ้องไปที่คนหล่อที่นั่งอยู่นอกกระจก “แต่น้องๆ ดูจะชอบพี่เค้ามากเลยนะ” “ก็พี่เค้าแวะมาเล่นกับน้อง น้องก็ชอบสิ” “ขัดทุกอย่างเลย วุ๊” หลังจากที่เด็กๆ ถูกอุ้มไปที่อื่นลูอิสก็เดินกลับจากบ้านของฟ้ามายังบ้านพักคนงาน “ฮัลโหล” เด็กหนุ่มชาวเขาเอ่ยทักทายลูอิส “นี่มึงจะคุยกับใครล่ะ สำเนียงมันไม่ได้เลย” เด็กหนุ่มอีกคนตบเข้าที่หัวของเพื่อน ลูอิสมองสองคนนี้แล้วก็หัวเราะ “ดูกู เฮน โล่ว มายเนมอี๊ด ป๋อ แอม ฟิฟตีนส์ เยียร์สโอน ไนท์ ทูมีท ยู แต้งกิ้ว ทิชเช่อร์ (สวัสดีครับผมชื่อป๋อ อายุ 15 ปี ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณครับคุณครู)” พอฟังการแนะนำตัวแล้วลูอิสยิ่งขำไปกันใหญ่ ไม่ได้หัวเราะในสำเนียงหรอก แต่ตลกที่มาเรียกเขาว่าครูต่างหาก “เวรี่กู๊ด อิสเวรี่คูล (ดีมาก มันเจ๋งมาก)” ลูอิสชื่นชมพร้อมกับยกนิ้วให้ป๋อ “วอทอิสมายเนม” เด็กหนุ่มอีกคนถามบ้าง “ซอรี่ ไอ ด้อน โนว (ขอโทษ ผมไม่รู้จักคุณ)” “นี่ วอทอิสมายเนม มายเนมนั่นชื่อมึง ชื่อพี่เค้าต้องถามยัวเนม มึงดูกู วอท อิส ยัวร์ เนม?” ป๋อตบหัวเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วโชว์สกิลต่อ “อ่า มายเนมอิส…” ลูอิสเว้นวรรคตรงส่วนชื่อแล้วนกว่าเมื่อวานฟ้าตั้งชื่อให้ว่าอะไร “มายเนมอิสดิน” “มาย แอม นี้ด” เด็กหนุ่มอีกคนพยายามจะแนะนำตัวเองบ้าง “มายแอมนี้ด อะไรล่ะ มายเนมอี้ด” แต่ยังดีที่ป๋อพอจะได้ภาษาอังกฤษ “มายเนมอี้ด เก๋” “ไนซ์ทูมีทยูเก๋ ไนซ์ทูมีทยู…ป๋อ” ลุอิสนั่งคุยกับป๋อและเก๋อ่านแอพแปลภาษาอยู่นาน เขาพยายามบอกว่าตัวเองอยากจะพูดภาษาไทย อยากให้ป๋อกับเก๋ช่วยสอนให้ แต่ป๋อบอกว่าตัวเองยังไม่เก่ง แต่รู้จักกับคนที่น่าจะสอนให้ได้อยู่ ถ้าเลิกงานแล้วจะพาไปเรียน ตอนนี้ฟ้ากำลังจะทำไร่ชา งานก็เลยมีให้ทำเยอะไปหมดกว่าจะเลิกงานก็เย็นแล้ว พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จป๋อก็พาพี่ดิน หรือลูอิสไปที่สวนสาธารณะ ที่นั่นจะมีครูคนสวยใจดีชื่อว่าครูแก้วมาสอนภาษาอังกฤษให้กับคนที่สนใจจะเรียนแบบฟรีๆ ป๋อกับเก๋ก็เรียนอยู่ แต่ไม่ได้อยากพูดภาษาอังกฤษได้หรอก มาเพราะครูสวย “ครูครับสวัสดีครับ” ป๋อรีบลงจากรถแล้วตรงไปหาครูคนสวยทันที ทิ้งให้ลูอิสนั่งคร่อมรถรออยู่คนเดียว ตอนที่ทั้งสามคนมาถึงเป็นเวลาที่ครูแก้วสอนเสร็จแล้วพอดี “ค่ะป๋อ วันนี้มาไม่ทันแล้วนะคะ” “ผมไม่ได้มาเรียนครับ ผมพาพี่ชายของผมมาเรียน” ป๋อพูดพร้อมกับผายมือไปที่ลูอิส “เอ่อ…พี่ชาย?” เพราะลูอิสทรงฝรั่งจ๋าแบบนั้นเลยทำให้ครูคนสวยสงสัยนิดหน่อย “พี่ที่ทำงานครับ เค้าอยากเรียนภาษาไทย” ครูแก้วมองไปที่พ่อฝรั่งรูปหล่อที่นั่งไม่สนใจใครมองไปไหนก็ไม่รู้ “ได้สิแต่ต้องหลังจากที่ครูสอนภาษาอังกฤษเสร็จแล้วนะคะ” “ได้ครับ” ป๋อตอบรับเองอะไรเองไม่ปรึกษาลูอิสสักครับ “เฮ้พี่ดินคัมมอน (พี่ดินมานี่) “ ป๋อหันไปกวักมือเรียกคนที่นั่งรออยู่ พอได้ยินเสียงป๋อลูอิสก็ลุกจากมอไซค์แล้วเดินไปที่วงสนทนา “สวัสดีค่ะฉันชื่อแก้ว” พอลูอิสเดินมาถึงครูแก้วก็สาดภาษาอังกฤษใส่ทันที “สวัสดีครับผมดิน” “ทำไมคุณชื่อเป็นภาษาไทย” “เจ้านายของผมตั้งให้” ในเมื่อเขาอยู่ฐานะคนงาน นั่นก็แปลว่าฟ้าอยู่ในฐานะเจ้านาย “ป๋อบอกฉันแล้วว่าคุณอยากเรียนภาษาไทย ฉันยินดีจะสอนให้ คุณสะดวกจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่คะ” “พรุ่งนี้ครับ แต่ผมไม่มีเงินนะ” ฟ้ายึดเงินเขาไปจนหมดให้ใช้แค่วันละ 50 บาท แต่วันอาทิตย์จะให้ 300 “ฟรีค่ะ แก้วสอนให้ทุกคนฟรี” “ขอบคุณครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ” ทีนี้แหละผมจะแรพไทยใส่หน้าคุณฟ้า!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD