ลักพาตัว

1187 Words
เช้าวันต่อมา เมลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเวียนศีรษะจนต้องยกมือมาคลึงขมับ พอขยับตัวก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว "โอ๊ย...ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีมืดๆ ทึบๆ ไม่เหมือนห้องพักที่โรงแรม แต่พอระบบประสาทกลับมาทำงานเต็มที่ก็รู้ว่าเมื่อวานตัวเองไม่ได้กลับโรงแรม "แล้วที่นี่ที่ไหน" ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบห้องก่อนจะเด้งตัวลุกจากที่นอน แล้วก้มลงมองสำรวจตัวเองทันที "นี่มัน..." ตอนนี้บนตัวของเธอมีแค่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้น ซึ่งพอขยับถึงรู้ว่ามันตัวใหญ่และหลวมเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ ร่างบางก้าวขาลงจากเตียงอย่างระแวดระวัง โดยไม่ลืมจะดึงเอวกางเกงไว้ด้วย แต่พอลุกขึ้นยืนก็เกือบจะล้มหัวฟาดพื้นซะแล้ว แต่ยังดีที่มีมือของใครบางคนเอื้อมมาซ้อนตัวเธอเอาไว้ก่อน เอ๊ะ? เมลินแปลกใจที่ตัวเองยังไม่ล้ม จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละข้าง เห็นก็แขนแข็งแรงกอดเอวตัวเองอยู่จึงร้องกรี๊ดออกมาและเผลอปล่อยมือ ส่งผลให้กางเกงขาสั้นหลวมๆ ร่วงลงไปอยู่ที่ข้อเท้า "กรี๊ด!!" เธอยิ่งร้องกรี๊ดดังกว่าเดิมเพราะข้างในไม่ได้ใส่อะไร ยังดีที่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่พอคลุมแทบจะถึงหัวเข่า "จะหยุดร้องได้หรือยัง ถ้าไม่หยุดผมจะจูบคุณซะ!" คนที่แหกปากกรี๊ดพลันเงียบในบัดดล เพียงเท่านั้นใบหน้าของมาเฟียหนุ่มก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆ ในขณะที่ใบหน้าของหญิงสาวก็ค่อยๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อแล้วไต่ขึ้นเป็นแดงเข้ม เป็นเพราะว่าไม่เคยผ้าหลุดต่อหน้าผู้ชายมาก่อน "จะไปไหน" เสียงทุ้มละมุนถามขึ้น ขณะที่แขนยังกอดเอวบางไม่ปล่อย "จะปล่อยได้หรือยัง" เธอไม่ตอบคำถามเขา แต่ย้อนถามกลับแทน แขนแข็งแรงจึงค่อยๆ คลายออก "หันหน้าไปด้วย" ลูก้ายอมหันแต่โดยดี เธอจึงรีบก้มลงดึงกางเกงขึ้นมาแล้วจับมันไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ "ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ร่างสูงค่อยๆ หันกลับมาแล้วก้มลงขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ คนตัวเล็ก "อยากรู้จริงเหรอ" "ยะ...อยากรู้สิ ไม่อยากรู้จะถามทำไม" เมลินพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นสุดชีวิต เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่ใกล้ ชนิดที่ว่าหายใจเป่ารดหน้ากันจนได้กลิ่นบุหรี่เย็นๆ ปนออกมากับลมหายใจ มาเฟียหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะขยับออกห่าง เขาต้องการจะผูกมิตรกับเธอดีๆ จึงไม่อยากทำให้ตกใจกลัว แม้ว่าร่างเล็กๆ ภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งนั้นจะมีอานุภาพต่อความต้องการในกายเขาเหลือร้าย "เมื่อคืนคุณเกือบจะถูกลักพาตัว ยังดีที่คนของผมช่วยคุณไว้ได้ทันซะก่อน" "ถูกลักพาตัว? ฉันเนี่ยนะจะถูกลักพาตัว เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะฉันเพิ่งมาที่นี่วันแรก ไม่รู้จักใคร ไม่ได้มีปัญหากับใคร ทรัพย์สินก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น และที่สำคัญตัวฉันเองก็..." เมลินก้มลงมองสภาพตัวเอง "ก็ไม่ได้มีอะไรล่อตาล่อใจใครด้วย" "ใครบอก คุณสวยและน่ารักมากต่างหาก" เสียงทุ้มแย้งขึ้นทันควัน สายตามองเธอราวต้องการจะสื่อความหมายบางอย่าง "ถ้าเห็นแบบนั้นคงมีแต่คนตาบอดแล้วล่ะ" หญิงสาวพึมพำ "เอาเถอะ มาเข้าเรื่องของเราต่อดีกว่า" "เรื่องอะไร? ไม่มีเรื่องอะไรของเราทั้งนั้น ฉันจะกลับโรม จะถือเป็นพระคุณอย่างมากถ้าคุณปล่อยฉันไป แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือทุกสิ่งอย่าง ถ้าคุณอยากได้ค่าตอบแทนก็เอาไป ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีอยู่แค่นี้แหละ" ร่างบางเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าแล้วเปิดเอาเงินสดที่มียื่นให้เขา "ฉันมีอยู่แค่นี้แหละ เอาไปสิ" แต่ลูก้ากลับยืนเฉย เธอจึงคิดว่าเขามองว่าน้อยไป "ไม่พอใช่ไหม งั้นก็เอาอันนี้ไปด้วย ของในถุงมีค่ามากกว่าเงินทั้งหมดนี้อีก" เธอยื่นถุงกำมะหยี่สีแดงให้เขา ซึ่งของที่อยู่ในนั้นยายแก้วบอกว่ามันมีมูลค่ามหาศาล "คุณกำลังดูถูกผมอยู่นะ คิดว่าเงินแค่นี้จะทำอะไรได้งั้นเหรอ ถ้าคนอย่างผมไม่คิดจะช่วยเหลือใครแล้วล่ะก็ ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้าสูงเท่าภูเขาผมก็ไม่ชายตามอง แต่สำหรับคุณ...ผมช่วยด้วยความเต็มใจแต่คุณกลับดูถูกน้ำใจผม!" ร่างสูงขยับเข้ามายืนชิดและโน้มตัวลงมาพูดใกล้ใบหน้าของเธอด้วยความโกรธเคือง "ฉันก็ไม่ได้ขอให้คุณช่วยนี่" เจ้าของดวงตาสีดำสนิทเชิดหน้าพูดโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนฟัง ยิ่งทำให้เขาขบกรามแน่น "ได้! งั้นก็ออกไปซะ ต่อไปคุณจะเป็นตายร้ายดียังไงก็อย่าหวังว่าจะได้รับความสนใจจากผมอีก!" "นั่นแหละที่ฉันต้องการ!" เมลินร้องกลับไปก่อนจะยัดของทุกอย่างกลับเข้าในกระเป๋าเหมือนเดิม แล้วเดินกะเผลกๆ ไปที่ประตู ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยืนอยู่กลางห้อง "อย่าได้เจอกันอีกเลย!" ร่างบางยืดตัวขึ้นก่อนจะเปิดประตูออกไป แต่พอเดินมาถึงประตูทางเข้าออกก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ทั้งตัวมีเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆ กับกางเกงขาสั้นที่ขยับตัวทีแทบจะร่วงลงไปกองกับพื้น แต่เรื่องอะไรเธอจะกลับเข้าไปให้เสียฟอร์ม "เอาวะ เย็นนิดหน่อยเหมือนหน้าหนาวที่ราชบุรีนั่นแหละ" มือบางหมุนที่จับประตูแล้วผลักออกไป "จะปล่อยเธอไปแบบนี้จริงๆ เหรอครับนาย" โยเซฟเอ่ยถามอย่างนึกแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้หญิงสาวมาอยู่ใกล้ๆ ทว่าตอนนี้กลับปล่อยเธอไปง่ายๆ "คนหัวดื้อและรั้นแบบนั้นปล่อยไปก็สมควรแล้ว ต่อให้ไม่มีเธอฉันก็จะพยายามหาวิธีรักษาให้ได้" ลูก้าเชิดหน้าขึ้นอย่างไว้ตัว "เตรียมรถ ฉันจะกลับมิลาน" "ครับ" แม้จะไม่เห็นด้วยที่เจ้านายปล่อยหญิงสาวไปง่ายๆ แต่ก็คัดค้านอะไรไม่ได้ ต้องจำใจเดินไปสั่งลูกน้องเตรียมรถให้พร้อม และประสานไปยังนักบินที่รอสแตนด์บายอยู่ที่สนามบิน เมลินเดินออกมาไกลจากเซฟเฮาส์พอสมควร มองซ้ายมองขวาไม่มีรถผ่าน ไม่มีผู้คนที่พอจะขอความช่วยเหลือได้ และทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น ปัง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD