Ep5(1) : ผู้ชายจอมเกเร By...kanokrot

3175 Words
“ป้าจะไม่ยอมให้เรื่องส่วนตัวของใคร เข้ามากระทบจนทำให้งานใหญ่ชิ้นนี้มันดูวุ่นวายไปหมดอย่างนี้อีกเด็ดขาด ต่างคนต่างก็โตๆกันหมดแล้วนะ ทำไมถึงไม่หัดคิดแยกแยะกันให้ออกเสียบ้าง อันไหนเรื่องงานอันไหนเรื่องส่วนตัว...”  คำพูดลอยๆของท่านเจ้าของงานชิ้นพรีเมี่ยม ปะทะเข้าใส่เส้นโสตประสาตหูของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสถานที่ และทันทีที่ชายหนุ่มผลักบานประตูห้องรับรองเข้ามา สิ่งที่ขคราชคาดการณ์เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ดูเหมือนไม่ได้หลุดไปจากสิ่งที่เขาแอบคิดเอาไว้เลยสักนิด “ทำตัวเหลวไหลจนงานป่วนไปหมด” หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าไหมตัดเย็บประณีตตวัดขายกนั่งไขว่ห้าง มองร่างสูงของชายหนุ่มรุ่นลูกตาเขียวตาคว่ำ “เพราะป้าไว้ใจราชถึงได้ยอมเรื่องนี้ แต่ผลลัพธ์ของการไว้ใจ ทำให้ป้าเสียความรู้สึก”  ชายหนุ่มยังคงแสดงสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเมื่อความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของเขาสักทีเดียว ในเมื่อเขากับโสภิญญาเพิ่งจะเคยเจอหน้ากันเมื่อก่อนถึงห้องถ่ายแบบวันนี้ด้วยซ้ำ เขากับหล่อนไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเกินเลยไปกว่าคนรู้จักกันธรรมดาทั่วไป ถ้าหากจะมองว่าเขามีส่วนผิดกับเรื่องนี้จริง ก็เห็นจะมีเพียงแค่เรื่องเดียว นั่นก็คือเรื่องที่เขายอมให้น้องสาวของไอ้บวร เข้ามาถึงเนื้อถึงตัวและแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของโดยไม่ได้ปฏิเสธออกไปอย่างจริงจัง ก็เขาต้องการอยากจะเห็นปฏิกิริยาของใครบางคน แต่ทว่าจนแล้วจนรอดเขากลับเห็นเพียงแววตาว่างเปล่าฉายชัดออกมาแทน... “สวยแต่รูปจูบไม่หอมด้วยค่ะคุณหญิง” ผกามาศกล่าวเสริม เมื่อเห็นกิริยาเกรี้ยวกราดของเจ้าหล่อน ดึงดันจะเอาสร้อยไข่มุกจากคอของมารตรีให้ได้ “มาทำงานก็สายแถมยังจะเอาแต่ใจ พูดจาก็ไม่เพาะ เป็นลูกเป็นหลานผกาหน่อยไม่ได้ จะดีให้ก้นลายเลยเชียว” คนมีอารมณ์กรุ่นยังพูดต่อ ขคราชเพียงเหล่ตามองพร้อมถอนหายใจ  “เพราะงานชิ้นนี้ของป้า ถือว่าเป็นงานโปรเจกใหญ่ระดับพรีเมี่ยมแห่งปี ป้าถึงไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาทั้งนั้น ป้าหวังว่าราชคงจะเข้าใจในจุดนี้ดีอยู่แล้ว ป้าคงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม นี่ถ้าหากป้ามาไม่ทันอีกนิดเดียว มีหวังนิตยสารเล่มพิเศษเล่มนี้ ป้าคงได้นางแบบไร้จริยธรรมมาขึ้นปกแทนเสียก็ไม่รู้” คุณหญิงพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด วางพัดลายกนกสีเลือดนกบนโต๊ะกระจกอย่างกระฟัดกระเฟียด    “คุณป้าก็กล่าวหาวิกกี้เขาเกินไป แค่มาสายไม่กี่นาทีเองนะครับ” คนถูกกล่าวหาว่าเอาเรื่องงานมาปะปนกับเรื่องส่วนตัว เอ่ยแย้งแก้ต่างแทนนางแบบไร้จริยธรรม ไม่ใช่เขาคิดเข้าข้างโสภิญญา เพียงแต่เรื่องนางแบบถ่ายนิตยสารเล่มพิเศษนี้เขาเองก็ผิดเต็มๆนั่นแหละ แต่เพราะกลัวเสียหน้าเลยต้องเถียงออกไปเสียหน่อย “ไอ้ไม่กี่นาทีของราชที่ว่านั่น อาจหมายถึงทำให้งานทั้งหมดเกิดความเสียหายได้เลยนะ ป้าไม่คิดว่าราชจะเอาเรื่องผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายกับงานใหญ่ๆ เพราะมันดูเหมือนไม่ใช่มืออาชีพเขาทำกันสักเท่าไหร่” คุณหญิงสูดลมหายใจเข้าปอด รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับคำพูดของลูกชายหุ้นส่วนสำคัญ... “มันคุ้มตรงไหนที่คิดจะถือหางผู้หญิงของตัวเอง โดยไม่คิดถึงหน้าใคร โดยเฉพาะหน้าของพ่อตัวเอง” เจ้าของโรงแรมถึงกับกลั้นใจข่มอารมณ์โมโหเอาไว้ ดวงตาสีดำนิลกลอกกลิ้งขึ้นมองเพดานห้อง ก่อนจะกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆกับคนกล่าวหาเสียงดังโครมคราม จนคุณหญิงช่อฟ้าต้องตวัดค้อนให้ร่างใหญ่หนึ่งที “จะลุกจะนั่งก็หัดให้มันเบาๆหน่อย ไม่เห็นหรือไง มีหัวหงอกนั่งอยู่ตรงนี้ถึงสองคน” ผู้เป็นเจ้าของงานตำหนิเสียงเข้ม ใช้สายตานิ่งดุเป็นเชิงปรามเจ้าของโรงแรม เด็กสมัยนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด กิริยามารยาทแทบจะไม่มีติดตัวกันเอาไว้เสียบ้างเลยหรือไง “ขอโทษครับคุณป้า” ขคราชยอมยกมือไหว้ขอโทษ หัวไหล่บึกบึนไหวเล็กน้อยด้วยความเบื่อหน่าย นี่เขาต้องตกเป็นจำเลยของปัญหาทั้งหมด เพียงเพราะความบังเอิญดันไปเจอเข้ากับน้องสาวไอ้บวรก่อนจะถึงทางแยกขึ้นมาชั้นวีไอพีไม่พอ แถมยังต้องมาทนนั่งฟัง คนแก่จอมเจ้ากี้เจ้าการ อบรมบ่มนิสัยเข้าอีกด้วยอย่างนั้นเหรอ เหอะ...น่ารำคาญชะมัด... แต่ถึงชายหนุ่มจะนึกรำคาญมากมายสักแค่ไหน แต่เขาก็ยังรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ไม่กล้าเสียมารยาทลุกขึ้นโวยวายอะไรออกมาทั้งนั้น “นี่ค่ะคุณหญิง...” คุณผกามาศส่งรูปถ่ายในจอคอมพิวเตอร์เครื่องจิ๋วหันไปทางเจ้านาย ดวงตาหลังแว่นกรอบสีดำเพ่งมอง รูปถ่ายหลายสิบรูปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่างพิจารณารายละเอียด “เด็กคนนี้ยังไม่พร้อมจะทำงานใหญ่ระดับนี้หรอกนะตาราช ดูสิไม่เป็นธรรมชาติ ดูขัดๆอย่างไรบอกไม่ถูก แถมยังไม่มีจุดโดดเด่นอะไรพอจะทำให้เครื่องประดับบนร่างกายน่าสนใจอีกด้วย” คุณหญิงช่อฟ้าชี้นิ้วไปยังรูปถ่ายอีกหลายรูป มันเป็นภาพถ่ายของโสภิญญกำลังโพสต์ท่าต่างๆอยู่หน้ากล้องดิจิตอล ซึ่งทางทีมงานส่งมาให้เจ้าของงานได้ตรวจสอบความพึงพอใจ ก่อนจะนำเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ขคราชมองไปยังจอภาพตามที่เลขาคุณหญิงป้าคลิกให้ดู เขาได้แต่ถอนใจ ถึงโสภิญญาจะมีใบหน้าที่สวยคมกระเดียดไปทางสวยเก๋เสียมากกว่าสวยหวาน รูปร่างดีสูงโปร่งเหมาะกับการเป็นนางแบบ แต่โดยรวมทั้งหมดเจ้าหล่อนกลับดูเหมือนยังขาดเสน่ห์ดึงดูดบางอย่างไป ไม่เหมือนกับใครอีกคน เพียงแค่เจ้าหล่อนนั่งนิ่งๆระบายยิ้มอ่อนบางเชิดใบหน้าขึ้นน้อยๆรับแสงจากกล้อง มันกลับดูโดดเด่นอย่างเหลือเชื่อ แถมเธอยังดึงเอาประกายแวววาวของเครื่องประดับบนกายผ่อง ให้ดูเจิดจรัสตามอย่างน่าหลงใหล มันแปลกตาสำหรับเขามาก นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่าพรสวรรค์ “หนูรตรีสวยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์เลยนะคะคุณหญิง ดูสิคะ สวยเหลือเกิน...” เลขาคุณหญิงเอ่ยปากชมจากใจจริง ใช้นิ้วคลิกตรงภาพให้ขยายใหญ่ขึ้น “ทำให้ไข่มุกอันดามันของเราเปล่งประกายโดดเด่นตามไปด้วย” “นั่นสิ...สวยมากเชียวละ” คุณหญิงยิ้มชื่นชมทั้งปากและสายตา แต่เมื่อเห็นอีกรูปของนางแบบมือใหม่ คนแก่ประสบการณ์มามากกว่าครึ่งชีวิตได้แต่อ่อนใจ “แต่วิกกี้เขาก็ดูสวยนะครับคุณป้า” “ราชคิดแบบนั้นเหรอ...” คุณหญิงเอี้ยวตัวไปถามลูกชายหุ้นส่วนด้วยสายตาตำหนิ “เอ่อ...ครับ” พอเห็นสายตาตำหนิจากคุณหญิงป้า ขคราชจึงพูดไม่ออก จะเถียงยังไงได้ หลักฐานโชว์หราเต็มหน้าจอขนาดนี้ “เอาเถอะถ้าหนูวิกกี้ไปไม่รอดจริงๆกับงานชิ้นนี้ ป้าจะใช้เทคนิคเข้าช่วยให้ก็แล้วกัน เพราะถึงอย่างไรป้าก็ต้องเห็นแก่หน้าตาของราชอยู่แล้ว...” แม้น้ำเสียงยามเปล่งออกมาอาจจะฟังดูนิ่มนวลอ่อนโยนสักแค่ไหน แต่ส่วนลึกแล้วนั้น มันเป็นถ้อยคำตำหนิติเตียนแทบทั้งสิ้น ขคราชรู้แต่ไม่อยากเก็บเอามาใส่ใจมากกว่า ในเมื่อโสภิญญาดูไม่ใช่มืออาชีพอย่างที่คุณป้ามหาภัยพูดไว้จริงๆ งานนี้เป็นงานเอกของปี ทุกอย่างต้องออกมาแบบมืออาชีพทำ ไม่ใช่ออกมาแบบมือสมัครเล่นทำให้มันแค่ผ่านๆไปเท่านั้น   “ตามใจคุณป้าจะเห็นตามสมควรก็แล้วกันครับ เพราะผมอย่างไรก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ผมแค่เจ้าของสถานที่ไม่ใช่เจ้าของงาน...” ขคราชตอบรับคำสั้นๆอย่างคนยอมรับผิดกลายๆ ใครจะรู้ผู้หญิงมาจากตระกูลดีการศึกษาสูงจะมีนิสัยขาดความรับผิดชอบ แถมยังไม่เป็นมืออาชีพเสียเลย  “อีกอย่างเด็กของราชก็ทำตัวไม่น่ารักเลยจริงๆ การไม่ตรงต่อเวลา ป้าถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างร้ายแรง แล้วป้าก็ไม่ชอบไอ้นิสัยไม่เห็นหัวใครของหนูคนนั้นด้วย ถ้าวันหลังราชต้องการจะฝากฝังเด็กคนไหนให้เข้าวงการนี้อีกแล้วละก็ ช่วยกลั่นกรองพื้นฐานลักษณะนิสัยมาสักนิดนึงก็ยังดี...ป้าก็ไม่ใช่จะอย่างนั้นอย่างนี้หรอกนะ แต่ป้าขอแค่มีนิสัยให้ได้ครึ่งหนึ่งของหนูรตรีเป็นพอ เพราะรายนั้นเขาเป็นเด็กดีมีวินัยความรับผิดชอบสูง รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกคน และที่สำคัญ ขยันทำงานตั้งแต่เด็กเสียด้วยสิ เรื่องเวลาก็ไม่เคยมาสายทำให้ทีมงานต้องหนักใจ...” คำชื่นชมยืดยาวเหล่านั้น สร้างความหมั่นไส้ให้คนฟังยิ่งนัก ขคราชคันปากยิบๆอยากจะเถียงออกไป แต่เมื่อตัวเองยังมีชะงักปักหลังอยู่จึงนั่งเงียบสงบปากสงบคำตามเดิม “ใช่ค่ะคุณหญิง ผกาเห็นด้วยอย่างยิ่ง หนูรตีเป็นเด็กดีและก็มีมารยาทมากด้วยนะคะ ทำงานก็ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง ผกาเห็นแล้วยังอดชื่นใจแทนคุณตาของเธอไม่ได้เลยค่ะ ไม่รู้เลี้ยงดูกันมายังไงนะคะ ถึงได้น่ารักแบบนี้ พูดแล้ว ผกาเองก็อยากจะมีหลานสาวน่ารักๆอย่างหนูรตรีสักคนเหมือนกัน...” คุณเลขาเอ่ยสนับสนุน แต่ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในห้องกับเบ้ปาก กลอกตามองเพดาน หึ...ดูจิ้งจกยังจะดีกว่ามานั่งฟังเรื่องไร้สาระ... นิสัยน่ารักกิริยาก็งดงามอย่างนั้นเหรอ เหอะ!มันเป็นภาพลวงตาที่แม่นั่นสร้างขึ้นมาทั้งเพ คนแก่สองคนนี้มีตาแต่หามีแววไม่ ดันไปเห็นกงจักรเป็นดอกบัวขึ้นมาได้ยังไง เดี๋ยวเถอะอีกหน่อยถ้าแม่นั่นแผงฤทธิ์เดชออกมาให้เห็นกันชัดๆเมื่อไหร่ ดูสิยังจะมาเอ่ยปากชื่นชมแม่นั่นกันอยู่อีกหรือเปล่า ชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมาอย่างเย้ยหยันในใจ เมื่อเขายังคงฝังความคิดในแง่ร้ายมองมารตรีในด้านอคติอย่างไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง โดยที่ตัวเองไม่เคยคิดสักนิด หากอนาคตในวันข้างหน้าไอ้คำพูดและความคิดเช่นนี้จะส่งผลให้ตัวเองนั้นเจ็บเจียนตายก็ว่าได้... “ฉันเห็นด้วยกับแม่ผกา หรือว่าไงตาราช เห็นด้วยกับป้าสองคนหรือเปล่า...” คุณหญิงหันไปหาหลานชายผู้มีใบหน้างอง้ำไม่เปลี่ยน แต่ชายหนุ่มกับไหวไหล่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เจ้านายกับลูกน้องจึงมองหน้ากันอย่างยิ้มๆ พรางส่ายหน้าระอาพร้อมกันอีกด้วย “ราชคงไม่ได้รู้สึกเหมือนกับป้าหรอก จริงไหม เพราะถ้ารู้สึกจริง คงไม่ปล่อยให้สาวน้อยนามแปลกประหลาดอะไรนั้นของหลาน เที่ยวพูดจาดูถูกเขาอย่างเสียๆหายๆเป็นนานสองนาน โดยไม่คิดจะห้ามปรามสักคำ” คุณหญิงพูดดักทางจนขคราชตัวชาวาบ จะเถียงออกไปก็ไม่กล้า ในเมื่อท่านพูดความจริงทั้งหมด “ป้ารู้สึกถูกใจหนูรตรีมากนะ อยากได้มาเป็นลูกสาวอีกสักคน มีแต่ลูกชาย เหมือนบ้านมันขาดสีสันอย่างไรบอกไม่ถูก”  “โถ่!คุณหญิง จะไม่ยากอะไรล่ะคะ เป็นลูกสาวไม่ได้ นั้นก็เอามาเป็นลูกสะใภ้เสียก็สิ้นเรื่องสิ้นราวไป อีกไม่กี่วัน คุณนันทร์ก็จะกลับมาจากเมืองนอก ผกาว่าถ้าพามาทำความรู้จักกันไว้ น่าจะสปาคกันได้ไม่ยาก อีกคนก็หล่ออีกคนก็สวย เหมาะสมกันออกจะตายไป” “จริงด้วยสิแม่ผกา ฉันดันลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย...” เจ้านายกับลูกน้องพากันร้องขึ้นเสียงหลง พรางหันมาส่งยิ้มให้กันอย่างมีความนัย สายตาผ่านร้อนผ่านหนาวมานานวิบวับแวววาว เมื่อทั้งคู่นั้นปลื้มในตัวของหญิงสาวที่แอบถูกใจในหลายๆด้าน และยิ่งถูกใจหนักเข้าไปยกใหญ่ เมื่อประหวัดนึกไปถึงลูกชายคนเล็กของตัวนางเอง ซึ่งตอนนี้กำลังจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หลังจากไปเรียนจนจบปริญญาโทด้านบริหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา  “ระวังจะคว้าเอาเม็ดกรวดมาแทนเม็ดพลอยก็แล้วกันนะครับคุณป้า คุณผกา ไอ้นันทร์มันยิ่งช่างเลือกอยู่ด้วย ปล่อยให้มันจัดการเรื่องนี้เองเถอะครับ ผมไม่อยากเห็นมันเสียใจ...” เสียงห้าวดุดันขัดขึ้นอย่างหมดความอดทน ใจของคนฟังแทบแดดิ้นทุรนทุราย พลุกพล่านจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ยิ่งเมื่อได้ฟังสิ่งที่ทั้งสองท่านปรารถนา ใจของชายหนุ่มเริ่มร้อนรน เรื่องอะไรเขาจะยอมให้มารตรีได้สมหวังง่ายๆ คอยดูเขาจะคอยขัดขว้างมันให้ถึงที่สุด คนหนุ่มเริ่มอารมณ์พาล มองสองผู้อาวุโสกรุ่นโกรธในใจ...  “ปากเรานี่นะตาราช ประเดี๋ยวเถอะ ทำมาเป็นว่าเขาอย่างนั้นอย่างนี้ ระวังจะตกหลุมรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นก็แล้วกัน ป้าจะขอเตือนเอาไว้ให้ ผู้หญิงดีๆน่ะมันดูกันออกได้ไม่อยากนักหรอกนะ ถ้าหากตากับใจของเราไม่อคติจนมืดบอดไปเสียก่อน...” “ผมไม่ได้อคติสักหน่อย ผมพูดเรื่องจริงต่างหากครับคุณป้า ถ้าคุณป้าอยากจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณป้าเถอะ ผมคนหนึ่งละ ที่ไม่เคยเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีอะไรดีแด่มากกว่าผู้หญิงคนไหนๆเลยสักนิด” คุณหญิงช่อฟ้าได้แต่ส่ายหน้า คนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างนาง ย่อมมองอะไรปราดเดียวเห็นไปถึงตับไตไส้พุงนู่นแล้ว และถ้าหากสายตาของท่านมองอะไรไม่ผิดไปจากสิ่งที่ท่านสัมผัสได้  ขคราชกำลังตกหลุมกับดักของตัวเองเข้าให้อย่างจังแล้วละโธ่...พ่อคนปากแข็ง...  “ว่าแต่ท่านเจ้าสัวจะกลับมาจากทัวร์รอบโลกวันไหนกันจ๊ะ ป้าจะได้ให้คนเขาเริ่มจัดเตรียมธีมงานรอเอาไว้เลย เจ้าสัวกลับมาจะได้มีเวลาดูในจุดอื่นแทน”   “คงไม่เกินสองเดือนครับคุณป้า แต่ถ้าคุณป้ามีเรื่องด่วนอะไรกะทันหัน ติดต่อผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ผมยินดีให้ความช่วยเหลือทุกเรื่องอยู่แล้ว พอดีป๋าโอนถ่ายงานทุกอย่างมาให้ผมดูแล โดยเฉพาะกับงานเครื่องประดับ ท่านอยากอำนวยความสะดวกให้กับทางคุณป้าอย่างเต็มที่...” ชายหนุ่มตอบคำถามพร้อมกับเอนหลังพิงกับพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ฝ่ามือใหญ่ล้วงเอามือถือรุ่นใหม่ขึ้นมาเปิดดู ก่อนใบหน้าคมคายจะก้มลงให้ความสนใจกับเครื่องมือสื่อสารแทนการพูดคุยกับบุคคลข้างกาย  “คงมีเรื่องเดียวที่ป้าอยากจะรบกวนราช” ชายหนุ่มละสายตาจากเครื่องมือสื่อสารในมือ เงยหน้าขึ้นมารอรับฟังคำขอจากคุณหญิงช่อฟ้า “คุณป้าจะให้ผมช่วยเรื่องอะไรหรือครับ...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นมองคนขอให้ช่วยด้วยความสงสัย “ป้าอยากจองโรงแรมที่ภูเก็ตสักครึ่งซีก แล้วก็ขอฝั่งที่ติดกับทะเลด้วยนะ ราชพอจะทำให้ป้าได้หรือเปล่า” คุณหญิงแจ้งความประสงค์ของตัวเองกับลูกชายหุ้นส่วน ธีมงานคร่าวๆที่นางคิดเอาไว้ อยากได้ติดกับชายทะเลสวยงาม ในเมื่อเครื่องประดับตัวเอกในวันนั้น เป็นอัญมณีแห่งท้องทะเล ถ้าหากได้จัดใกล้แหล่งกำเนิดของมัน คงจะเก๋ไม่หยอก  “ผมขอเช็คกับทางนู้นดูก่อนแล้วกันนะครับ แต่คงไม่น่ามีปัญหาอะไร ว่าแต่...คุณป้าจะทำอะไรหรือครับ ห้องตั้งมากมายขนาดนั้น” ขคราชขมวดคิ้วสงสัย ทำไมคุณหญิงป้ามหาภัยต้องการห้องพักมากมายขนาดนั้นด้วย “ก็เอาไว้รองรับพวกแขกวีไอพีในวันเปิดตัวไข่มุกอันดามันนั่นแหละจ้ะ ป้าคิดคอนเซปเอาไว้คร่าวๆ อยากจะให้ตัวงานที่จัดงานวันนั้นติดกับทะเลสวยๆสักหน่อย จะได้เข้ากับเครื่องประดับในวันเปิดตัวนั้นด้วยไง” “อ้อ...ได้ครับ ผมขอวันกำหนดงานที่ชัดเจนก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะลงไปดูให้ด้วยตัวเองอีกที...” “เอาหนูรตรีลงไปดูด้วยสิ รายนั้นเขามีไอเดียทางด้านนี้เหมือนกันนะ เครื่องประดับบางชุด ป้ายังจ้างให้หนูรตรีออกแบบให้เลย...” “ว่าไงนะครับ แม่นั่นน่ะเหรอมีสติปัญญาทางด้านนี้ด้วย...” ขคราชได้แต่ร้องเสียงหลง เข้าไม่เชื่อหรอก ผู้หญิงแบบมารตรีจะทำอะไรทางด้านนี้เป็นกับเขาด้วย “เรานี่ปากร้ายจริงๆเลยนะตาราช ดูสิพูดจาไม่น่ารักสักนิด ไปเรียกเขาแม่นั่นแม่นี่ มันดีตรงไหนหึ...” คุณหญิงช่อฟ้ายกฝ่ามือตีลงบนลำแขนกำยำ ก่อนจะบ่นต่อยืดยาว “ผมไม่เอาด้วยหรอกครับ งานนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จะเอาผู้หญิงแบบนั้นมาออกแบบงานได้ยังไงกันล่ะครับ” “เที่ยวดูถูกคนอื่นก็เป็นที่หนึ่ง...” คุณหญิงขว้างค้อนให้อีกลูกด้วยนึกหมั่นไส้คนปากร้าย “นั้นก็ไม่เป็นไรจ้ะ ถ้าตานันทร์กลับมาถึงเมืองไทยเมื่อไหร่ ป้าค่อยให้สองคนนี้เขาไปดูสถานที่พร้อมกันก็ได้ จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้...” คุณหญิงยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้เจ้าของโรงแรมถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้อีกจนได้ “ถ้าอย่างนั้นให้แม่...เอ่อ...รตรี ไปพร้อมผมดีกว่า จะได้ดิวงานกันได้เลย ไม่ต้องติดต่ออะไรให้ยุ่งยากวุ่นวายอีกหลายทอด อีกอย่างไอ้นันทร์มันเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทย ปล่อยให้มันพักผ่อนตามสบายไปก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งให้มันมาทำงานนี้เลย” คนสงสารเพื่อนขัดขวางเต็มที่ คนแก่ทั้งสองคนหันไปมองหน้ายิ้มๆ พร้อมกับส่ายหน้าให้กัน “นั้นก็ตามใจราชเถอะ...แต่ป้าจะเป็นคนไปพูดกับรตรีก่อน อยากจะได้อะไรแบบไหน ส่วนเราก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นนะ มีหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีพาชมสถานที่อย่างเดียวเป็นพอ...” “รับทราบคร้าบคุณป้า ผมจะไม่แตะต้องหนูรตรีของคุณป้าแม้แต่ปลายก้อย...” ขคราชรับคำส่งเดช ปลายก้อยไม่แตะหรอก ถ้าจะแตะมันต้องทั่วทั้งตัวนู่นแหละ...   **********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD