“ปละ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! ข้าไม่อยากเป็นอะไรกับท่านทั้งนั้น” เซี่ยอีอิ่งพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ก็ดูเหมือนว่านางจะสู้แรงบุรุษองอาจไม่ไหว แววตาของหวังหย่วนเหอเข้มขึ้น จากนั้นเขาก็ตัดสินใจไม่ฟังคำของโฉมสะคราญอีก ริมฝีปากหยักสวยไล่จุมพิตไปทั่วซอกคอขาวเนียน ร่างบางพยายามหันหน้าหนีสุดชีวิตแต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจรอดพ้น
“เจ้าดิ้นไปก็ไร้ผล วันนี้ข้าจะต้องเป็นสามีเจ้าให้จงได้” หวังอ๋องอยากเอาชนะ และยิ่งองค์หญิงฮวาเป๋ยแสดงอาการไม่ยินยอมมากสักเท่าไร ร่างสูงก็ยิ่งออกแรงข่มเหงนางมากขึ้นเท่านั้น
“อื้อ! คนบ้า! ปล่อยนะ!” เซี่ยอีอิ่งฝืนแรงขืนกายพยายามหนีออกจากสัมผัสเร่าร้อนนี้ แต่แม่ทัพใหญ่ก็ตัวใหญ่กว่านางมากนัก ไม่ว่าสตรีจะทั้งดิ้นทั้งพยายามจะกัดเขาเท่าไรก็ดูเหมือนว่าหวังหย่วนเหอจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ
“ยิ่งเจ้าทำร้ายข้ามากเท่าไร ข้าก็จะเอาคืนเจ้ามากเท่านั้น” บุรุษองอาจไล่ขบเม้มที่ซอกคอขาวเนียนจนขึ้นรอยสีแดงเต็มไปหมด สตรีหมดเรี่ยวแรงได้แต่นอนน้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มแต่ความเสียดเสียวก็เข้าจู่โจมนางเช่นกัน ร่างบางถูกฝ่ามือหยาบกร้านนั้นขยำขยี้จนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง อกอวบอิ่มถูกริมฝีปากหยักสวยหยอกล้อจนขึ้นตุ่มไตแข็ง ท้องน้อยขมวดเกร็ง สองเรียวขาสวยก็พยายามเบียดต้นขาเข้าหากันแน่นราวกับกลัวสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวจะแสดงด้านมืดออกมา
“หวานนัก เมียข้า เจ้าเป็นได้แค่เมียรักของข้าเพียงเท่านั้น” หวังอ๋องหลงใหลในเรือนร่างขาวเนียนนี้ แม้ว่าเขาจะผ่านสตรีมามากมายแต่ไม่มีผู้ใดที่ทำให้เขารู้สึกหลงใหลได้มากถึงเพียงนี้
“อื้อ...” ไม่อาจควบคุมอาการที่สยิวเสียวซ่านได้ เซี่ยอีอิ่งคล้ายถูกบางสิ่งบางอย่างครอบงำตัวตน นางแอ่นอกให้แม่ทัพจอมโหดดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย มิหนำซ้ำยังปล่อยให้เขาใช้ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบไล้ไปทั่วทั้งเนื้อทั้งตัวจนพอใจ
“ชอบข้าบ้างแล้วใช่หรือไม่” หวังอ๋องรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เขาลอบอมยิ้มให้กับตัวเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากเลียชิมเนื้อสาวลงต่ำมาเรื่อย ๆ ลากลิ้นร้อนลวกผ่านหลุมลึกใกล้ลงมาที่กลุ่มไหมนุ่มลื่น ราวกับว่าถูกไฟร้อนเผาผ่านผิวกาย เซี่ยอีอิ่งรีบใช้มือที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระห้ามบุรุษองอาจทันที
“ยะ อย่านะเจ้าคะ” สติสัมปชัญญะเริ่มกลับคืนมา ร่างบางรีบกระถดตัวถอยหนี ร่างสูงมองสบตานางนิ่ง เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากราวกับจะจับนางกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก
“เจ้าห้ามข้าไม่ได้หรอกเมียรัก มาเถิด พวกเรามาสนุกกัน” หวังอ๋องกระชากข้อเท้าของโฉมสะคราญเพียงครั้งเดียว ร่างสาวที่สั่นสะท้านก็กลับมาอยู่ใต้อาณัติของเขาอีกครั้ง เรียวขางดงามถูกจับให้แยกออกจากกันด้วยความรวดเร็ว เซี่ยอีอิ่งตกใจจนตั้งตัวไม่ทัน นางได้แต่รีบใช้สองมือมาปิดที่ของสงวนนั้นไว้ สีหน้าแดงก่ำมีความเขินอายปะปนอยู่หลายส่วน
“...ทะ ท่านอ๋องโปรดละเว้นหม่อมฉันด้วยเพคะ” แม้ว่านางจะถูกเขาย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ยังไม่รู้สึกชาชิน องค์หญิงห้าแห่งฮวาเป๋ยช่างมีชีวิตที่อาภัพยิ่งนัก ถึงแม้ว่าจะได้เห็นราชโองการนั้นที่ฮ่องเต้ได้ส่งนางให้มาเป็นพระชายาชินอ๋องจอมโหดผู้นี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถยอมรับความจริงนั้นได้ พวกเขาทั้งสองคนเจอกันในสถานการณ์ที่ไม่สมควรและผิดเวลายิ่งนัก
หวังหย่วนเหอสบตาที่สั่นระริกของเซี่ยอีอิ่งด้วยความใจอ่อนที่พาดผ่านเข้ามาแวบหนึ่ง “กลัวข้ามากถึงเพียงนี้เลยหรือ” น้ำเสียงทุ้มนั้นคล้ายกับว่าเขาจงใจใช้มันปลอบประโลมจิตใจสตรี ความช่ำชองที่บุรุษผู้นี้มีมิใช่แค่ในยามจับดาบเข่นฆ่าผู้คนเท่านั้น เขายังมีทักษะพิเศษที่สามารถมัดใจสตรีทั่วทั้งแผ่นดินได้ด้วย สตรีไม่ยอมตอบคำถาม นางได้แต่หลับตาลง พยายามยอมรับความจริงที่ว่าวันนี้ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของแม่ทัพจอมโหดผู้นี้ได้ เมื่อหวังอ๋องเห็นว่าองค์หญิงห้าไม่ตอบคำถาม ก็ไม่รีรอให้เสียยามอีกต่อไป เจ้าแท่งหยกที่ขยายเป็นลำใหญ่แข็งกำลังแสดงอาการประท้วงออกมาเมื่อเขาชักช้าที่จะเผด็จศึกในสงครามครั้งนี้
“เจ้าจงทำใจให้ชินไว้ เพราะว่าคืนนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าได้นอนเลยทั้งคืน” สิ้นคำประกาศนั้น คนเผด็จการก็รีบถอดกางเกงซับในตัวบางออก เผยให้เห็นท่อนเนื้อที่ผงาดอยู่ตรงกลาง เซี่ยอีอิ่งเผลอลืมตาขึ้นมาแล้วก็เห็นมันเข้าอย่างจัง
“มะ ไม่เพคะ ข้าไม่อยากปรนนิบัติท่านแล้ว” เซี่ยอีอิ่งตกใจจนหน้าถอดสี เจ้าแท่งหยกนั่นมันใหญ่โตเกินไปดูผิดปกติ ถ้าหากปล่อยให้มันเข้ามาในตัวนางมีหวังคืนนี้ต้องกระอักเลือดอย่างแน่นอน
“คิดว่าจะเปลี่ยนใจได้อย่างนั้นหรือ” หวังอ๋องขยับสะโพกสอบเข้ามาใกล้ ในขณะที่สองมือก็กดต้นขาของโฉมสะคราญให้อ้ากว้างออก แต่หญิงสาวก็ไม่ยินยอมที่จะนำมือออกจากการปิดกั้นสิ่งสงวนนั้นไว้
“ถ้าหากเจ้าไม่ยอมให้ข้าเข้าไปดี ๆ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายทรมานเจ้าด้วยท่าอื่นเลย” แววตาคมเข้มส่องประกายวาววับ และมันก็มีอำนาจมากพอให้เซี่ยอีอิ่งกลัวจนตัวสั่นระริก เมื่อเห็นว่าโฉมงามไม่มีท่าทียินยอมเขาจึงเปลี่ยนมาจับเอวคอดกิ่วเพื่อตรึงเอาไว้แล้วใช้มือข้างที่ว่างดึงมือของนางที่ปิดบังของสงวนออกไปให้พ้นทาง จากนั้นก็ใช้เจ้าแท่งหยกแข็งแรงสอดสวนเข้าไปในทันที
“ยะ อย่านะ! เจ็บ! ฮือ ๆ เอามันออกไปนะ” เสียงกรีดร้องของสตรีดังออกไปที่ด้านนอกกระโจมในขณะที่ลู่จื่อกำลังยกถาดอาหารเย็นเข้ามาให้องค์หญิง
“องค์หญิงเพคะ!” ลู่จื่อรีบวางถาดอาหารลงและพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือแต่ก็ถูกทหารองครักษ์สองนายที่ยืนเฝ้าหน้ากระโจมใช้ทวนที่ถือไว้ในมือกั้นขวางเอาไว้ น้ำตาของนางกำนัลไหลออกมาเป็นทางยาวเพราะรู้ว่าข้างในกำลังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
หวังอ๋องหยัดกายขึ้นตรงจากนั้นก็ค่อย ๆ เคลื่อนสะโพกสอบให้เข้าออกอย่างเป็นจังหวะ ช่องทางคับแคบนั้นทำให้บุรุษองอาจถึงขั้นกลั้นเสียงครางที่มีความสุขของตนเองไม่ไหว “อาาา ให้ตายเถิด ของเจ้ามันคับแคบนัก ข้าไม่เคยเจอมาก่อน” ร่างสูงค่อย ๆ ตอกตรึงเจ้าแท่งหยกนั้นเข้าไปในโพรงถ้ำอุ่นร้อนที่บัดนี้มีน้ำหวานไหลชโลมออกมาเพื่อลดความเจ็บปวด
“อะ อะอื้อ!!” เซี่ยอีอิ่งเจ็บเสียจนร้องไห้ไม่ออก นางได้แต่นอนนิ่งรองรับอารมณ์ของชินอ๋องที่กำลังหลงใหลอยู่ในราคะนั้น ความรู้สึกมากมายถาโถมทำให้นางสูญเสียตัวตนจนเผลอส่งเสียงครางกระเส่าออกมา
“อะอ้า...” ความเสียดเสียวจู่โจมร่างบางจนสั่นสะท้าน สัมผัสที่เนิบช้าเปลี่ยนเป็นรุนแรงและเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หวังหย่วนเหอไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไปแล้ว สะโพกสอบกระแทกกระทั้นตอกตรึงร่างสาวลงกับเตียงนุ่ม ขาเตียงสั่นไหวด้วยความเร่าร้อนรุนแรง จากที่ทั้งสองครางเสียงผะแผ่วก็เริ่มหอบหายใจถี่ระรัว
“อะอา ให้ตายเถิด อ้าา อีอี เมียรักของข้า” ความโปรดปรานทะยานพุ่งสูงสุดในใจของหวังอ๋อง ชินอ๋องที่ไม่เคยชื่นชอบสตรีนางใด เขามองว่าพวกนางเป็นเพียงสิ่งของที่ใช้ปลดเปลื้องความสุขทางกามารมณ์เพียงเท่านั้น แต่สำหรับองค์หญิงห้า เขารู้สึกกับนางแตกต่างไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั้งอยากครอบครองและสงวนไว้ให้เป็นของตนเองตลอดไป เมื่อเขาได้สัมผัสนางอย่างลึกซึ้ง ทุกสิ่งที่เคยคิดเอาไว้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงเลยทำให้อยากที่จะกระแทกกระทั้นนางให้ตายคาใต้ร่างของตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
“อีอี อาาา” หวังหย่วนเหอคำรามเสียงต่ำ ทุกแรงที่มีหลงเหลืออยู่เขาสาดใส่ร่างบางแทบไม่ยั้งมือออมแรง
“อือ...เบาหน่อยเจ้าค่ะ กรี๊ดด!!” ไม่ทันขาดคำโฉมสะคราญก็ถูกจับพลิกตัวให้อยู่ในท่าคลานเข่า และเมื่อเจ้าแท่งหยกทิ่มแทงลงมาอีกครั้ง สตรีก็กรีดร้องจนแทบสลบไป ความเสียวไล่กัดกินเรือนร่างสาวจนไร้เรี่ยวแรง นางรู้สึกสมเพชตนเองที่ลึก ๆ ก็รู้สึกต้องการบุรุษโหดร้ายผู้นี้ สัมผัสแปลกใหม่ทำให้สตรีไร้มลทินอย่างองค์หญิงห้าแปดเปื้อนเสียแล้ว
“อีอี เมียรักของข้า อะอาาา” ไม่รีรอให้เสียการ หวังอ๋องปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางคับแคบนั้นโดยไม่สนใจว่าโฉมสะคราญจะยินยอมหรือไม่ ทั้งที่เขาไม่เคยฝากฝังสิ่งที่จะเป็นทายาทไว้กับสตรีนางใด แต่กับองค์หญิงห้าผู้นี้เขากลับอยากผูกมัดนางเอาไว้ไม่ให้หนีรอดไปจากเงื้อมมือของเขาได้ ร่างสูงกระตุกเกร็งเป็นจังหวะแล้วเขาก็กดร่างบางให้นอนคว่ำลงแล้วตนเองก็ขยับเข้ามากอดร่างบางเอาไว้ เซี่ยอีอิ่งนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของแม่ทัพจอมโหดที่ดึงตัวนางไปกอดแน่น ความเหนื่อยล้าแทรกซึมเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนให้พ้นจากอ้อมอกนี้นางก็ยังไม่มีปัญญา
“เจ้าไม่เหนื่อยหรืออย่างไร ถ้าหากว่ายังไม่เหนื่อยข้าจะต่อรอบต่อไปทันที” คำข่มขู่นั้นทำให้สตรีหลับตาลงอย่างรวดเร็ว