พราวมุกเดินมาที่ตู้เย็น รินน้ำส้มแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน นั่งอ่านดูข้อความที่พิมพ์ค้างไว้ที่หน้าโน้ตบุ๊ก ตอนอยู่ต่างประเทศ พราวมุกทำงานพิเศษเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และเด็กที่เคยเลี้ยงเป็นเด็กพิเศษต้องใช้ภาษามือ เธอเลยได้ฝึกภาษามือไปด้วย กลับมาเมืองไทย มีเพื่อนของพ่อที่ทำงานมูลนิธิเกี่ยวกับเด็กพิเศษ เธอเข้าไปทำกิจกรรมด้วยตามประสาคนชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว เด็กๆ ที่นั้นใช้ภาษามือในการสื่อสาร เธอมีความสามารถด้านนี้เลยช่วยได้เยอะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอตาหน้าตายนั้นด้วย หญิงสาวเบ้ปากใส่อย่างลืมตัว คนอะไรขี้เก๊กชะมัด แต่งตัวก็ไม่เหมือนครูบาอาจารย์ แต่ตัวสูงแบบนั้นใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ดูดีเหมือนกันแฮะ บอสเราหล่อกว่าตั้งเยอะ ตานั้นไม่เห็นมีอะไรดี แค่ตัวสูง ไหล่กว้าง ใส่ ผิวสีแทน แล้วก็ใส่แว่นตา
บ้าจริง! ยัยพราวมุก! เธอจะแพ้ทางผู้ชายใส่แว่นตาไม่ได้นะ!
พราวมุกอยากเอาหัวโขกผนังห้องเพื่อให้ได้สติจริงๆ ทำไมเธอต้องชอบผู้ชายใส่แว่นด้วยก็ไม่รู้ หรือเธอชอบผู้ชายแบบเด็กเนิร์ดเหรอ? แม้ว่าผู้ชายใส่แว่นจะเรียกสายตาให้เธอหันไปมอง แต่เธอก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับทุกคนเสียหน่อย แต่คนที่มารบกวนจิตใจของเธอก็คือลูกศิษย์ของพ่อคนนั้น
‘น้องมุก? ทำไมมาอยู่ที่นี่’
เขาทักเธอสีหน้าแปลกใจแล้วขยับแว่นสายตาชิดใบหน้าแล้วเดินเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ จากตัวเขา วันนี้เขาสวมเสื้อยืดแต่มีลายพิมพ์ใบไม้สารพัดสีที่กลางอกเสื้อ และสวมป้ายstaffคล้องคอ เหมือนกับเธอ
‘พี่น้ำไม่สบายค่ะ มุกมาเป็นอาสาล่ามภาษามือ’ เธอตอบไปตามตรง ได้เจอกันก็ไม่แปลกหรอก แต่ไม่อยากเจอมากกว่า
‘วันนี้วันเสาร์ ไม่ได้ทำงานครึ่งวันเหรอ’
‘ให้พลอยไปทำแทนค่ะ’
‘เฮ้ย! ทำไมเป็นคนแบบนี้ งานตัวเองแท้ๆ ให้คนอื่นไปทำแทนได้ไง’
‘พลอยไม่ใช่คนอื่นค่ะ แต่คนอื่นคือคนที่กำลังด่ามุกอยู่ต่างหากล่ะ’
‘พูดดีๆ หน่อย พี่ไม่ได้ด่านะ พี่ถามหาความรับผิดชอบของน้องมุกต่างหาก’
‘ได้ ถ้าพูดแบบนี้ มุกกลับก็ได้’
‘แล้วใครจะมาเป็นล่ามภาษามือ’
‘ก็ไปหาคนที่มีความรับผิดชอบมากกว่าสิ’
‘อ้าว…’
‘ที่มานี่ก็เพราะคนไม่พอ พลอยก็ไม่ถนัดใช้ภาษามือ มุกไม่ได้อยากหยุดงานเสียหน่อย มุกเพิ่งทำงานได้ไม่ครบสามเดือน ลางานบ่อยๆ จะได้ผ่านโปรฯเป็นพนักงานประจำไหมล่ะคะ ถ้าตกงานใครจะรับผิดชอบ’
‘ขอโทษ พี่ผิดเอง’
พราวมุกนึกว่าเขาจะเถียงเธออีก ไม่นึกว่าจะเป็นฝ่ายขอโทษเธอก่อน แต่เอาเถอะ เธอไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ในเมื่อเขายอมให้ก่อน เธอก็จะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
‘แล้วนายล่ะ มาทำอะไร’
‘ดูเด็กๆ’ เขาตอบแล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ‘เมื่อไหร่จะเรียกพี่ว่าพี่’
‘ไม่อยากสนิทด้วยไง’ เธอยักไหล่ เป็นจังหวะเดียวกับรุ่นพี่กวักมือเรียกเธอไปช่วยงาน เธอจึงไม่ได้คุยอะไรกับเขาอีกจนกระทั่งงานเลิกงาน พราวมุกเดินมาที่รถของตัวเองพร้อมของที่ระลึกหอบหิ้วใส่ถุงผ้ามาด้วย ร่างสูงใหญ่ของเขาวิ่งเหยาะๆ ตามมา เธอแสร้งทำเป็นค้นกระเป๋าหากุญแจรถ แต่ที่จริงยืนรอให้เขาเข้ามาใกล้
‘จะไปไหนต่อหรือเปล่า’
‘กลับคอนโด พลอยเลิกงานแล้ว ตอนนี้อยู่ที่คอนโด’
‘ดีแล้ว อย่าเถลไถล แล้วเอาขนมนี้ไปฝากน้องพลอยด้วย’
เขายัดถุงขนมใส่ถุงของเธอ พราวมุกได้แต่ยืนงงมองตาปริบๆ จนกระทั่งเขาหมุนตัวเดินจากไป นี่เธอเจอนักวิชาการสายเพี้ยนเข้าให้แล้วหรือไงนะ เธอสะบัดศีรษะไปมาแล้วเปิดประตูรถ โยนทุกอย่างลงเบาะว่างข้างตัวก่อนจะพาตัวเองเข้าไปในรถ แต่ก็อดมองขนมในกล่องนั้นไม่ได้
ทั้งที่บอกตัวเองว่าไม่คิดอะไร แต่คิดเรื่องนี้ทีไหร่ หัวใจก็เจ็บแปลบทุกที
พราวมุกสะบัดหน้าไปมา ดึงสติกลับมาจดจ่อกับปัจจุบัน นอกจากทำงานประจำให้ดีไม่ขาดตกบกพร่อง เธอยังต้องเตรียมคอนเทนต์ในช่องยูทูปของตัวเองอีก พราวมุกอาศัยว่าตนเองรู้ภาษามือ ช่องยูทูปของเธอ เธอจึงพูดไปและใช้ภาษามือไปด้วย ไปๆ มาๆ เธอก็ทำคลิปสอนภาษามืออย่างง่ายๆ ให้คนทั่วไป
งานครั้งล่าสุด เธอรับปากพี่ๆ ไปว่าจะไปช่วยสอนศิลปะเด็ก แต่ต้องไม่กระทบการทำงานประจำของเธอ ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้เจออีตาหน้าตายนั้นอีกหรือเปล่านะ.
...
“ยังมีคนไปห้องสมุดอยู่เหรอ”
พราวมุกถามพลางชะโงกหน้าข้ามไหล่ของพลอยดาว กลิ่นขนมบัวลอยทำให้น้ำลายสอ พลอยดาวหัวเราะเสียงใสขณะที่มือกำลังคนบัวลอยในหม้อ
“พลอยไง”
“ *****คก็มี โหลดเอาก็ได้ ไม่ต้องแบกหนังสือหนาๆ หนักๆ ” พราวมุกเบ้ปากแล้วเดินไปหยิบถ้วยเตรียมใส่ขนมหวาน
“เปลี่ยนบรรยากาศไปทำงานนอกบ้านบ้างไง” พลอยดาวรับถ้วยจากมือแฝดน้องแล้วตักบัวลอยไข่หวานใส่ “ให้พ่อก่อน”
“รู้แล้วน่า...ของมุกไข่หวานสองฟองเลยนะ”
“รู้แล้วน่า” พลอยดาวพูดย้อนประโยคของพราวมุก
หญิงสาวรับถ้วยขนมหวานวางใส่ถาด หยิบช้อนวางข้างๆ ยกถาดขนนมาที่ห้องนั่งเล่น แล้วก็ต้องชะงักที่เห็นว่าพ่อไม่นั่งอยู่คนเดียว
“นายมาทำไม”
“มุก ...ทำไมพูดแบบนั้นละลูก” คุณวิทยาอดดุลูกสาวคนเล็กไม่ได้ “พี่คิมเขาเพิ่งมา มุกไปยกน้ำกับขนมมาเพิ่มอีกชุดสิ”
“มาได้จังหวะกินของฟรีเลยนะ” พราวมุกเบ้ปากใส่ชายหนุ่มที่นั่งใกล้ๆ พ่อของตน คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้าไปมา อ้าปากเหมือนจะตำหนิแต่คิมหันต์ชิงพูดขึ้นก่อน
“ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนเวลาครอบครัวนะครับ”
เขาพูดสีหน้าเรียบเฉย จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออกเพราะลูกสาวอาจารย์ใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่าอวดเรียวขาสวยทำให้เขาไม่รู้จะทำหน้ายังไง จะว่าไป ก็มารบกวนจริงๆ เพราะมีงานที่ต้องมาปรึกษาอาจารย์วิทยา แต่ปกติเขาแค่โทรมาถามอาจารย์ว่าสะดวกหรือเปล้าแล้วก็ขับรถมาหา เขาลืมไปสนิทว่า ลูกสาวอีกคนของอาจารย์กลับมาอยู่เมืองไทย ปกติเขาเจอพลอยดาวก็มักเห็นเธอแต่งกายเรียบร้อยมิดชิด ต่อให้อยู่บ้านก็ยังเป็นชุดลำลอง แต่ไม่คิดว่า พราวมุกจะสวมเสื้อยืดไหล่ปาดอวดไหล่กลมมนกับกางเกงขาสั้นแบบนี้
คุณวิทยาแสร้งกระแอมไอเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น “มุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่สิลูก”
“ทำไมล่ะคะ อยู่บ้านตัวเองจะแต่งตัวยังไงก็ได้นี่”
“มุก...” พ่อปรามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม