Intro

2091 Words
‘เหงา’ คำคำนี้คงเป็นคำที่รีวิวชีวิตผู้ชายวัยสามสิบแปดแบบผมได้ดีที่สุด ผมชื่อ ภัทรพล หรือชื่อเล่นคือ พล ปีนี้อายุสามสิบแปด อีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสี่ แต่ชีวิตยังไร้ซึ่งคู่ครองจนแอบคิดเหมือนกันว่าน่าจะได้อยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต มือหนาของผมเขี่ยหน้าจอสมาร์ตโฟนของตนเอง ภาพที่ปรากฏต่อหน้าจอคือภาพของเพื่อนรักอย่างพนาที่ถ่ายคู่กับคนรักรุ่นลูก ในภาพทั้งคู่ดูมีความสุข รักกันหวานซึ้งจนคนโสดแบบผมแอบอิจฉาในใจ ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณปีหนึ่ง การอยู่เป็นโสดมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่าไร เพราะยังมีเพื่อนที่ก็ดูแล้วน่าจะได้โสดไปจนแก่ด้วยกันแบบไอ้พนาอยู่ด้วย แต่อยู่ดีๆ ไอ้คนที่เหมือนจะโสดไปด้วยกันก็ดันมาชิ่งมีแฟนไปซะก่อน เล่นเอาความเหงาซัดเข้ามาที่ผมแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแหละ แล้วพนากับบิ๊กแฟนมันก็สวีตกันชนิดที่ว่าผมอยากจะกลับไปมีแฟนอีกครั้งเลย ชีวิตผมเคยมีความรักแบบที่จริงจังทั้งหมดสองครั้ง ครั้งแรกเป็นผู้หญิงเราต้องเลิกกันไปเพราะเป็นความรักตอนมหา’ ลัย ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่เมืองนอก พอจบต้องกลับมาที่ประเทศไทย ก็ทำให้ระหว่างผมกับแฟนเก่าเกิดระยะห่างขึ้น สุดท้ายเราก็ไปกันไม่ได้ แล้วเลิกกันไปในที่สุด ส่วนคนที่สอง ซึ่งถือเป็นความรักครั้งล่าสุดของผม เขาเป็นผู้ชาย เราแยกย้ายกันไปเพราะรสนิยมของเราทั้งสองคนไม่ตรงกัน เราเคยมีเซ็กซ์กันแค่ภายนอกเพราะทั้งผมและเขาชอบเป็นฝ่ายรุกทั้งคู่ สำหรับผมมันไม่ใช่ปัญหา เพราะผมรักเขา แล้วคิดว่าการทำกันแค่ภายนอกมันก็เพียงพอ แต่เขาต้องการมากกว่านั้น เราเคยพยายามกันอยู่หลายครั้ง ผมยอมถึงขั้นลองที่จะเป็นฝ่ายรับให้ แต่ก็พบว่าไม่ได้ชอบแบบนั้นและเจ็บเกินกว่าจะทำต่อได้ จากนั้นคนรักเก่าของผมก็แก้ปัญหาด้วยการหาคนที่สามมาเป็นตัวเชื่อมระหว่างเราสองคน แต่สำหรับผม อยากทำแค่กับคนที่รัก สุดท้ายเราก็ต้องแยกย้ายกันไป ส่วนผมก็พักใจมาเกือบห้าปีแล้ว ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นคนปิดโอกาสเรื่องความรัก แต่การจะหาใครสักคนที่รู้สึกชอบมันก็ยากเหลือเกิน บวกกับตัวผมเองก็ไม่ใช่คนมีสังคมเยอะ หรือไปเจอใครบ่อย แม้แต่ไอ้อินสตาแกรมที่กำลังไถเล่นฆ่าเวลาอยู่นี่ก็ยังไม่มีรูปตัวเองเลยด้วยซ้ำ ส่วนแอ็กเคานต์ที่มีรูปตัวเองก็เอาไว้สำหรับทำงาน ซึ่งมันก็ดูเป็นทางการซะเหลือเกิน “คุณพลครับ” ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเหม่อๆ นนท์ รุ่นน้องในบริษัทก็เดินมาเรียกผมที่โต๊ะทำงาน “มีอะไรเหรอ แล้วนี่เลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับอีก” “นนท์กำลังจะกลับครับ พอดีนนท์กะจะว่าจะไปร้านบิ๊กต่อ แล้วบิ๊กบอกให้ชวนคุณพลด้วย” นนท์ชูโทรศัพท์ที่มีแชตไลน์ระหว่างตัวเองกับบิ๊ก แฟนของไอ้พนาเพื่อนสนิทผม และยังเคยเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทนี้ให้ดูอีกด้วย “เอาสิ คุณจะนั่งรถไปด้วยกันรึเปล่า” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวนนท์ไปรถนนท์” นนท์สรุปแล้วเดินกลับไปเก็บของที่โต๊ะ ส่วนผมก็เก็บของของตนเองบ้าง ผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการเดินทางมาที่บริษัทของไอ้พนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านบิ๊ก จริงๆ เราก็ไม่ได้อยู่ห่างกันมาก แต่เวลานี้รถค่อนข้างติด พอมาถึงร้านก็พบว่าไอ้เพื่อนรักของผมมันนั่งอยู่ก่อนแล้ว ปกติเคยคิดจะออกจากห้องทำงานที่ไหน แต่ตั้งแต่ทำร้านให้เมียที่หน้าบริษัทตัวเองนี่ห้องก็คงไม่จำเป็นแล้วมั้ง นี่แหละนะคนมีความรัก “ไง” “มาทำไม” นี่คือคำทักทายจากเพื่อนรักของผม “มาหาอะไรกิน” “ทำไมไม่ไปกินที่อื่น ต้องมาถึงนี่เพื่อมากินฝีมือเมียกู” “ฮ่าๆๆๆๆ” ผมได้ยินคำพูดของไอ้คุณพ่อลูกหนึ่งแล้วก็หลุดขำออกมา ไอ้นี่มันน่าจะหวงเมียเอาการ แล้วผมก็ดันชอบกวนประสาทมันด้วยสิ ผมน่ะไม่ได้คิดอะไรกับบิ๊กไปกว่าเอ็นดูในฐานะรุ่นน้องคนหนึ่งหรอก แต่พอเห็นไอ้พนามันขู่ฟ่อๆ แบบนี้แล้วก็ตลกจนอยากแกล้งต่อ “ขำอะไร เดี๋ยวเถอะนะมึง” “หวงจังนะ นี่เพื่อนไง” “มึงก็กวนจังนะ ไปหาเมียเป็นตัวเป็นตนได้แล้วไป จะได้เลิกมากวนตีนคนอื่น” “หาง่ายมากมั้ง” ผมนั่งลงข้างมันแล้วทิ้งตัวเองเอนไปกับเก้าอี้แบบหมดมาดลูกชายเจ้าของบริษัทระดับท็อป ตอนนี้ผมอยากเป็นแค่ไอ้พลคนเหงาแค่นั้น ไม่อยากจะต้องสวมมาดอะไรทั้งสิ้นแล้ว “ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นปะ” “แล้วมึงหามากี่ปีกว่าจะเจอบิ๊ก” ผมยิงคำถามกลับ พอผมพูดไปแบบนั้นพนามันก็พูดต่อไม่ถูก ไอ้ครั้นจะหาแค่ใครสักคนมาแก้เหงามันก็ไม่ได้ยากจริงๆ นั่นแหละ แต่อายุแบบผมถ้าจะมีใครสักคนมันก็ควรจะจริงจังได้แล้ว ซึ่งใครสักคนที่เราจะจริงจังด้วยนี่สิ หาโคตรยาก “ไปต่อไม่ถูกเลยกู” “ฮ่าๆๆๆ เอาจริงกูไม่คิดเรื่องคนรักแล้วแหละ สงสัยชาตินี้จะได้อยู่เป็นโสด” ผมบอกออกไปแบบชิลๆ ถึงจะยอมรับว่าเหงาและรู้สึกอยากมีคนรักจริงๆ แค่ไหน แต่ผมก็แอบปลงในใจแล้วแหละ บางทีผมอาจจะเกิดมาเพื่อโสดแล้วตายไปแบบเหงาๆ ก็ได้นะ “ดึงดราม่าเฉย มาๆ กินเค้กแก้เซ็งดีกว่า” เค้กที่พนามันน่าจะสั่งไว้ถูกยกมาเสิร์ฟ ผมนั่งมองไอ้เพื่อนที่ปกติไม่กินของหวาน แต่กำลังตักเค้กกินเพราะเป็นฝีมือเมียแล้วก็ได้แต่นึกแซวในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป โลกของคนมีความรักนี่มันสดใสดีเหลือเกิน ผมขลุกอยู่ที่ร้านบิ๊กจนกระทั่งปิดร้าน โดยมีพนาอยู่เป็นเพื่อน พอตกเย็นวาโยลูกของพนาก็เข้ามาช่วยงานบิ๊กด้วย ส่วนนนท์ที่เป็นคนชวนผมมาก็เอาแต่ตัวติดอยู่กับบิ๊ก สองคนนั้นน่าจะสนิทกันมากเพราะนนท์เคยเป็นพี่เลี้ยงให้บิ๊กตอนฝึกงาน จากมุมมองของผม บิ๊กกับนนท์ดูจะเป็นคนละขั้วกันเลย บิ๊กเป็นเด็กที่ตอนอยู่ที่ทำงานไม่ได้พูดมาก แต่ดูรู้ว่าแสบใช่เล่น ในขณะที่นนท์ดูเป็นคนเรียบร้อย พูดเพราะ ขยันทำงาน ผมไม่คิดว่าคนที่ดูเรียบร้อยมากๆ แบบนนท์จะเข้ากับบิ๊กได้ดีขนาดนี้ ดื้อตึง เสียงแจ้งเตือนจากอินสตาแกรมดังขึ้นระหว่างที่ผมกำลังจะสตาร์ตรถ มือหนาคว้าโทรศัพท์มาดู พบว่ามีข้อความเข้าจากบิ๊ก บิ๊ก : พี่พลเหงาเหรอออออออ บิ๊ก : ลองเล่นแอปฯ Close Friend ดูดิ บิ๊ก : แก้เหงา ผมอ่านข้อความของบิ๊กแล้วก็ได้แต่รู้สึกเอ็นดูในใจ เห็นไหมว่าแฟนของเพื่อนผมมันแสบใช่เล่น นี่พนามันคงจะไปบอกบิ๊กว่าผมเหงานั่นแหละ เจ้าตัวถึงได้มาแนะนำอะไรแบบนี้ให้ผม พล : จะฟ้องพนานะว่าเรารู้แอปฯ อะไรแบบนี้ บิ๊ก : อุ่ย ผมกลับมาถึงคอนโดฯ แล้วก็จัดการทำกิจวัตรของตนเองให้เสร็จ ชีวิตผมนอกจากไม่มีคนรักให้สดชื่นหัวใจแล้ว ผมยังสร้างความเหงาให้ตัวเองมากขึ้นด้วยการออกมาอยู่คอนโดฯ คนเดียว เพราะเหนื่อยที่จะต้องมีปากมีเสียงกับคนที่บ้าน ความสัมพันธ์ของผมกับครอบครัวไม่ได้ดีเท่าไร พ่อสนใจแต่บริษัท ส่วนแม่ก็สนใจแต่ออกงานสังคม ส่วนผม ก็เป็นลูกชายที่ไม่ค่อยจะได้รับความอบอุ่น สิ่งที่ท่านมีให้ผมก็มีแค่ความคาดหวัง ว่าผมจะเป็นแบบนั้น ต้องทำแบบนี้ เป็นชีวิตที่เหมือนจะน่าอิจฉา แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด ผมนั่งดูซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์จนถึงดึกแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินกลับขึ้นเตียง ระหว่างนั้นสมองก็ดันนึกถึงไอ้แอปฯ ชื่อไม่คุ้นที่บิ๊กบอกมา ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือแอปฯ อะไร แล้วมันจะแก้เหงาให้ผมได้ยังไง และด้วยความอยากรู้ ผมเลยกดโหลดมันตามคำแนะนำของบิ๊ก ใช้เวลาไม่นานแอปฯ ก็ทำการติดตั้งเสร็จ ผมอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแอปฯ จากที่เข้าใจมันก็เหมือนแอปฯ นัดเดตทั่วๆ ไป ซึ่งว่ากันตามตรงคือผมก็เคยเล่น แต่แค่รู้สึกไม่อิน ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าคนเราจะสามารถปัดๆ รูปแล้วเริ่มคุยกับใครง่ายๆ ได้ยังไง พอเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกลังเลที่จะเปิดเข้าใช้งานแอปฯ อยู่ไม่น้อย แต่พอคิดว่าเอาวะ ไหนๆ ช่วงนี้เบื่อๆ ลองดูก็ไม่เสียหาย ผมกดเข้าไปในตัวแอปฯ มีการให้ลงทะเบียนเหมือนแอปฯ ทั่วๆ ไป ผมเองก็จัดการลงทะเบียน ส่วนที่เป็นให้ใส่รูป ผมก็ตัดสินใจเอารูปตัวเองขึ้นแล้วครอปให้เห็นแค่คอลงมาถึงกล้ามแขนด้านซ้าย แอปฯ นี้ต่างจากแอปฯ หาคู่อื่นๆ ที่ผมเคยเห็นตรงที่มันสามารถใส่รูปที่ไม่เห็นหน้าก็ได้ แบบนี้ก็น่าคิดเหมือนกันนะว่าจะเกิดการหลอกลวงกันได้ พอสมัครเสร็จ ผมก็เริ่มเล่นตามคำแนะนำ มันไม่ต่างจากแอปฯ หาคู่อย่างที่ผมบอกจริงๆ มีให้ดูรูปแล้วก็ปัดๆ บางคนเป็นรูปเห็นหน้าบ้าง บางคนไม่เห็นบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้กดเลือกใครสักคน “เฮ้อ” ผมนั่งปัดๆ ไอ้เจ้าแอปฯ นี้มาเกือบชั่วโมง ก็พบว่าควรจะพอสักที แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะกดลบแอปฯ ผมดันปัดไปเจอแอ็กเคานต์หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Little Bunny และสิ่งที่สะดุดตาผมที่สุด คงจะเป็นรูปโปรไฟล์ของเจ้าตัว รอยสักรูปกระต่ายบนเอวบางที่ขาวนวลเนียนจนผมต้องหันไปมองเพศของเจ้าของแอ็กว่าใช่ผู้ชายจริงรึเปล่า หรือจะแต่งรูป ทำไมภาพมันสวยแบบเกินจริงขนาดนั้น ทั้งรอยสักและเอวบางเหมือนสะกดใจผมไว้จนไม่กล้าปัดไปทางไหน แล้วใจผมมันก็ดันไม่รู้จักพอ ดันรู้สึกอยากเห็นภาพนั้นใกล้มากขึ้น เลยพยายามจะซูมเข้าดู แต่ผมคงจะลืมไปว่ามันซูมไม่ได้ พอผมแตะหน้าจอรัวๆ มันก็กลายเป็นกดถูกใจอีกฝ่ายแทน “เวร” จากที่คิดว่าคงจะไม่กดถูกใจใคร แล้วจะกดลบๆ แอ็กเคานต์ทิ้งไปซะ แต่มือผมมันดันลั่นซะงั้น แล้วพอมือลั่นแล้วผมก็ไม่อยู่เฉยๆ กดเข้าดูโปรไฟล์ของอีกฝ่ายทันที คุณ Little Bunny ได้ดอกไม้ค่อนข้างเยอะ ดูแล้วน่าจะเป็นตัวท็อปไม่เบา ก็ไม่แปลกหรอก ขนาดผมยังเผลอมือลั่นเลย พอเลื่อนๆ ดูรูปของอีกฝ่าย ก็พบรูปเอวบางกับรอยสักรูปกระต่ายในอีกหลายมุม หลายท่า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ารูปพวกนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเคลิ้มอยู่ไม่น้อย ตื่อดึง แต่ที่น่าตกใจไปกว่าความมือลั่นของผม คือผมดันได้รับแจ้งเตือนจากแอปฯ มาว่าคุณ Little Bunny ก็กดถูกใจให้ผมเหมือนกัน และยังไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว ก็มีข้อความจากอีกฝ่ายเด้งขึ้นมา Little Bunny : สวัสดีครับ Mister P
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD