บทที่ 3

1171 Words
พอเช้าคนที่หายหน้าไปตลอดทั้งคืนก็กลับเข้ามาในสภาพที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ ริ้วแพรไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามว่าเขาหายไปไหนมาทั้งคืน สิ่งเดียวที่ทำได้คือนั่งสงบปากสงบคำบนรถที่กำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านของเธอเท่านั้น  ส่วนอีกคนก็ไม่คิดที่จะเอ่ยอะไรออกมา            “ของมีเยอะไหม ต้องให้ฉันเข้าไปช่วยขนรึเปล่า” คนที่เงียบมาตลอดการเดินทางเอ่ยขึ้น เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าบ้านที่ดูเงียบผิดปกติ            “ไม่เป็นไรค่ะ ของอิ๋วมีไม่มากเท่าไหร่ เดี๋ยวอิ๋วถือมาเองได้ค่ะ” อีกคนทำเพียงพยักหน้ารับก่อนริ้วแพรจะขอตัวลงมาจากรถเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ห้องนอนของตัวเอง แต่กระนั้นก็ยังไม่ลืมถามหาบิดากับสาวใช้คนสนิทไป            “คุณพ่อไปไหนเหรอคะพี่แตงกวา ทำไมบ้านดูเงียบแบบนี้คะ”            “คุณท่านออกไปธุระกับคุณผู้หญิงแต่เช้าแล้วค่ะ คุณอิ๋วไม่ได้บอกท่านเหรอคะว่าจะย้ายไปอยู่กับคุณเกื้อวันนี้” ริ้วแพวทำได้เพียงแต่ยิ้มรับโดยไม่ตอบอะไร เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนในบ้านไม่ให้ความสำคัญกับเธอ หญิงสาวคิดอย่างน้อยใจแต่จะให้ทำอย่างไรได้เมื่อเธอไม่อาจไปบังคับให้ใครมาสนใจได้ หากเขาคนนั้นไม่คิดสนใจ            หญิงสาวเพียงแต่เก็บของอย่างเงียบๆ โดยมีแตงกวาคอยช่วยอีกแรง กระทั่งเมื่อเรียบร้อยทั้งสองคนถึงได้ช่วยกันขนมาใส่ที่รถของเกื้อคุณที่จอดอยู่ด้านล่าง ส่วนตัวเขาก็นั่งทำหน้าเย็นชารอกันอยู่ในรถ            “อิ๋วไปก่อนนะคะพี่แตงกวา ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะคะว่าถึงแล้วอิ๋วจะโทรหา” ริ้วแพรเอ่ยลาแตงกวา พี่เลี้ยงคนสนิทที่เป็นเพียงคนเดียวที่ออกมาส่งเธอ ในขณะที่คนอื่นนั้นแทบไม่ได้ให้ความสำคัญเลย            “รักษาเนื้อรักษาตัวนะคะคุณอิ๋ว พี่คงคิดถึงคุณอิ๋วแน่ๆ เลยค่ะ” ริ้วแพรยิ้มรับก่อนจะโผเข้ากอดอีกฝ่ายที่เธอไม่เคยมองว่าเป็นสาวใช้เลยสักครั้งเพราะแตงกวาเป็นคนดูแลเธอมานับตั้งแต่แม่เธอจากไป คนๆ นี้จึงเปรียบเหมือนกับพี่สาวที่เธอรัก และเคารพคนหนึ่งก็ว่าได้…            “เฮ้อ…คุณอิ๋วนะคุณอิ๋ว ทำไมถึงได้อาภัพแบบนี้ก็ไม่รู้ มีพ่อพ่อก็ไม่สนใจ พอแต่งงานมีสามีก็ไม่ได้แต่งกันด้วยความรักอีก” แตงกวาเอ่ยไล่ตามหลังรถที่ค่อยๆ แล่นจนหายลับสายตาไปอย่างอดสงสารชะตากรรมของคุณหนูที่ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงได้ใจร้ายกับริ้วแพรนัก ทั้งๆที่คุณหนูของเธอไม่เคยไปคิดร้าย    หรือทำร้ายใครที่ไหนเลยสักครั้ง            ทำไมถึงได้เจอแต่คนแย่ๆ ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ก็ไม่รู้…            การเดินทางจากกรุงเทพถึงลำปางกินเวลายาวนานจนคนที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางไกลๆ เมื่อยขบ แต่กลับไม่กล้าที่จะปริปากบ่นเพราะไม่อยากสร้างความรำคาญให้สามีผู้ซึ่งเอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง จะมีบ้างที่เขาหันมาถามว่าอยากเข้าห้องน้ำไหม แต่นั่นก็นับครั้งได้ ส่วนใหญ่จะเป็นความเงียบมากกว่าที่ครอบงำมาตลอดทาง            “เมื่อยก็ปรับเบาะนอนไป! อีกหลายชั่วโมงกว่าเราจะถึง” สุดท้ายความอดทนของเกื้อคุณก็หมดลงเมื่อทนมองภาพคนข้างกายที่ขยับตัวไปมาอย่างน่ารำคาญ ใจจริงมารดากำชับให้เขาแวะพักโรงแรมถึงสามจุด แต่เพราะเป็นห่วงงานในไร่จึงไม่อาจทำตามที่ท่านต้องการได้            ทั้งสองคนใช้เวลาเดินทางครึ่งค่อนวันก่อนจะที่หมายในช่วงหัวค่ำเข้าพอดี คุณกันติมาและสามีตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นลูกชายเดินนำภรรยาตัวน้อยเข้ามาในบ้าน    ไม่คิดว่าทั้งคู่จะมาถึงกันเร็วขนาดนี้            “ทำไมถึงพากันมาถึงกันไวแบบนี้ล่ะตาเกื้อ!” สุดท้ายก็ทนต่อความสงสัยไม่ไหวเอ่ยถามพร้อมจ้องหน้าพ่อลูกชายตัวดีอย่างเอาเรื่อง            “ผมวิ่งตรงมาเลยครับ ไม่ได้แวะพักที่ไหน”            “ตายจริง! แม่บอกแล้วให้แวะพักก่อน ทำไมทำแบบนี้ หนูอิ๋วไม่เมื่อยแย่เหรอลูก” เป็นอีกครั้งที่คุณกันติมาแสดงท่าทีเป็นห่วงลูกสะใภ้อย่างออกนอกหน้า เกื้อคุณพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนทำทีจะเอ่ยตอบแต่ติดที่ใครอีกคนแย่งเอ่ยขึ้นเสียก่อน มันเลยทำให้เขาหมดสิทธิ์นั้น ปล่อยให้คนที่ต้องอธิบายให้มารดาเข้าใจเป็นของอีกคน            “ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ อิ๋วยังไหวค่ะ” ริ้วแพรรีบตอบเพราะไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้สองแม่ลูก   ต้องมามีปากเสียงกันเพราะตัวเอง            “ไปลูกขึ้นบ้าน เดี๋ยวแม่สั่งเด็กให้ทำข้าวเย็นให้ หนูอิ๋วชอบข้าวผัดปูใช่ไหมแม่จำได้” ริ้วแพรยิ้มรับในคำถามนั้น ไม่บ่อยนักที่จะมีใครสักคนแสดงท่าทีห่วงใยต่อเธอเช่นนี้ มันยิ่งทำให้หญิงสาวซาบซึ้งในความเมตตาจากแม่สามีที่มอบให้กันทุกทีที่พบหน้าจนทำให้เธอกล้าพูดได้อย่างมั่นใจว่านอกจากแม่ของเธอแล้ว   ยังมีท่านอีกคนที่เธอรัก            หญิงสาวเดินตามแรงจูงของแม่สามีมาจนถึงห้องๆ หนึ่งที่ท่านบอกเพียงสั้นๆ ว่าไม่ใช่ห้องนอนของเธอ แต่เป็นห้องที่อยากพามาอวด            “แม่อยากมีลูกสาวมานานแล้ว ก็เลยจัดห้องนี้เอาไว้เล่นๆ แม่ยกให้อิ๋วนะลูก เผื่อวันไหนเบื่อขี้หน้าลูกชายแม่จะได้หลบมานอนที่ห้องนี้” หญิงสาวฟังคำบอกเล่าพร้อมมองสำรวจห้องนอนสีชมพูน่ารักด้วยความตื่นเต้น เมื่อก่อนเธอก็เคยมีห้องนอนแบบนี้ แต่พอพี่สาวกับมารดาเลี้ยงเข้ามาอยู่ในบ้าน  ห้องนอนก็ถูกรสิกาแย่งไปครองในที่สุด            “น่ารักจังเลยค่ะคุณแม่” คุณกันติมาจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข นางเคยฝันว่าสักวันจะได้แชร์ความสุขเล็กๆ ให้ใครสักคนได้เห็น ยิ่งเป็นริ้วแพรแล้วยังมีความสุขมากขึ้นเพราะรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้นับตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก มาตอนนี้เหมือนได้ทั้งลูกสาวและลูกสะใภ้ในคราเดียวกัน ที่เหลือก็หวังเพียงว่าเจ้าลูกชายตัวดีจะมองเห็นสิ่งที่นางได้เห็นในตัวของเด็กคนนี้เข้าสักวัน นั่นคือสิ่งที่นางและสามีต้องทำให้ได้      ทำอย่างไรก็ได้ให้เด็กทั้งสองคนนี้รักกันจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD