บทที่10 ภารกิจใหม่ต่อเนื่อง2

1232 Words
นางใช้สองแต้มสำหรับเติมยาให้เต็ม เพราะมีแผลอยู่สองส่วนดังนั้นจึงต้องทำงานแยกกัน แผลที่ท้องดูเหมือนจะกว้างแต่ไม่ลึก ดังนั้นนางจึงทำหันไปทำแผลที่คอของม้าน้อยก่อน อาชาเหมันต์คล้ายรู้ตัวว่ามีคนขยับเข้าใกล้หัวมัน มันผงกหัวขึ้นเล็กน้อย นั่นทำให้เลือดไหลออกมาจากแผลมากขึ้น มันจึงยอมแพ้และยอมนอนลงอย่างสงบ “ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้า ข้าจะช่วยทำแผลให้ เจ้าก็อย่าทำร้ายข้านะ” เฟิงลี่ยื่นมือเข้าหาคออาชาเหมันต์อย่างกล้าๆกลัวๆ ม้าน้อยเหวี่ยงหัวเล็กน้อย แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน มันจึงวางหัวลงอย่างหมดสิ้นอำนาจ ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยอีกแล้ว “อยู่ๆนิ่งๆ นิ่งๆก่อน ข้าจะช่วยทำแผลให้นะ” เฟิงลี่พูด พร้อมกับยื่นมือไปลูบคอของม้าน้อยได้โดยที่มันไม่ขัดขืนเสียที อาชาเหมันต์มองผ่านม่านขนตายาวๆของมัน และจับจ้องอยู่แต่ร่างน้อยของเฟิงลี่ แต่นางไม่ได้สนใจและขยับมือทำแผลให้มันอย่างรวดเร็ว กระทั่งใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดรอบแผลและพันผ้าไว้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบลงมือกับแผลที่ท้องอย่างรวดเร็วไม่ต่างกัน แผลที่ท้องต้องเย็บแผลมากกว่าที่คอทำให้เสียเวลาอยู่บ้าง แต่ก็สามารถเสร็จได้ในเวลาไม่นาน ทันทีที่แผลที่ท้องถูกโปะด้วยผ้าพันแผล ม้าน้อยก็ขยับตัวลุกขึ้นในท่านอนหมอบ ไม่ได้นอนหายใจรวยรินอีกแล้ว เฟิงลี่ผงะถอยหลังไปหลายก้าว รีบเก็บกล่องปฐมพยาบาลไว้ในช่องเก็บของทันที พอดีกับที่ซ่งเฟิงกลับมาถึงพร้อมถังน้ำ เฟิงลี่จึงดึงตัวเขาไว้ไม่ให้เข้าใกล้อาชาเหมันต์มากกว่านี้ “พี่ใหญ่ช้าก่อน ม้าตัวนี้เป็นม้าป่า มันดีขึ้นมากแล้ว หากมันทำร้ายเราก็เป็นเรื่องง่ายมาก” เฟิงลี่รีบชี้ให้พี่ชายเห็น ดวงตาที่ไร้ความวางใจของม้าน้อย ดูพยศอยู่หลายส่วน และคล้ายกำลังส่งสัญญาณเตือนไม่ให้มนุษย์น้อยทั้งสองเข้าใกล้มัน “มันดีขึ้นมากแล้ว! เสี่ยวลี่ ถึงมันจะยังไม่ไว้ใจพวกเรา แต่เราก็วางถังน้ำไว้ให้มันกินดีหรือไม่?” ซ่งเฟิงเสนอ “เป็นความคิดที่ดี” เฟิงลี่จำได้ว่าคุณสมบัติหนึ่งของน้ำวิเศษคือทำให้สัตว์เชื่อง ดังนั้นนางจึงให้ซ่งเฟิงวางถังน้ำไว้ ก่อนที่ตนเองจะนำน้ำวิเศษออกมาจากช่องเก็บของและหยดลงไปเพิ่มหลายหยด เด็กทั้งสองเดินกลับบ้านโดยไม่ได้หันกลับมามอง ทำให้พวกเขาไม่เห็นว่าอาชาเหมันต์กำลังขยับเข้าไปใกล้ถังน้ำ และดื่มกินอย่างกระหาย เพราะในสายตาของอาชาเหมันต์ มันสามารถเห็นพลังวิญญาณที่ออกมาจากน้ำในถังได้อย่างดี และนั่นเป็นเหตุผลที่มันไม่ระแวงเด็กทั้งสอง เพราะมันสามารถดูดซับพลังวิญญาณเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น และเด็กทั้งสองมีพลังวิญญาณในร่างที่หนาแน่นมาก เฟิงลี่ไม่ได้รู้เลยว่า น้ำวิเศษของตนเองมีส่วนผสมของพลังวิญญาณที่หนาแน่นทำให้มันเป็นน้ำวิเศษ เมื่อทั้งสองกลับเข้าบ้าน มารดาก็ไล่ให้ซ่งเฟิงไปอาบน้ำ ส่วนเฟิงลี่ก็ช่วยนางจัดเตรียมมื้อเย็นออกมา และกลางดึกคืนนั้น เสียงระบบก็ดังขึ้น [ภารกิจ สำเร็จ] เฟิงลี่ที่นอนไปแล้วไม่ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อดู แต่เสียงระบบก็ดังอีกสองสามอย่างก่อนจะเงียบไป และนางก็หลับลึกไปทันที วันนี้เป็นเช้าที่สดใสเหมือนเดิม อากาศไม่หนาวเย็นเหมือนช่วงต้นเดือนสองแล้ว แม้เพิ่งผ่านมาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น เฟิงลี่ตื่นขึ้นมาพร้อมหน้าตาตื่น เพราะตอนนี้มีหน้าจอเด้งอยู่เต็มเบื้องหน้านาง จนบังภาพตรงหน้าไปหมดเลย ทั้งหน้าจอสำเร็จภารกิจ ทั้งหน้าจอแจ้งเตือนอีกสองสามอย่าง วันนี้เด็กสาวจึงนอนงงๆและไม่ได้ลุกออกจากที่นอนทันทีเหมือนทุกวัน แต่กำลังอ่านข้อความที่แจ้งขึ้นมาก่อน ‘เสี่ยวเฉิน ทำไมถึงมีการแจ้งเตือนอะไรมากมายล่ะ’ [เพราะกระผมตื่นเต้นที่โฮสต์จะได้รับแต้มบุญสะสมครบ50 นั่นจะทำให้ปลดล็อกระบบมากมายขอรับ โฮสต์สามารถค่อยๆดูได้ว่าจะปลดล็อกอะไรบ้าง ก่อนอื่นกระผมแนะนำโฮสต์กดรับรางวัลภารกิจก่อนขอรับ] เฟิงลี่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบเปิดภารกิจขึ้นมากดรับรางวัลทันที นางได้รับคูปองสำหรับหมุนวงล้อโชคลาภมาสองอัน แต่ก่อนอื่นนางเข้าไปในร้านค้าและเครื่องมือเพื่อดูว่ามีอะไรปลดล็อกบ้าง ในหน้าร้านค้าที่เคยมีแค่น้ำวิเศษขาย ตอนนี้มีปลดล็อกหมวดหมู่อาวุธเพิ่มขึ้นมา ‘อาวุธ? อาวุธอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าจะมีปืนมาให้ใช้ในโลกนี้น่ะ’ เฟิงลี่เบิกตาโตรีบมองของสองอย่างที่เพิ่มเข้ามา -ยันต์ป้องกันตัว เมื่อใช้งานจะป้องกันการโจมตีได้หนึ่งกระบวนท่า หรือจนกว่าบาเรียป้องกันจะหมดผล หากเป็นการโจมตีในระดับที่ต่ำกว่าระดับการป้องกันของยันต์ -ยันต์ระเบิดระดับF เมื่อใช้งานจะจุดระเบิดต่อเป้าหมาย มีการตามติดระดับFอยู่ในยันต์ทำให้เจาะจงเป้าหมายได้แต่ก็มีโอกาสพลาด แรงระเบิดระดับระเบิดขวด ในส่วนของยันต์ป้องกันตัวมีราคาแค่1แต้ม แต่ยันต์ระเบิดมีราคา10แต้ม!! แต่อย่างน้อยระบบก็ไม่ได้ขายอะไรจากเทคโนโลยีของโลกเก่า นี่ทำให้เฟิงลี่วางใจไปบ้าง จากนั้นนางก็เข้าไปดูในหน้าเครื่องมือ ซึ่งมีแค่แผนที่ที่นางซื้อมาแล้วเพราะแต้มบุญช่างหายากเย็นเหลือเกิน ตอนนี้มีของเพิ่มเข้ามาอีกสองอย่าง หนึ่งคือนาฬิกาหยุดเวลา ราคา500แต้ม ใช้ได้แค่วันละครั้งไม่มีสะสม และอีกอย่างคือ ตำราการฝึกยุทธ์ขั้นพื้นฐานระดับF ราคา100แต้ม สามารถอัพเกรดได้ ถ้าถึงระดับD จะสามารถถ่ายทอดสู่ผู้อื่นได้ ความจริงตำราที่มีระดับติดมา หากนางอัพเกรดถึงระดับD จะสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้ทั้งหมด นี่เป็นข้อจำกัดที่เฟิงลี่ได้รู้ แต่ถ้าเป็นตำราที่ไม่มีระดับติดมา นางสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นรู้ได้เลย อย่างตำรากายวิภาคมนุษย์ที่มีขายในร้านเครื่องมือ เพียงแต่มันมีราคาแพงกว่าตำราระดับF มาก การอัพเกรดจะต้องใช้แต้ม*2เพื่อขึ้นเป็นระดับต่อไป จากราคาเริ่มแรก ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อดูของในร้านค้าแล้วเฟิงลี่ได้แต่ปลง เพราะตอนนี้นางมีแต้มอยู่แค่40แต้ม ช่างน่าเวทนาเสียจริง ไม่ได้กระทั่งครึ่งหนึ่งของราคาเครื่องมือที่ถูกที่สุดด้วยซ้ำ แต่ก่อนที่เฟิงลี่จะได้ทำอะไรต่อ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น พร้อมกับหน้าจอที่สั่นไปมาและเปล่งแสงสีแดง ‘เสี่ยวเฉินเกิดอะไรขึ้น’ เฟิงลี่ผุดลุกขึ้นมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD