ตอนที่ 3 สูญเสีย

2021 Words
ชรันในตอนนี้อยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น หัวคิ้วเข้มชนเข้าหากันราวกับมีเรื่องเครียด ปากก็ขยับพร่ำเพ้อฟังไม่ได้ศัพท์จนวรดาเห็นแล้วส่ายหน้าอย่างเหนื่อยๆ คนที่พยายามลืมตาขึ้นมองเธอในเวลานี้ยังคงพร่ำเพ้อไม่หยุด แต่ในจังหวะที่เธอหมุนกายเตรียมจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อเช็ดตัวให้เขา ชื่อของใครคนหนึ่งก็หลุดออกจากปากของเขา “พี่รันว่าไงคะ?” ด้วยความอยากรู้ วรดาลองขยับเข้าไปฟังใกล้ๆ อีกนิด “อัญ…” “อัญอย่าทิ้งผมไป อย่าทิ้งผม ผมรักคุณ” แม้ประโยคบอกรักเบาแสนเบา แต่ก็ทำให้วรดาถึงกับยืนแข็งทื่อราวกับถูกสาป ‘อัญ’ คือใคร หล่อนเป็นใครแล้วทำไมชรันต้องบอกว่ารักหล่อนด้วย “พี่รันคะ นี่น้องดาเองค่ะ” วรดาพยายามกดกลั้นอาการสะอื้นไว้ ยามที่โน้มกระซิบข้างริมหู แต่คนเมาซึ่งไม่ได้สติหาได้สนใจไม่ ยังคงเพ้อหาแต่คนที่ชื่อ ‘อัญ’ เมื่อยังได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้น และคำว่ารักหลุดออกจากปากของชรันไม่หยุดหย่อน วรดารีบยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาปิดใบหู ‘อัญ’เธอไม่สามารถยืนฟังชื่อผู้หญิงคนนั้นได้อีกต่อไป หมายจะพาตัวเองออกไปจากห้อง หากแต่ข้อมือของเธอถูกคนนอนละเมอคว้ามากกกอดไว้ จนเธอไม่สามารถสลัดทิ้งออกได้เลย ชรันปรือตามองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน และรอยยิ้มละมุนแบบนี้ จำได้ว่าเห็นครั้งสุดท้ายบนเรือยอชท์ตอนเขาขอเธอแต่งงานเมื่อหนึ่งเดือนก่อน “ผมรักอัญอย่าทิ้งผมไปไหนอีกนะครับ” ชรันยกมือไล้แก้มเธออย่างแผ่วเบา ทุกคำพูด ทุกการกระทำ อ่อนโยนจนนึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้น วรดาหลับตาลงช้าๆ รับจุมพิตที่แสนนุ่มนวลจากเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงหน้าด้านคิดว่าทำแบบนี้แล้วเขาอาจจะรักเธอบ้างก็ได้ จึงยอมให้เขาเคลื่อนไหวตามใจปรารถนา ในขณะที่ชรันไล่จูบเธอก็ครางชื่อผู้หญิงคนนั้นด้วย วรดาหลับตาทั้งน้ำตา สองมือกำเข้าหากันแน่น แต่สักพักเมื่ออารมณ์ก่อเกิดแรงปรารถนาจากการสัมผัสชวนวาบหวาม จึงปล่อยตัวปล่อยใจไปพร้อมกับชรัน… กระทั่งเมื่อบทรักเร่าร้อนดั่งคลื่นพายุสงบลง ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนข้างเธอแล้วหลับไป ส่วนเธอก็ตะแคงนอนหันหลังให้เขาพร้อมปล่อยน้ำตาแห่งความอดสูไหลออกมาเบาๆ เช้าวันต่อมา… ชรันวาดฝ่ามือราวกับจะควานหาอะไรบางอย่างทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ดวงตาภายใต้เปลือกตาบางค่อยๆ ปรือมองข้างๆ ตอนนี้มีเพียงเขานอนอยู่บนเตียงคนเดียว แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใครบางคนยังติดอยู่บนปลายจมูก ชายหนุ่มหยัดกายขึ้นนั่ง ก่อนจะยกมือมากุมขมับแล้วคลึงเบาๆ เมื่อคืนเขาดื่มหนัก และเมามาก แต่เขาก็ยังพอมีสติโทรหาลุงอ่ำมารับที่บาร์ จากนั้นเขาจำได้รางๆ ว่าลุงอ่ำพาเขากลับบ้าน แล้วจากนั้นล่ะ? ชรันครางในคอ แต่แล้วสายตาพลันเหลือบไปเห็นคราบสีน้ำตาลแห้งเป็นวงกว้างบนผ้าปูสีเทา ใช่เมื่อคืนเขาฝัน… เขาฝันว่าร่วมรักกับอัญญาณี กลิ่นกายความหอมหวานยังคงหลงเหลือ… แต่กลิ่นกายหอมละมุนนี้ไม่ใช่ของอัญญาณี! ชรันเปิดผ้าห่มออก หลุบตามองตัวเองตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นพันกาย เสื้อผ้าที่เขามองหาอยู่ในตะกร้าเรียบร้อยแล้ว สายตาย้ายมาหยุดอยู่ที่คราบสีน้ำตาลบนผ้าปูอีกครั้ง สองมือแกร่งกำเข้ากันแน่น ก่อนจะทุบลงบนที่นอนแรงหนักเมื่อคิดว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป เขาพลาดท่าให้วรดาจนได้! เวลาต่อมา ชรันในชุดสูทเรียบกริบทอดกายลงมายังชั้นล่าง แล้วตรงเข้าไปในห้องอาหาร ซึ่งตอนนี้วรดากำลังนั่งกินข้าว ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอรีบก้มหน้าก้มตา ชรันไหวหน้าพลางหัวเราะหึ ไม่ได้สนใจคนแก้มแดง แต่เดินมาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนรับถ้วยข้าวต้มจากแม่บ้านมากิน ทว่าเขากินอาหารไม่ค่อยลงเท่าไร เมื่อคิดว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป ยิ่งตอนนี้เห็นวรดามีท่าทีเขินอาย เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด ชายหนุ่มรวบช้อนลงข้างชามข้าวต้ม แล้วก็ลุกขึ้นเดินกระแทกเท้าออกจากห้องอาหาร การกระทำเหมือนชังขี้หน้าที่เขาแสดงออก สร้างความเจ็บลึกให้คนมองตามอย่างวรดาเป็นที่สุด ทว่าอีกใจหนึ่งก็โล่งเป็นเปราะเมื่อคิดว่าไม่ต้องมานั่งจ้องหน้ากัน เมื่อกี้เกือบจะหลุดปากถามออกไปแล้วว่าคนที่ชื่อ ‘อัญ’ นี่เป็นใคร แต่ก็ยั้งความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ได้ เสียงรถสปอร์ตดังแล่นออกจากโรงรถแล้ว วรดาก็วางช้อนลงข้างชาม จากนั้นพาตัวเองกลับขึ้นไปยังชั้นสอง เธอไม่ได้เข้าห้องนอน แต่ตรงดิ่งไปทางห้องทำงานของชรัน ด้วยหวังว่าอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้เกี่ยวกับคนที่ชื่อ ‘อัญ’ ทว่าไม่พบอะไรเลย นอกจากกรอบรูปที่มีชรันถ่ายคนเดียว และรูปถ่ายครอบครัวเท่านั้น เมื่อไม่เจออะไร วรดาในเสื้อยืดกางเกงขาสั้นจึงออกจากห้องทำงานของสามี เธอกลับมาที่ห้องของตัวเอง พร้อมกับกดโทรหาบิดา ซึ่งก็เหมือนเคย โทรไปกี่ครั้งก็มีเพียงเสียงพูดว่า ‘เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้…’ วรดายิ่งร้อนรุ่มในอก ตั้งแต่จำความได้บิดาไม่เคยปิดเครื่อง สมัยที่เธอเรียนที่อิตาลีต่อให้จะดึกแค่ไหนแค่ยกหู โทรศัพท์เธอก็ติดต่อบิดาได้ทันที แล้วทำไมตอนนี้บิดาหายไปไหน ติดต่อท่านไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แล้วพอกดเข้าเบอร์บ้านก็ไม่มีใครรับสายอีกเช่นกัน วรดาไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป หญิงสาวตัดสินใจกลับบ้านด้วยตัวเอง พอกลับมาถึงบ้านแล้ว วรดาไม่ได้เข้าไปในห้องโถง หากแต่เธอตรงขึ้นไปยังห้องทำงานของบิดาแทน แล้วภาพที่เธอเห็น ทำเอาเธอกรีดร้อง แทบช็อก! “คุณพ่อ!” วรดารีบถลาเข้าไปหาบิดาซึ่งนอนจมกองเลือด มือข้างขวาของท่านกำปืนแน่นหนักไม่ยอมคลาย “คุณพ่อขา คุณพ่อตื่นขึ้นมาสิ อย่าทิ้งน้องดาไปแบบนี้ ฮือ ฮือ ฮือ…” วรดากอดร่างที่ไร้วิญญาณ ซึ่งเปียกโชกไปด้วยเลือด สะอื้นไห้สั่นคลอน “คุณพ่อ… ฮือ คุณพ่อขา” เธอยังคงร่ำไห้คร่ำครวญกอดร่างไร้วิญญาณของบิดาไว้ พอดีกับที่สีนวลเพิ่งกลับมาจากตลาด พอได้ยินเสียงร้องไห้ของเจ้านายสาว หล่อนรีบวิ่งขึ้นมาดู แต่เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า หญิงวัยกลางคนผวาวิ่งเข้ามากอดผู้เป็นนายไว้ “คุณหนู!” คุณเดชยิงตัวตายอย่างนั้นหรือ เกิดอะไรขึ้น ทำไมประมุขของบ้านถึงฆ่าตัวตาย “ป้านวล… คุณพ่อไม่อยู่กับน้องดาแล้ว… ฮึก” ….. โพตา เบเวอเรจ กรุ๊ป… ชรันนั่งถอนหายใจครั้งแล้ว ครั้งเล่า ตอนนี้ในหัวยังนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ทั้งที่บอกกับตัวเองตลอดว่าจะไม่ยุ่งกับวรดา แต่เมื่อคืนเมาขาดสติเผลอแตะต้องเธอจนได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! เสียงเคาะประตูจากด้านนอกนำชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ “มีอะไร?” “คุณรันครับ มีการเคลื่อนไหวของคุณเดชเมื่อวานก่อนที่ภูเก็ตครับ” “ภูเก็ตเหรอ?” “ครับคุณรัน ในช่วงเวลาเก้าโมงครับ” หัวคิ้วเข้มยิ่งขยับเข้าหากันวุ่น นั่นมันเวลาที่วรดาออกไปเดินเล่น และเขาจำได้ว่าตอนที่ออกไปตามหาหล่อน เห็นหล่อนยืนคุยกับใครคนหนึ่ง แต่พอเขาถาม หล่อนไม่ตอบแต่ทำท่าคล้ายมองหาใครบางคน “มีการใช้จ่ายกี่ครั้ง?” “สามครั้งครับคุณรัน” “อือ นายออกไปเถอะ” ชรันโบกมือให้คชาออกไป เขาอยากนั่งทบทวนอะไรบางอย่างเงียบๆ คนเดียว แต่พอคชาออกไปไม่กี่อึดใจ ก็มีใครอีกคนเข้ามาต่อ เขาคือนพพล เพื่อนสนิทของบิดา และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกคนของโพตา เบฟฯ “สวัสดีครับคุณลุง” ชรันไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างเคารพ อีกฝ่ายรับไหว้พร้อมกับยิ้มหน้าชื่นอย่างที่ชรันเคยเห็นบ่อยๆ “คุณลุงมีอะไรหรือเปล่าครับ?” ชรันเปิดประเด็นก่อน เขาคิดว่าถ้าไม่มีธุระอีกฝ่ายก็คงไม่มาถึงที่ นอกจากมีเรื่องจริง ๆ เขาถึงต้องมา “ลุงจะมาคุยเรื่องเงิน ตกลงจับไอ้หัวขโมยได้หรือยัง?” “ยังครับ” ชรันนึกขัดเคืองนิดๆ กับคำว่าหัวขโมย หากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร “ลุงเสียใจด้วยไม่คิดว่าคนซื่อๆ อย่างคุณเดชจะกล้าทรยศพวกเรา เห็นอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยคุณสมภพแล้ว คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ” “ครับ” ชรันยังคงไม่ออกความคิดเห็นใดๆ นอกจากพยักหน้า “หุ้นที่มันถืออยู่ คงได้มาจากการปอกลอกพ่อของหลาน ตอนนี้มันก็คงจะโอนให้ลูกสาวของมันไปแล้ว ลุงว่าหลานควรจะให้นังเด็กนั่นโอนกลับมาให้หลานจะดีกว่า” ชรันยังคงฟังนพพลพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ เรื่องที่คุณเดชเป็นคนสนิทของบิดา ไม่ใช่เขาไม่รู้ เนื่องจากคุณเดชทำงานกับบิดาของเขาตั้งแต่เขายังไม่เกิดด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่บิดาเซ็นยกหุ้นให้อีกฝ่าย จะด้วยเหตุผลอันใดเขาไม่เคยถาม แต่การที่บิดาเซ็นยกหุ้นให้ลูกน้องคนสนิทที่ทำงานซื่อสัตย์ กอรปกับพัฒนา โพตา เบฟฯ ร่วมกันมายาวนานเกินยี่สิบสามสิบปี เขาเชื่อว่าท่านคงตัดสินใจดีแล้ว “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับคุณลุง” ใช่แล้ว ‘คนเรา’ รู้หน้าไม่รู้ใจ ครืด!ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นในขณะที่นั่งคุยกัน ดึงชรันละใบหน้าจากชายวัยกลางคน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์จากบ้านคุณย่า ชรันเผลอเลิกคิ้วโดยไม่ตั้งใจ เพราะท่านไม่ค่อยโทรหาเขาในเวลางาน นอกเสียจากเกิดเหตุฉุกเฉิน “ว่าไงครับคุณย่า” “ตารันรู้เรื่องที่คุณเดชฆ่าตัวตายหรือยัง ตอนนี้หนูดาอยู่ที่สถาบันนิติเวช ถ้าหลานว่างหลานไปหาน้องได้ไหม แม่บ้านโทรมาบอกว่าร้องไห้จนเป็นลมหลายรอบแล้ว” “ครับคุณย่าเดี๋ยวผมจะไปครับ คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” “มีอะไรหรือเปล่า?” นพพลซึ่งนั่งอยู่ด้วย จึงเอ่ยถามภายหลังจากชรันวางสาย “คุณเดชตายแล้วครับ” บอกแค่นั้นชรันก็ลุกออกไป ทั้งที่เห็นว่านพพลเตรียมจะถามอะไรบางอย่างกับเขา แต่เขาไม่มีเวลามานั่งฟัง ….. สถาบันนิติเวช… ภาพวรดายืนกอดแม่บ้านวัยกลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ชวนชรันที่เพิ่งมาถึงสถาบันนิติเวชถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอ ทันทีที่หญิงสาวหันมาเห็นเขา ก็รีบโผเข้ามากอดเขายิ่งสะอื้นไห้หนัก ชรันก้มลงมองคนที่ร้องไห้ไม่หยุดรู้สึกสงสารเหมือนกัน ที่ผ่านมาวรดามีเพียงบิดาที่เป็นที่พึ่ง แต่ตอนนี้คุณเดชจากไปแล้ว “พี่รัน คุณพ่อทิ้งน้องดา…” เธอยังคงพึมพำสะอื้นไห้ในอ้อมอกของเขา ซึ่งชรันเป็นพวกปลอบคนไม่เก่ง เลยทำได้แค่ยืนให้เธอกอดปลดปล่อยความเสียใจผ่านน้ำตาเท่านั้น ************ สงสารยัยน้อนอ่ะ พี่รันอย่าใจร้ายกับน้องนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD