ตอนที่ 5/1 คนนอกสายตา

1146 Words
วันนี้วรดาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะมีเรื่องกลุ้มใจ แต่ก็ยังช้ากว่าใครบางคนที่ตอนนี้ออกไปทำงานแล้ว ทิ้งให้เธอนั่งกินข้าวคนเดียวเหมือนทุกเช้า เธอลงมือกินข้าวต้มที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ไม่กี่คำก็รวบช้อน แล้วพาตัวเองออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้านอย่างที่ตั้งใจไว้เมื่อคืน ซึ่งเมื่อกลับมาถึงเธอก็เห็นแม่บ้านกำลังยกกระเป๋าออกมาวางหน้าประตูคล้ายจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว เลยรีบเข้าไปหาด้วยความกังวลใจ “ป้านวลจะไปไหนคะ?” “ป้าจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ที่นี่ไม่มีใครแล้วป้าไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม” ป้านวลเป็นสาวโสด อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอตั้งแต่ยังสาว จนถึงตอนนี้อายุของท่านก็จะเข้าเลขหกแล้ว ถ้าท่านย้ายไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดจะไปทำอะไร อีกอย่างไม่มีลูกหลาน จะมีใครดูแลไหม คิดแล้ววรดารีบไปคว้ากระเป๋าของท่านมาถือไว้ “แม้ที่นี่ไม่มีคุณพ่ออยู่แล้ว แต่ป้านวลก็อยู่ดูแลบ้านต่อได้นี่คะ จะย้ายไปอยู่ที่อื่นทำไม ไม่แน่อีกหน่อยดาอาจจะกลับมาอยู่กับป้านวลก็ได้ ใครจะไปรู้” “คุณหนูพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ?” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของป้านวลที่เอ่ยถามเธอเหมือนไม่ค่อยสบายใจ วรดารู้ว่าท่านเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่อยากปิดบังท่าน “ไม่แน่ดากับพี่รันอาจจะหย่ากันเร็วๆ นี้ค่ะ” “ไม่ได้นะคุณหนู คุณหนูจะหย่ากับคุณชรันไม่ได้นะคะ คุณท่านทำทุกอย่างเพื่อให้คุณหนูได้แต่งงานกับคุณชรัน คุณท่านอยากเห็นคุณหนูมีความสุขกับคนที่คุณหนูรัก อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิคะ” วรดาได้แต่แค่นยิ้มกับประโยคของป้านวล ใช่แล้วบิดาทำทุกอย่างเพื่อให้เธอสมหวังในความรัก เพราะท่านรู้ว่าเธอแอบรักชรันมาโดยตลอด ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านไปคุยอะไรกับชรัน ชายหนุ่มถึงยอมตกลงแต่งงานกับเธอง่ายๆ “ดาจะพยายามค่ะป้านวล” วรดาพยักหน้าเมื่อเห็นสีหน้าของแม่บ้านวัยกลางมีความกังวลเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ “ป้านวลไม่ต้องไปไหนนะคะ อยู่ที่นี่แหละค่ะ” “ป้าคงอยู่ไม่ได้ค่ะคุณหนู บ้านหลังนี้ถูกธนาคารยึดไปแล้วค่ะ ป้าอยากจะออกก่อนที่เจ้าของคนใหม่ย้ายเข้ามาอยู่ค่ะ” “ป้านวลพูดจริงเหรอคะ?” พ่อมีปัญหาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ แสดงว่าเรื่องเงินนั่นชรันพูดจริงใช่ไหม “จริงค่ะคุณหนู” “แล้วป้าพอจะรู้ไหมคะว่าคุณพ่อมีปัญหาอะไร ถึงขั้นต้องเอาบ้านไปจำนอง” “เรื่องนี้ป้าไม่ทราบจริงๆ ค่ะคุณหนู” “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ “งั้นเอาแบบนี้ป้านวลย้ายไปอยู่กับดาที่บ้านของพี่รันนะคะ ดาจะจ้างป้านวลเอง” เธอยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แม้ไม่มากแต่ก็พอจ่ายเงินเดือนให้ป้านวลได้อยู่ “ไม่ต้องจ้างป้าหรอกค่ะ ป้าเต็มใจดูแลคุณหนูอยู่แล้ว แต่ป้ากลัวว่าคุณชรันจะไม่ยอม” “เขาไม่ว่าหรอกค่ะ เดี๋ยวดาจะขออนุญาตคุณย่าเอง ไปอยู่กับดานะคะป้านวล” วรดาบีบฝ่ามือยับย่นของคนที่เลี้ยงเธอมาแต่อ้อนแต่ออกเบาๆ เมื่อเห็นท่านพยักหน้าเธอถึงกับระบายยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามอีกเรื่องที่ค้างคาใจ “ป้านวล สองวันก่อนที่คุณพ่อจะเสีย คุณพ่ออยู่บ้านหรือเปล่าคะ?” “คุณหนูถามทำไมเหรอคะ?” หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วมุ่น วันนั้นหล่อนจำได้ว่าคุณเดชไม่อยู่บ้านหนึ่งหรือสองวันมั้ง พอกลับมาถึงดูสีหน้าของเขาเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ หล่อนไม่กล้าถามว่าเครียดเรื่องอะไร จึงปล่อยให้เขาขึ้นไปพัก ตอนเย็นคุณเดชยังลงมาทานมื้อเย็นตามปกติ แต่รุ่งเช้าวันต่อมาเขาไม่ได้ลงมา ส่วนหล่อนก็มัวยุ่งอยู่กับการไปจ่ายตลาดเพื่อเตรียมมื้อเช้าให้เขา เลยไม่ได้สนใจ กระทั่งได้ยินเสียงกรีดร้องของวรดาหลังกลับจากตลาด จึงขึ้นมาดูปรากฏว่าคุณเดชนอนจมกองเลือด เสียชีวิตแล้ว “คุณท่านหายไปสองวันค่ะ กลับมาอีกทีก็ค่ำแล้ว พอรุ่งเช้าก็อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ” แสดงว่าบิดาอาจจะถอนเงินออกไปจริงๆ แล้วคุณพ่อเอาเงินไปทำอะไรล่ะ แล้วตอนนี้เงินนั่นอยู่ที่ไหน ที่สำคัญคือท่านไปทำอะไรที่ภูเก็ตล่ะ ถ้าท่านไปภูเก็ตจริงทำไมท่านถึงไม่มาหาเธอที่โรงแรม วรดาพาตัวเองขึ้นมายังชั้นบนบ้าน เดินสำรวจบ้านด้วยความใจหาย เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ทำเอาเธอทำใจไม่ได้ หากบ้านหลังนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น เธอไม่อยากเสียบ้านหลังนี้ให้ใคร เธอควรจะทำยังไงดี ขอความช่วยเหลือจากชรันดีไหม เธอคิดก่อนสั่นหน้า ไม่เขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรเขาคงไม่ช่วยเธอหรอก เธอคิดว่าคนเดียวที่พอจะช่วยเธอได้คือ คุณย่าฉวีวรรณ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังจากหน้าห้อง ฉุดวรดาที่กำลังจมอยู่ในความคิดรู้สึกตัว หันไปทางประตู ซึ่งเป็นป้านวลที่เดินเข้ามาหาเธอ ในมือถืออะไรบางอย่าง “มีอะไรหรือเปล่าคะป้านวล?” “นี่เป็นของที่คุณท่านฝากให้คุณหนูค่ะ” หล่อนส่งกรอบรูปให้คุณหนูของหล่อน คุณเดชย้ำกับหล่อนว่าต้องเอากรอบรูปนี้ให้กับวรดาด้วยตัวเอง และยังสั่งด้วยว่าให้วรดาเก็บไว้ดีๆ วรดารับกรอบรูปสีทองจากแม่บ้านมาดู ซึ่งเป็นภาพของบิดา เธอกอดรูปแล้วปล่อยโฮเบาๆ แม่บ้านวัยกลางคนที่เห็นดังนั้นจึงวางมือลงไหล่บอบบางแล้วบีบเบาๆ “คุณท่านไปสบายแล้วนะคะ คุณท่านได้ไปอยู่กับคุณหญิงแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณท่านปรารถนาที่สุด คุณหนูอย่าเศร้าไปเลยค่ะ” ป้านวลเอ่ยปลอบอย่างสงสาร ตั้งแต่เล็กจนโต วรดามีเพียงคุณเดชที่เป็นทุกอย่างให้กับเธอ จึงเข้าใจดีว่าเธอเสียใจและทำใจยากแค่ไหน แต่ชีวิตต้องก้าวต่อไป มาจมอยู่กับความเศร้าแบบนี้นานๆ กลัวจะไม่เป็นผลดี “ค่ะป้านวล” วรดาพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับกะพริบตาไล่น้ำตาออกไป ใช่เธอจะต้องเข้มแข็งเพื่อที่มีชีวิตอยู่ต่อ และที่สำคัญคือต้องสืบหาความจริงเกี่ยวกับเงินยี่สิบล้านนั่นด้วย ++++++++++ ส่งกำลังใจให้น้องดาด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD