ตอนที่ 4 ยัดเยียดความผิด

2047 Words
งานศพของคุณเดชถูกจัดขึ้นที่วัดใกล้ๆ บ้าน คนมาร่วมไว้อาลัยค่อนข้างน้อย เนื่องจากวรดาไม่ค่อยมีญาติเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ลูกน้องของพ่อเท่านั้น ในคืนสวดอภิธรรมวันสุดท้าย วรดายังคงอยู่กับบิดาเกือบจะสว่าง ดวงตาที่แดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก บัดนี้ยังคงเจือด้วยหยาดน้ำใสๆ เธอมองรูปถ่ายของบิดาที่ยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุด จำได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต บิดาท่านรักเธอมาก ยอมเธอทุกอย่าง ชนิดที่ว่าเธอต้องเป็นที่หนึ่ง ราวกับท่านต้องการจะชดเชยให้เธอที่เสียมารดาไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ต่อไปนี้เธอไม่มีคนที่รักเธอสุดหัวใจคนนี้อีกแล้ว แล้วถ้าเวลาเธอร้องไห้ เสียใจ ผิดหวังด้วยเรื่องต่างๆ ก็จะไม่มีอ้อมกอดแสนอบอุ่นและฝ่ามือหนาคอยลูบแผ่นหลังปลอบประโลมอีกแล้ว คิดแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหลไม่หยุด แม้งานศพผ่านพ้นเป็นอาทิตย์แล้ว แต่วรดายังคงโศกเศร้าอมทุกข์ ข้าวปลาไม่กิน เอาแต่นั่งเหม่ออยู่แบบนั้นทั้งวัน กลางคืนก็นอนร้องไห้ จนคุณย่าฉวีวรรณนึกเป็นห่วง ต้องย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ขณะที่ชรันนั้นเอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ กลับมาเขาแทบจะไม่พูดคุยกับเธอด้วยซ้ำ “หนูดาคุณพ่อเขาไปสบายแล้ว อย่าเศร้าเสียใจไปเลย ถ้าคุณพ่อเขารู้ท่านจะเป็นห่วงเอานะ” มือยับย่นตามวัยของคุณย่าฉวีวรรณวางลงบนไหล่ของเธอพร้อมบีบเบาๆ เห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ในห้องโถงแบบนี้เป็นอาทิตย์แล้ว ชวนให้คนแก่อย่างหล่อนอดรู้สึกเป็นห่วงและหดหู่ไปด้วยไม่ได้ “คุณย่าขาน้องดาไม่เหลือใครแล้ว” “อย่าพูดแบบนั้นสิลูก หนูดายังมีย่า และมีตารันนะลูก” ถึงจะพูดไปแบบนั้น หล่อนรู้ว่าชรันปฏิบัติต่อวรดายังไง เนื่องจากก่อนมาที่นี่หล่อนได้ถามแม่บ้านหมดแล้ว แม่บ้านบอกว่าชรันไม่พูดกับวรดาเลย แทบจะพูดนับคำได้ ยอมรับว่าสงสารหลานสะใภ้เหมือนกัน ตอนนั้นที่คุณเดชมาขอให้ชรันแต่งงานกับวรดา หล่อนไม่ปฏิเสธ เพราะเคยเห็นเด็กสาวตรงหน้ามาตั้งแต่แบเบาะ และรู้จักนิสัยใจคอดีว่าเธอเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน คล้ายคุณเดชพ่อของเธอ “มีแต่คุณย่าคนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ ส่วนพี่รันนั่นเหรอคะ…” วรดาหยุดประโยคแล้วร้องไห้เบาๆ อีกครั้ง นึกน้อยใจเหมือนกันที่ในคืนสวดอภิธรรม ชรันแค่มากราบบิดาของเธอเท่านั้น กราบเสร็จก็กลับไป และก็เป็นแบบนั้นตลอดสามคืน “กินอะไรเสียหน่อยนะลูก ไม่อย่างนั้นหนูจะมีแรงได้ยังไง” คุณย่าฉวีวรรณเลี่ยงไม่พูดถึงชรันมากนัก เนื่องจากสงสารและเห็นใจหลานสะใภ้มากเมื่อเห็นดวงตากลมโตซึ่งเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส สะท้อนความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงยกนิ้วซับน้ำตาออกให้เธอเบาๆ จากนั้นรั้งเธอเข้าไปกอดอีกครั้ง นั่งปลอบเธอจนหายสะอื้นแล้ว ประคองกันเดินเข้าไปในห้องอาหาร “ลูกทานเยอะๆ นะ” ท่านตักอาหารให้เธออย่างเอาอกเอาใจ แม้อาหารตรงหน้าแสนจะอร่อยแต่วรดากลับกลืนไม่ลง และคุณย่าฉวีวรรณก็คงไม่อยากฝืนใจเธอ ท่านทานไม่กี่คำก็รวบช้อน แล้วพาเธอออกไปนั่งเล่นในสนามหน้าบ้าน “หนูดาสนใจอยากทำงานไหมลูก?” หากวรดาอยู่บ้านเฉยๆ ก็คงจะคิดฟุ้งซ่านแต่เรื่องบิดา ถ้าเธอได้ทำงาน ไม่แน่อาจจะเศร้าน้อยลงก็เป็นได้ “น้องดาอยากทำค่ะ แต่…” ใช่เธออยากทำงาน แต่เธอไม่แน่ใจว่าถ้าทำงานตอนนี้จริงๆ จะมีสมาธิหรือเปล่า “ไม่ต้องกังวลจ้ะ ช่วงนี้หนูดาก็แค่ไปเรียนรู้งานก่อน เดี๋ยวย่าจะคุยกับตารันให้หาตำแหน่งให้หลานเอง” วรดาไม่ออกความเห็น ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน เธอก็ทำได้ทั้งนั้น แต่เธอรู้ว่าชรันคงไม่ยอม เขาเกลียดเธอ ไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำ ขณะเวลานอนอยู่เตียงเดียวกันก็นอนหันหลังให้เธอราวกับรังเกียจ เดียดฉันท์ “ขอบคุณค่ะคุณย่า” เห็นความรักความเมตตาที่ท่านมีต่อเธอแล้ววรดาซาบซึ้งใจนัก ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ท่านก็ยังเอ็นดูเธอเสมอ ในขณะทั้งสองนั่งคุยกัน คนที่ถูกพูดถึงก็ขับรถเข้ามาจอดพอดี คุณย่าฉวีวรรณเห็นแล้วรีบบอกให้เธอไปหาเขาซึ่งยังไม่ลงจากรถด้วยซ้ำ “โน่นไงตารันมาแล้ว ลูกเข้าไปหาพี่เขาสิจ๊ะ” ฉวีวรรณบอกด้วยสีหน้าระรื่น วรดาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเจ้าของใบหน้าบูดบึ้ง หมายจะรับเสื้อสูทและกระเป๋าอย่างที่เคยเห็นแม่บ้านทำ แต่ชายหนุ่มกลับเดินเลยผ่านเธอ ไม่สนใจทั้งเธอและย่าของเขา ด้านฉวีวรรณเห็นหลานชายปฏิบัติต่อวรดาเช่นนั้นนึกโกรธอยู่เหมือนกัน ชรันแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่ชอบวรดา และในตอนนี้สีหน้าของหลานสะใภ้เจื่อนลงจนน่าสงสาร หล่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา “ไม่เป็นไรลูกเดี๋ยวเราเข้าไปหาพี่เขาในห้องโถงดีกว่า จะได้คุยเรื่องงานด้วย” ท่านว่าพลางยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน “ค่ะคุณย่า” วรดาพยักหน้าอย่างมีความหวัง เมื่อเข้ามาในห้องโถง เห็นสีหน้าอึมครึมของชรันแล้วมันทำให้เธอหายใจไม่ออก จึงขอตัวไปเอาน้ำให้เขา เพื่อที่จะได้ออกจากสถานการณ์อึดอัดนี้ “เป็นอะไร?” ฉวีวรรณถามขึ้นทันทีเมื่ออยู่กันลำพังสองคนย่าหลาน “เปล่านี่ครับ” ชรันปฏิเสธหน้านิ่ง แต่หญิงชรากลับส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ในเมื่อไม่มีอะไร ช่วยทำหน้าดีๆ หน่อย รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้สีหน้าของเราเหมือนหมาขี้ไม่ออก” “คุณย่า” ชรันหมดคำจะพูดกับคำเปรียบเทียบของคนเป็นย่า “ไม่ต้องมาเรียก ที่มานั่งด้วยก็เพราะมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย” “เรื่องอะไรครับ?” “หาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับหนูดาหน่อยสิ ช่วงนี้น้องกำลังเศร้าเรื่องพ่อ หากน้องได้ทำงาน น้องจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน” “เหอะ! คุณย่าคิดว่าผู้หญิงอย่างหล่อนจะทำอะไรได้อย่างนั้นหรือครับ อ่อนปวกเปียก อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้ แล้วที่สำคัญผมไม่ไว้ใจ อย่าลืมสิครับว่าบิดาของหล่อนทำอะไรไว้บ้าง ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าเงินยี่สิบล้านนั่นไปไหนแล้ว ไม่แน่เขาสองคนพ่อลูกอาจจะรวมหัวกัน แล้วโอนเงินเข้าในบัญชีของหล่อนไปแล้วใครจะไปรู้” “ตารันอย่าพูดอย่างนี้นะ เดี๋ยวถ้าหนูดามาได้ยินเข้ามันจะไม่งาม” คนเป็นย่ารีบห้ามหลานชาย แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว วรดาที่ถือแก้วน้ำแอบมาได้ยินเข้าพอดี พยายามควบคุมมือที่ถือแก้วไม่ให้สั่น เงินอะไร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับบิดาของเธอ “อ้าวคุณหนูมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” เสียงแม่บ้านที่ดังเข้ามา ทำให้คนที่สนทนาอยู่ในห้องโถงหันมาทางประตู วรดายิ้มเจื่อน ก่อนจะรีบแก้ตัวด้วยการบอกว่าเธอทำน้ำหก เตรียมจะก้มลงเช็ดพื้น แต่ถูกแม่บ้านห้ามไว้ วรดาเลยรีบออกไป เพื่อไปเอาน้ำแก้วใหม่มาให้ชรัน ชรันมองตามร่างบอบบางไม่ได้สนใจอะไร เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ได้ยินที่เขาพูด และถึงจะได้ยินเขาไม่เห็นจะต้องรู้สึกผิดอะไรเพราะสิ่งที่เขาพูดมันคือความจริง เขาจะต้องหาหลักฐานเพื่อเปิดโปงวรดาให้ได้ คุณย่าของเขาจะได้ตาสว่างเสียที ….. ตกค่ำ… วรดาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องน้ำ ในหัวก็พลอยคิดเรื่องที่ได้ยินชรันคุยกับคุณย่าในห้องโถง ตอนนี้รอให้ชรันเดินออกมาจากห้องน้ำเท่านั้น เธอจะได้ถามเขาให้มันรู้แล้วรู้รอดว่าความจริงคืออะไร ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก เธอรีบหันไปทางชรันเพื่อจะได้ถามเรื่องที่ยังค้างคาใจ ทว่าเมื่อเห็นเพียงเขานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหมิ่นเหม่ เปิดเผยสัดส่วนกำยำ เธอรีบผินหน้าหนี ยกมือประคองพวงแก้มร้อนวูบวาบขณะที่หัวใจก็เริ่มเต้นถี่ เมื่อกี้เธอเตรียมชุดนอนไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว เข้าใจว่าเขานำไปสวมใส่ในห้องน้ำด้วย เลยมายืนรอเขาหน้าห้องน้ำ แต่ทำไมเขาไม่ใส่ล่ะ “จะยืนเซ่ออยู่ตรงนั้นนานไหม?” ชรันนึกขัดหูขัดตากับท่าทางไร้เดียงสาของเธอ เขาไม่ได้เดินล่อนจ้อนออกมาจากห้องน้ำเสียหน่อย ทำไมต้องทำเหมือนเขาไม่มีเสื้อผ้าพันกายสักชิ้นด้วยเล่า ที่สำคัญคือหล่อนก็เคยเห็นมาแล้วนี่ทำราวกับไม่เคยไปได้ วรดาค่อยๆ หันหน้ามามองคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วเม้มปากแน่น ตอนนี้ชรันอยู่ในชุดเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปหาเขา แล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ยังคาใจ “น้องดาอยากรู้เรื่องเงินยี่สิบล้านที่หายไป คุณพ่อไปเกี่ยวอะไรด้วย” ชรันซึ่งกำลังเช็ดผมอยู่ เงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าด้วยแววตาเยาะหยัน เขาไม่แน่ใจว่าวรดาเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินยี่สิบล้านด้วยหรือไม่ ถ้าหล่อนมีเอี่ยวเขาจะไม่ปล่อยไว้แน่ “พ่อของเธอ ฉกเงินออกจากบัญชีไปยี่สิบล้านก่อนที่จะฆ่าตัวตาย” ในเมื่อเธออยากรู้ เขาก็จะบอก วรดาได้ยินความจริงแล้วถึงกับพูดไม่ออก ไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาจะทำอย่างนั้นจริง ๆ “เป็นไปไม่ได้ค่ะ คุณพ่อไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่ คุณพ่อจะทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อคุณพ่อก็มีเงินเหมือนกัน น้องดาไม่เชื่อต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด” วรดาเถียงหัวชนฝา เธอไม่มีวันเชื่อว่าพ่อจะทำแบบนั้น ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยขัดสนเรื่องเงิน “ดูเธอมั่นใจนะ แต่เชื่อเถอะฉันจะสืบให้รู้ว่าใครมีเอี่ยวบ้าง รับรองฉันจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด” คำตอบราวกับสื่อถึงเธอกลายๆ ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยของชรันทำให้วรดาหนาวเหน็บในอก “พี่รันคิดว่าน้องดามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เหรอคะ?” “หรือว่ามันไม่ใช่ล่ะ หลักฐานการใช้จ่ายเงินของพ่อเธอก็คือวันเดียวกับที่เธออยู่ภูเก็ต และช่วงเวลานั้นก็คือช่วงที่เธอออกไปเดินเล่นคนเดียว ใครจะไปรู้ว่าลับหลังฉัน เธออาจจะทำในสิ่งที่ฉันกับคุณย่าคาดไม่ถึงก็ได้” จบประโยคยัดเยียดของชรัน วรดาถึงกับน้ำตาคลอ เธอยอมรับว่าผิดหวังและเสียใจที่ชรันมองเธอแบบนั้น หากย้อนเวลาได้เธอจะไม่แต่งงานกับเขา ไม่แน่พ่อของเธออาจจะไม่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ คิดแล้วน้ำตายิ่งไหลพรั่งพรู “อย่าใช้สายตามองฉันอย่างนะวรดา!” ชรันตวาดเสียงกร้าว วรดาไม่โต้ตอบใดๆ เธอแค่ปัดน้ำตาออกอย่างลวกๆ แล้วเดินไปขึ้นเตียง ล้มตัวลงนอนตะแคงข้างให้คนใจร้าย ชรันไม่เคยเชื่อใจเธอ ในสายตาของเขา เธอก็แค่คนกะล่อน ปลิ้นปล้อน จอมหลอกลวง ชรันบดกรามแน่นขณะทอดมองแผ่นหลังบอบบาง เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไรทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิด มือที่วางอยู่ข้างตัวยกขึ้นหมายจะเอื้อมไปลูบแผ่นหลังบอบบาง แต่ก็ชะงักค้างกลางอากาศ เมื่อคิดได้ว่าหล่อนอาจจะเสแสร้ง จึงเลือกเดินไปปิดสวิตซ์ไฟดวงใหญ่แล้วล้มตัวนอนหันหลังให้เธอโดยไม่สนใจเธออีก ส่วนวรดายังคงปิดปากร้องไห้เบาๆ พรุ่งนี้เธอจะกลับไปที่บ้าน เผื่อจะเจอหลักฐานอะไรบ้าง เธอไม่มีทางเชื่อว่าบิดาจะทำแบบนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD