ตอนที่ 1/2 วิวาห์ลวง

1397 Words
“อย่าทำตัวน่าสมเพชไปมากกว่านี้เลยวรดา มันเสียภาพพจน์คุณหนูผู้แสนดีที่ใครๆ ต่างชื่นชมไปหมดแล้ว!” ชรันสบถลั่นก่อนจากไป วรดาที่ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ เธอถึงกับร้องไห้โฮออกมาจนไหล่สองข้างลู่ไหวสะท้านเพราะแรงสะอื้น ตอนนี้เธอเจ็บ เจ็บร้าวไปถึงหัวใจ เธอผิดอะไร ทำไมชรันใจร้ายกับเธอขนาดนี้ วรดายกมือทุบอกซ้ำๆ แต่ในเวลาต่อมาเมื่อได้ยินฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ พอเงยหน้าขึ้นมอง เธอถึงกับยิ้มหมายจะโผเข้ากอดเขา ทว่ายังไม่ทันถึงตัวเขา ชายหนุ่มโยนบางอย่างใส่หน้าเธอ มันคือใบทะเบียนสมรสที่พวกเธอเซ็นด้วยกันเมื่อเช้า “เซ็นใบหย่าซะพรุ่งนี้ฉันจะมาเอา” สิ้นวาจาดุดัน ชรันก็ก้าวขาไปทางประตูบ้าน โดยไม่หันกลับมามองคนที่ยืนสั่นสะท้านจากการกระทำของเขา วรดาหรี่ตามองกระดาษในมือด้วยหัวใจสั่นเทา และเมื่อเสียงรถดังแล่นลิ่วออกจากรั้วบ้านไปแล้ว เธอค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ก้มหน้าร้องไห้หนักหน่วง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหล่นใส่แผ่นกระดาษที่ยืนยันความเป็นสามีภรรยาของเธอและเขาจนเปียกปอนไปหมด แม่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง จึงเข้ามาโอบกอดเธอไว้ ภายหลังจากชรันออกไปแล้ว “คุณหนูขาป้าว่าขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณรันก็กลับมาแล้วค่ะ” เมื่อกี้หล่อนเห็นทุกอย่าง แต่ไม่กล้าเข้ามายุ่ง ปกติชรันเป็นคนนิ่งขรึมอยู่แล้วยิ่งพอเขาโกรธเขายิ่งดูน่ากลัว “อย่าคิดมากนะคะ พักผ่อนให้สบายพรุ่งนี้คุณย่าฉวีวรรณจะมาเยี่ยมค่ะ” แม่บ้านพยายามปลอบเธอ จากนั้นประคองเธอขึ้นไปยังชั้นบน พอแม่บ้านออกไปแล้ว วรดาเดินมาที่เตียงกว้าง หรี่ตามองกลีบกุหลาบบนเตียงเรียงตัวสวยงาม แล้วมือน้อยๆ สัมผัสมันอย่างแผ่วเบา ชีวิตแต่งงานที่เธอวาดฝันไว้อย่างสวยหรู พังไม่เป็นท่า ชรันไม่เคยรักเธอ ทุกอย่างเป็นแค่เกม คิดแล้ววรดาทิ้งตัวลงบนพรม ร้องไห้สะอึกสะอื้น จนเผลอหลับไปในที่สุด มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แสงแดดยามเช้าสาดส่องกระทบใบหน้า วรดายกแขนปัดป้องแสงแยงตา นี่เธอร้องไห้จนเผลอหลับไปเหรอ แล้วเมื่อคืนเธอก็นอนบนพื้นทั้งคืนใช่ไหม พอปรับสายตารับแสงได้แล้วรีบสอดส่องสายตามองหาใครอีกคน แต่ไม่เห็นแม้แต่เงา แสดงว่าเมื่อคืนชรันไม่กลับมาที่นี่ แล้วเขาไปนอนที่ไหน วรดาเฝ้าถามตัวเองในใจ จากนั้นค่อยๆ พาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อคืนเธอร้องไห้จนหลับไป น้ำก็ไม่ได้อาบ ตอนนี้ใบหน้าของเธอเขรอะไปด้วยเครื่องสำอาง ดวงตาก็บวมเป่งเกิดจากที่เธอร้องไห้หนัก วรดาเลื่อนสายตาจากกระจกแล้วจัดการถอดชุดด้วยตัวเอง แม้จะลำบากเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็ถอดมันสำเร็จ เวลาต่อมา หญิงสาวเดินมานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบคอนซีลเลอร์มาปกปิดรอยบวมใต้ตาเพื่อไม่ให้เป็นที่จับสังเกต ป้าพายบอกว่าเช้านี้คุณย่าจะมาเยี่ยมหาพวกเธอที่นี่ เธอไม่อยากให้ท่านเห็นเธอในสภาพแบบนี้ จัดการแต่งหน้า แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กในเสื้อเดรสสีขาวพอดีตัว พาตัวเองลงไปยังชั้นล่าง เธอรู้สึกว่าเรือนหอนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน เมื่อไร้วี่แววของใครอีกคน “คุณหนูขามาค่ะ มาทานข้าวต้มกุ้งร้อนๆ ก่อนนะคะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ” ป้าพายซึ่งเป็นคนดูแลที่นี่ เรียกเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ขอบคุณค่ะ” ความจริงเธอไม่หิวเลย แต่เพื่อไม่ให้เสียความตั้งใจของคนทำอย่างป้าพาย วรดาจึงตามท่านเข้าไปในห้องอาหาร เธอลงมือตักข้าวต้มกินสักสี่ห้าคำก็รวบช้อนวางข้างชาม เพราะกลืนไม่ค่อยลง มันน่าตลกที่หลังแต่งงานเธอต้องมานั่งกินข้าวคนเดียว วรดาเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเบื่อหน่าย และแอบชำเลืองมองออกไปหน้าบ้านเป็นพักๆ ด้วยหวังว่าชรันอาจจะกลับมา และแล้วเสียงรถยนต์ดังมาจอดที่มุกหน้าบ้าน ทำเอาหญิงสาวถึงกับนั่งไม่ติด เพราะรู้ว่าเป็นรถของชรัน เพียงครู่เดียวคนที่เธอรอคอยเขาตลอดทั้งคืนก็ปราดเข้ามาในห้องโถง วันนี้เขาอยู่ในชุดสูทพร้อมทำงาน ใบหน้าของเขานิ่งขรึม เกือบจะเย็นชา และสายตาของเขาที่วาดผ่านมองมานั้นฉายแววขุ่นเคือง แต่เธอก็ยังแสร้งทำมองไม่เห็นลุกเข้าไปหาเขาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน “พี่รันกลับมาหาน้องดาแล้วใช่ไหมคะ?” ลึกๆ อยากได้ยินคำตอบว่าใช่ แต่เธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ “เธอเซ็นใบหย่าให้ฉันหรือยัง?” น้ำเสียงของเขาถึงไม่ได้ดุดันเหมือนเมื่อคืน แต่ก็เจือด้วยความกดดัน กระนั้นวรดาหาได้กลัวไม่ หย่าอย่างนั้นหรือ? “น้องดาไม่เซ็นค่ะ น้องดาไม่หย่า น้องดารักพี่รัน น้องดาไม่หย่า” วรดาเชิดหน้าขึ้น เธอรักเขา พวกเธอแต่งงานกันแล้ว เธอไม่หย่า! “อย่าเล่นแง่น่ะวรดา รีบเซ็นใบหย่าให้ฉันซะ!” ชรันเห็นความดื้อรั้นในแววตากลมโตแล้วพานึกโมโห เคยได้ยินมาว่า เธอเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน ว่านอนสอนง่าย แต่ตอนนี้เขามองไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นเลย “หลานมีเรื่องอะไรกันหรือ ถึงได้ทำหน้าเคร่งเครียดกันขนาดนี้” เสียงสั่นๆ ของหญิงชราที่ดังเข้ามาตรงปากทางห้องโถง เรียกให้สองหนุ่มสาวที่ยืนเถียงกันอยู่หันไปทางท่าน เป็นวรดาที่รีบเข้าไปหาพร้อมกับโผกอดท่านอย่างเอาใจ “สวัสดีค่ะคุณย่า พอดีน้องดากับพี่รันกำลังปรึกษากันว่าจะไปฮันนีมูนที่ไหนน่ะค่ะ” วรดากล่าวด้วยรอยยิ้มหวาน ขณะที่คนทำหน้าเคร่งกลับพูดไม่ออก คิ้วเข้มเลิกสูง เขาไม่คิดว่าหญิงสาวตรงหน้าจะตีเนียนเก่งขนาดนี้ “ใช่ไหมคะพี่รัน?” วรดาหันมาถามคนทำหน้าเข้ม ชรันเห็นสายตาเว้าวอนขอร้องจากเธอแล้ว เขาจำต้องพยักหน้าเบาๆ รู้ว่าที่หล่อนทำก็เพราะไม่อยากให้คุณย่าฉวีวรรณกังวลเรื่องของพวกเขา “ครับคุณย่า เมื่อกี้เรากำลังปรึกษากันว่าหลังแต่งงานแล้วจะไปฮันนีมูนที่ไหนกันดี” ชายหนุ่มเดินมายืนขนาบข้างผู้เป็นย่าบ้าง จากนั้นก็พาท่านไปนั่งบนโซฟา “ดีแล้วจ้ะ ตารันจะได้ถือโอกาสนี้ไปพักผ่อนด้วย เพราะพี่เขาทำงานหนักมาทั้งปีไม่ได้พักผ่อนเลย” ใบหน้าของหญิงสูงวัยประกายด้วยความสุข มืออวบตบลงบนมือนุ่มๆ ของหลานสะใภ้ จากนั้นคว้าเอามือของหลานชายมาวางทาบตามพลางยิ้มไม่หุบ “งั้นหลานทั้งสองไปเที่ยวที่ยุโรปไหม ย่าจะได้ซื้อแพ็กเกจแบบเป็นเดือนให้เลย และอาจเพิ่มทริปล่องเรือด้วยดีไหม” ชรันได้ยินรีบค้านทันใด “ไม่ต้องหรอกครับ ผมว่าเราเที่ยวเมืองไทยก็พอ ใช่ไหมน้องดา” ปลายประโยค ชายหนุ่มหันไปมองวรดา น้ำเสียงที่คุยกับเธอนุ่มทุ้ม ต่างจากเมื่อครู่ที่พวกเธออยู่ด้วยกันตามลำพัง “ใช่ค่ะ น้องดาว่าสถานที่สวย ๆ ของเมืองไทยมีเยอะแยะ อย่างเช่นภูเก็ตเป็นไงคะพี่รัน” วรดาถามคนทำหน้านิ่ง ชรันซึ่งอยู่ต่อหน้าคุณย่าฉวีวรรณจึงเออออพยักหน้า “ดีครับ” ตอนนี้คนที่ยิ้มไม่หุบเป็นคุณย่า ท่านมีสีหน้าพออกพอใจ “ตามใจหลานสองคนเถอะ แต่ต้องกลับมาพร้อมข่าวดีนะ ย่าอยากอุ้มเหลนแล้ว” ท่านกล่าวอย่างอารมณ์ดี “ค่ะคุณย่า” วรดาพยักหน้ายิ้มเอียงอาย ต่างจากชรันยังคงสีหน้านิ่งขรึม ******* ไปลุ้นอ่านตอนหน้าว่า ทริปฮันนีมูนของสองสามีภรรยาจะเป็นอย่างไร? ฝากกดเข้าชั้น กดติดตามด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD