EP : 3

1068 Words
“...ช้องก็ไม่อยากอยู่กับคนใจร้ายอย่างคุณขุนหรอกค่ะ” “ก็ดี! ถ้างั้นก็ตั้งใจเรียน ส่งให้เรียนก็ตั้งใจบ้าง หรือถ้าไม่ชอบเรียนก็ไปลาออก แต่ถ้าคิดได้ก็เรียนซะ เรียนให้มันจบ! เรียนจบเมื่อไหร่อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากอยู่กับฉันก็ไปตามทางของเธอได้เลย” “...” “ขุน ทำไมพูดจารุนแรงกับน้องแบบนี้ลูก” “อยากโอ๋ เอาใจกันก็ตามสบายครับป้ากรอง ผมมีหน้าที่แค่ส่งเด็กคนนี้เรียนให้จบ เรียนจบเมื่อไหร่ก็ทางใครทางมัน” เขาพูดกับป้ากรองจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเลย “ขุน ขุนเขา ตาขุน!” “...ฮึก!” ไม่อยากร้องแต่ใครมันจะกลั้นได้ในเมื่อโดนเขาว่าขนาดนี้ “ไม่เอาลูกไม่ร้อง พี่เขาคงเป็นห่วงกลัวน้องเสียการเรียนเท่านั้น” ป้ากรองรีบกุมมือฉันที่นั่งก้มหน้ากำลังพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ “ไม่หรอกค่ะป้ากรอง ฮึก! คุณขุนไม่อยากดูแลช้องมานานแล้วช้องรู้ดี” ฉันกลั้นสะอื้นพร้อมกับตอบป้ากรองทั้งที่ยังก้มหน้า พูดจบก็รีบปาดน้ำตาของตัวเอง “ไม่เอาอย่าคิดแบบนั้นลูก พี่เขาโมโหอย่าโกรธกันป้าขอ” “ช้องรู้ค่ะว่าช้องผิด แต่ช้องไปกับเพื่อนผู้หญิงนะคะป้ากรอง ช้องโดดเรียนพิเศษวิชาแรกเพราะเพื่อนนัดกันไปกินขนมหลังเลิกเรียนฉลองวันเกิดให้เพื่อนในกลุ่ม ช้องขอโทษนะคะป้ากรองที่โดดเรียน แต่ช้องไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีเลยนะคะ” “ป้ารู้ลูก ป้ารู้ว่าช้องนางของป้าเป็นเด็กดี แต่พี่เขาห่วงน้องมากก็เลยดุ หนูก็รู้ว่าพี่เขาเป็นคนดุ” “ดุแต่กับช้อง ไม่เห็นจะเอคยดุคนอื่นเลย ไม่รู้จะเกลียดอะไรช้องนักหนา” น้ำตาฉันหยดลงมาที่ฝ่ามือทันทีที่พูดประโยคนี้จบ “ไม่เอาลูก ทำไมพูดแบบนี้ พี่เขารักน้องนะลูกนะ ไม่เอา ๆ ไม่ร้องให้ ป้ารู้ว่าพี่เขาพูดแรงเดี๋ยวป้าจะดุให้ แต่หนูก็ทำผิด รอให้พี่เขาใจเย็นขึ้นก็ไปขอโทษพี่เขานะ” “ฮึก! ค่ะป้ากรอง” ฉันไม่อยากให้ป้ากรองไม่สบายใจ อีกอย่างก็รู้ดีว่าตัวเองผิดที่โดดเรียน ผิดก็ส่วนผิด พูดจารุนแรงก็อีกส่วนยังไงก็ต้องขอโทษเขาฉันรู้ดี -วันต่อมา- “ทานข้าวก่อนนะคะคุณช้อง” “ค่ะพี่ทิพย์” เดินลงมาจากชั้นบนกำลังจะไปโรงเรียน พอลงมาก็เจอพี่ทิพย์แต่พอเดินมาถึงห้องอาหารก็ไม่เจอป้ากรองเลย “คุณป้าล่ะคะพี่ทิพย์” “คุณกรองไปวัดค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อกี้เองค่ะคุณช้อง” “อ่อ ช้องลืมเลยค่ะพี่ทิพย์ว่าวันนี้วันพระ พอแล้วค่ะพี่ทิพย์เดี๋ยวช้องกินไม่หมด” ฉันยิ้มให้พี่ทิพย์ที่กำลังจะตักโจ๊กให้ฉันจนเต็มถ้วย “กินเยอะ ๆ จะได้มีแรงค่ะ” “กินอิ่มมากจะหลับตอนอาจารย์สอนน่ะสิคะ” ฉันฉีกยิ้มแล้วก็รีบกินอาหารเช้าเพราะถ้ากินช้านั่นหมายความว่าออกจากบ้านช้าแล้วก็จะเจอกับรถติด พอกินข้าวเสร็จก็เดินมาขึ้นรถที่น้ามิ่งคนขับรถของที่บ้านจอดรออยู่ ปกติถ้าไม่ได้มีปากเสียงกันเมื่อคืนวันนี้คนที่ต้องไปส่งฉันก็คือเขา แต่ดีแล้วค่ะ ไม่อยากไปกับหรอกคนใจร้ายปากร้ายแบบนั้น -หลายวันต่อมา- “ได้คุยกับพี่บ้างรึยังลูก” ในระหว่างที่นั่งทานข้าวเย็นกันอยู่ป้ากรองก็ถามฉันด้วยความเป็นห่วง “ยังเลยค่ะป้ากรอง ช้องยังไม่ได้เจอคุณขุนเลยค่ะ” ฉันตอบและยิ้มให้ท่านที่มองด้วยความไม่สบายใจ “หายโกรธพี่เขารึยัง” “ช้องไม่โกรธหรอกค่ะ ช้องก็อยากขอโทษคุณขุนเหมือนกันค่ะป้ากรองแต่ช้องยังไม่เจอ ป้ากรองไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ทะเลาะกันเป็นล้านครั้งแล้วค่ะ” ฉันฉีกยิ้มให้ท่านแต่ท่านก็ไม่สบายใจเหมือนเดิม “ห่วงสิ ทะเลาะกันแค่ไหนแต่พี่เขาไม่เคยพูดไล่น้องแบบนี้สักครั้ง ป้าไม่สบายใจ” ใช่ค่ะ เขาไม่เคยเอ่ยปากไล่มาก่อน ทำให้คำพูดเขาในวันนั้นฉันจำได้ไม่เคยลืมเลย “เดี๋ยวกินข้าวเสร็จช้องจะโทรไปขอโทษคุณขุนนะคะป้ากรอง” ฉันสงสารท่านที่ต้องมาเป็นกังวลกับเรื่องการทะเลาะกันของฉันกับเขา “ดีแล้วลูก น้องเป็นเด็กทำผิดก่อนก็ขอโทษพี่เขานะลูกนะ ป้ารู้ว่าพี่ขุนรักหนู” “ค่ะ” ฉันยิ้มให้ป้ากรองที่เอื้อมมือมาลูบผมฉันด้วยความเอ็นดู ไม่อยากโทรหาเลยค่ะ รอเจอหน้าแล้วจะขอโทษแต่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่ได้เจอ เห็นป้ากรองไม่สบายใจฉํนก็รู้สึกไม่ดี ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด ติ๊ด! “มีอะไร” แค่รับสายทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาทั้งอาทิตย์เขาก็เสียงแข็งใส่แล้วค่ะ ใครต่อใครก็อยากให้คุยกันดี ๆ แต่เขาเป็นแบบนี้ต่อให้ฉันคุยดีแค่ไหนเขาก็ไม่ดีกลับมาเหมือนเดิม “ช้องจะโทรมาขอโทษค่ะ” “ขอโทษ?” “ค่ะ อยากขอโทษคุณขุนที่ช้องโดดเรียน” “ป้ากรองสั่ง?” “เปล่าค่ะไม่ได้สั่ง แต่ท่านไม่สบายใจ” “หึ! ช่างมันเถอะ ชีวิตเธอใครจะไปขีดเส้นให้เดินได้ ฉันมีหน้าที่แค่ส่งเรียน อย่าลืมที่ฉันบอกก็พอ” “...ค่ะ” ติ๊ด! ฉันไม่ได้เป็นคนตัดสาย เขาต่างหากที่ทำ ...อย่าลืมที่ฉันบอกก็พอ ไม่ลืมหรอก บอกแล้วไงว่าจำคำพูดของเขาในวันนั้นได้ดี ...เรียนจบเมื่อไหร่อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากอยู่กับฉันก็ไปตามทางของเธอได้เลย ...ผมมีหน้าที่แค่ส่งเด็กคนนี้เรียนให้จบ เรียนจบเมื่อไหร่ก็ทางใครทางมัน ได้ค่ะฉันไปแน่ ไม่อยู่ให้เป็นภาระใครอีกต่อไปหรอกไม่ต้องกลัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD