ระยะเดินทาง
☆☆>>>>>♡
“ไปเข้าห้องน้ำก่อนไหมครับ”
“ไม่เป็นไร เฟรนด์รอข้างนอกกับพี่ภพดีกว่าครับ ”
“งั้นรอแป๊บนะครับ” ภากรยื่นมือมาบี้จะมูกคนที่เดินหน้างออย่างหมั่นไส้
“เฟรนด์ เฟรนด์จริง ๆ ด้วย” เสียงผู้ชายคนนั้นฟังดูคุ้นหู
“เฟรนด์พี่ขอโทษ ฟังพี่อธิบายก่อนนะครับ” น็อตที่วิ่งเข้ามาจับมือเฟรนด์ไว้อย่างเป็นห่วงและคิดถึงสุดหัวใจ ที่คนรักของตนติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน
“ปล่อยเฟรนด์นะ เราจบกันตั้งแต่ที่พี่เอากับมันบนเตียงนั้นแล้ว อย่ามายุ่งกับเฟรนด์อีก”
“เฟรนด์ฟังพี่ก่อน มันไม่ใช่อย่างที่เฟรนด์เข้าใจนะครับ”
“เอากันคาเตียงขนาดนั้นยังมีอะไรที่เฟรนด์เข้าใจผิดอีกงั้นเหรอ ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วพี่น็อต อย่าพูดให้เฟรนด์เกลียดพี่ไปมากกว่านี้เลย ปล่อยเฟรนด์”
เฟรนด์สะบัดมือน็อตออกอย่างเร็วและแรง พอที่จะหลุดจากการจับของน็อตได้ในคราวเดียว แล้วหันมาขอความช่วยเหลือจากภพที่มองคนทั้งคู่อย่างไม่กะพริบตา
“พี่ภพอย่าให้เขาเข้ามาใกล้เฟรนด์นะครับ” เฟรนด์กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางห้อง น้ำทางเดียวกับที่ภากรเดินไป
“แต่เฟรนด์เป็นแฟนผม พี่มีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้าม หลีกทางผมนะ” น็อตยังคงดื้อดึงจะตามเฟรนด์ไป ด้วยการยืนยันสถานะของตนต่อหน้าภพ
“ตอนนี้คุณเฟรนด์ไม่เหมือนเดิมแล้ว คุณน่าจะไม่ใช่แฟนคุณเฟรนด์แล้วนะ”
“หลีกทางผม ผมจะไปหาเฟรนด์” น็อตพยายามพาตัวเองออกมาจากการขัดขวางของภพกับลูกน้องอีกคน
“อย่ามายุ่งกับคุณเฟรนด์อีก คุณเฟรนด์ไม่ใช่คนที่คุณจะมายุ่งด้วยอีกต่อไปผมเตือนคุณได้แค่นี้นะครับ” ภพจับแขนผู้ชายหัวรั้นอย่างน็อตแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและจริงจังกว่าเดิม จนน็อตรู้สึกชาวาบที่หัวใจนึกกลัวคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูกกับสายตาที่ภพมองมา
“พวกคุณเป็นใคร มาห้ามผมทำไม” น็อตยังไม่ละความพยายามที่จะตามคนรักตัวเองไป
“ผมถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะ”
“กันไว้อย่าให้ตามคุณเฟรนด์ไป เดี๋ยวกูไปที่รถไปรอนายก่อน” ภพไม่สนใจน็อตอีกต่อไป ภพหันไปสั่งโลแล้วเดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับน็อต
ชายชุดดำพวกนี้เป็นใคร ทำไมรู้จักกับเฟรนด์ ตอนนี้ทั้งเป็นห่วงทั้งสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเขาไม่มักง่ายไปคบกับผู้ชายคนนั้นทุกอย่างคงไม่วุ่นวายแบบนี้ เขาเองที่ผิดคิดนอกใจเฟรนด์ทำให้คนที่เขารักต้องเสียใจ ทำลายความเชื่อใจของ
เฟรนด์ที่มีต่อตัวเอง ตอนนี้เขาก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเฟรนด์ เขาพยายามตามหาคนรักเพื่อจะอธิบายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น หวังให้เฟรนด์ยกโทษให้เขา แต่ตอนนี้เฟรนด์แทบไม่มองหน้าตนด้วยซ้ำ
ตึก!! โคร่ม!! ควับ!!
เฟรนด์มัวแต่เดินและมองดูข้างหลังกลัวว่าน็อตจะตามมา ไม่ได้ระวังตัวชนเข้ากับคนตรงหน้าอย่างจัง ภากรคว้าเฟรนด์ไว้ทันก่อนที่จะล้มก้นกระแทกพื้นแบบนั้นคงไม่ดีแน่เพราะเมื่อคืนผ่านศึกรักมาอย่างหนัก
“เฟรนด์รีบอะไรขนาดนั้นครับ”
“ปะ...เปล่าครับพี่ภากร”
“เฟรนด์มองพี่ เป็นอะไรรึเปล่า”เฟรนด์มีท่าทางตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“หนีพี่น็อตมาครับ พี่ภากรเราไปกันเถอะ เฟรนด์ไม่อยากอยู่ที่นี่นาน”
“งั้นไปกันครับ” ภากรพูดพร้อมกับโอบเอวเฟรนด์เข้ามาในอ้อมกอด เดินไปที่ลานจอกรถของห้างที่โซน VVIP เฟรนด์ก็ไม่ได้สงสัยในพฤติกรรมของภากร ที่ไม่ถามตนเองต่อว่าน็อตคือใคร ทำไมต้องหนีมาขนาดนั้น
“ภพ ไปเจอกันที่รถเลยนะ”
“ครับนาย” เสียงปลายสายตอบรับ
ภากรกับเฟรนด์เดินไปถึงภพที่รออยู่ก่อนแล้ว ‘ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน’ ก็เปิดประตูให้นายทันที เป็นรถกึ่งรถตู้ที่ข้างหลังจะเป็นที่นั่งกว้างพอสมควร ภากรกับเฟรนด์เข้ามานั่งในรถที่มีสุวิทย์รออยู่ในรถแล้ว
“นายครับให้คนของเราขับรถประกบหน้าหลังนะครับ ตามเราไปในระยะที่ระวังตัวได้”
‘นี่ไปทำงานหรือไปรบนี่ ลูกน้องตามประกบหน้าหลังขนาดนี้’
“อืมขอบใจมากออกเดินทางได้ ไปถึงโน่นเย็นมากไหมสุวิทย์”
“ไม่เย็นครับนายถ้าออกเวลานี้ เพราะใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงครับ” พอขึ้นมาบนรถคนเอาแต่ใจก็คว้าเอวเฟรนด์มานั่งข้าง ๆ ทันที เฟรนด์ที่ไม่ได้สนใจเอาโทรศัพท์มานั่งเล่นไปพลาง ๆ เพราะห้ามไปก็เท่านั้นไม่ได้มีผลอะไร
“บอกได้รึยังทำไมต้องหนีคนชื่อน็อต” ภากรถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“เฟรนด์ไม่อยากคุยนี่ครับ ไม่อยากเจอด้วยเลี่ยงได้น่าจะดีที่สุด”
“เจ็บมากไหม” ภากรถามคนในอ้อมกอด แล้วเอามือไปกุมตรงหัวใจของคนตัวเล็ก เฟรนด์ถึงกับสะดุดไปนิดหนึ่ง
“พี่ภากรรู้เหรอครับ” เฟรนด์ถามออกไปเมื่อภากรพูดจบ
“ก็เฟรนด์ด่าคนชื่อนี้ให้ฟังอยู่เมื่อคืนนี้”
“โมโหมากกว่าครับที่หลอกเฟรนด์มาเกือบปี ดีนะที่เฟรนด์ยังไม่เคยมีไรกับมันน่ะ ไม่งั้นเฟรนด์ฆ่ามันตายตั้งแต่จับมันได้คาเตียงกับคู่ขาของมันล่ะ” ยิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเฟรนด์ก็ยิ่งโมโห
“จริงเหรอครับ ที่ยังไม่มีอะไรกัน” ภากรทำท่าตื่นเต้นเพื่อแกล้งคนตัวเล็ก
“อย่าบอกนะว่าพี่ภากรไม่รู้ว่า เอ่อ เฟรนด์ ช่างมันเถอะครับ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” ‘อย่าบอกนะว่าไม้รู้ว่าเฟรนด์ยังไม่เคยน่ะ’ นี่คือคำถามที่อยู่ภายในใจของ เฟรนด์แต่ไม่กล้าจะพูดออกไปให้จบ
“รู้ครับ พี่แกล้งเฟรนด์เฉย ๆ พี่ดีใจนะครับที่พี่ได้เป็นคนแรกของเฟรนด์”ภากรลูบหัวคนในอ้อมกอดทันที รู้ว่าเฟรนด์หน้าเสียตอนที่เขาถาม
“เฟรนด์ควรต้องดีใจไหม เราไม่ได้รู้จักกันเลยนะอยู่ ๆ ก็ตื่น มาเจอตัวเองแก้ผ้านอนกับใครก็ไม่รู้ แถมตอนนี้ยังหิ้วเฟรนด์มาถึงตราดด้วยอีก”
“เฟรนด์เป็นคนของพี่แล้วนะ พี่จะดูแลเฟรนด์เอง”
“เฟรนด์เป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบอะไรหรอกครับ เรื่องเมื่อคืนเราเมากันทั้งคู่”
“พี่แค่บอกว่าเฟรนด์เป็นคนของพี่เฉย ๆ พี่ไม่ได้ถามเฟรนด์นะครับ” ฟอด ฟอด นั่นไงล่ะคนเอาแต่ใจพูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว เห็นว่ามีคนมากกว่าแล้ว
เฟรนด์จะกลัวเหรอ แต่เฟรนด์ก็กลัวจริง ๆ นั่นแหละ เฟรนด์ขี้เกียจจะเถียงกับภากรเพราะไม่รู้ว่าถ้าเขาโมโหขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เล่นมือถือต่อดีกว่า ผ่านไปสักพักเฟรนด์ก็หลับไปพิงไหล่ของภากรอย่างไม่รู้ตัว
“อื้อ อย่ากวนเฟรนด์จะนอน” เสียงคนนอนหลับที่ถูกรบกวนครางออกมาอย่างไม่พอใจนัก ภากรได้แต่ลูบหน้าเฟรนด์เบา ๆ อย่างทะนุถนอม ไม่รู้เขาหลงใหลอะไรในตัวเด็กคนนี้นักหนาถึงขั้นพามาถึงต่างจังหวัดด้วย ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน