ตอนที่ 5

1815 Words
หลังเลิกงาน ศศิดาขับรถไปที่บ้าน จากนั้นแวะซุปเปอร์มาร์เกตซื้อของสด แล้วขับมาที่คอนโดของเขา เธอค่อยๆ แง้มประตูห้องนอนเห็นว่ายังหลับสนิท เลยไปหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิเตรียมมาวัดไข้ ปรากฎว่าไข้ยังสูงอยู่เหมือนเดิม เธอเลยนำผ้าขนหนูมาเช็ดตัวลดความร้อน เขาลืมตาตื่นทันที ที่เธอวางผ้าแตะที่หน้าผาก “ไข้ยังสูงอยู่เลยค่ะ” เธอบอกเขาเสียงเบา ด้วยความเป็นห่วง “อืม” “เดี๋ยวทานโจ๊ก ทานยาแล้ว ศิดาจะพาคุณไปหาหมอนะคะ” “ไม่เป็นไร” “เป็นสิคะ! คุณนอนมาทั้งวันแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย ถ้าคุณไม่ไปดีๆ ศิดาจะโทรตามรถพยาบาลให้มารับ” “อืม” เขารับคำแล้วหลับตา … ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ศศิดาเข็นรถวีลแชร์ที่ราเมศวร์นั่งเข้าไปในห้องตรวจ แล้วเธอก็ออกมาข้างนอก เดินไปหยอดเหรียญตู้น้ำดื่มหลังที่นั่ง แต่ข้อมือของเธอกลับถูกใครบางคนจับเอาไว้แน่น "ศศิดา!" หญิงสาวตกใจหันไปมองหน้า แล้วพยายามจะดึงมือออกให้พ้นการเกาะกุม แต่กลับถูกเขาจับไว้แน่น จนขยับไม่ได้ “ปล่อย!!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วชำเลืองมอง "เป็นอย่างไรบ้าง? คุณดูเปลี่ยนไปเยอะเลย สวยและเซ็กซี่กว่าเมื่อก่อนเสียอีก! พิมพ์โทรมาเล่าให้ฟังว่าคุณน้านิจเจอคุณเมื่อตอนกลางวัน แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่คนเดียว?" “ตาข้างไหนของคุณเห็นว่าฉันมาคนเดียว สามีฉันเพิ่งจะเข้าห้องตรวจไปไม่เห็นรึไง!!” ศศิดากัดฟัน แอบยกมือไหว้ในใจ ขอแอบอ้างสถานะกับคนในห้องตรวจชั่วคราว เธอก็แค่อยากอวดข่มผู้ชายคนนี้เท่านั้น คำว่า..สามี ที่พูดออกมา ทำให้ทัตเทพเหลือบไปมองห้องตรวจอยู่ด้านหลังหญิงสาวนิดหนึ่ง ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด “สามีเหรอ? หึ! อย่ามาหลอกกันให้เชื่อเลย ไปกับผม!" เขาดึงมือเธอเข้าหาตัว ศศิดาโกรธจนหน้าแดง กับความเจ้ากี้เจ้าการของเขา "ปล่อยมือเธอซะ!" ทัตเทพชะงัก เมื่อเห็นว่ามีมือมาจับที่แขนของเขาแล้วบีบแรง ทัตเทพคลายมือที่จับศศิดาออกเล็กน้อย ความสุขุมสงบนิ่งของราเมศวร์ที่ได้มาจากวงการธุรกิจทำให้เขาดูน่าเกรงขาม ซึ่งทัตเทพไม่มีทางเทียบได้ติด "คุณเป็นใคร อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น!!" เมื่อเห็นว่าทัตเทพคลายมือที่จับเธอไว้ ศศิดาจึงสะบัดมือออก แล้วเดินไปหลบที่ด้านหลังราเมศวร์ "คุณราเมศวร์!" เธอเรียก จับชายเสื้อเขาไว้ ดึงให้ออกเดิน กลัวทัตเทพจะโพล่งออกมาให้ได้ยิน "ราเมศวร์! มิน่า! ถึงจะดูโทรมไปหน่อย ก็ยังคิดอยู่ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน คุณเป็นสามีศีดาจริงๆ เหรอ?" "ก็อย่างที่เห็น!" ราเมศวร์ตอบกวนอารมณ์ "ผมเป็นแฟนของเขามาก่อน คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอที่กินเดนผม!" พลั่ก!! กำปั้นของราเมศวร์เหวี่ยงไปที่ปลายคางทัตเทพอย่างแรง จนเขาล้มนอนหงายกับพื้น "ไสหัวไป! ถ้าไม่อยากถูกกระทืบซ้ำ!!" ทัตเทพมองหน้าศศิดา แล้วมองมาที่มือของหญิงสาวที่รั้งแขนราเมศวร์ไว้ เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก แล้วลุกขึ้นหันหลังเดินไป ในใจก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวพูด ราเมศวร์มองมือเรียวที่จับแขนเขาไว้แน่น แล้วเหลือบตามองหน้า ศศิดามองสบตาเขาที่จ้องเธอนิ่ง แล้วก็หลุบมองที่มือตัวเอง เธอสะดุ้ง รีบปล่อยมือทันที “เป็นสาวเป็นนาง อย่าไปเที่ยวเรียกใครว่าสามี ระวังจะโดนรวบหัวรวบหาง!” น้ำเสียงเขาไม่แยแสเช่นเคย มุมปากหญิงสาวกระตุกขึ้นเล็กน้อย ได้ยินแฮะ!! "ค่ะ เจ้านาย!" "ต่อไปถ้าเห็นคนตระกูลรัศมิมาน โดยเฉพาะนายทัตเทพ ก็ให้อยู่ห่างๆ” "วางใจเถอะค่ะ คนแบบนี้แม้แต่ขนหน้าแข้งก็ไม่ชี้ไปหาเขาแน่ๆ!" หล่อแต่เห้ก็ไม่ไหวนะ!! แต่ก่อนเธอมีตาแต่ไร้แววจริงๆ ศศิดาสังเกตเห็นสีหน้าของราเมศวร์ยังดูอาการไม่ดี “คุณหมอว่าไงบ้างคะ เป็นอะไรหรือเปล่า?” "ลำไส้อักเสบเลยทำให้ไข้ขึ้น! ไม่มีอะไร" เขาตอบ ท่าทางดูอ่อนเพลีย “คุณขับนะผมจะนอน ถึงแล้วปลุกด้วย” “ค่ะ” ……………………… ศศิดาเปลี่ยนชุดนอนในห้องน้ำ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอเดินออกมาหยิบแปรงสีฟัน แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับโทรศัพท์ ตามองดูหมายเลขของสายที่โทรเข้ามา เธอจำได้ว่าเป็นหมายเลขของศศิพิมพ์ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ก่อนที่จะกดรับแล้วเปิดลำโพงวางไว้ข้างๆ หยิบยาสีฟันของราเมศวร์มาบีบใส่แปรง แล้วแปรงฟันโดยไม่ใส่ใจเรื่องมารยาท “คุณไม่คิดว่านายราเมศวร์ทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยเหรอ?” ทัตเทพพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ศศิดาชะงักมือ “คุณชายแห่งรัศมิมาน โทรมาเพื่อจะต่อว่าสามีของฉันเนี่ยนะ! ในหัวคุณนั่นใช่สมองหรือเปล่า! คิดว่าฉันจะกล่าวโทษสามีตัวเองไหม!!” “นายราเมศวร์เขาไม่ได้รักคุณจริงๆ หรอก ผู้ชายมีเงินอย่างเขาผู้หญิงแย่งกันอยากได้ทั้งเมือง จะมาจริงจังกับคุณได้ยังไง!” “นี่!..คุณทัตเทพ คุณจะมารู้ดีกว่าฉันได้อย่างไงว่าเขาดีเบอร์ไหน การที่ผู้ชายดีเลิศประเสริฐศรีอย่างเขาเลือกฉันเป็นภรรยา มันทำให้คุณรู้สึกด้อยค่ามาก จนถึงกับต้องตามรังควานฉันกับสามีขนาดนี้เลยหรือไง? เอาเวลาไปยกระดับจิตใจของตัวเองก่อนไหม? แล้วก็อย่าใช้วิธีนี้โทรมาอีกนะ!!” เธอกดวางสาย แต่ในใจกลับอึดอัด การพบกันโดยบังเอิญครั้งนี้ทำให้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เธอกับทัตเทพเคยคบกันตอนอยู่มหาลัย เขากับศศิพิมพ์ร่วมมือกันทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น ทัตเทพเป็นหนุ่มฮอต ฐานะทางบ้านดี มีชาติตระกูล เป็นถึงทายาทเจ้าของโรงแรมรัศมิมาน แน่นอนว่าย่อมเป็นที่จับตามองของสาวๆ แต่เขาก็ยังมาจีบเธอ ผู้หญิงขี้อายแต่งตัวเชยๆ เขาเคยเป็นโลกทั้งใบของเธอในช่วงนั้น แต่เธอก็มาได้เห็นชัดๆ เต็มสองตาว่าชายหญิงสองคนนั้น อยู่ในสภาพเนื้อแนบเนื้อแค่ไหนลับหลังเธอ หญิงสาวถอนใจ หันหลังจะเดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่าราเมศวร์ยืนขวางอยู่ เขามาตั้งแต่เมื่อไร แล้วได้ยินอะไรหรือเปล่า!?! "ไหนว่าเป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ทำไมยังโทรหากัน” เขาขยับเข้ามาใกล้ หญิงสาวรู้สึกว่าสายตาของเขาแฝงแววอันตราย ดูล้ำลึก นิ่งสนิท จนเธอเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนเธอเดินถอยหลังชิดติดกับผนัง “ก็..เขาเอาโทรศัพท์ของศศิพิมพ์โทรมา ฉันไม่รู้นี่ว่าจะเป็นเขา” ราเมศวร์อยู่ห่างเธอเพียงนิดเดียว ลมหายใจของเขารดใส่ปลายจมูกของเธอ บนตัวเขามีกลิ่นครีมอาบนํ้า และยังมีกลิ่นของอาฟเตอร์เชพอยู่จางๆ “แก้ตัว!” ราเมศวร์พูดขึ้น แล้วก้มลงมาช้าๆ สันหลังเธอเย็นวูบขึ้นมา เพราะเดาออกแล้วว่าเขาต้องการอะไร “ฉะ..ฉันง่วงแล้ว! พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ขอตัวนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็คิดจะผละออกจากชายหนุ่ม แต่ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือมาจับแขนเรียวบางของเธอไว้ "ศิดา! อย่ามาทำเป็นไม่รู้!” ราเมศวร์โน้มตัวเข้ามาใกล้ จนเธอต้องถอยไปติดกับผนัง ศศิดาถูกตรึงไว้จนหนีไปไหนไม่ได้ และเขาก็จงใจขยับเข้าใกล้เธออีก “ผมต้องการคุณ!” ปลายเสียงเขาแหบพร่าเล็กน้อย ชายหนุ่มเป็นคนพูดตรงไปตรงมาตั้งเล็กจนโต อย่างเวลานี้เขาก็ไม่ปิดบังอารมณ์ปรารถนาของตัวเองแม้แต่น้อย เขาเข้ามาใกล้จนเธอต้องกลั้นหายใจ รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดทั้งตัว เขาพูดความต้องการออกมาตรงๆ ทำให้อีกใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจกลับรู้สึกหวิวๆ ร่างกายแทบจะอ่อนระทวยเข้าหา ฝ่ามือของเขาวางทาบไว้เหนือเอว แล้วไล้ขึ้นมาที่กลางหลัง จนเธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว “คุณกำลังเป็นไข้! แล้วกระเพาะก็ยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอคะ?” เขาไม่สบายขนาดนี้ ทำไมยังมีแรงคิดเรื่องแบบนี้ได้นะ!! “ยิ่งมีไข้ยิ่งต้องทำให้เหงื่อออก” เขาก้มมาชิด เสียงนุ่มทุ้มกระซิบอยู่ที่ข้างหู ทำเอาเธอถึงกับขนลุกไปทั้งตัว เขาไม่รอให้เธอปฏิเสธอะไรอีกแล้ว สอดมือรั้งท้ายทอยเข้ามาชิด แล้วบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างหนักหน่วง ในใจเธอสั่งให้ต่อต้าน แต่ร่างกายกลับโหยหาสัมผัสจากเขา มือที่ลูบไล้อยู่ที่แผ่นหลังเลื่อนมาด้านหน้า กอบกุมหน้าอกเต่งตูมเธอไว้เต็มมือ จนหญิงสาวขาอ่อนยวบถึงกับแทบยืนไม่ไหว เขาจับเธออุ้มขึ้น เดินไปที่เตียง แล้ววางลงอย่างนุ่มนวล “เมื่อกี้ผมได้ยินคุณพูดกับแฟนเก่าว่าผมเป็นสามีที่ประเสริฐมาก" "เฟคน่ะ! ฉันก็แค่อยากอวดเขาเท่านั้น มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ผู้หญิงไม่ใช่เหรอคะ?” “ไม่มีหัวใจ!” เขาพูดคล้ายต่อว่า แต่กลับไม่มีอารมณ์หงุดหงิดใดๆ “ยังไม่เคยใช่ไหม?” เขาถามเมื่อเห็นแววกังวลในดวงตาคู่หวาน ยื่นมือปัดเบาๆ ที่ยอดอกแข็งเป็นไตภายใต้เสื้อผ้า ทำให้หญิงสาวรู้สึกสยิวจนปลายเท้าหดเกร็ง ร้อนรุมไปทั้งตัว ศศิดาสั่นหน้าแทนคำตอบ “หน้าตาแดงไปหมดแล้ว!” “คุณรามขา~” ศศิดาเผลอรำพึงออกมาเสียงเบาด้วยความสะท้าน ความอดทนของราเมศวร์หมดลงเมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆ แบบนี้ สมองส่วนที่ฝืนบังคับมันไว้ตอนนี้ได้พังทลายลงแล้ว เขาโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากแดงระเรื่อของหญิงสาวอย่างเร่าร้อน แขนของเขารัดร่างของเธอไว้แน่นราวกับปลอกเหล็ก ขณะที่ริมฝีปากของเขาขยี้แรงจนศศิดาเจ็บระบม เขาจูบรุนแรงเกือบเป็นดุดัน พยายามจะปลดกระดุมเสื้อนอนของเธอออก แต่คงจะติดอะไรสักอย่าง ทำให้เขาต้องออกแรงดึง แล้วก็ได้ยินเสียงแคว่กตามมา กระดุมเสื้อหลุดร่วง ผ้าขาดแล่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD