สามทุ่มร่างเพรียวระหงส์ในชุดเดรสสีม่วงเข้มก้าวลงจากชั้นบน ผมถูกรวบมัด ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีม่วงอ่อนส่งให้ดูโฉบ เธอระบายยิ้มราวกับเยาะเพื่อต้องการให้คนในบ้านรู้ว่านี่คือความสุข แต่ทว่าใจจริงแล้วกลับตรงกันข้าม คนเป็นพ่อเหลือบมองลูกขบกรามแน่นข่มใจเพราะไม่อยากทะเลาะกันให้รอยร้าวเพิ่มมากขึ้น เธอสาวเท้ามายังตัวรถเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนรออยู่ก่อน เท้าบางชะงักจ้องมองแล้วเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความไม่พอใจ
“วันนี้ผมจะไปส่งนะครับ อยากไปที่ไหนบอกมาได้เลย”ธีร์บอกเสียงเบา
“ฉันจะไปเองธีร์!”เมริยายื่นมือเพื่อขอกุญแจจากอีกฝ่าย
“ไม่ครับ ผมจะไปส่ง”
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉันธีร์ เอากุญแจมา!”หญิงสาวส่งเสียงข่มขู่
“ถ้าคุณเมไม่ยอมให้ผมขับให้ วันนี้คุณเมคงต้องอยู่บ้านแล้วล่ะครับ เพราะผมมีกุญแจรถทุกคัน”
คนฟังกัดฟันแน่นยอมแทรกกายเข้ารถนั่งลง ใบหน้าเรียวสวยบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ ธีร์ทำเช่นนี้คงไม่พ้นคำสั่งพ่อแน่นอน ดี... อยากทำอะไรก็เชิญคิดว่าคนอย่างเมริยาจะยอมแพ้ง่ายๆ งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!
ธีร์เปิดประตูรถนั่งประจำที่คนขับแล้วหันมาทางคุณหนูแห่งตระกูล
“คุณหนูจะไปที่ไหนครับ?”
“เคยบอกแล้วยังไงว่าให้เลิกเรียกคุณหนู ไม่เข้าใจหรือไงธีร์!”
“คงไม่ได้หรอกครับ”
เธอยกท่อนแขนขึ้นมากอดไว้เมื่อรู้สึกขัดใจ เพราะไม่เคยคิดว่าธีร์เป็นคนรับใช้เลยสักนิด ทั้งๆ ที่สมัยเด็กเคยเรียนด้วยกัน เคยท่องหนังสือเล่นด้วยกันตลอด แต่เวลานี้ดันมาทำห่างเหิน ราวกับเจ้านายลูกน้องไปได้
“จะไปไหนครับคุณหนูวันนี้?”คนขับรถมาดนิ่งถามต่อ
“ไปผับ”
“ครับ”ธีร์รับคำ
รถเคลื่อนออกจากรั้วบ้านมาสู่ผับย่านดัง เมริยาเปิดประตูก้าวลงทันทีที่รถจอด แค่รูปร่างก็สามารถเรียกสายตาหลายคู่ให้มองมายิ่งเห็นใบหน้ายิ่งทำให้ชายหลายคนจ้องค้างไม่วางตา ร่างบางโยนกายลงบนโซฟาซึ่งเป็นที่ประจำกวาดตามองหาใครบางคนซึ่งคุ้นเคยกัน ไม่นานร่างสูงโปร่งในสภาพเพิ่งออกจากที่ทำงานก้าวเข้ามาร่วมวง กระแทกก้นนั่งลงอย่างไม่เต็มใจสีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
สำหรับยศราชย์แล้วเขาไม่ได้มีพ่อรวย ทุกอย่างมาจากการทำงานของตนเองทั้งนั้น เงินมีแต่ไม่มากพอที่จะไม่ทำอะไรเลยแล้วใช้จนถึงวันตาย งานมากมายในบริษัทต้องสะสางแถมยังมีเรื่องสาวๆ ที่โทรกวนตลอดวันจากข่าวฉาวบนหน้าหนังสือ แม้แต่รายการบันเทิงก็ยังเล่นข่าวนี้เลย
“เรียกฉันมาวันนี้มีอะไรอีกล่ะ!”ยศราชย์ถามเสียงแข็ง
“ก็แค่เรียกมาเป็นเพื่อน”
“นี่มันเรื่องอะไรอีกเม ฉันไม่ได้มีกินมีใช้สุขสบายอย่างแกนะ ฉันมีงานมีการต้องทำ!”ชายหนุ่มบอกด้วยความหงุดหงิด แม้จะสงสารเพื่อนแต่ตอนนี้เริ่มจะสงสารตัวเองล่ะ
“วันนี้แค่มาเที่ยวเฉยๆ น่า... อย่าบ่นเลยยศ เผื่อแกได้สาวๆ ไปนอนกกไง”คนตัวเล็กรีบทำเสียงอ่อนเสียงหวานเพราะรู้นิสัยเพื่อน ว่าตอนนี้อารมณ์ของอีกฝ่ายเป็นเช่นไร
ยศราชย์ช้อนสายตามองอย่างรู้ทัน แล้วส่ายหน้าด้วยความระอาปนเอ็นดู
“ไม่ต้องมาตีเนียน บอกไว้เลยนะฉันจะไม่ยอมเป็นข่าวกับแกอีกแล้วเม เมื่อวานหูนี้ก็ชาเสียจนเห็นดาวระยิบระยับไปแล้ว รอบนี้มีหวังได้มาถล่มฉันที่บริษัทแน่!”
“ก็แกอยากมีหญิงเยอะทำไมล่ะ!”เมริยาเถียง
“อ้าว! ไม่รู้เหรอผู้ชายจะเจ๋งเขาวัดกันที่หญิงนี่แหละ”ชายหนุ่มยิ้มกรุ่มกริ่มต่อความภาคภูมิใจของตนเอง ในการมีเบอร์สาวๆ ไว้ในเครื่องมากมาย รวมถึงหญิงสาวที่ตนควงไปเที่ยวไหนบ่อยๆ
“ผู้ชายจะเจ๋งไม่เจ๋งเขาไม่ได้วัดกันที่เรื่องบนเตียงหรอกนะ ไอ้ทุเรศ!”หญิงสาวเบ้ปากใส่เพื่อน
“ดูเจ้าสำนวน บอกตัวเองก่อนเถอะ เธอน่ะหนุ่มเยอะกว่าฉันอีกเม”
ระหว่างถกเถียงดวงตาเรียวสวยกวาดมองรอบๆ อย่างเคย แต่กลับสะดุดที่ชายรูปร่างสูงใหญ่ผิวขาว ใบหน้าคมเข้ม คิ้วตรงยาว จมูกโด่งเป็นสัน ท่าทางสุภาพ เมริยาจ้องมองเขาไม่วางตาขณะอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาพร้อมเพื่อนชายอีกคน เธอไม่เข้าใจเหตุใดถึงได้สะดุดตากับชายคนนี้ หัวใจกำลังเต้นระรัวหวั่นไหวเพียงแค่มอง ยศราชย์เห็นถึงความผิดปกติเพื่อนเคยต่อปากต่อคำกับเงียบกริบไม่เอ่ยปาก จึงมองตามสายตา
“แกจะมองผู้ชายคนนั้นอีกนานไหมเม”ยศราชย์แสร้งถาม อดแปลกใจไม่ได้ปกติเพื่อนไม่เคยมองชายคนไหน หรือสนใจใครเลย
เมริยาชะงักมองหน้าเพื่อน รู้สึกว่าตนเองกำลังทำอะไรผิดไปจากทุกที
“อะไรล่ะ!”หญิงสาวรีบเบือนหน้าหนีแก้เก้อ
“แกสนใจผู้ชายคนนั้นเหรอ”เพื่อนชายแสร้งเย้า
“เปล่าสักหน่อย”เธอบอกเสียงเบา อาการสั่นไหวภายในอกยังไม่หายเลย ทำไมไม่เข้าใจตนเองสักนิดเดียว ชายคนนั้นมีอะไรน่าดึงดูดกันนะ
เมริยาเม้มริมฝีปากเพราะตนเผลอทำให้เพื่อนรู้ใจจนได้ ไม่ได้หวังให้ใครมาชื่นชอบ สำหรับเธอแค่ต้องการใครสักคนที่รักและจริงใจโดยไม่เกี่ยวข้องกับหน้าตาและสถานะทางสังคม มีไหมใครคนนั้นสำหรับเธอมันช่างหายากเหลือเกิน เพราะแต่ละคนล้วนเดินเข้ามาด้วยอำนาจเงินของบิดาทั้งนั้น
“แต่สายตาแกฟ้อง”
“แล้วไงล่ะยศ ฉันแค่รู้สึกถูกชะตาเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยสักหน่อย”เมริยาเถียง
“แกอยากรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร”เพื่อนชายแสร้งถาม แต่คนถูกถามกลับแสดงสีหน้าบ่งบอกถึงความสนใจ
“ใครจะไปอยากรู้!”
“แน่ใจเหรอว่าไม่อยากรู้”เขาถามย้ำ