สาวน้อยกลับไปเเล้ว ณัฐฐาโทรขึ้นไปแจ้งเลขาหน้าห้องท่านประธานก่อนกลับไปนั่งทำงานตามเดิม ทว่าไม่ถึงห้านาทีก็ต้องตกใจ เมื่อประตูหน้าแผนกถูกเปิดเข้ามา ร่างสูงที่มาหยุดยืนตรงหน้า ตอนแรกเธอนึกว่าเขาถามเฉยๆ หรือถ้าวรฐิสาว่างก็จะให้พาขึ้นไปพบ ไม่คิดว่าจะลงมาด้วยตัวเอง
“ท่านประธานสวัสดีค่ะ”
“คุณณัฐฐาใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ”
“น้องคนนั้นล่ะ ผมมาหาคนที่บริจาคเลือดให้คุณแม่ เค้าอยู่หรือเปล่า” ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามทำเพลง ถามเข้าประเด็นทันที
“อ้อ น้องเขากลับไปแล้วค่ะ แต่ดิฉันโทรไปแจ้งเลขาคุณหมอให้ทราบแล้วนะคะ”
…เมื่อเห็นเขาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร เลยกลัวว่าเขาจะไม่พอใจ ณัฐฐาเสนอ
“หรือน้องเขาน่าจะยังไปไม่ไกล ให้ไปตามมั้ยคะ”
“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณมาก พอดีผมไปหาคุณแม่ก็เลยเดินลงมาเลย คุณทำงานต่อเถอะ ผมแค่อยากขอบคุณเขา”
แล้วชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกมาอย่างไม่คิดจะสนใจอะไรอีก
แม่เขาติดต่อกับคนในกรุ๊ปชมรมกรุ๊ปเลือดหายาก รู้ว่าเธอมาส่งขนม แต่เเม่ไม่ยอมบอกว่าตัวเองอยู่ที่นี่เพราะกลัวอีกฝ่ายเดี๋ยวจะต้องวุ่นวายเป็นธุระมาเยี่ยม แต่ไหงแอบส่องเฟสบุ๊คเขา พอเห็นเจ้าตัวโพสภาพแขนช้ำเพราะไปบริจาคเลยบังคับให้เขาเดินลงมาขอบคุณด้วยตัวเอง
ซึ่งเขาก็มาแล้ว แต่มันไม่พบนี่
คีรพัทธ์เดินออกไป ไหนๆ ก็ลงมาเเล้วเลยว่าจะเดินไปตรวจความเรียบร้อยที่ห้องผ่าตัดสักหน่อย ตลอดทางที่เดินผ่านพนักงานต่างยกมือไหว้ เขารับไหว้ยิ้มๆ แต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับใครมากนัก
หรือถ้าจะมีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาให้เขาสนใจแม้ตอนแรกจะเห็นผ่านๆ แค่หางตา
เธอ… เด็กผู้หญิงคนนั้น… แค่มองเเว็บเเรกก็สวย ตอนนี้ก็ยังสวยมากเหมือนเดิม เขาชอบผู้หญิงหน้าตาสไตล์ลูกครึ่งเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ความสวยตรงสเป็กไปหมดทุกอย่างของเธอสะดุดตามากในวันนั้น จนถึงวันนี้ตอนนี้ ป่านนี้เขาก็ยังจำเธอได้ แม้วันๆ จะมีเรื่องมากมายรกสมอง
ไม่ธรรมดาจริงๆ
สวยขนาดนี้ก็ไม่เเปลกที่จะเข้าวงการ ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไง
คีรพัทธ์นึกเล่นๆ ครู่เดียวสมองก็ละความสนใจจากเรื่องนี้ไป เพราะแรงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋า
ท่านประธานนายแพทย์หนุ่มหยิบขึ้นมาดู มีอีเมลล์เข้า มือเรียวหนากดเปิด ก้มหน้าระหว่างเดินเข้าไปในลิฟท์ แต่ในตอนที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิด แล้วเขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาเรียวคมมองออกไปด้านนอก คีรพัทธ์เห็นใครบางคนอยู่ไกลๆ
เธอ…